แชร์

1.2 หนี้เลือด

ผู้เขียน: กมนีย์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-29 13:21:19

“เปิดเส้นให้คุณลดาได้หรือยัง Load IV [1]เพิ่มอีกหนึ่งเส้น เลือดมาถึงรึยัง หมอต้องการเลือดเดี๋ยวนี้”

มัลลิกาเปลี่ยนเป้าหมายในเสี้ยววินาที เธอจำต้องลากเครื่องกระตุ้นหัวใจไปยังร่างของพิมพ์ลดาก่อน แม้จะรู้ว่าผู้ป่วยตรงหน้ายังไม่จำเป็นต้องใช้มันมากเท่ากับผู้ป่วยอีกรายที่ตอนนี้หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว

เสื้อผ้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดถูกถอดออกจากร่างไร้สติ แผ่นนำกระแสไฟฟ้าถูกแปะลงบนตำแหน่ง

“เปลี่ยนคนปั้มในอีก 30 วินาที!!!”

เสียงของหัวหน้าพยาบาลห้องฉุกเฉินเอ่ยเตือนสติลูกน้องทุกคนว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในมือ พี่กุ้งเหลือบมองสบตากับหมอฝ้าย จำนวนคนปฏิบัติงานในขณะนี้ไม่เพียงพอต่อการรับมือผู้ป่วยอาการสาหัสพร้อมกันทีเดียวสองราย หากช่วยคนหนึ่งอย่างเต็มที่ อีกคนย่อมไม่ได้รับการรักษาเท่าที่ควร กระแสความลังเลพาดผ่านแววตาของผู้ที่ต้องรับผิดชอบชีวิตผู้คน หมอฝ้ายไม่อาจตัดสินใจได้ 

มัลลิกาย่อมรู้ดีว่าหมอฝ้ายจะเลือกรักษาผู้ป่วยคนไหน เธอชินเสียแล้วกับสัจธรรมชีวิตในข้อนี้ คนธรรมดาย่อมไม่อาจเทียบชั้นคนมีอำนาจ ดูอย่างเช่นตอนนี้

มัลลิกานึกเวทนาผู้ป่วยอีกรายที่กำลังจะเสียชีวิตลง นัยน์ตาคลอด้วยหยาดน้ำมองผ่านร่างของพิมพ์ลดาไปยังร่างไร้สติบนเตียงอีกฝั่ง ไม่นึกไม่ฝันว่าร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น จะเป็นใบหน้าของคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี

ใบหน้าไร้สีเลือดของมณฑิราทำให้มัลลิกาเข้าสู่สภาวะช็อคอย่างเฉียบพลัน เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับการโผเข้ากอดร่างของผู้ป่วยทำให้ทุกคนภายในห้องตกตะลึง มัลลิกากรีดร้องเรียก ‘พี่มณ’ ราวกับคนเสียสติ ร่างกายเปรอะไปด้วยเลือดจากผู้ป่วย

เธอก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมร่างของพี่สาวและเริ่มปั้มหัวใจด้วยจังหวะหนักหน่วงท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงาน เหตุการณ์ใหม่ที่ได้รับรู้ทำให้ทุกอย่างภายในห้องหยุดชะงัก

เป็นขวัญข้าวที่ได้สติก่อนใคร เธอสาวเท้าเข้าไปกระชากตัวรุ่นน้องออกจากร่างไร้วิญญาณ

“มิ้ง! มิ้ง! ตั้งสติก่อน”

ทว่าเสียงรอบข้างไม่มีผลกับเธอมานานแล้ว   

“ช่วยพี่มณด้วย ใครก็ได้ช่วยพี่มณด้วย”

มัลลิกายังคงปั้มหัวใจให้กับร่างไร้ลมหายใจของพี่สาวโดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลืออะไรได้

การรักษายังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางความกดดันมหาศาลที่ตกอยู่กับหมอฝ้ายเพียงคนเดียว

คนหนึ่งคือลูกสาวของท่านนายกรัฐมนตรี ส่วนอีกคนก็เป็นญาติของเจ้าหน้าที่

“หมอฝ้ายคะ” พี่กุ้งเร่งรัดขอคำสั่งการรักษาต่อไป ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตทั้งคู่

“โฟกัสที่คนไข้ยังไม่มีชีพจรก่อน เตรียมเครื่องกระตุ้นหัวใจ ฉีด Adrenaline[2] 10 mg. IV stat”

หมอฝ้ายจำต้องเลือกญาติเจ้าหน้าที่ก่อนเพราะสถานการณ์บีบบังคับ เมื่อได้รับคำสั่งการรักษา พยาบาลส่วนหนึ่งจึงเร่งเข้ามาติดอุปกรณ์สำหรับช็อคไฟฟ้าหัวใจให้กับมณฑิรา บุรุษพยาบาลสองนายต้องช่วยกันลากมัลลิกาลงจากเตียงเมื่อหมอฝ้ายสั่งช็อคไฟฟ้า

การรักษายังคงดำเนินไปอย่างเร่งด่วนแข่งกับเวลา หมอฝ้ายยืนเหงื่อตกมองร่างของพิมพ์ลดาที่ชีพจรเต้นแผ่วเบาลงทุกขณะ ความดันโลหิตลดต่ำลงเรื่อยๆ สลับกับทางด้านของมณฑิราที่ชีพจรยังไม่กลับมา ผู้ป่วยทั้งสองรายต่างต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อหยุดเลือดโดยด่วนที่สุด

“พาคนไข้ขึ้นห้องผ่าตัดได้หรือยัง หมอขอคำตอบเดี๋ยวนี้!”

         ท่ามกลางแรงกดดันจากการเร่งช่วยชีวิตผู้ป่วยทั้งสองราย เสียงจากเครื่องมอนิเตอร์คลื่นไฟฟ้าหัวใจเหนือศีรษะของพิมพ์ลดาส่งเสียงดังลากยาวบ่งบอกว่าผู้ป่วยรายนี้หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว

         ตอนที่จอมทัพฝ่าด่านรปภ.ของโรงพยาบาลบุกเข้ามาถึงด้านในห้องฉุกเฉินเพื่อมาดูอาการของคู่หมั้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่หัวใจของพิมพ์ลดาหยุดเต้น สภาพคนรักนอนจมกองเลือดไร้เงาคนเหลียวแลทำให้เขาคลุ้มคลั่ง

“พวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่ ทำไมลดาถึงอยู่ในสภาพนี้!”

         ผู้ที่บุกเข้ามาเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ผิวขาวสะอาด เพราะอยู่ในชุดลำลองดูแตกต่างจากยามปกติที่เคยเห็นในชุดนายตำรวจยศใหญ่ จึงมีทั้งคนจำเขาได้และจำเขาไม่ได้ เขาก็คือนายจอมทัพ เตชะปกรณ์ คู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกับพิมพ์ลดาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

การปรากฏตัวของบุคคลไม่คาดฝันทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาล รปภ.สองสามนายที่วิ่งตามชายหนุ่มเข้ามาไม่มีใครกล้าแตะต้องพลตำรวจโทคนนี้เลยสักคน จอมทัพมองกดดันคุณหมอเพียงคนเดียวในห้อง

สถานการณ์ยิ่งบีบรัดเมื่อพยาบาลผู้รับคำสั่งจากหมอฝ้ายเดินเข้ามารายงาน “หมอฝ้ายคะ ห้องผ่าตัดพร้อมแล้วค่ะ แต่ว่าตอนนี้เปิดเคสด่วนได้แค่เคสเดียว ทางห้องผ่าตัดแจ้งว่าต้องรอทีมเสริมอีกประมาณ 30 นาที เอายังไงดีคะ”

ทุกสายตาจับจ้องไปยังหมอฝ้าย ด้านหนึ่งคือนายตำรวจยศใหญ่กับลูกสาวของท่านนายกรัฐมนตรี อีกด้านคือพี่สาวของมัลลิกา พยาบาลรุ่นน้องที่ทำงานด้วยกันมานานร่วมห้าปี

“รีบพาคุณพิมพ์ลดาไปห้องผ่าตัดสิ เร็วเข้า หมอจะปั้มหัวใจให้คนไข้เอง พี่กุ้งคะ หมอฝากพี่สาวน้องมิ้งด้วยนะ”

หมอฝ้ายสั่งการเพียงแค่นั้นก็กระโจนขึ้นเตียงของพิมพ์ลดา ลงมือปั้มหัวใจให้คนไข้ VIP ด้วยตนเอง ไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวมองใบหน้าของพยาบาลรุ่นน้อง

นัยน์ตาฉายแววอาฆาตมองผ่านแผ่นหลังของพยาบาลชุดขาวไปยังใบหน้าไร้สีเลือดที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยคราบน้ำตาของคนที่นั่งกอดร่างนั้น เขาฝากแรงแค้นเอาไว้ ก่อนจะเร่งรุดวิ่งตามเปลของคนรักออกไป

เมื่อความโกลาหลวุ่นวายจบลง ภายในห้องฉุกเฉินที่หนึ่งจึงเหลือเพียงเสียงร่ำไห้ปานจะขาดใจของมัลลิกา เธอไม่อาจยื้อชีวิตของพี่สาวเพียงคนเดียวเอาไว้ได้ พี่มณจากไปแล้ว เหลือไว้เพียงร่างไร้วิญญาณ

[1] การให้สารน้ำทดแทนการเสียเลือด

[2] ยาที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจเมื่อหัวใจหยุดเต้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 6

    ตอนพิเศษ 6ครอบครัวอบอุ่นของผู้กองจอมทัพอาณาเขตของบ้านพงศ์พานิชถูกขยับขยายเต็มพื้นที่ ตัวบ้านหลังเดิมถูกต่อเติมเพิ่มขึ้นอีกหลายห้องเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน ทางด้านหลังมีการขุดลอกทำคลองเพื่อนำน้ำจากธรรมชาติมาใช้สอยรดพืชผักสวนครัวและเลี้ยงไก่ทางด้านหน้าติดประตูรั้วเป็นสถานพยาบาลเบื้องต้น ขนาดไม่ใหญ่มาก ทว่าก็มีชาวบ้านเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย วันนี้ยังไม่ทันถึงเวลาเปิดให้บริการก็มีเสียงตะโกนเรียก น้ำเสียงฟังดูตื่นตระหนก “พ่อเฒ่าไถลลงบันได ถูกตะปูตำ แผลลึกเลยอีหล้า” มัลลิการีบกุลีกุจอออกมา ไม่ทันแม้แต่ถอดผ้ากันเปื้อน “ไปเอาชุดล้างแผลมาให้แม่หน่อยได้ไหมคะหนูลิน” เด็กหญิงวัยสิบขวบขานรับฉะฉาน สองเท้าก้าวอย่างฉับไวเข้าไปในสถานพยาบาลของมารดา มัลลิการีบมองประเมินบาดแผล เลือดหยุดไหลแล้ว แต่บาดแผลก็ลึกพอสมควร เห็นทีต้องรีบล้างแผลและให้ญาติพาตัวคนเจ็บเข้าไปฉีดยากันบาดทะยักที่อนามัยโดยเร็วที่สุด “พี่รบครับ พี่รบไปบอกคุณพ่อให้ช่วยหยิบน้ำเกลือให้คุณแม่หน่อยได้ไหมครับ” มัลลิกาหันไปหาเด็กชายตัวป้อมที่ยืนเกาะแขนเธอไม

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 5

    ตอนพิเศษ 5ยัยโจรห้าร้อยกับผู้กองเอวดุประวิทย์ไม่คาดคิดว่าคนอย่างเขาจะมีช่วงเวลาแห่งความเหงา นับตั้งแต่คู่หูมีคนเข้ามาดามใจ ธีรเมศฐ์ก็ไม่เคยไปไหนมาไหนกับเขาอีกเลย เฝ้าแต่คุยโทรศัพท์ทางไกลกับเมียเด็ก “ไอ้ธีร์ เย็นนี้เอ็งไปดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิวะ ข้าเหงา” ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้กองธีร์แทนคำตอบ “ใครจะไปรู้ ว่าคนเจ้าชู้อย่างเอ็งจะมานั่งบ่นว่าเหงา ฮ่าๆๆ”เขาตบบ่าเพื่อนรักพลางลุกออกไปจากโต๊ะ“เลิกเจ้าชู้เห๊อะไอ้วิทย์ ระวังเถอะ สักวันเวรกรรมจะตามสนอง”นอกจากเพื่อนรักจะไม่เหลียวแล มันยังทิ้งคำสาปแช่งไว้ให้อีก มันน่านัก เดี๋ยวพ่อก็แช่งให้เมียเด็กเอ็งมีชู้ซะนี่!สุดท้ายผู้กองวิทย์ก็พาตนเองมาคลายความเหงาที่ผับดังแห่งหนึ่งย่านรัชดา เขามาที่นี่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งก็ได้สาวกลับไปกินที่คอนโดไม่ซ้ำหน้าทว่าวันนี้ไม่รู้ทำไมมองไปทางไหนก็มีแต่ความเบื่อหน่าย“เฮ้อ… กลับก็ได้วะ”ขณะลุกขึ้น ด้านหลังก็ถูกชนเข้าอย่างจังจนเสียหลักพุ่งชนเหลี่ยมขอบโต๊ะ จุกไปทั้งหน้าท้อง อารมณ์ขุ่นเคืองที่สั่งสมมานานหลายวันพลันปะทุขึ้น“ระวังหน่อยสิวะ!”พอหันกลับไปก็ต้องตะลึงงัน ดาราที่ไหนวะเนี่ย…เขาผ่านผู้ห

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 4

    ตอนพิเศษ 4หนูชื่อก้านแก้วไม่ใช่แก่นแก้วธีรเมศฐ์แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าหญิงสาวในชุดนักศึกษาทรวดทรงนาฬิกาทรายที่เพิ่งเดินผ่านหน้าบ้านไปจะเป็นยายเด็กจอมแก่นคนนั้นจริงๆ เขาถือโอกาสที่มาร่วมงานแต่งของท่านจอมขอลาพักร้อนกลับมาพักใจที่บ้าน เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าตนเป็นคนบ้านเดียวกันกับมัลลิกา หมู่บ้านของหล่อนอยู่ถัดจากบ้านของเขาไปไม่ได้ไกลมาก ห่างกันราวสิบกิโลเห็นจะได้ พอนึกว่าแต่ก่อนหล่อนอยู่ห่างไปเพียงแค่ไม่กี่หลังคากั้น เขากลับไม่เคยมีบุญวาสนาจะได้พานพบ ก็คงเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิตไม่ให้พวกเขาได้เป็นคู่กันแน่แท้แล้ว สีหน้าของผู้กองพลันเซื่องซึม เขาถอนหายใจจนมารดาแก่ชราอดบ่นไม่ได้ ไม่ใช่แค่ผู้กองที่ลอบสังเกตเห็น แต่ ‘ก้านแก้ว’ เองก็เห็นชายหนุ่มแล้วเช่นกัน ‘พี่ธีร์’ พี่ชายข้างบ้านที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าเป็นฮีโร่ในวัยเยาว์ก็ว่าได้ นับตั้งแต่พี่ธีร์ย้ายไปเรียนกรุงเทพ กระทั่งเข้ารับราชการในกรมตำรวจ เขาก็กลับมาเยี่ยมบ้านแทบจะนับครั้งได้ และทุกครั้งที่เขากลับมา แก้วก็มักจะคอยลุ้นอยู่เสมอว่าจะได้เห็นเขาหอบลูกหอบเมียกลับมาด้วยหรือไม่ ครั้งนี้ก็เ

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 3

    ตอนพิเศษ 3ไม่ว่าน้องอยากได้อะไรพี่ก็จะหามาให้บ้านหลังใหม่ของมัลลิกามีทั้งหมดสี่ห้องนอน เดิมเธอกับบิดามารดารวมกันยังเหลือห้องว่างอีกสองห้อง แต่พอคณะของจอมทัพย้ายเข้ามา บ้านหลังใหญ่ก็ดูคับแคบลงไปถนัดตายายชื่นได้พักหนึ่งห้อง อีกห้องจึงให้ป้านวลกับแป้งอาศัยอยู่ร่วมกัน เศษส่วนเกินที่เหลือจึงกลายเป็นจอมทัพ ชายหนุ่มยืนอยู่ในห้องของมัลลิกาด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผิดกับเจ้าของห้องที่มีสีหน้าเก้อกระดาก เธออยากไล่เขาไปนอนที่อื่น ติดที่ไม่รู้จะอธิบายกับบิดามารดาว่าอย่างไร “เดี๋ยวพี่ออกไปพักในเมืองก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยขับรถกลับมา” ระยะทางไปกลับระหว่างตัวเมืองกับเขตอำเภอไม่ใช่ใกล้ๆ ใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งชั่วโมง คะเนจากสีหน้าท่าทางก็รู้ว่าเขามั่นใจอยู่แล้วว่าเธอคงไม่กล้าปล่อยให้เขาทำอย่างนั้น “ทำไมจะมาถึงไม่บอกก่อนคะ” เธอแสร้งเปลี่ยนเรื่อง หมุนตัวไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่ออกมาจากตู้ จอมทัพฉวยโอกาสที่หญิงสาวหันหลังเดินเข้าไปสวมกอด ลอบสูดดมกลิ่นกายหอมละมุนที่แสนคิดถึงให้ฉ่ำปอด “ก็เธอไม่ยอมบอกเบอร์ติดต่อ พี่จะบอกเธอยังไง”

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2ผู้กองจอมทัพแห่งสภ.พานจอมทัพเพิ่งย้ายมาประจำการยังสภ.พานไม่ถึงเดือนแต่อันธพาลกลับไม่มีเหลือ กิตติศัพท์ของเขาเลื่องชื่อระบือไกลไปจนถึงเขตปกครองของสภ.ข้างเคียง หากเจอขาใหญ่ประจำถิ่นคนไหนออกอาละวาด เพียงแค่เอ่ยชื่อผู้กองคนนี้ ขาใหญ่ก็ขาใหญ่เถอะ ล้วนกลัวจนหัวหด ม้วนหัวเก็บหางกลับไปแทบไม่ทัน ครั้งหนึ่งมีคนอยากลองของอันธพาลคนนั้นเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าของห้างทองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอำเภอพาน ทั้งยังเป็นเจ้าของตลาดสดในตัวอำเภอ ทั้งส่งออก ทั้งรับซื้อ ผูกขาดเพียงเจ้าเดียวเด็กหนุ่มคนนี้ขูดรีดค่าแผงกับแม่ค้าเป็นอาจิณ อาศัยความเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้ ลูกสาวบ้านไหนถูกตาต้องใจก็ถูกบังคับเอาตัวมาขัดดอก ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว พวกตำรวจก็พากันปวดหัวเพราะทำอะไรขาใหญ่คนนี้ไม่ได้ แว่วว่าเบื้องหลังมีการส่งส่วยให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่วันนั้นจอมทัพแวะตลาดหลังเลิกงานเพื่อซื้อของสดกลับบ้าน ขณะส่งเงินให้แม่ค้า กลับถูกใครบางคนคว้าเงินไปจากมือ“อันนี้ถือเป็นค่าแผงวันนี้นะ”ผู้กองในชุดนอกเครื่องแบบปรายตามอง แต่อีกฝ่ายไม่ได้มองเขา ชายคนนั้นยังเป็นวัยรุ่น อายุไม่น่าเกินยี่สิบห้า ผ

  • อุบัติแค้น ลิขิตรัก   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 มิอาจเลือกทางเดินไม่คิดเลยว่าชีวิตของคนคนหนึ่งจะสามารถถูกกำหนดด้วยนามสกุลที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด พิมพ์ลดากดปิดรูปถ่ายของชายหนุ่มที่ถูกส่งมาทางอีเมลเป็นคนที่เท่าไหร่ไม่รู้โดยไม่แม้แต่จะสนใจอ่านรายละเอียดที่แนบมาด้วยเธอเบื่อเหลือเกิน นับแต่จำความได้ ชีวิตก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องสังคม กระทั่งเรื่องความรักขณะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายทางไกลที่เธอมิอาจเลี่ยงได้ บิดาของเธอนั่นเอง“คุณพ่อคะ ลดาเพิ่งจะ 20 เองนะ”มันเป็นประโยคเดิมๆที่เคยพูดกับบิดามาตลอดสองปีจนตอนนี้เธอหนีจากบ้านมาเรียนไกลถึงประเทศอังกฤษ บิดาก็ยังไม่เลิกจับคู่ทางการเมืองให้เสียที“อีกสามวันจอมทัพจะบินไปเยี่ยมหลานสาวที่โน้น ยายหนูมิริน ไปพบพี่เขาซะ คนนี้พ่อเลือกแล้ว”ลดาเบิกตากว้าง ครั้งนี้ไม่ใช่ประโยคคำถาม หากแต่เป็นประโยคคำสั่งที่เธอขัดขืนไม่ได้“คุณพ่อ!!!” เธอไม่อยากจะเชื่อเลย “ถ้าเขาเป็นญาติพี่ขุน ก็แปลว่าเป็นพวกในเครื่องแบบใช่ไหมคะ”ได้ยินปลายสายตอบกลับ“ใช่ น้องชายเจ้าขุน พ่อกำลังหมายตาจะให้เขาเข้ามารับตำแหน่งพันตรี ขึ้นตรงกับพ่อโดยตรง เขาทั้งหนุ่ม ทั้งขยัน อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status