วันนี้คงเป็นวันที่สดใสที่สุดในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ของนิศราเพราะข่าวดีที่บิดายังมีชีวิตอยู่
“คุณดาวตื่นแต่เช้าเชียว จะไปไหนหรือคะ”
นมบัวที่เห็นหญิงสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินลงมาจากชั้นบนแต่เช้าด้วยความเร่งรีบ
“ดาวจะไปหาคุณพ่อที่เรือนเล็กค่ะ”
“เดินช้าลงหน่อยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวจะลื่นล้มไปเสียก่อนจะถึง นมดีใจด้วยนะคะ หมดทุกข์หมดโศกแล้วนะคะคุณดาวของนม”
“ขอบคุณมากเลยนะคะนม ดาวเองก็ดีใจมากเลยค่ะ”
เธอโอบกอดหญิงชราก่อนจะคลายกอดด้วยความรวดเร็ว เพราะใจเธอนั้นไปอยู่ที่บิดาแล้ว
“นมบัวดาวขอไปหาคุณพ่อก่อน แล้วจะกลับมาคุยด้วยต่อนะคะ” ขาที่ไปไวกว่าสมอง ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบ ขาของเธอก็ก้าวถอยหลังไปเรื่อย ๆขณะกำลังพูดอยู่ จบประโยคก็รีบหมุนตัววิ่งไปที่เรือนเล็ก
“คุณดาวช้า ๆค่ะ เดี๋ยวจะหกล้ม”
ยังไม่ทันขาดคำของหญิงชรา หญิงสาวก็สะดุดขาของตัวเองจนร่างพุ่งถลาไปด้านหน้า ก่อนจะร่วงไปกองกับพื้น
ว้าย! ตุ๊บ!
“เอ๊ะ!” นิศราหลับตาปี๋เตรียมรับแ
ส่วนเขานึกโทษตัวเองที่ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ และทำแบบนั้นกับเธอไป เธอคงโกรธเขามาก แล้วเขาควรทำอย่างไร ครุ่นคิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ก่อนกลับไปนั่งทำงานต่อด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว กลัวว่าเธอจะโกรธเขาจนหนีไปแต่ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะของตนเอง โดยไม่พูดไม่จาหรือแม้จะหันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำธีรวัฒน์เงยหน้ามองเธอเป็นระยะ ทั้งสองต่างนั่งทำงานไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาต่างคนต่างเงียบล่วงเลยไปถึงเวลาเลิกงาน นิศราเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่นั่งเครียดอยู่กับกองเอกสารตรงหน้า อดเป็นห่วงเขาไม่ได้เพราะเขายังไม่หายดีในเมื่อเป็นแฟนกันเรื่องแบบนี้ก็คงต้องเกิดขึ้นบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ จึงไม่ใช่ความผิดของใคร เธอจึงเป็นฝ่ายพูดก่อน เพราะไม่อยากให้เขาหักโหมมากเกินไป“ห้าโมงแล้วค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ”“พี่ขอเคลียร์เอกสารกองนี้ก่อนนะ”“งานด่วนเหรอคะ”“ไม่ด่วนครับ แต่พี่อยากทำให้เสร็จก่อน”“ถ้าไม่ด่วนงั้นก็กลับกันเถอะค่ะ ดาวหิวข้าวแล้ว” พูดพร้อมเอาม
เมื่อลูกค้ากลับไปแล้วนิศราจึงเปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมเอกสารที่เธอรวบรวมไว้มาให้ เขาเปิดอ่านเอกสารที่เธอส่งมาให้ระหว่างรอทุกคน เปิดดูไปก็มองหน้าหญิงสาวไปด้วยความประหลาดใจ ไม่นานพนักงานแผนกต่าง ๆก็พากันทยอยเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นทุกคนนั่งประจำที่พร้อมแล้ว เขาก็เริ่มประชุมต่อ“สินค้าที่เสียหายไป ใครมีปัญหาเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าล็อตใหม่ไหมครับ” เปิดประชุมโดยการยิงคำถามทันที พนักงานคนหนึ่งยกมือขึ้นหลังจบคำถาม“งานตกแต่งภายในตอนนี้มีปัญหาเรื่องคิิวเข้าติดตั้งครับ อยู่ในช่วงเจรจากับซัพพลายเออร์”“เรื่องนี้ต้องรอช่างอาคารทำงานให้เรียบร้อยก่อน อาจต้องขอความร่วมมือกับเขาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นหากคุยไม่ได้ ให้รีบแจ้งผมทันที” ธีรวัฒน์เสริมก่อนถามต่อ“เรื่องประตูไม้ของโครงการT403 สองพันบาน สี่ร้อยหลังติดปัญหาอะไรครับ”“คือแบบที่ลูกค้าเลือก สินค้าไม่พอส่งครับ ทางบริษัทต้องผลิตใหม่ถึง 80% ซึ่งจากจำนวนดังกล่าวระยะเวลาในการผลิตรวมกับระยะเวลาในการจัดส่งมายังประเทศไทยอาจไม่ทันวันติดตั้ง และอาจมีผลกับการส่งมอบงานใ
ธีรวัฒน์เดินตามหญิงสาวลงมารับประทานอาหารด้านล่าง เขาพยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แต่ก็ปิดไม่มิดเพราะอารมณ์ดีจนเผลอยิ้มออกมาตลอดเวลา“อะไรทำให้อารมณ์ดีจนยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ได้ขนาดนี้คะ” นมบัวแสร้งถาม ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วเพราะก่อนที่เขาจะลงมา มีคนที่มีอาการเขินจัดเดินหน้าแดงรีบเดินลงมาก่อนแล้ว“ได้กลับมานอนพักที่บ้านแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นครับ” เขาตอบท่าทางสบายอารมณ์“หรือคะ ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะจะได้หายป่วยเร็ว ๆ” นมบัวยิ้มหวานให้อย่างรู้ทันให้“อ่าว ธีร์ลงมาแล้วหรือมาทานข้าวกัน” ประภาสที่นั่งรออยู่ก่อน เอ่ยเรียกคนมาที่พึ่งมา“ครับคุณอา แล้วนี่ดินละครับไม่มาทานด้วยกันหรือ”“วันนี้ดินกลับบ้าน ไปดูความเรียบร้อย อาคิดว่าถึงเวลาที่อาจะต้องกลับบ้านแล้วล่ะ”“ที่จริงอยู่ต่อที่นี่เลยก็ได้นะครับคุณอา ผมยินดี”“เฮ้อ! อาก็อยากอยู่ด้วยนะ แต่บ้านหลังใหญ่เกินไปมันเหงา อีกอย่างอาก็คิดถึงบ้านด้วย อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนบ้านตัวเอง ยังไงอาก็ต้องขอบใจธ
หลายวันต่อมาธีรวัฒน์ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน อาการของเขาดีขึ้นมากจนเรียกได้ว่าเกือบหายสนิทถ้าไม่ยืดแขนมากอาการก็จะเป็นปกติ และเขาเองยังอยากอ้อนพยาบาลส่วนตัวเลยต้องแกล้งเจ็บอยู่“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณท่าน” นมบัวผู้ดูแลบ้านระหว่างที่เขาไม่อยู่เป็นผู้กล่าวต้อนรับเช่นเคย“ขอบคุณครับนม”“เข้าบ้านกันก่อนเถอะค่ะ ไปคุยกันด้านในดีกว่า”“ทานอะไรมารึยังคะ”“ทานมาจากโรงพยาบาลแล้วครับ ขอขึ้นไปพักข้างบนก่อนแล้วจะลงมาทานมื้อค่ำทีเดียว” เจ้านายพูดเช่นนั้นลูกน้องคนสนิทจึงรีบตรงเข้ามา หมายจะช่วยพยุงขึ้นไปส่งยังห้องนอนแต่กลับถูกสายตาคมไล่ให้พวกเขาออกไปวรวิทย์เห็นดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นมีธุระเพื่อที่จะปล่อยให้เจ้านายหนุ่มได้อยู่กับหญิงสาวตามลำพัง“คุณดาวครับผมมีงานด่วนต้องไปจัดการแทนเจ้านาย ผมฝากเจ้านายไว้กับคุณดาวก่อนได้มั้ยครับ” วรวิทย์ทำหน้าขอร้องเธอ ทำราวกับว่ามีธุระสำคัญ“ได้ค่ะพี่วิทย์ไปเถอะ ทางนี้ดาวดูแลให้เอง”
เช้าวันต่อมาประภาสเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้เจอกันมานานเป็นสิบปี พร้อมนคินทร์ทั้งสองสอบถามสารทุกข์สุกดิบกันพูดคุยอัปเดตชีวิตในช่วงที่ไม่ได้ติดต่อกัน รวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของลูก ๆ ช่วงที่ผ่านมาอย่างสนุกสนานทั้งรุ่นพ่อและรุ่นลูก“พวกเรามันแก่แล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ สิ่งที่ทำให้อยู่ต่อได้ก็คือเห็นลูก ๆ มีความสุขไม่มีเรื่องทุกข์ใจนั่นแหละ” ประภาสว่า“อืม เห็นพวกเขาเติบโตมีงานการที่ดีทำ พ่ออย่างเราก็สบายใจนอนตายตาหลับแล้ว”“ถ้าเจ้าโจกลับไปทำงาน แล้วแกเหงาไม่มีเพื่อนก็มาอยู่ด้วยกันก็ได้นะ ต่อไปยัยดาวก็ต้องออกเรือน ฉันก็ต้องอยู่คนเดียวเหมือนกัน”“ฮ่า ๆ แบบนั้นก็ดีนะไม่เหงาดีด้วย แต่ฉันยังมีหลาน ๆทางโน้นไม่มีเวลาเหงาหรอก ถ้าจะให้มาอยู่กับแก ก็คงต้องคิดถึงหลานทางนั้นจนไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่”“ก็ถ้าเหงาไง ให้มาอยู่ด้วยกัน”“ฮ่า ๆ ไอ้เรื่องอยู่ด้วยกันไม่ใช่ปัญหาหรอก ปัญหาคือ ตอนนี้แกน่าจะเหงานะเพื่อน ให้หนูดาวหรือตาดินรีบแต่งานสิ จะได้มีหลานมาวิ่
สามชั่วโมงที่นิศราหายออกจากห้องไป และไม่ได้กลับเข้ามาอีกเลย โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ทำให้ธีรวัฒน์หงุดหงิดใส่ทุกคนเป็นการระบายอารมณ์ ไม่เคยมีใครปล่อยให้เขารอนานขนาดนี้มาก่อนเธอเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนี้กับเขา แถมไปไม่บอกไม่อธิบายอะไรเลย เขาไม่พอใจเธอมากภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะหายไป หญิงสาวเดินจับมือชายอื่นต่อหน้าต่อตาเขาออกจากห้องไป ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาอยู่เลยตอนนี้เขานอนไม่เป็นสุข นั่งก็ไม่เป็นสุข ต้องลุกเดินไปมา นคินทร์ก็ไม่ได้บอกเพื่อนว่าหญิงสาวอยู่เพียงห้องข้าง ๆ เท่านั้นเอง แต่หากเขารู้ว่าเธออยู่ห้องข้าง ๆมีหวังได้เดินไปอาละวาดพาตัวน้องสาวเขากลับมาเป็นแน่นคินทร์เอาแต่นั่งยิ้มอย่างสะใจ มองคนป่วยวุ่นวายหัวใจเดินวนไปวนมาภายในห้องอย่างอารมณ์ดี“มึงหยุดเดินก่อนได้มั้ยว่ะไอ้ธีร์ กูเวียนหัว” เมื่อเห็นเพื่อนเดินไม่หยุดก็อดรำคาญไม่ได้“มึงไม่เห็น ดาวจับมือไอ้ผู้ชายคนนั้น เดินออกไปเลยนะเว้ยต่อหน้ากู จะให้กูนอนเฉย ๆได้ยังไง” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“มึงอะ คิดมากเกินไปเขาบอกเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อนสิวะ มึงพูดแบบนี้แสดงว่า