แชร์

บทที่ 63

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
จากนั้นน้ำเสียงของนางก็เย็นชาลงอย่างกะทันหัน แล้วพูดต่อว่า “แน่นอน หากองค์รัชทายาทอยากตายเอง ข้าก็ก้าวก่ายมากมายขนาดนั้นมิได้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย มิพูดอะไรอีก

ดวงตาของฉงชูโม่กลอกกลับไปมองอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “องค์รัชทายาท หม่อมฉันจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเราจะพบกันที่ป่าท้อนอกประตูเมืองทิศใต้”

พูดจบนางก็หันหลังกลับและเดินออกไปก่อน

หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสนเล็กน้อย “องค์รัชทายาท ไฉนพี่หญิงชูโม่ถึงมิรอท่านเล่าเพคะ?”

“ใครจะไปรู้ บางทีนางอาจจะไปบอกลาเซี่ยหลาน เพราะพวกนางมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”

ฉินซูอยู่กับหลินชิงเหยาสักพัก จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง

ภายใต้สายตาที่ลังเลขอหลินชิงเหยา ในที่สุด ฉินซูวางห่อผ้าไว้บนหลังม้าแล้วขี่ม้าออกไป

มินาน เขาก็มาถึงป่าท้อนอกเมืองทิศใต้

เห็นฉงชูโม่รออยู่ที่นั่นแล้ว

“องค์รัชทายาท เวลาล่วงเลยมามากแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถิด พยายามไปให้ถึงเมืองอวี๋หางก่อนตะวันตกดิน”

“ได้ ไปกันเถอะ”

ฉินซูสะบัดแส้ ควบม้าตะบึงไปทางทิศใต้

“พี่ใหญ่สวี รอข้าก่อนนะ!”

ฉงชูโม่พึมพำ มองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ ค
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 818

    ฉงชูโม่อธิบายว่า "นางบอกว่าหม่อมฉันมีสายเลือดร่างศักดิ์สิทธิ์ติดตัวมาแต่กำเนิด และวิชานี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับสายเลือดประเภทนี้ นางจึงได้ถ่ายทอดให้แก่หม่อมฉันเพคะ"“นางถ่ายทอดให้เจ้าง่าย ๆ เช่นนี้เลยรึ? มิได้ตั้งเงื่อนไขอันใดเลยหรือ?”"เงื่อนไข? นางบอกว่าในภายภาคหน้าอาจมีบางเรื่องที่ต้องการให้หม่อมฉันช่วย เช่นนี้จะถือว่าเป็นเงื่อนไขหรือไม่?"ครั้นได้ยินเช่นนี้ฉินซูก็ขมวดคิ้วเขาคิดในใจอย่างเงียบ ๆ หรือว่ายายเฒ่าคนนี้คิดจะฝึกฝนฉงชูโม่ให้กลายเป็นจอมยุทธ์สูงสุด เพื่อจะให้ช่วยนางล้างแค้นศัตรูในภายหน้า?แต่หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามิน่าจะเป็นไปได้ เพราะอย่างไรเสียในยามนี้ฉงชูโม่ก็อยู่เพียงระดับสวรรค์เท่านั้นเพียงแต่นอกจากนี้แล้วซ่างกวนอวิ๋นซียังมีเป้าหมายอื่นใดอีกหรือไม่กัน?เขาคิดเท่าไรก็มิเข้าใจ จึงถามขึ้นอีกว่า “เช่นนั้นนางได้พูดเรื่องอื่นใดกับเจ้าอีกหรือไม่?’”"เรื่องอื่นหรือ?"ฉงชูโม่เท้าคางด้วยมือเรียวเนียนพลางย้อนนึกกลับไปผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยปากว่า "นางยังบอกด้วยว่า หากหม่อมฉันอยากฝึกฝนวิชานี้ให้สำเร็จ จะต้องรักษาความบริสุทธิ์นี้ไว้ มิเช่นนั้น ก็ยากยิ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 817

    “ขอรับ ข้าน้อยยังต้องกลับไปรายงานภารกิจ เช่นนั้นขอลาไปก่อน”“ขอแม่ทัพชีจงเดินทางปลอดภัย!”หลังจากส่งสายตามองชีเหวยที่จากไปไกลแล้ว ฉินซูก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในเรือนจากนั้นเขาก็ย่องไปที่ปากทาง จดจำตำแหน่งประจำการของทหารรักษาการณ์ทั้งหมดไว้ในใจมู่หรงหัวจัดทหารรักษาการณ์ให้ประจำการอยู่ที่ปากทางเท่านั้น และมิได้ส่งคนมาคอยเฝ้าสอดแนม เรื่องนี้กลับช่วยให้ฉินซูหลีกเลี่ยงความยุ่งยากไปได้มากเลยทีเดียวเขากลับเข้ามาในเรือน รอจนกระทั่งตกเย็น จึงได้เริ่มจุดไปทำอาหารแท้จริงแล้วเขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น หลังจากจุดไฟสองกองแล้วเขาก็ย่องออกจากประตูหลัง มุ่งหน้าไปยังหอดารารักษ์ทันที......ภายในจวนของมู่หรงหัวชีเหวยถามว่า “องค์ชาย ท่านทรงต้องการให้ส่งคนไปลอบสอดส่องท่านผู้อาวุโสจูเก่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”มู่หรงหัวโบกมือปฏิเสธทันใด "มิจำเป็น ท่านผู้อาวุโสจูเก่อฉลาดเป็นเลิศ หากเผลอไผลให้เขารู้ว่าข้าส่งคนไปสอดแนมเขา เกรงว่าจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสีย""ก็จริงพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ข้าน้อยมิค่อยเข้าใจ เหตุใดเขาถึงอยากซักผ้าทำอาหารเองปานนั้น มีคนคอยรับใช้มิดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ?""ส่วนมากแล้วคนที่มีความสามา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 816

    ฉินซูจิบชาหนึ่งอึก เขาฉีกยิ้มแหยและถามว่า “องค์ชายกับขุนนางในราชสำนักมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด พระองค์มิได้ทรงละเลยที่จะให้ผลประโยชน์แก่พวกเขาใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"เรื่องนี้ย่อมแน่อยู่แล้ว หาไม่แล้วเหล่าขุนนางที่คุมอำนาจใหญ่ในมือจะยินดีเต็มใจทำงานให้ข้าได้อย่างไรเล่า?""การดึงให้พวกเขามาเข้าพวกต้องใช้เงินทองมากมาย ของกำนัลกับเงินบำเหน็จที่องค์จักรพรรดิประทานแด่องค์ชายในชีวิตประจำวันนั้นก็อาจมิเพียงพอใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"มู่หรงหัวชะงักไปชั่วขณะ และหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้าเขาถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านผู้อาวุโสคิดจะพูดกระไรหรือ? ท่านพูดมาเถิด มิเป็นไร”“กระหม่อมหมายความว่า หากองค์ชายทรงใช้เรื่องนอกเหนือกฎหมายในการหาเงิน องค์ชายพระองค์อื่นก็น่าจะทำเช่นเดียวกัน เพียงแค่จับจุดอ่อนของพวกเขาไว้ เช่นนั้นแล้วก็มิต้องกลัวว่าจะไม่มีข้ออ้างไปกล่าวโทษพวกเขาต่อหน้าพระพักตร์องค์จักรพรรดิ!”มู่หรงหัวรู้แจ้งขึ้นมาทันใด “ใช่แล้ว ไยข้าจึงมินึกถึงเรื่องนี้หนา เรื่องอื่นข้าก็มิค่อยรู้ แต่น้องสี่ของข้านั้นจัดการกิจการหอนางโลมหลายแห่ง ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่เสด็จพ่อทรงบัญชาไว้อย่างเข้มงวด!”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 815

    ฉินซูพยักหน้าช้า ๆ และกล่าวเชยชมด้วยความเคารพ "องค์ชายทรงพระปรีชาญาณสมกับคำร่ำลือ กระหม่อมขอนับถือจากใจพ่ะย่ะค่ะ""ท่านชมเกินไปแล้ว ท่านกล่าวชัดเจนถึงเพียงนี้ หากข้ายังมิเข้าใจอีกก็คงจะโง่เขลาเกินไปแล้วกระมัง"มู่หรงหัวครุ่นคิดอยู่พักใหญ่แล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ ออกมาอีกหนฉินซูถามด้วยความสงสัย "องค์ชายทรงถอนหายใจด้วยเหตุใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?""ท่านผู้อาวุโสจูเก๋อ ท่านอาจยังมิทราบ แม้เสด็จพ่อจะยอมให้พวกเราคบหากับเหล่าขุนนางในราชสำนักโดยปริยาย ทว่าขุนนางฝ่ายทหารผู้มีอำนาจกลับมิเคยมีใครติดต่อกับเหล่าพี่น้องของข้าเลยแม้แต่คนเดียวอาจกล่าวได้ว่า อำนาจทางทหารของเป่ยเยี่ยนนั้นยู่ในพระหัตถ์ของเสด็จพ่ออย่างมั่นคง ดังนั้นจะหวังใช้เรื่องการครอบครองเมืองชิ่งโจวมายั่วยุฉินอู๋ต้าวให้บันดาลโทสะ เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งยวดเสียแล้ว""องค์ชายทรงคิดว่า หากจะก่อความวุ่นวายขึ้นมา จำเป็นต้องยกทัพเปิดศึกหรือ?"มู่หรงหัวชะงักไปเล็กน้อย แล้วถามกลับว่า "มิใช่หรอกหรือ?"ฉินซูยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่ามิใช่ ตามสุภาษิตที่ว่า ปากคนน่ากลัวยิ่ง บางครั้งข่าวลือเพียงมิกี่คำ ยังน่ากลัวยิ่งกว่ากองทัพนับหมื่น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 814

    แววตาของซ่างกวนอวิ๋นซีวูบไหวเล็กน้อย นางกล่าวว่า "ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะพูดตรง ๆ แล้วกัน เคล็ดวิชานี้เดิมทีก็สร้างขึ้นมาเพื่อสายเลือดแห่งร่างศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะ เหมาะที่สุดแล้วที่จะให้เจ้าฝึกฝน เหตุที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้า ก็เพราะอยากคบเจ้าเป็นสหาย ภายภาคหน้าอาจจะมีเรื่องที่จำต้องพึ่งพาเจ้าก็เป็นได้"เมื่อได้ยินนางพูดเช่นนี้ ฉงชูโม่ก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลมากขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกฉงนใจอยู่บ้าง"ข้าในยามนี้อยู่เพียงระดับสวรรค์ขั้นต้น แม้จะมีสายเลือดอะไรที่ท่านว่านั้นอยู่ในกาย พลังของข้าก็มิอาจทะลวงขึ้นไปได้ในชั่วพริบตา ข้าจะมีความสามารถอะไรไปช่วยท่านได้เล่า""เรื่องของวันข้างหน้า ใครเล่าจะรู้ได้ ถือว่าข้าเดิมพันกับเจ้าครั้งหนึ่งก็แล้วกัน"ได้ยินเช่นนี้ฉงชูโม่ก็เงียบมิพูดอะไรอีก“จงตรึกตรองให้ดีเถิด อ้อ จริงสิ หากเจ้าหมายจะฝึกเคล็ดวิชานี้ให้สำเร็จ เจ้าจะต้องรักษาร่างบริสุทธิ์นี้ไว้ มิเช่นนั้น พลังของเจ้าจะหยุดอยู่ที่ระดับสวรรค์ตลอดไป และจะมิอาจก้าวหน้าได้แม้แต่น้อย”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซ่างกวนอวิ๋นซีก็ป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาจากอกเสื้อแล้วโยนใส่มือของฉงชูโม่“ป้ายนี้เจ้าจงเก็บไว้ให้ดี หากมีเรื่องจำ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 813

    หลังจากที่ซ่างกวนอวิ๋นซีฝึกตนเสร็จ นางก็มาที่หน้าต่างพลางยืดเส้นยืดสายขณะนั้นเอง นางชำเลืองมองไปยังคฤหาสน์ที่อยู่อีกฟากของคูเมืองจากระยะไกล!ที่หน้าลานเรือน ฉงชูโม่กำลังดูแลดอกไม้และต้นหญ้าอยู่ตรงนั้นซ่างกวนอวิ๋นซีหรี่ตามองนางครู่หนึ่ง ใบหน้าอันงดงามก็เผยสีหน้าตกใจอย่างเหลือเชื่อออกมาในทันที!จากนั้นร่างของนางพลันไหววูบ พริบตาเดียวก็หายไปจากที่เดิมแล้วที่ลานหน้าคฤหาสน์นั้นฉงชูโม่รู้สึกขึ้นมาทันทีว่ามีใครบางคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณทันใดนั้น ก็เห็นเงาร่างงามกำลังเดินเข้ามาช้า ๆ จากทางประตูสตรีผู้นี้งดงามปานล่มเมือง รูปร่างก็โดดเด่นน่าชื่นชม!ในวันที่หนาวจัดเช่นนี้ นางกลับสวมเพียงกระโปรงยาวสีแดงตัวเดียว ดูเหมือนจะมิรู้จักความหนาวเย็นจัดนั้นเลยฉงชูโม่หยุดมือพร้อมกับเผยสีหน้าประหลาดใจ นางเลิกคิ้วและถามว่า "ท่านเป็นเจ้าสำนักหอดารารักษ์ใช่หรือไม่?"ซ่างกวนอวิ๋นซีพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับพินิจพิจารณานางอย่างมิแสดงอารมณ์ใด "ฉินซูมิได้อยู่ที่นี่ ท่านคงมาเสียเที่ยวแล้ว"ฉงชูโม่มิได้สนใจนางมากนัก พูดจบก็ยังคงจัดการกับต้นกุหลาบสองสามต้นนั้นต่อไปแต่ซ่างกวนอวิ๋นซี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status