LOGINซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะเขาเกลียดเธอมาตลอดนั่นล่ะ สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความรำคาญ นับตั้งแต่เธอย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่กับแม่ที่บ้านใหญ่หลังนี้ตอนอายุสิบสอง เธอจำได้ว่าเขาไม่เคยยิ้มให้เธอเลยสักครั้ง...
“เขารู้ชื่อฉันด้วย”
ระรินยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลืมความเจ็บไปเลย ขณะนั่งรถเมย์กลับบ้านในช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากตัดสินใจลาป่วยกะทันหัน
“หรือว่าเขาสนใจฉันอยู่” ระหว่างกำลังเคลิ้บกับการเข้าข้างตัวเอง อยู่ ๆ เสียงของคุณหนูจอมโหดก็ดังลั่นเข้ามาในหัวว่า...เพราะเธอโง่ที่สุดในชั้นปีไงล่ะ ใครๆก็รู้จักชื่อเธอทั้งนั้นแหละยัยเบ๊อะ
“ยัยเบ๊อะ! ฮึ่ม เมื่อไหร่จะเลิกเรียกเราว่ายัยเบ๊อะสักทีนะ ฉันก็มีชื่อเหมือนกันนะโว๊ย”
จากอารมณ์ดีก็กลายเป็นอารมณ์เสียซะงั้น เพียงแค่คิดถึงเจ้านายขึ้นมา...
เมื่อถึงคฤหาสน์ใหญ่โตของตระกูลก้องกิจธนา ซึ่งเป็นที่ทำงานของแม่เธอมาเกือบทั้งชีวิต คุณหมอธนาและคุณหมอดลฤดีซึ่งเป็นบิดามารดาของเหนือภพ เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเสียงในระดับเอเชียเลยทีเดียว
เพราะเหตุนี้เอง...เหนือภพจึงตั้งใจจะสอบเข้าแพทย์ตามรอยพ่อแม่และจะเรียนบริหารควบคู่ไปด้วย เพื่อจะได้สานต่อกิจการของตระกูลนั่นเอง
ระรินใช้ประตูเล็กด้านหลังเพื่อเข้าบ้านหลังใหญ่ ตรงไปยังห้องพักคนใช้ที่เธอกับแม่อาศัยอยู่ ห้องขนาดเล็กซึ่งอยู่ถัดจากห้องครัวไปนั่นเอง ส่วนคนใช้และคนงานอีกประมาณห้าคนจะอาศัยที่เรือนพักซึ่งตั้งแยกออกจากตึกใหญ่ไป
“มือหนักเหมือนกันนะเนี่ย” เธอนั่งทายาหน้ากระจกเครื่องแป้ง เพื่อบรรเทารอยฟกช้ำและอาการเจ็บ
“ทำไมกลับเร็ว”
เสียงแม่ทำเธอสะดุ้ง
“อุ๊ย! แม่อ่ะ ตกใจหมดเลย พูดเบาๆก็ได้”
“แล้วนั่นเป็นอะไร หน้าไปโดนอะไรมา”
ลูกสาวพยายามทำหน้าไม่ให้มีพิรุธ “อุบัติเหตุนิดหน่อยจ๊ะ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกแม่ ส่วนทำไมกลับเร็ว เพราะปวดหัวนิดหน่อย เลยอยากกลับมาพักที่บ้าน แม่เข้าใจแล้วนะ ถ้าเข้าใจแล้วก็กลับไปทำงานเหอะ”
รังรองมองลูกสาวอย่างสงสัย “แกโดนตบมาใช่มั้ย ตบแย่งผู้ชายกันสินะ”
“อะ...นอนเหรอ?” เธอแปลกใจนิดหน่อย เพราะคนมีระเบียบวินัยสูงเช่นเขาจะไม่มีวันทำให้แผนการในชีวิตประจำวันของเขาเสียไปโดยใช่เหตุ คนอย่างเขาไม่มีวันนอนตอนหนึ่งทุ่ม โดยที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือสักหน้า“หรือว่าจะไม่สบาย” ความห่วงใยปนสงสัยทำให้เธอไม่ลังเลที่จะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงใกล้กับโซฟาที่เขานอนอยู่ วางถาดแก้วนมลงบนโต๊ะเตี้ยใกล้ ๆ แล้วยื่นมืออังหน้าผากของเขาอย่างถือวิสาสะ“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา” แต่ใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาจนอยากจะนั่งมองไปเรื่อยๆ“คนอะไร ยิ้มไม่เป็น” แต่ขนาดว่ายิ้มไม่เป็น สาวๆยังหลงใหลได้ปลื้มซะขนาดนี้ หากยิ้มเป็นขึ้นมา มีหวังได้ปวดหัวตาย “ริมฝีปากสวยจัง”แถมน่าจูบชะมัด...“ฮึ่ม...” รู้สึกหื่นขึ้นมาเลย...หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นเจ้านายที่อยู่สูงเกินเอื้อมล่ะก็ บางทีเธออาจจะยอมปล่อยให้หัวใจได้ทำตามความรู้สึกตัวเองสักครั้ง หัวใจโง่งมที่หลงรักคนใจร้ายใจดำที่เกลียดตัวเอง“เป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงทุกคนในโลก แต่เป็นคนใจร้ายใจดำใจอำมหิตกับเราคนเดียว เดี๋ยวเหอะ!”เธอไม่ได้โกรธเขาหรอกนะ ก็แค่หมั่นไส้ เลยกำหมัดขึ้นแกล้งจะตั๊นหน้าเขาแบบล้อเล่น แต่ข้อมือเธอโดนมือเขากำรวบล็อคไว้ได้ทันควัน“อ๊ะ!
ระรินอ้าปากหวอ ทำไมแม่รู้ “เปล่าซะหน่อย สวยๆอย่างหนูไม่จำเป็นต้องตบกับใครเพื่อแย่งผู้ชายหรอกจ๊ะ มีแต่ผู้ชายจะต่อยกันแย่งหนู”“ใครจะหน้าโง่มาชอบม้าดีดกะโหลกอย่างแก”“แม่อ่ะ ทำไมใจร้าย นี่ลูกแม่นะ”“เออ ๆ นอนพักเหอะ หวังว่าครูปกครองจะไม่โทรหาฉันนะ ช่วงนี้งานยุ่ง ไม่มีเวลาไปโรงเรียนหรอก”ระรินหน้าเจื่อน “ไม่มีหรอกแม่ พูดอะไรก็ไม่รู้ ลูกสาวตัวเองออกจะเรียบร้อยน่ารัก”เมื่อแม่ออกจากห้องไป เธอถอนหายใจพรึด แต่ไม่ใช่เพราะโล่งใจ กลับนึกกังวลขึ้นมา “หวังว่ายัยนั่นจะไม่ฟ้องพ่อนะ”เธอทิ้งตัวนอนบนฟูกหนาอย่างอ่อนแรง ดวงตามุ่งมั่นจ้องมองเพดานที่เต็มไปด้วยดาวปลอม ๆ นับร้อยดวงที่เธอติดไว้“เพราะฉันอยากเรียนจบ...อยากไปจากบ้านหลังนี้เต็มทีแล้ว...ไม่อยากเป็นคนรับใช้ของใครแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยย” ระรินมีความฝันอยากเรียนต่อด้านพยาบาล แต่รู้ตัวดีว่าคงสอบไม่ติดแน่ ก็เลยคิดแผนสองเอาไว้ว่าจะเรียนทำอาหารหรือเบเกอรี่ หากในอนาคตสามารถเก็บเงินได้มากพอ เธอก็อยากมีร้านเป็นของตัวเองล่ะอ่า...ฝันดีจัง...ฝันว่ากำลังอุ่นนมอยู่...เธอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มาตื่นอีกทีก็เพราะเสียงเคาะประตูดังขึ้น...ก๊อก ๆ ๆ “ยัยระริน” เสี
ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะเขาเกลียดเธอมาตลอดนั่นล่ะ สายตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความรำคาญ นับตั้งแต่เธอย้ายจากต่างจังหวัดมาอยู่กับแม่ที่บ้านใหญ่หลังนี้ตอนอายุสิบสอง เธอจำได้ว่าเขาไม่เคยยิ้มให้เธอเลยสักครั้ง...“เขารู้ชื่อฉันด้วย”ระรินยิ้มอย่างอารมณ์ดี ลืมความเจ็บไปเลย ขณะนั่งรถเมย์กลับบ้านในช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากตัดสินใจลาป่วยกะทันหัน “หรือว่าเขาสนใจฉันอยู่” ระหว่างกำลังเคลิ้บกับการเข้าข้างตัวเอง อยู่ ๆ เสียงของคุณหนูจอมโหดก็ดังลั่นเข้ามาในหัวว่า...เพราะเธอโง่ที่สุดในชั้นปีไงล่ะ ใครๆก็รู้จักชื่อเธอทั้งนั้นแหละยัยเบ๊อะ“ยัยเบ๊อะ! ฮึ่ม เมื่อไหร่จะเลิกเรียกเราว่ายัยเบ๊อะสักทีนะ ฉันก็มีชื่อเหมือนกันนะโว๊ย”จากอารมณ์ดีก็กลายเป็นอารมณ์เสียซะงั้น เพียงแค่คิดถึงเจ้านายขึ้นมา...เมื่อถึงคฤหาสน์ใหญ่โตของตระกูลก้องกิจธนา ซึ่งเป็นที่ทำงานของแม่เธอมาเกือบทั้งชีวิต คุณหมอธนาและคุณหมอดลฤดีซึ่งเป็นบิดามารดาของเหนือภพ เป็นผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ซึ่งปัจจุบันมีชื่อเสียงในระดับเอเชียเลยทีเดียว เพราะเหตุนี้เอง...เหนือภพจึงตั้งใจจะสอบเข้าแพทย์ตามรอยพ่อแม่และจะเรียนบริหารควบคู่ไปด้วย เพื่อจะ
เจ้าหล่อนพูดอยู่คนเดียวก่อนจะรีบเดินไปโดยไม่รอฟังคำอธิบาย และไม่รอแฟนหนุ่มที่เพิ่งจะโผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ โดยมือยังรูดซิปกางเกงนักเรียนไม่เสร็จด้วยซ้ำ “โอะ...” นักเรียนชายคนนั้นอุทานตกใจตาค้างเช่นเดียวกับแฟนสาว เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วรีบวิ่นหนีจากไปอีกคน “ไม่ใช่นะไม่ใช่!!” ระรินรีบตะโกนไล่หลังอย่างร้อนใจ เพราะกลัวชานนท์จะเสียชื่อเสียงที่มีข่าวกับเด็กห้องบ๊วยอย่างเธอ “เดี๋ยวสิ เดี๋ยว! ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”เธอตัดสินใจจะวิ่งตามหนุ่มสาวคู่นั้นไป แต่มือของชานนท์รั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน“ไม่ต้องหรอก”เธอชะงัก เพราะตกใจที่โดนจับมือซะแน่น มืออบอุ่นที่ทำให้ตัวเธอเย็นวาบ ขนลุกเกรียว “แต่ แต่ แต่พวกเขาเข้าใจผิดนะ”“ไม่เป็นไรหรอก” ไม่เป็นไรได้ไง...เธองงแล้วนะ ว่าแต่เมื่อไหร่จะปล่อยมือเหรอ...ถ้าจับนานกว่านี้ เธออาจเป็นลมได้“นนท์!!” คราวนี้เป็นเสียงทุ้ม ๆ ของใครบางคนที่ตะโกนเรียกมาจากด้านหลัง“หา...” เธอตกใจตาเหลือกเพราะจำเสียงของเขาได้ เจ้านายของเธอนั่นเอง ผู้ชายที่เป็นต้นเหตุให้เธอเจ็บตัวหลายครั้ง รวมทั้งวันนี้ตึง! ตึง! สวบ! สวบ!เสียงฝีเท้าของเขาน่ากลัวชะมัด เธอไม่อยากจินตนาการถึงใบหน้า
“แต่ก็ยังดี...ที่แอบถ่ายเหตุการณ์เอาไว้แล้ว หวังว่าคลิปจะช่วยชีวิตฉันได้นะ” เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อจะเปิดเช็คคลิปวิดีโอเพื่อความมั่นใจ แต่ภาพพักหน้าจอของใครบางคนทำให้เธอยิ้มเขินด้วยความปลื้มปริ่มเสียก่อน“คนอะไร...เท่ชะมัด”“ระริน!”เสียงเรียกจากใครบางคนทำเธอตกใจสะดุ้งโหยง พอหันไปมองก็ถึงกับตาค้าง รีบเก็บโทรศัพท์อย่างไว ก่อนจะโดนจับได้ว่าเธอใช้ภาพเขาเป็นภาพพักหน้าจอ “อะ...ชานนท์”ประธานนักเรียนสุดเท่ของรุ่นน้อง เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของเหนือภพ“เอ๊ะ...” เขารู้ชื่อเธอด้วยเหรอ...คนคูล ๆ ที่มีผู้หญิงสวย ๆ น่ารัก ๆ มากมายรุมล้อมตลอดเวลาอย่างเขาไม่น่าจะรู้จักผู้หญิงติงต๊องห้องบ๊วยที่ไม่มีอะไรน่าสนใจอย่างเธอ คนที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้จักชื่อด้วยซ้ำ “นาย...ประธานนักเรียน!” คนตัวสูงจ้องหน้าเธออย่างสนใจ เลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงละมุนหูว่า“ทำไมหน้าเละงั้นล่ะ ไปโดนอะไรมา”“เอ่อ...” เธอยิ้มเจื่อน แต่หัวใจเต้นแรงแทบบ้า ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้คุยกับผู้ชายที่แอบปลื้มมานาน เธออยากจะกรี๊ดให้คอแตกเลยล่ะ“อะ คือ แก้มมันเลือดฝาดน่ะ”เขาหัวเราะนิด ๆ “แก้มเลือดฝาดเป็นรูปรอยนิ้วมือ
“อร๊ายยยยย” ชลิดากรี๊ดลั่น “เขาเป็นของฉัน! แกไม่รู้รึไงว่าเหนือภพเป็นคู่หมั้นฉัน !!!”“จะไม่รู้ได้ไง เธอเล่นประกาศทุกวัน แต่ได้ข่าวว่า เป็นเรื่องของธุรกิจนี่นา เหนือภพไม่ได้ชอบเธอซะหน่อย หมั้นกันก็เพราะผู้ใหญ่จัดให้!”“อีระริน!! มึงรู้ได้ไงว่าเหนือภพไม่ได้ชอบฉัน เขาชอบฉัน เขาจะแต่งงานกับฉัน!!”“แน่ใจนะ”“กรี๊ดดดดด นารา จัดการอีระริน!”นาราตรงมาจะตบเธอ แต่เธอหลบทัน ส่งผลให้นาราล้มคะมำเข้าไปในห้องน้ำ หน้าทิ่มลงไปในโถส้วม ซึ่งเต็มไปด้วยอุจาระ“อร๊ายยยยยย เหม็นขี้ เหม็นขี้ แหวะ อ๊วกก ไม่ไหวแล้วว อร๊ายยยย ช่วยด้วย ช่วยกูด้วย” นารากรีดร้องอย่างทุกข์ทน ไลล่ารีบเข้าไปช่วยพยุงอย่างทุลักทุเล เพราะตัวเองก็เกิดอาการคลื่นไส้อย่างหนัก“ฮ่า ๆ ๆ” ระรินหัวเราะด้วยความสะใจ ไม่ทันระวังตัวจึงโดนชลิดาตบหน้าอย่างแรงจนเลือดซิบมุมปาก“มึง! เจอกู” ฝ่ามือเหวี่ยงมาจะตบซ้ำ แต่กลับโดนตบสวนซะก่อน “โอ๊ย!”ระรินตกใจตัวเองที่ห้ามมือไม่ทัน ดันไปตบลูกสาวผู้อำนวยการโรงเรียนเข้าแล้ว “ซวยแล้ว”วินาทีนั้น...หน้าดุ ๆ ของแม่ลอยมาเลย...“ไปเหอะอาย!”ระรินคว้ามืออารดาพาวิ่งออกมายังประตูห้องน้ำที่ถูกปิดไว้ ปลดล็อคประตูแล้วออ







