“ค่ะคุณย่า” หนูน้อยรับคำพร้อมน้ำตารื้น
ยายจ๋าคุณย่าอิสรีเป็นคนใจดีจริง ๆ เธอชักเข้าใจแล้วว่าทำไมยายเกดจึงอยากให้มาอยู่ที่นี่
ละครเล่นไปได้ครึ่งเรื่องเกล้ากมลก็ปวดฉี่ คุณย่าอิสรีชี้ให้ไปเข้าห้องน้ำถัดจากครัวไปหน่อย หลังเสร็จธุระเธอกำลังจะออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินคนเปิดประตูหลังบ้าน เกล้ากมลใจตกไปอยู่ตาตุ่ม ใครกันจะมาบ้านเวลานี้และเข้าทางประตูหลัง
เธอแอบแง้มดูจากประตูห้องน้ำ เห็นหลังกว้างในความมืดตะคุ่ม ๆ ตายล่ะ มันกำลังไปทางห้องนั่งเล่น เธอเหลียวหาอาวุธต่อสู้กับคนร้าย ซึ่งไม่มีเลย
จนตาเหลือบไปเห็นตะกร้าผลไม้ปลอมบนโต๊ะเตรียมอาหารในครัว มือเล็กจึงคว้าอาวุธจำเป็นวิ่งตามหลังไปติด ๆ แล้วขว้างผลไม้พลาสติก ทั้งมะม่วง แอปเปิล ส้ม มะละกอ โดยเฉพาะกล้วยที่โดนหัวคนร้ายดังปั๊ก
“อย่าทำอะไรคุณย่านะไอ้โจรชั่ว!” เกล้ากมลตะโกนสุดเสียงพร้อมวิ่งไปจับขามันไว้
“เฮ้ย! อะไรกันนี่ ยัยเด็กบ้า ปล่อยฉันนะ”
มันพยายามสลัดคนเกาะให้หลุด แต่เธอยังมือเหนียวหนึบเป็นตุ๊กแก
“คุณย่าหนีไปค่ะ” เธอรีบบอกผู้อาวุโสที่ตะลึงในเหตุการณ์อยู่
“ปล่อยสิวะ” เจ้าโจรร้ายดันมือที่ศีรษะเล็ก หวังให้เธอไปไกล ๆ แต่เกล้ากมลร้ายกว่านั้น เธอกัดมือมันเสียจมเขี้ยว
“โอ๊ย!” มันร้องลั่น จนคุณย่าอิสรีต้องบอก
“เกล้า นั่นอิธเอง”
ตาโตช้อนมองเจ้าของมือที่ตนกัดจมเขี้ยว อิธานมองเธอตาเขียว ปากเล็กคลายออกทันใด ได้กลิ่นและรสของเลือดจากรอยกัด
“เธอเป็นหมาหรือยังไง ถึงกัดคน นี่ฉีดยาหรือยัง ไม่ใช่เอาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามาติดฉันหรอกนะ” เขากล่าวหาเธอ พร้อม ๆ ที่คุณย่ามาจับมือดูแผล
“เกล้าเป็นคน ไม่เคยโดนหมากัด เกล้าคิดว่าคุณอิธเป็นคนร้าย” เกล้ากมลเถียงหน้าง้ำ รู้สึกผิด แต่ก็ไม่ยอมหากโดนว่า
“ทั้งคู่พอก่อน อิธมานั่งนี่ เดี๋ยวย่าทำแผลให้”
คุณย่าอิสรีเดินไปทางห้องรับแขกเพื่อหากระเป๋าปฐมพยาบาล อิธานนั่งกัดฟันกรอด โมโหมาก แต่ข่มใจไว้เพื่อไม่ให้ถูกว่ารังแกเด็ก
ยามค่ำเขาเข้าประตูหลังบ้านอยู่แล้ว เพราะไม่อยากโดนคุณย่าบ่นเรื่องกลับบ้านค่ำ ปกติผ่านไปได้ทุกทีไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งเกล้ากมลเข้ามา
เขาไม่ชอบที่เวลาเธอมอง มันแข็งกร้าวบ่งบอกว่าจะไม่ยอมสยบ ทั้ง ๆ ที่เด็กคนนี้ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร และจะเป็นเจ้าของไร่นี้ต่อไป อิธานมองดูก็รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ปกครองยาก
“มา...มาทำแผล เกล้า ไปหาถังขยะมาให้หน่อย”
สาวน้อยวิ่งไปทางห้องน้ำ สักพักก็กลับมาพร้อมถังขยะใบย่อม
“ผมจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าไหมฮะย่า”
เขามองแผลตัวเองที่ค่อย ๆ ถูกเช็ดด้วยแอลกอฮอล์
“อันนั้นมันจากการถูกหมากัดต่างหากล่ะ นี่เกล้าเป็นคน”
นางเอ็ดหลานชายที่หน้าบอกบุญไม่รับ
“ไว้ใจได้ที่ไหน เด็กนี่ฉีดวัคซีนครบหรือยังก็ไม่รู้ มีโรคอะไรแฝงหรือเปล่า”
“เกล้าฉีดวัคซีนทุกครั้งที่หมอมาฉีดนะคะ ไม่เคยขาด คุณหมอยังชมเลยว่าเก่งมาก ไม่หลับตาตอนโดนเข็มจิ้ม”
คนโดนกล่าวหาแจง ขณะอิธานทำเสียงฮึในลำคอแบบไม่เชื่อถือเธอเลย
“งั้นพรุ่งนี้ก็หยุดเรียนให้คนพาไปหาหมอ” เช็ดแผลเสร็จก็ใส่ยาฆ่าเชื้อและพันผ้าก๊อซ
“ไม่ได้นะครับย่า พรุ่งนี้วันจันทร์ ผมมีสอบเลข อาจารย์คนนี้เขี้ยวมาก ผมไม่อยากอยู่สอบซ่อมช่วงเย็น”
อิธานตวัดสายตาขุ่นมาทางเธอ ใจคอจะโทษเธอคนเดียวน่ะหรือ
“รู้ว่าพรุ่งนี้มีสอบแล้วทำไมเข้าบ้านค่ำ นี่มันสามทุ่มแล้วนะอิธ” และแล้วเธอก็ได้เห็น คนตัวโตโดนเอ็ดบ้าง “เรื่องนี้ไม่ต้องโทษน้อง เราก็มีส่วนผิด พรุ่งนี้สอบเสร็จแล้วลาครึ่งวันไปหาหมอเสีย”
อิธานอ้าปากค้าง ด้วยไม่คิดว่าคนที่มาเป็นเด็กรับใช้ย่าตน กลายเป็น ‘น้อง’ ยัยเด็กนี่ทำอะไรกับย่าเขากันแน่ สถานะจึงเปลี่ยนในวันเดียว
“ไปนอนกันได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
คุณย่าอิสรีตัดบท ปิดโทรทัศน์เก็บกล่องปฐมพยาบาล เกล้ากมลสบกับตาหลานชายท่านที่วาววับ บ่งบอกได้เลยว่าเธอชักจะอยู่บ้านนี้ยากเสียแล้ว
“เมื่อคืนนี้เกล้ากัดคุณอิธเหรอ”
วรดาที่มักติดสอยห้อยตามยายพลวงมาทำกับข้าวให้คุณย่าอิสรีถาม เมนูวันนี้เป็นผัดถั่วงอก สาวน้อยทั้งสองจึงมีหน้าที่เก็บเปลือกดำเขียวเข้มออก เกล้ากมลไม่ตอบ วรดาจึงเฉลยที่มาของข่าว
“พี่หนานเล่าให้ฟัง พอดีต้องไปหาหมอเป็นเพื่อนคุณอิธ เกล้าเก่งจัง กล้าเข้าใกล้คุณอิธ ฉันล่ะกลัวเขาดุจะตาย” ลูกสาวยายพลวงทำหน้าสยอง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าเขาเป็นโจรจะมาทำร้ายคุณย่า”
เกล้ากมลแก้ตัวเสียงอ่อย ๆ คนที่พอจะคุยอะไรตอนนี้ได้ตอนนี้คงมีแต่เป็ดคนเดียวกระมัง
“เก่งจัง ถ้าเป็นฉันคงวิ่งหนีไปหาพี่หนานแล้ว”
วรดาเป็นสาวน้อยรักสงบและติดพี่ชาย สนานก็เป็นคนตามใจน้องสาวเสียด้วย
“ยายสอนว่าถ้าเราทำดีก็ไม่ต้องหนีอะไร”
สาวน้อยคิดถึงยายเกดมาก น้ำตาแทบไหลตอนเห็นเสื้อผ้าตนกับอุปกรณ์การเรียนถูกส่งมาให้ในกล่องหลายใบ มีจดหมายจากยายสอนให้อดทนและมีเงินสดอยู่ในซองอีกหนึ่งพันบาท
“ยายเกล้าท่าทางใจดี แต่ที่นี่ไม่มีใครใจดีเท่าคุณท่านอีกแล้ว” วรดาป้องปากกระซิบ
“สองคนนั้นน่ะ อย่ามัวแต่คุยกัน ถั่วงอกได้หรือยัง” ยายพลวงถามมาจากหน้าเตาที่กำลังเอากระทะตั้ง
“จ้า ได้แล้วแม่” เด็กหญิงรีบเอาถั่วงอกสดสะอาดไปให้ผู้เป็นแม่ทำอาหารทันที
“เกล้าอยู่ก่อนนะ คอยดูอยู่นี่ โตไปจะได้ทำอาหารให้คุณท่านกินได้”
เกล้ากมลพยักหน้า ยืนมองการทำอาหารในครัวไปจนจบรายการ พร้อมตั้งใจมั่นว่าสักวันคุณย่าอิสรีต้องได้ชิมอาหารฝีมือเธอ
เกล้ากมลและอิธานได้ลูกสาว เด็กหญิงกาญน์เกล้า หรือน้องเอิร์ธ เป็นหนูน้อยลูกเสี้ยวที่สดใส เธอได้จมูกโด่งมาจากผู้เป็นพ่อ และตาโตใสแจ๋วมาจากผู้เป็นแม่ กินรีซื้อทองรับขวัญหลานหลายสิบบาท นางญาติดีกับอิธานหลังจากรู้ว่าให้เงินสิบล้านเป็นสินสอด“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยครับคุณแม่”เงินทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ฝากคืนในบัญชีส่วนตัวของเกล้ากมล ผู้เป็นแม่แค่กลัวอิธานจะไม่รัก ทิ้งขว้างลูกสาวเหมือนครั้งหนึ่งที่นางเคยเจอ เมื่อได้เห็นความจริงใจของเขาเป็นเงินนางก็เบาใจลงบ้างอิธานไม่ให้เกล้ากมลทำงานเลย เขาให้เธอเลี้ยงลูกอย่างเดียว แล้วตั้งวรดาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านขายของฝาก แต่กระนั้นหากมีเวลาว่าง เกล้ากมลก็หอบหนูน้อยไปเยี่ยมทุกคนที่ร้านเสมอ ชนันธรกับกรวีคลอดลูกชายที่อเมริกาก่อนลูกสาวเธอไม่กี่สัปดาห์ และพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้ลูก ๆ ดองกัน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนหวงลูกสาวอย่างอิธานคุณพ่อหลงหนูน้อยขนาดหนัก ยอมลงทุนโกนหนวดให้เกลี้ยงเกลาทุกวัน หลังจากเอาหน้าไปถูแล้วแก้มลูกสาวเป็นปื้นแดงเพราะรอยหนวดกาญจน์เกล้าก็ติดพ่อ ตอนเช้าส่งเสียงปลุก ให้พ่อป้อนอาหารเช้า โบกมือหย็อย ๆ ส่งจูบให้อิธานตอนไปทำงาน เย็นก็ต้
“คุณอิธออกไปเกล้าอึดอัด”ถัดจากให้ดอกไม้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเขาก็มานอนรัดเธอเป็นงูเหลือมอยู่บนเตียง“เตียงออกจะกว้าง”อ้อมแขนมีแต่จะยิ่งแน่น หญิงสาวกำลังคิดหาวิธีไล่เขาออกไป แต่ก็ยังคิดไม่ออก“ท้องเกล้าเริ่มใหญ่ ตัวคุณก็โต นอนเบียดกันบนเตียงยิ่งอึดอัด มันไม่ดีต่อลูกนะคะ เดี๋ยวแกไม่โต”เกล้ากมลเอาคนในท้องมาอ้าง เล่นเอาอ้อมแขนที่รัดรอบอยู่ชะงัก เขาเงยศีรษะขึ้น สำรวจหน้าท้องภรรยา“ท้องเธอยังไม่โตขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่เกล้าอึดอัดค่ะ ดิ้นไปดิ้นมาลำบาก”ยิ่งเขาขมวดคิ้วกังวลแสดงว่าข้ออ้างเธอได้ผล“พรุ่งนี้จะให้คนหาเตียงไซซ์พิเศษมาให้”“งั้นคืนนี้ คุณอิธให้เกล้านอนคนเดียวนะคะ ลูกจะได้ไม่อึดอัด”“ไม่ได้ ๆ” ดวงตาคมเปล่งแสงไม่ยอมตามที่พูด “เกิดเธอปวดท้อง หรือเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ”“เกล้าท้องแค่สามเดือนเองนะคะ” คุณแม่ท้องสาวทำแก้มป่อง บ่นในใจว่าเขาจะห่วงอะไรหนักหนา“จะกี่เดือนฉันก็ไม่ไว้ใจ”“ถ้าคุณอิธห่วง เกล้าไปนอนกับคุณย่าก็ได้”“อย่านะ!”เขาร้อง ถ้าทำเช่นนั้นต้องตอบคำถามคุณย่านานแน่ แถมด้วยมีสายตาทิ่มแทงจากยายพลวงเป็นของแถม“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงล่ะ”เกล้ากมลกอดอก รู้สึกตนกำลังเป็นต่อ“ฉันจะนอนพื้น
เกล้ากมลอาศัยจังวะที่อีกฝ่ายอึ้งระบายความในใจต่อ“คุณย่าให้เราแต่งงานกันเพราะความเข้าใจผิด”“แต่เรามีลูกด้วยกัน” เขาพยายามย้ำ“เก๊าะ...ก็คืนนั้นเกล้าปล้ำคุณ”ไม่รู้ใครปล้ำใคร แต่เธอถือว่าตัวเองเป็นคนทำ ยังสบายใจเสียกว่า“มันจะไม่สำเร็จถ้าฉันไม่ใช่ความร่วมมือ เราทำกันทั้งสองคน”ผู้สมรู้ร่วมคิดรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน“แล้วคุณอิธจะเล่าเรื่องของเราให้ลูกฟังแบบไหนล่ะ”ทำนบที่กลั้นสิ่งค้างคาใจกำลังแตกออก เกล้ากมลพรั่งพรูถ้อยคำที่อยากถาม“เพราะมันไม่มีการจีบ ไม่มีการบอกรัก ไม่มีของขวัญ ไม่มีอะไรเลย ยอมรับเถอะค่ะ คุณอิธไม่ได้รักเกล้า แล้วจะทนอยู่อย่างนี้ไปทำไม”“เธออย่ามาพูดเหมือนรู้ดีเลยเกล้า”ในดวงตาสีน้ำตาลนั้น หาได้หวั่นไหวกับคำถามเธอไม่“เกล้าพูดอย่างที่ตาเห็นค่ะ แค่นี้นะคะ วันนี้เหนื่อยแล้ว เกล้าอยากพักผ่อน”เกล้ากมลกลับเข้าห้อง ล็อกมันเสียจากเขา ทิ้งตัวลงนอน...แล้วน้ำตาก็ไหล พูดไปเสียตั้งมากมาย คำว่ารักที่ได้กลับไม่มีหลุดจากปากเขาหากให้คะแนนผู้ชายยอดแย่ ตอนนี้เธอให้กรวีกับอิธานคะแนนเท่ากัน พวกชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง หากคิดพินิจสักนิด หากไตร่ตรองเสียหน่อย แค่คำว่ารักสั้น ๆ คำเดียวก็ท
เป็นรุ่งเช้าที่เกล้ากมลตื่นมาเพียงลำพังในห้องนอน แต่พอเปิดตู้เสื้อผ้าตามความเคยชิน ก็พบว่าเสื้อทุกตัวของเธอจากบ้านมารดามาอยู่ที่นี่แล้ว บนโต๊ะเครื่องแป้งมีถุงยาและสมุดฝากครรภ์จากคลินิกวันดี อิธานเอามันมาได้อย่างไร!อาการโมโหของเธอยังไม่ได้คำตอบ พอดีกับชายหนุ่มในสภาพเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เดินออกมาจากห้องน้ำ“นอนต่ออีกไหม เดี๋ยวสักเจ็ดโมงฉันจะปลุก”เขาหอมหน้าผากมนของภรรยาที่กำลังตะลึงอยู่“คุณอิธไปเอาของเกล้ามาได้ยังไง”“ก็ให้คนไปเอาที่กรุงเทพ ไม่รู้เธอจะใช้ชิ้นไหนบ้าง เลยเอามาหมด”โดยมีสนานกับคนงานอีกสองคน ติดตามกึ่งขู่ คนขับรถกินรีจนไปถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ได้สำเร็จ“บ้าไปแล้วหรือยังไง”“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เธออยู่นี่” เขาไปเปิดอีกตู้หนึ่งเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า“วันนี้เรามีแขกด้วยนะ ซันมันมา”เกล้ากมลเลิกคิ้ว“พี่ซันมาทำไมคะ”อิธานไม่ชอบตงิด ๆ ที่เธอเรียกคู่แข่งตัวฉกาจของเขาแบบนั้น“มารับเมียมันกลับ”ใจเกล้ากมลหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม“พาฉันไปหาพี่ลูกน้ำทีค่ะ คุณอิธนะคุณอิธ ทำให้เรื่องยุ่งเข้าไปอีกทำไม”ภาพในหัวเธอคือชนันธรโดนกรวีทำร้าย ร้องไห้น้ำตานอง แต่ที่ไปเห็นจริง ๆ คือกรกวีโ
“มานี่เลยนะเกล้า”ไม่ยากนักที่ชายหนุ่มจะดันประตูให้เปิดกว้าง แล้วคว้าแขนกึ่งลากเธอไปยังห้องหอของทั้งสอง“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว พรุ่งนี้เกล้าจะไปหย่าให้ ลูกนี่เกล้าก็จะดูแลเอง ไม่ให้ใช้นามสกุลคุณ เกล้าจะไม่เอาอะไรไปสักบาท”เกล้ากมลบอกพลางหอบ เพราะต้องต้านแรงเขาที่ลากเธอไปยังห้องหอได้สำเร็จ“คุณไปมีลูกใหม่กับคนอื่นเถอะ พี่ลูกน้ำนั่นไง”“นั่นเมียคนอื่น ฉันมีเมียเดียวคือเธอ”สมองเกล้ากมลต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เต้นแรงเกินไป บอกว่าไม่ให้เชื่อคำพูดเขา“ไม่ต้องไปเฝ้าคุณย่า นอนให้ห้องนี้กับฉัน” เขากดเธอนั่งลงบนเตียง“เกล้าจะหย่า” หญิงสาวบอกเสียงหอบ หน้าแดงจัด“ฉันไม่ยอมให้หย่า”“ลูกเกิดจากความไม่ตั้งใจของเราทั้งคู่นะ”เธอเตือน หวังว่าเขาจะนึกได้บ้างว่าหลังจากคืนนั้นเขาทำตัวเย็นชากับเธอขนาดไหน“ไม่ว่าลูกจะเกิดจากอะไร ฉันยินดีต้อนรับแก”เขายิ้มกว้าง มือใหญ่หยาบกร้านลูบหน้าท้องเธอไปทั่ว“คุณอิธเป็นผู้ชายที่แย่มาก พอรู้ว่ามีลูกกับเกล้าก็จะทิ้งพี่ลูกน้ำเลยเหรอคะ”“ฉันกับเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกันแล้ว เธอนั่นแหละไปอยู่บ้านแม่ทำไม”หน้าท้องเธออุ่นและเรียบเนียน ส่วนไหนหนอที่เป็นที่อยู่ของเจ้
“คุณท่านไม่สบาย”วรดาส่งข่าวมาในเช้าวันศุกร์หลังกินรีเดินทางไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์“โรคคนแก่ ตั้งแต่เกล้าไปอยู่กรุงเทพ ท่านก็ดูซึม ๆ มาเยี่ยมท่านไหม”ยายพลวงทำปากพะงาบ ๆ บอกบทลูกสาว จนเกล้ากมลบอกว่าจะมาเยี่ยมนั่นแหละนางจึงยิ้มได้“แล้วคุณท่านจะยอมเล่นเป็นคนป่วยเหรอแม่”หลังจบสายเพื่อน วรดาก็ถามผู้เป็นแม่เสียงอ่อย“ยอมสิวะ ท่านก็คิดถึงเกล้าจะตาย”ยายพลวงกำลังวางแผนให้ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน เมื่อเจ้านายถือทิฐิกันนัก คนรับใช้อย่างนางนี่แหละจะจัดการทุกอย่างเอง เพื่อให้ไร่สมบูรณ์ดีกลับมาสุขสงบเหมือนเคยเกล้ากมลมาด้วยการนั่งรถยุโรปคันโต เธอผิวขาวนวลขึ้น ใบหน้าผุดผาด วรดาถึงกับห่อปากเพราะเพื่อนดูสวยแม้แต่งหน้าเพียงบางเบา“รัศมีคุณหนูจับมากเลยเกล้า สวยจริง”เธอเลือกใส่ชุดแซกทรงตรง เพื่อพรางรูปร่างที่กำลังขยาย“คุณย่าล่ะ”วรดาพาหญิงสาวไปพบผู้สูงวัยซึ่งนอนดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอน ยายพลวงต้องรีบสะกิดให้ท่านทำตัวโศกเมื่อเกล้ากมลเข้ามา คุณย่าอิสรีดูผอมลง ผมขาวมีแซมบนศีรษะมากขึ้น หญิงก้มลงกราบที่หน้าอก ท่านเอามือเหี่ยวย่นลูบศีรษะคนที่เลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อย“เกล้าสบายดีไหม”“สบายดีค่ะ คุณย่าล่ะคะ”“สุ