แชร์

วิวาทในงานวิวาห์

ผู้เขียน: ร่มหลากสี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-27 12:32:18

อัศวินยื่นแขนให้เจ้าสาวของตนได้ควงแขนเพื่อที่จะเดินอวดคนทั้งงาน เขาพาพิมภาไปแนะนำกับคนใหญ่คนโตมากมายว่าเธอคือลูกสาวของนายกิตติภพ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดังเหมือนกัน หญิงสาวเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่เป็นเพื่อนเก่าพ่อของตนมากมาย ด้วยไหวพริบทันคนทำให้เธอดูฉลาดเฉลียวมาก แม้จะเป็นในวงสนทนาของคนชั้นสูงหรือพวกนักธุรกิจระดับสูงซึ่งพูดคุยกันด้วยภาษาที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคนทั่วไป แต่ว่าพิมภาสามารถตอบโต้และสนทนาได้อย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติ ทำให้อัศวินค่อนข้างรู้สึกทึ่งแล้วก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้เขาดูลักษณะท่าทางของพิมภาก็ค่อนข้างรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่พอเห็นทักษะการเอาตัวรอดและเข้าสังคมของเธอแล้ว อัศวินก็รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนที่เก่งพอตัว

เมื่อเดินทักทายแขกเหรื่อในงานที่มีจำนวนค่อนข้างเยอะพอสมควร พิมภาสะกิดอัศวินแล้วเอ่ยขอตัวว่าอยากจะไปหาน้ำดื่มเย็น ๆ สักหน่อยและเริ่มรู้สึกเจ็บเท้า เนื่องจากเดินค่อนข้างมาก ชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรบอกให้เธอไปหาอะไรดื่มก่อนส่วนเขาจะขอต้อนรับแขกผู้ใหญ่ต่อ

พิมภาจึงเดินแยกออกมาเพื่อหาเครื่องดื่มมาจิบเพื่อดับกระหาย เธอมองไปที่อัศวินซึ่งก่อนหน้านี้หญิงสาวค่อนข้างอคติแล้วไม่ค่อยชอบเขาเท่าไร มองว่าอีกฝ่ายฉวยโอกาสหลาย ๆ อย่างโดยเฉพาะการที่จะเข้ามาดูแลกิจการของพ่อ แต่ตอนนี้พิมภามองดูร่างสูงใหญ่ ใบหน้าที่หล่อเหลาและรอยยิ้มของชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นจริงใจ ขณะกำลังพูดคุยกับคนอื่น ๆ เขาช่างดูภูมิฐาน ดูดีเหลือเกิน ก่อนที่เธอจะสะบัดหัวเบา ๆ เพราะรู้สึกว่าทำไมจู่ ๆ ตัวเองถึงรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายขึ้นมา

ในขณะที่เธอกำลังพยายามหักห้ามความคิดของตัวเอง หญิงสาวไม่ทันรู้ตัวก็มีผู้ชายคนหนึ่งแตะแขนเล็กและออกแรงดึงเบา ๆ ก่อนที่เธอจะไปปะทะอกของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างบางเมื่อตั้งสติได้ก็ดีดตัวเองออกแล้วชักสีหน้าไม่พอใจเพราะจำได้ว่าเขาคือใคร  

“ว่าไงครับคนสวย เจอกันอีกแล้วนะ” 

“ไม่น่าเชื่อว่าคนไร้มารยาทอย่างคุณจะมาเข้าร่วมงานแบบนี้ได้ด้วย” 

“หึ ๆ เอาจริง ๆ นะ กะอีแค่งานแต่งกระจอกของลูกเมียน้อย เจ้าบ่าวของเธออยู่คนละระดับกับฉันด้วยซ้ำ” 

“เหอะ” 

“ไม่เชื่อละสิ เธอรู้จักเจ้าบ่าวของเธอดีขนาดไหนล่ะ ยอมแต่งงานกับมันแบบนี้ ก็คงจะเป็นคนประเภท... คนใฝ่ต่ำกับคนชั้นต่ำสินะ” 

“คุณมีสิทธิ์อะไรมาดูถูกฉัน มาดูถูกเจ้าบ่าวของฉัน ตัวเองวิเศษมาจากไหน” 

“ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าหอ ยังไม่ได้จดทะเบียน เธอยังมีสิทธิ์เปลี่ยนใจนะ” 

“จะให้ฉันเปลี่ยนใจมาแต่งกับคนอย่างนายงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ !” 

“คนอย่างฉันแล้วมันทำไม คนที่สวยแต่เกรดต่ำแบบเธอ ฉันไม่เสียดายหรอก ดีซะอีกที่ตอนนั้นฉันไม่คว้าเอาเธอมาทำเมียก่อน ไม่งั้นคงรู้สึกเปลืองตัวแย่” 

พิมภาโมโหจนเผลอกำหมัดแน่น มือไม้สั่นกำลังจะเอ่ยปากตอบโต้เพราะเธอก็ใช่ว่าจะยอมให้ใครมาดูถูกกันง่าย ๆ แบบนี้ ทว่ากลับไม่ทันใครบางคน อัศวินเหวี่ยงหมัดกระแทกเข้าเต็มใบหน้าของอรุณอย่างแรงจนถึงขั้นล้มคว่ำไม่เป็นท่า

ท่ามกลางความตกใจของแขกเหรื่อที่อยู่บริเวณโดยรอบ ทุกคนเริ่มหันมาให้ความสนใจ เมื่อรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในงานคล้ายกับมีการทะเลาะวิวาท

คนในงานเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่ เจ้าสาวจึงดึงแขนเจ้าบ่าวเอาไว้แน่นเพราะกลัวเขาจะไปต่อยแขกปากเปราะที่กองอยู่ที่พื้นอีก เธอไม่อยากให้เกิดการวิวาทวิวาทะกันอย่างรุนแรงเกินไปเพราะนี่เป็นงานมงคลจะเป็นการขายหน้าให้กับครอบครัวและวงศ์ตระกูล อาจทำให้เกิดความเสียหายกับทั้งสองครอบครัว

อัศวินพยายามข่มใจตั้งสติแล้วถอนหายใจแรง ๆ หลายครั้ง ก่อนที่จะจับมือของเจ้าสาวอย่างพิมภาขึ้น มองไปที่บริเวณรอบ ๆ ก่อนที่จะประกาศเสียงกร้าว  

“ตอนนี้พิมภา เธอเป็นภรรยาของผม นายอัศวิน สิงหมนตรี ถ้าหากใครไม่อยากมีปัญหากับผม หรือโดนแบบที่ไอ้หมอนี่มันโดน ก็อย่าพูดจาไม่ให้เกียรติภรรยาของผมอีก ถ้าผมได้ยินใครปากพล่อยแบบนี้รับรองได้ว่าไม่จบแค่นี้แน่” 

บรรยากาศในงานต่างเงียบกริบ มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ดีว่าอัศวินเวลาที่โกรธนั้นเป็นเช่นไร เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดังที่กำลังมีชื่อเสียงในเรื่องของความดุดัน เด็ดขาด และรอบคอบ แถมเบื้องหลังมีข่าวลือว่าชายหนุ่มเป็นมาเฟียในวงการธุรกิจมืด ขึ้นชื่อเรื่องความเหี้ยมโหด ไร้ความปรานี ถ้าหากว่าใครกล้ามาหยามกับเจ้าตัวแน่นอนว่าไม่มีจุดจบที่ดี มีหลายคนที่หลบสายตาและรู้สึกขนลุกขนพอง อัศวินหันไปชี้หน้าชายคนนั้นก่อนตวาดเสียงดัง  

“เอามันออกไป อย่ามาให้เห็นหน้าอีกเด็ดขาด !” 

ถึงแม้จะรู้สึกอับอายขายหน้าแต่ความหวาดกลัวมีมากกว่า อรุณที่ดีแต่ปากลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะกลับหลังหัน แล้วเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีกเลย โดยมีบอดีการ์ดนับสิบล้อมตัวชายหนุ่มออกจากงาน

ผู้ที่เป็นพ่อของเขาเองก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จึงได้หลบเร้นกายออกจากงานไปเงียบ ๆ ทุกอย่างจบลงไปด้วยดีเมื่ออัศวินประกาศว่าไม่มีอะไรแล้วให้ทุกคนไปสนุกกับงานและสังสรรค์กันต่อ เชิญดื่มกินกันตามสบาย ทุกคนจึงกลับเข้าสู่โหมดปกติ พูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น กระซิบกระซาบบ้างเป็นบางคราวแต่ไม่มีใครกล้าพูดหรือวิพากษ์วิจารณ์มากนัก

อัศวินไปคุยกับนักธุรกิจผู้ใหญ่ต่อ ในขณะที่เพื่อน ๆ ของเจ้าสาวรีบวิ่งกรูกันเข้ามาหาเธอเพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พอรู้สถานการณ์เพื่อนทุกคนต่างภาคภูมิใจในตัวเจ้าบ่าวแทนเพื่อนของตน

“เจ้าบ่าวของแกสุดยอดไปเลยยัยพิม” ยีนส์รีบพูดขึ้นคนแรก เมื่อดึงตัวเจ้าสาวออกมาคุยด้านนอก

“ใช่ เป็นผู้ชายที่สุดยอดจริง ๆ ดุดันน่าเกรงขามเด็ดขาดมากเลยแก” จอห์นเองก็ชื่นชมในตัวเจ้าบ่าวของเพื่อนไม่น้อย

“คนแบบนี้สิถึงจะมาเป็นผู้นำได้ เขาเหมาะสมกับแกอยู่นะ ทำไมไม่ลองจีบจริงจังล่ะ” ก้อยเสนอความเห็น

“พวกแกก็พูดไปนั่น งานนี้มีแต่แขกผู้ใหญ่มาทั้งนั้น ใครมาดูถูกฉันก็เท่ากับดูถูกเขา เขาก็แค่ทำเพื่อรักษาหน้าตัวเองเท่านั้นแหละ” 

“มันก็ไม่เสมอไปหรอกแก เขาก็อาจจะทำเพื่อปกป้องแกก็ได้ใครจะรู้ วันนี้แกสวยมากนะ” ก้อยเอ่ยชม

“ใช่แล้ววันนี้แกสวยที่สุด ฉันบอกเลย ฉันยอมให้แกสวยกว่าฉันวันหนึ่ง” สาวสองอย่างจอห์นพูดยิ้ม ๆ ให้เพื่อนสาว

“ฉันว่าวันนี้หน้าที่เจ้าสาวจบแค่ตรงนี้ แต่หน้าที่ภรรยาหมาด ๆ ตอนเข้าหออย่าลืมทำให้ดีล่ะ” ก้อยแอบกระซิบ

“ยัยก้อยแกพูดมากไปแล้ว” พิมภาหันไปแว้ดใส่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก

“ก็จริงของก้อยมันนะ หน้าที่ภรรยาตอนเข้าหอก็ต้องทำนะสาว” 

“ยีนส์ แกยังไม่หยุดพูดอีก แกก็รู้ว่าฉันกับเขาแต่งงานกันเพราะอะไร มันจะไม่มีการเข้าหออะไรทั้งนั้นแหละ” พิมภาบอกปัดทุกอย่างที่เพื่อนพูดแล้วก็ยกแก้วแชมเปญดื่มรัว ๆ จากที่คิดว่าตอนแรกจะไม่เมากลับกลายเป็นว่าเริ่มมึนงงและเวียนหัวเล็กน้อยจนอยากจะขึ้นไปพักผ่อน เพื่อนเจ้าสาวเลยพากันแยกย้ายเพื่อให้เจ้าสาวได้พักผ่อน 

พิมภาเอ่ยลาเพื่อน แล้วเธอก็หันไปมองดูเจ้าบ่าว ร่างสูงยังดูคุยสนุกสนานถึงแม้จะดูท่าทางเหมือนเริ่มเมาและหน้าแดง แต่หญิงสาวคิดว่าเขาน่าจะยังอยู่ต่ออีกนาน จึงเลี่ยงขึ้นไปยังห้องพักก่อน

ที่นี่เป็นโรงแรมหรูที่อยู่ในเครือของอัศวินและชั้นบนสุดเป็น private family ซึ่งถูกกันไว้ให้คนในงานโดยเฉพาะ เผื่อมีแขกนอนค้างเพราะเมาหรือกลับไม่ไหว

ซึ่งโซนนั้นก็มีห้องแยกเอาไว้ให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนละห้องด้วย พิมภาคิดว่าตัวเองน่าจะอยู่ต่อไม่ไหว จึงคิดจะไปนอนก่อนน่าจะดีกว่า ก่อนจะขึ้นลิฟท์ตรงไปยังชั้นบนสุดห้องที่เธอใช้แต่งตัว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อัศวินพ่ายรัก   กำเนิดความสุข

    เมื่อเรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลงและผ่านไปด้วยดีแล้ว กิตติภพเองก็กลับมาในร่างกายที่แข็งแรงหลังจากทำการกายภาพบำบัดอยู่สองเดือน เขาสามารถกลับมาช่วยเหลือตัวเองได้ในเบื้องต้นถึงแม้จะยังเดินไม่ค่อยคล่อง แต่ในที่สุดก็ได้กลับบ้านเสียที คณินกับอัศวินก็มาเยี่ยมถึงที่บ้านและรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน หลังมื้อค่ำจบลงชายหนุ่มก็ขอคุยกับกิตติภพเป็นการส่วนตัว “เดี๋ยวผมจะเซ็นโอนหุ้นคืนให้กับคุณพ่อนะครับ ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างและผู้ถือหุ้นทุกคนก็กลับมากันหมดแล้ว หลังจากนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วครับ” “ไม่ต้องโอนคืนมา เก็บเอาไว้อย่างนั้นแหละ พ่อก็แก่มากแล้ว เก็บเอาไว้ดูแลลูกเมียให้ดีก็พอ ตอนนี้พ่ออยากอุ้มหลานมาก” “ถ้าอย่างนั้นผมจะโอนกลับคืนให้เป็นชื่อของน้องนะครับ พิมจะต้องดีใจแน่ ๆ” “ก็ลองคุยกันดูว่าใครจะดูแลหรือถือหุ้นมากที่สุด พ่อยกให้ไปแล้วก็ไปจัดการกันเอาเอง อย่าลืมเรื่องที่พ่อพูดล่ะ พ่ออยากอุ้มหลาน…” แกร๊ก ! “คุณผู้ชายคะ คุณอัศวิน คุณหนูเป็นอะไรก็ไม่ทราบค่ะ อยู่ดี ๆ ก็วิ่งไปอาเจียนบอกว่าหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมแล้วค่ะ” พ่อตากับลูกเขยถึงกับหันมองหน้ากัน กิตติภพกวักมือเรียกสาวใช้ให้เข้ามาเข็นรถเข็

  • อัศวินพ่ายรัก   ผมได้ยินหมดแล้ว

    “คุณดูลูกคุณนะ เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งกล้าทำร้ายลูกชายของเรา เป็นแค่เห็บหมัดมาเกาะครอบครัวคนอื่นไปวัน ๆ แท้ ๆ กล้าดียังไง…” เพียะ !! คณินเดินไปตบหน้าเขมกรฉาดใหญ่ก่อนหันไปพูดกับเมียในสมรสอย่างมยุเรศแบบใส่อารมณ์ เขาอดทนเพราะเห็นแก่พ่อตามาตลอด แต่วันนี้ความอดทนได้สิ้นสุดแล้ว “หยุดสักทีคุณมยุเรศ ผมทนมาพอแล้ว ผมฟังคุณมาสิบกว่าปีมีแต่เรื่องเดิม ๆ ยังไงเขาก็เป็นลูกชายของผม ขณะที่ลูกของคุณไม่เคยได้เรื่องได้ราวอะไร คอยแต่ให้อัศวินตามเช็ดตามล้างให้ตลอด ยังกล้าที่จะเอามาเปรียบเทียบกันอีกเหรอ” “คุณพูดเรื่องอะไร นี่คุณกล้าตีลูกได้ยังไง” “คุณไม่เคยรับรู้เลยหรือยังไงว่าลูกชายของคุณไปก่อเรื่องอะไรไว้ลับหลังคุณบ้าง มันทำผู้หญิงท้องแล้วไม่ยอมรับมิหนำซ้ำยังไปทำร้ายร่างกายเขา เอาที่ดินที่ผมแค่เปรยว่าจะยกให้ มันก็ขโมยโฉนดที่ดินปลอมลายเซ็นผมไปขายทั้งที่ผมยังไม่ได้ยกอำนาจให้ เดือดร้อนต้องให้อัศวินไปตามกลับคืนมา ติดหนี้บ่อนอีกร้อยกว่าล้านคุณรู้หรือเปล่า ทุกเรื่องถ้าไม่ได้อัศวินคอยวิ่งเต้นปิดข่าวให้ ทั้งบริษัทและตระกูลนี้จะล่มจมก็เพราะลูกของคุณ”“ไม่จริง !” “จริง คุณคิดว่าอัศวินมันเดินทางบ่อยเพราะอะไร ม

  • อัศวินพ่ายรัก   เรื่องร้าย

    วันหนึ่งอัศวินหายเงียบไปทั้งวันไม่มีการแชตหาหรือโทร.หาใด ๆ ทั้งสิ้น เธอกำลังจะต่อสายหาเขาเพราะรู้สึกว่าทนรอต่อไปไม่ไหว แต่ก็มีสายเรียกเข้าแทรกเข้ามาเสียก่อนที่จะทันได้โทร.ออก“สวัสดีค่ะ” “สวัสดีค่ะ โทร.จากโรงพยาบาลนะคะ พอดีในประวัติของคนไข้ที่ชื่อว่าอัศวิน แจ้งเอาไว้ว่าเบอร์ติดต่อฉุกเฉินคือเบอร์ของคุณพิมภาผู้เป็นภรรยา ไม่ทราบว่าคุณเป็นภรรยาของคุณอัศวินหรือเปล่าคะ” “ใช่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” “คุณอัศวินประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้อาการค่อนข้างสาหัสอยากให้คุณเดินทางมาที่โรงพยาบาลโดยด่วนค่ะ” ราวกับมีสายฟ้าผ่าลงกลางใจ ความรู้สึกเดียวกับตอนที่เธอเห็นภาพของพ่อล้มคว่ำอยู่กับพื้น คราวนี้หญิงสาวพยายามตั้งสติวิ่งไปคว้ากุญแจรถ แล้วเดินทางไปที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง ภาวนาไปตลอดทางขอให้เขาไม่เป็นอะไรมากณ โรงพยาบาลหน้าห้องฉุกเฉิน พิมภามองไปทางไหนก็มีแต่ความหดหู่ ใบหน้าสวยนองไปด้วยน้ำตา เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าขับมาด้วยความเร็วเท่าไร มาถึงก็วิ่งมาที่หน้าห้องแห่งนี้พร้อมทั้งเซ็นเอกสารได้ทันเวลาพอดี เพราะต้องส่งอัศวินเข้าห้องผ่าตัดด่วน หญิงสาวรออย่างใจจดใจจ่อ ถึงจะร้องไห้แต่ก็พยายามห้ามตัวเองไม่ให

  • อัศวินพ่ายรัก   อึดอัดใจ

    เวลาผ่านไปเดือนกว่าที่มาอยู่ที่บ้านของอัศวิน พิมภากลับรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านั้นไม่มีอะไรเป็นจริงเลยสักอย่าง อีกฝ่ายพูดราวกับว่าที่นี่น่ากลัวและมีคนจ้องจะรังแกเธออยู่ตลอด แต่พอมาอยู่เข้าจริง ๆ บ้านหลังนี้ดูเหมือนทุกคนจะต่างคนต่างอยู่ มีเพียงแค่วันอาทิตย์วันเดียวที่ทุกคนจะต้องไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน เหมือนตอนที่อัศวินเคยพาเธอมากินมื้อค่ำที่นี่เป็นครั้งแรกนอกจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้เธอโล่งอกที่สุดก็คือไม่ได้เจอกับเขมกรผู้เป็นพี่เขย เพราะสำหรับพิมภาแล้วผู้ชายคนนี้น่ากลัวที่สุด ตอนแรกหญิงสาวรู้สึกเกร็งนิดหน่อยไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไร เพราะส่วนใหญ่แล้วอัศวินไปทำงานนอกบ้านแล้วเขาก็ไม่ค่อยให้ภรรยาเข้าไปที่บริษัทด้วยตัวเองสักเท่าไร เธอจึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านหลังนี้เขมนัฏฐ์คนที่ดูเงียบและไม่ค่อยสุงสิงกับใครที่สุดกลับเป็นคนเดียวที่คุยกับเธอมากที่สุด ช่วยให้หญิงสาวคลายเหงาลงไปได้บ้าง พิมภาไม่รู้ว่าช่วงนี้อัศวินกำลังทำอะไร เขาดูยุ่งและเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยมาก ๆเขมนัฏฐ์อายุน้อยกว่าอัศวินถึงห้าปี แต่กลับคุยกับเธอได้อย่างสนิทสนม ตอนแรกพิมภาเห็นเขามาแอบมองบ่

  • อัศวินพ่ายรัก   ความจริง

    หลังจากที่อัศวินเดินทางออกจากบ้านไปแล้ว พิมภามานั่งทบทวนตัวเอง เมื่อคืนนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง พยายามคิดอยู่ว่าตัวเองทำอะไรน่าอายไปบ้างหรือเปล่า ขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ภาพริมฝีปากนุ่มของใครบางคนลอยมา จนเธอสะดุ้งสุดตัวเพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แววตาหวานเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ที่โทร.มาจากโรงพยาบาล “สวัสดีค่ะ” พิมภารับสายด้วยหัวใจที่เต้นระรัวภาวนาขอให้เป็นข่าวดี แล้วหญิงสาวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาและรีบไปโรงพยาบาลทันที พ่อของเธอฟื้นแล้วตอนนี้ เป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ใช้เวลาไม่นานก็มาอยู่ข้างเตียงของกิตติภพ ซึ่งผ่ายผอมลงไปมากแต่แววตาของเขามีแววของนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม “ดีใจจังเลยที่พ่อไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณนะคะที่ไม่ทิ้งหนูไป หนูคิดถึงพ่อมากเลยรู้ไหมคะ” “พ่อขอโทษนะลูก ขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากไปหมด ถ้าพ่อไม่ดึงผู้หญิงคนนั้นมาในชีวิต โลกของพ่อก็คงไม่เปลี่ยนไป” “ไม่เป็นไรค่ะพ่อ แต่พ่อดีขึ้นแล้วจริง ๆ ใช่ไหมคะไม่ได้มีอะไรปิดบังหนูใช่ไหม” พิมภากลัวว่าในระหว่างที่เธออยู่ต่างประเทศ บิดาอันเป็นที่รักเกิดเป็นโรคอะไรที่หญิงสาวไม่เคยรู้มาก่อน“ไม่มีหรอกลูก” “ไม่มี

  • อัศวินพ่ายรัก   จูบละลาย

    อัศวินไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงได้โกรธขนาดนั้น เขาประคองร่างบางไปที่รถของตนเอง ขณะที่ชายหนุ่มโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเจ้าตัวกลับหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว รถแล่นไปได้ชั่วครู่เดียวพิมภาก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะฝันร้าย ละเมอขอให้พ่ออย่าทิ้งตนไปเหมือนแม่ ขาดแม่ไปเธอก็เคว้งคว้างพอแล้วไม่อยากจะเสียพ่อไปอีก ความสงสารทำให้อารมณ์โมโหที่คุกรุ่นก่อนหน้านี้หมดไป ดวงตาคมดุเหลือบมองริมฝีปากนุ่มละมุนที่ยังคงมีสีชมพูระเรื่อน่าจูบ มองแล้วก็อดใจไม่ไหวจึงกดปิดม่านฝั่งคนขับแล้วก้มลงจูบเธอครั้งแล้วครั้งเล่า รุ่งเช้า พิมภาค่อย ๆ ลืมตาพร้อมกับความรู้สึกที่มึนหัวนิด ๆ เธอกำลังแฮงก์และรู้ตัวดี ใบหน้าสวยขมวดคิ้วยุ่งในตอนนี้อีกทั้งยังรู้สึกมึนงงไปหมดจนกระทั่งพยายามนึกย้อนไปว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรก่อนที่หญิงสาวจะภาพตัด ดวงตากลมเบิกโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเห็นอัศวินกำลังต่อยพี่ชายของเขาก่อนที่เธอจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีก หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเพราะไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะหากันเจอ เมื่อคิดได้ว่าชายหนุ่มเป็นคนไปรับจึงมองไปรอบ ๆ ห้อง กลับไม่เห็นแม้แต่เงา เธอเลยคิดว่าเขาน่าจะไปทำงานแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางจึงลุกพรวดพราดจากเต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status