Share

บทที่ 193

Author: มาแล้วก็อยู่ต่อเถอะ
“จากการวินิจฉัยเบื้องต้นนั้น รักแรกเริ่มแย้มบาน ลอบมีใจให้แก่เขา”

“พูดจาไร้สาระ!” อายีน่าทั้งเขินอายทั้งโมโห ก่อนจะรีบเอื้อมมือมาปิดปากเจียงหวนในทันที

“ผู้มีใจให้กัน เจียงหวนหากเจ้ายังเอ่ยวาจาไร้สาระอีกละก็ ข้า... ข้าจะจั๊กจี้เจ้า!”

ชั่วพริบตาเดียว สตรีทั้งสองนางพากันหยอกล้อเสียจนวุ่นวายไปหมด เจียงหวนทั้งหัวเราะทั้งต้องคอยหลบไปมา ล้อรถเข็นของนางจึงส่งเสียงดังลั่น

เจียงหวนหัวเราะเสียจนต้องร้องยอมแพ้ “พอแล้ว พอแล้วเพคะ หม่อมฉันไม่พูดแล้ว ทว่า องค์หญิงเพคะ ท่านต้องยอมรับมันนะเพคะ สายตาของท่านในยามนี้ หาได้มีท่าทีเกลียดเขาเช่นเดิมแล้ว หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านสามารถมองเขาได้เต็มตาแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”

อายีน่าหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

นางเงียบไปสองสามวินาที ก่อนที่แพขนตายาวจะหุบลง พร้อมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่เอ่ยงึมงำออกมาเหมือนเสียงยุงว่า

“ก็... แค่นิดเดียวนะ อย่างน้อยท่าทียามที่เขาบังก้อนหินให้นั้น เขาดูราวกับผู้กล้าก็ไม่ปาน”

เจียงหวนมองท่าทีของอายีน่าที่เต็มไปด้วยความซื่อตรงและทระนงตนของนางแล้ว มุมปากพลันอดมิได้ที่ยกยิ้ม

ความหวานจากในซีรีย์เรื่
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 390

    ลี่เฟยอยากตวัดฝ่ามือใส่เจียงหวนแรงๆ สักครั้ง เพื่อดัดนิสัยไม่เห็นฟ้าสูงดินต่ำอยู่ในสายตาเช่นนี้ของนางทว่าเมื่อเหลือบเห็นจิงเหลยที่กำลังแยกเขี้ยว จ้องมองมาที่นางอย่างไม่ละสายตาอย่างนั้นแล้วราวกับขอเพียงนางขยับแม้เพียงนิดเดียว มันก็จะฉีกร่างของนางให้เป็นชิ้นๆ ทันทีนางแพศยานี่ จงใจให้ท้ายสุนัขของตนเองชัดๆ!ลี่เฟยโกรธจนหน้าเขียว นิ้วมือที่ชี้ไปที่หมาสั่นเทา น้ำเสียงเล็กแหลม“พระราชวังเป็นสถานที่แบบใด? ใช่สถานที่ที่จะอนุญาตให้สัตว์เดรัจฉานชั้นต่ำเช่นนี้เข้าออกตามใจสร้างความเดือดร้อนให้ชนชั้นสูงเช่นนี้เสียที่ไหน? วันนี้มันกล้าก่อกวนข้า พรุ่งนี้ก็กล้าก่อกวนไทเฮา สัตว์ดุร้ายเช่นนี้ เก็บมันไว้มีประโยชน์อันใด บ่าว! ลากสัตว์เดรัจฉานพวกนี้ออกไปตีให้ตายเสีย!”นางกำนัลสองคนนั้นได้ยินลี่เฟยออกคำสั่งอีกครั้ง รู้สึกหนังศีรษะชาไปทั้งหัวแต่หากไม่ทำตามคำสั่ง กลับไปพวกนางต้องถูกทำโทษถลกหนังทั้งเป็นแน่ เมื่อนึกได้อย่างนั้นก็ทำได้เพียงก้าวเท้าไปข้างหน้า“บังอาจ!”เสียงตวาดที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและโทสะ ราวกับเสียงสายฟ้าที่ดังระเบิดอยู่หน้าประตูตำหนักทุกคนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะหันไปมองทางต้นเสี

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 389

    เจ้าหมาน้อยพวกนี้ เล่นกันเสียงดังก็จริง แต่แค่ดูก็ชวนให้อารมณ์ดีแล้วเจียงหวนมองดูพวกหมาน้อยเล่นกันอย่างไร้ความกังวล ปากยิ้มเล็กน้อย พลิกหน้าหนังสือเป็นระยะ ดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันผ่อนคลายทว่าในเวลานี้เอง เสียงหัวเราะเล็กแหลมที่ฟังดูจงใจและเสียงฝีเท้าวุ่นวายระลอกหนึ่งที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ได้ทำลายความเงียบสงบนี้ลงในพริบตา“แหม ตำหนักของน้องสาวจวงเฟยคึกคักเสียจริงเชียว!”“ก็นั่นสิ ได้ยินเสียงมาแต่ไกล น้องสาวช่างรู้จักใช้ชีวิตยิ่งนัก”“เอ๊ะ? นี่เสียงอะไร? ข้าเหมือนได้ยินอะไรบางอย่างกำลังร้องอยู่?”เจียงหวนขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปเห็นลี่เฟยแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบสีดอกท้อดูหรูหรา บนศีรษะประดับไวด้วยปิ่นระย้า เดินเข้ามาท่ามกลางลงล้อมของเหล่านางสนมและกลุ่มนางกำนัลขันทีเหล่าหมาน้อยเมื่อได้ยินเสียง จากที่กำลังเล่นสนุกอยู่ก็พุ่งตัวออกมาจี๋เฟิงนำหน้าออกมาเป็นตัวแรก เล่นซนก็ส่วนเล่นซน แม้ยังเป็นหมาน้อย แต่พวกมันก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเวลานี้มันกำลังเห่าเสียงดัง ดวงตาสีดำกลมโตเต็มไปด้วยแววคมกริบและระแวดระวัง ทาเสวี่ยกับจุยอวิ๋นตามหลังมาติดๆ ความเร็วไม่แพ้กัน“กรี๊ด!” เสียงกรีดร

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 388

    เจียงหวนมองไปตามสายตาของนาง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัวคาดว่าโจวฝูคงกำลังยุ่งอยู่กับงานในบ้านสุนัข จึงไม่ได้ดูแลเจ้าหมาน้อยที่ขี้สงสัยพวกนี้ไว้ให้ดี“ใช่แล้ว” เจียงหวนนวดต้นคอที่รู้สึกปวดเมื่อย พลางยกมือขึ้นชี้บอก“ล้วนเป็นลูกหมาที่เพิ่งหย่านมได้ไม่นาน ซนมาก เจ้าตัวหูเหลืองซนที่สุดนั่นชื่อจี๋เฟิง อีกสองตัวที่ขนสีขาวหิมะทั้งตัวก็คือทาเสวี่ย ตัวที่มีขนสีเทาเหมือนก้อนเมฆก้อนน้อยๆ อยู่บนหน้าผากชื่อจุยอวิ๋น เจ้าตัวข้างหลังสุดที่ดูนิ่งๆ นั้นชื่อจิงเหวย เป็นแม่ของพวกมัน”เจียงหวนเพิ่งจะพูดจบ เหอหลิงก็กระโจนไปอยู่ตรงหน้าพวกมันเหมือนหมาตัวใหญ่อีกตัวนางย่อตัวนั่งลงอย่างระมัดระวัง ยื่นนิ้วมือออกไป จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน“จี๋เฟิง? ทาเสวี่ย? จุยอวิ๋น? เด็กดี ให้พี่สาวดูพวกเจ้าหน่อยได้หรือไม่?”หมาน้อยสามตัวยังคงมีท่าทีระแวดระวังต่อมนุษย์ที่แผ่กลิ่นอายเป็นมิตรตรงหน้าอยู่บ้าง โดยเฉพาะแม่หมาจิงเหลยทว่าความตื่นเต้นและความชื่นชอบที่บริสุทธิ์จากตัวเหอหลิงราวกับได้แพร่เชื้อใส่พวกมัน จี๋เฟิงที่ใจกล้าที่สุดลองดมนิ้วมือของเหอหลิง จมูกชื้นๆ ของมันขยับสูดดมอยู่สองสามครั้งเหอ

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 387

    “พระสนม พระสนมชอบสิ่งนี้หรือไม่เพคะ? หากชอบ ข้าสอนถักได้นะเพคะ!” เสียงของเหอหลิงไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นไว้ได้[ฮี่ๆ ถ้าสอนพระสนมทำด้วยตัวเอง ก็จะสนิทกันมากขึ้นไม่ใช่เหรอ?][ฉันนี่ฉลาดจริงๆ ระบบ รีบชมฉันหน่อยสิ!]ระบบ : 「…ตี๊ด แจ้งเตือนการตรวจพบว่าโฮสต์กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ใช่เป้าหมายอย่างแข็งขัน เบี่ยงเบนจากพล็อตเรื่อง」[โธ่ รู้แล้วน่า รู้แล้ว ฉันก็กำลังกอบกู้ประเทศชาติทางอ้อมอยู่ไม่ใช่รึไง!][ตีสนิทกับพระสนมไว้ ต่อไปก็จะได้มีสิทธิ์มีเสียงเวลาอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทไม่ใช่หรือไง?][นี่เขาเรียกว่ากลยุทธ์แบบอ้อม!]ระบบ : 「…」เจียงหวนได้ยินทฤษฎีของเหอหลิง คิ้วงามกระดกสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงภารกิจพิชิตใจ ถือว่าหาข้ออ้างได้ไหลลื่นทีเดียวทว่าเมื่อนางเห็นท่าทางที่ราวกับกำลังถวายสมบัติล้ำค่าของเหอหลิง หากนางบอกว่าไม่สนใจ คงจะได้เห็นเหอหลิงน้อยที่คอตกด้วยความเศร้ากระมัง“ฟังดูน่าสนใจ เจ้ายินดีสอนข้าหรือ?” เจียงหวนจงใจถาม“ยินดี! ยินดีอยู่แล้วเพคะ!” เหอหลิงได้ยินเจียงหวนตอบตกลง ก็ยิ้มกว้างทันที ราวกับกลัวว่าเจียงหวนจะเปลี่ยนใจ นางรีบล้วงไม้ถักที่มีรูปร่างเรียวยาวสองแ

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 386

    เจียงหวนเห็นท่าทางของเหอหลิงที่แปรเปลี่ยนจากเบิกบานใจเป็นทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็มองไปที่ผ้าพันคอในมือของนาง อดกลั้นขำไม่ได้คราวที่แล้วนำยารักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกจากยุคปัจจุบันออกมายังไม่น่าหวาดเสียวพออีกหรือ?นึกไม่ถึงครั้งนี้จะทำผ้าพันคอมาให้อีก หรืออยากจะแสดงให้เห็นว่าข้าเป็นผู้นำแฟชั่นในยุคโบราณอย่างนั้นหรือภายนอก เจียงหวนพยายามรักษาสีหน้าให้ดูเป็นปกติ ไม่ได้คิดจะเปิดโปงนาง จึงแสร้งทำหน้าตาสงสัยในขณะที่จ้องมองผ้าพันคอผืนนั้น“ทำไมเล่า? เป็นของจากดินแดนตะวันตกอีกแล้วหรือ? ดูประณีตอย่างมากทีเดียว”นางกล่าว ซ้ำยังใช้นิ้วจิ้มไหมขนที่สัมผัสนุ่มนิ่มนั่นดูเหอหลิงมือสั่น เกือบขาอ่อนล้มลงไปกองบนพื้นพร้อมกับผ้าพันคอในมือแล้วนางรีบตอบคำอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “ทูล ทูลพระสนม นี่คือ… นี่คือสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่หม่อมฉันทำยามมีเวลาว่าง เรียก… เรียกว่าผ้าพันคอ! ใช่… เป็นงานฝีมือที่ได้รับความนิยมมาจากดินแดนตะวันตกเช่นกันเพคะ ฮ่าๆ…”[จบแล้วๆ พระสนมอุตส่าห์คิดพลิกแพลงไปเป็นอย่างอื่นได้ แต่ฉันยังทำผิดพลาดโง่ๆ อยู่อีก][ชื่อของมันจะทันสมัยเกินไปแล้ว พระสนมจะคิดว่าฉันกำลังแต่งเรื่องอยู่รึเปล่านะ?

  • อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง   บทที่ 385

    หัวหน้าขันทีตกใจตัวสั่น แทบจะมุดหน้าเข้าไปในพื้นแล้ว“ทูล ทูลไทเฮา บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ จวนอ๋องส่งข่าวมา บอกเพียงว่าจู่ๆ ม้าของจวิ๋นอ๋องก็คลุ้มคลั่งระหว่างทาง จวิ้นอ๋องถูกเหวี่ยงตกจากหลังม้า ขาขวา… ขาขวาหักในที่เกิดเหตุทันที หมอหลวงบอกว่าอาการสาหัสมาก…”“ไม่รู้? แค่บอกว่าไม่รู้คำเดียวก็คิดจะบิดพลิ้วให้ผ่านไปได้งั้นหรือ?”ไทเฮาตบโต๊ะอย่างแรง โต๊ะสั่นสะเทือนจนเครื่องชากระแทกกันเสียงดัง“เมื่อวานเพิ่งเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันนี้เขาก็ประสบเหตุร้ายเช่นนี้แล้ว มีเรื่องบังเอิญอย่างนี้เสียที่ไหน! ไปสืบมาเดี๋ยวนี้! ทั้งม้า อานม้า และทุกคนที่สัญจรผ่าน ห้ามปล่อยให้เล็ดลอดไปได้แม้แต่คนเดียว! ข้าอยากรู้นัก ว่าใครกันที่กินหัวใจหมีดีเสือเข้าไป จึงได้กล้าลงมือกับคนในตระกูลฮั่วเช่นนี้!”เพลิงโทสะในดวงตาของนางลุกโชน ในใจเริ่มมีเค้าร่างของผู้อยู่เบื้องหลังแล้วเมื่อวานฮั่วถิงมีเรื่องกับจวงเฟยและเหอหลิง วันนี้ก็ตกม้าจนบาดเจ็บสาหัสมิหนำซ้ำยังบาดเจ็บจุดเดียวกับจวงเฟยอีก นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนนี่เป็นฝีมือของฮั่วหลิน และเป็นคำเตือนสำหรับนางยิ่งคิด ไทเฮาก็ยิ่งบันดาล

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status