“เขาก็เม้าท์กันว่าที่พี่กลับมาอยู่บ้านเพราะท้องไม่มีพ่อน่ะสิ”
“หา! ว่าไงนะ” คนโดนเม้าท์ตาโตเท่าไข่ห่าน โวยลั่น
“จะบ้าเหรอ! เอาอะไรมาท้อง ผัวยังไม่มีซักคน นี่แฟนฉันก็เพิ่งเลิกกันไปก่อนกลับบ้าน...อุ๊บ!”
รจนารีบปิดปากเมื่อเผลอหลุดคายความลับออกมา แต่กลับไม่รอดหูของผู้เป็นแม่และน้องสาวตัวแสบได้
“ว่าไงนะ! แกเลิกกับแฟนแล้วเรอะ”
อุตส่าห์เก็บงำเรื่องจักรินไว้ เพราะกลัวที่บ้านเป็นห่วง แต่ต้องมาหลุดปากเพราะความเผลอเรอ เมื่อรู้ว่าถึงปิดไปก็ไม่ได้ผลเธอเก็บความลับกับเขาได้เสียที่ไหน รจนาจึงถอนหายใจ
“อืม...เลิกแล้ว ก็มันนอกใจไปทำผู้หญิงที่ทำงานท้องเลยเลิก”
“ไอ้ชาติหมา!” คนที่นั่งนิ่งมานานสบถเสียงเหี้ยม
“ใจเย็นพ่อ ใจเย็น หายใจเข้าลึกๆ นะ เดี๋ยวความดันขึ้น” เมรีรีบเข้าไปลูบหลังให้บิดา
“ทำไมแกเพิ่งมาบอกพ่อกับแม่ล่ะยัยรจ แล้วนี่มันทำอะไรแกไปบ้าง ได้เสียกันหรือยัง”
รจนาทำหน้าเมื่อย ก่อนส่ายหน้าไปมา
“ยังไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูทำตามที่แม่สอนให้รักนวลสงวนตัว แขนหนูยังไม่ให้จับเลย แต่ก็เพราะแบบนี้ไงไอ้หมอนั่นถึงหาเรื่องนอกใจหนูไปมีคนอื่น”
“เฮ้อ...งั้นก็โล่งอกไปที ช่างหัวมันเถอะ ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งแบบนั้นดีแล้วที่แคล้วคลาดกันไป เดี๋ยวแม่จะพาแกไปให้ตุ๊ลุงที่วัดรดน้ำมนต์ปัดเป่าไล่เสนียดจัญไร”
รจนาถึงกับหัวเราะเต็มเสียงครั้งแรกตั้งแต่กลับบ้าน
“โห...ขนาดนั้นเลยเหรอแม่”
“เอ้า ก็แกบอกเองว่าไอ้หมอนั่นมันนิสัยไม่ดี ไปพ้นๆ ได้ถือว่าดีแล้ว รดน้ำมนต์เรียกสิริมงคลจะได้เสริมชะตา เผื่อได้เจอผัวดีๆ กับเขาสักคนไง”
“ตามใจแม่แล้วกัน แล้วนี่ชาวบ้านพูดอะไรถึงหนูอีกล่ะ”
“ช่างหัวมันเถอะ เรื่องไม่จริงแกจะสนใจทำไม แล้วนี่แกจะกลับไปทำงานอีกเมื่อไหร่ล่ะ”
รจนาถอนหายใจอีกเฮือก เลิกคิดจะปิดบังครอบครัวต่อไป
“ไม่กลับแล้วล่ะแม่ ลาออกแล้วก่อนกลับมานี่แหละมีเรื่องกันนิดหน่อย ระหว่างนี้หนูขอพักดูลู่ทางก่อนสักแป๊บ ถ้ามีงานดีๆ ค่อยกลับไปทำ อยู่เกาะพ่อแม่กินก็อย่าเพิ่งรำคาญหนูแล้วกัน”
“เออ...จะเกาะอะไรก็เกาะไป นี่ก็บ้านเราเองไม่ต้องเช่าสักหน่อย เงินที่ส่งมาให้สร้างบ้านนี้ก็เงินแกที่หามาทั้งนั้น จะอยู่นานแค่ไหน อยู่ให้สบายใจก่อนค่อยว่ากัน ค่าใช้จ่ายบ้านเราก็ไม่ได้แพงเหมือนกรุงเทพสักหน่อย ข้าวปลาอาหารก็หากินง่ายๆ มื้อหนึ่งก็ไม่กี่บาท ลูกสาวคนเดียวแม่เลี้ยงได้”
รจนาฟังคำมารดาแล้วก็อดตื้นตันใจไม่ได้ เธอโผเข้ากอดเอวคนเป็นแม่อย่างซาบซึ้ง คิดถูกแล้วที่กลับบ้าน นางสีดาลูบศีรษะลูกสาวคนโต พลางสบตาสามีที่ยังขุ่นเคืองเรื่องที่ลูกสาวโดนไอ้หนุ่มชาวกรุงหลอกไม่หาย
“เออๆ พอแล้วๆ กินข้าวให้อิ่ม แล้วค่อยว่ากัน ส่วนแกเมื่อไหร่จะเอาปิ่นโตไปให้พี่สาธุเขาสักทีเจ้าเมรี”
เมรีที่นั่งเนียนฟังอยู่นานรีบเงยหน้ายิ้มประจบ ก่อนยอมลุกขึ้น แต่ความนึกสนุกเลยหันมาทางพี่สาว
“ไปด้วยกันไหมพี่รจ ไปดูไร่พี่สาธุกัน สวยนา มีทั้งไร่แห้ว ไร่ระกำ สวนลำไย ลิ้นจี่ แปลงสตรอว์เบอร์รี่ ไหนจะผักต่างๆ ผักสลัดก็มีนะ”
รจนาฟังแล้วนึกขำ
“นอกจากชื่อแปลกๆ แล้ว คนอะไรทำไร่แต่ละอย่าง ชื่อไม่ได้เป็นมงคลเล้ย มีทั้งแห้ว ทั้งระกำ ลำไย ไหนจะผักสลัด เจ้าของไร่นี่คือจะรันทดไปไหนเนี่ย”
“เออ ก็ดีนะลูก ไปรู้จักกันไว้ พ่อสาธุเขาก็เป็นคนดีน่าคบหา”
“ขอทีล่ะแม่จ๋า อย่าเพิ่งหาคู่ให้ลูกเลยนะ ขืนได้พ่อสาธุเพี้ยงของแม่จริง ชีวิตหนูต้องทำไร่แห้วทั้งชาติเชียวนา” หญิงสาวพูดติดตลก
“ให้มันได้จริงก่อนเหอะย่ะ นังเมรีมันก็บอกอยู่ พ่อสาธุน่ะเขาไม่ได้จีบง่ายๆ สักหน่อย”
รจนาฟังแล้วก็นึกอยากเห็นหน้าพ่อคนดีศรีตำบลของแม่ขึ้นมาทันใด
“อะ รจไปก็ได้จ้ะ อยากเห็นพ่อสาธุของแม่ว่าจะหล่อขนาดไหนเชียว”
สองพี่น้องรีบพากันคว้าปิ่นโตไปส่งหนุ่มบ้านไร่ ถึงจะบอกว่าอยู่แค่ท้ายซอยแต่มันก็ไม่ใช่จะเดินใกล้ๆ แต่ตอนที่จะใส่รองเท้านี่สิ
“อ้าว...รองเท้าพี่หายไปไหนล่ะ”
“ของฉันด้วย” เมรีก้มมองหารองเท้าแตะคู่ใจที่เธอเพิ่งไปถอยมาจากตลาดนัดแทนคู่เก่าเมื่อวานนี้
“เมื่อเช้าก็ถอดไว้หน้าบ้านนี่นา หายไปไหนวะ”
สองพี่น้องสาละวนหารองเท้าตัวเอง ก่อนที่สายตารจนาจะไปสะดุดเข้ากับวัตถุบางอย่างข้างรั้ว ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นรองเท้าของเธอแต่ตอนนี้มันขาดยับเยินกลายเป็นเศษซากเสียแล้ว
“กรี๊ดดดด รองเท้าฉัน คู่นี้ตั้งเกือบพันเลยนะ” พอเห็นสภาพรองเท้าคู่โปรดที่ขาดกระจุย หญิงสาวก็ปรี๊ดแตก และรู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร
“นังอิเละ!”
เมรีที่เพิ่งมุดไปเก็บรองเท้าตัวเองที่หมาคาบไปซ่อนใต้แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน สภาพของกลางนั้นขาดวิ่นเละเทะพอๆ กับของพี่สาว
“ของฉันคู่ที่สามแล้วนะพี่รจ แล้วนี่นังหมาตัวแสบของพี่มันหายหัวไปไหน”
รจนาเลยไม่ใช่แค่หนู แต่เธอเป็นโครตของโครตหนูที่ตกบ่อเพชร หลังแต่งงานหญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมกลางไร่กับสามีสองคน ระหว่างที่รอเรือนหอที่เจ้าบ่าวทุ่มทุนสร้างให้ใหม่เสร็จ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังอยู่ในท้องแม่สาวขี้อ้อนอีกสองหน่อนี่ยังไม่นับสมาชิกลูกหมาพันธุ์บีเกิ้ลผสมพันธุ์ทางอีกโขยงที่เธอและสามียังทะเลาะกันเรื่องตั้งชื่อไม่เสร็จ และคงทะเลาะกันไปจนกระทั่งลูกแฝดในท้องของรจนาคลอดไร่ของสาธุเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วเพราะสองผัวเมียช่วยกัน รจนาคืออดีตพีอาร์มือโปรเก่า เธอทำงานดีเยี่ยมจนทำให้ไร่ของสามีโด่งดังไปไกล จนเพื่อนที่ทำงานเก่าพลอยอิจฉาพอพูดถึงที่ทำงานเก่า ข่าวล่าสุดที่รจนาได้รับคือ...เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างดาริกาถูกจับได้ว่าแอบกิ๊กกับอดีตเจ้านายหัวงูในที่ทำงาน เพราะเมียของอีกฝ่ายบุกมาหาพร้อมด้วยของกำนัลเป็นน้ำกรดอย่างดี แต่คนให้ดันมือไม่แม่น แทนที่จะสาดหน้าชู้รักของผัว แต่ดันสาดผิดไปโดนเป้าของผัวตัวเองแทนจนต้องตัดทิ้งทั้งพวง!ตอนเห็นข่าวแรกๆ รจนาตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกันว่าควรสงสารหรือสมน้ำหน้าคนเจ้าชู้พรรค์นั้นดีส่วนดาต้าก็ถูกไล่ออกเพราะทำงานไม่ได้เรื่องแต่ใช้เต้าไต่เพื่อแย่
“พี่สาจ๋า...มันจะเจ็บมากไหม รจกลัว”โอ๊ย...ทำไมน่ารักแบบนี้วะเมียกู! แค่นี้ก็รักจนจะคลั่งตายแล้วมั้ยเนี่ย แบบนี้เขาจะไปไหนรอดวะ ต่อให้ไปได้ก็ไม่ไปแล้วสาธุคุณส่งยิ้มหวานปลอบขวัญสาวเวอร์จิ้น เขาพอรู้ว่าครั้งแรกนั้นยอมมีเสียเลือดเสียเนื้อกันบ้าง ชายหนุ่มกดจูบเธอที่แก้มและหน้าผากก่อนมาหยุดที่ริมฝีปากช่างเจรจา ก่อนมอบคำหวานที่มาจากหัวใจและความรู้สึกที่มอบให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“พี่รู้ว่ารจกลัว และรู้ด้วยว่านี่เป็นครั้งแรก แต่พี่จะพยายามไม่ทำให้รจเจ็บมากนักดีไหมครับ แต่ถ้ารจเจ็บหรืออยากจะหยุดก่อนก็ค่อยบอกพี่ พี่รับปากว่าจะไม่หักหาญน้ำใจรจ จะรอให้รจเป็นของพี่ด้วยความเต็มใจดีไหม”รจนาฟังแล้วน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้าข่มความกลัวเมื่อตัดสินใจแล้ว และอีกฝ่ายก็น่ารักกับเธอขนาดนี้เป็นไงเป็นกัน! จัดมาเลยพี่ เจ็บหน่อยแต่ฟินก็เอาวะนาทีนี้หญิงสาวกัดฟันแน่นเมื่อถูกความใหญ่โตของเขากดเข้ามาภายใน แต่ความคับแคบทำให้สาธุคุณต้องค่อยๆ ใจเย็น และปลุกเร้าอารมณ์เธอให้ผ่อนคลายไม่เกร็งเพื่อให้ความเจ็บทุเลาเบาบางและเปลี่ยนเป็นความฟินในที่สุดเสียงหวานคลอเคล้ากับเสียงพร่ากระเส่าขับขานเป็นห้วงทำนองรักที่สอดรับประสา
“ขวัญเอ๊ย ขวัญมา...”เสียงหวานกระซิบก่อนจะเงยหน้าสบตา “หายหรือยังจ๊ะ”สาธุคุณแกล้งส่ายหน้า “ยังไม่หาย”พอขาดคำหญิงสาวก็กดจูบที่ปากเขาไปอีกที คราวนี้ทำใจกล้าใช้ปลายลิ้นละเลงและแกล้งดูดดึงกลีบปากล่างของเขาเล่นเบาๆ อีกที“แล้วแบบนี้ล่ะ หายไหม”สาธุคุณใจเต้นแรง ลมหายใจสะดุดเบาๆ ก่อนส่ายหน้า“ไม่หาย”“ทำไมขวัญอ่อนจังล่ะสาจ๋า...” หญิงสาวยิ้มพลางยื่นริมฝีปากไปจูบอีกครา คราวนี้เขารีบเผยอปากรอรับ และเมื่อเธอทำใจกล้าสอดลิ้นเข้าไปในปากเขา ชายหนุ่มก็ครางเบาๆ อย่างชอบใจในความน่ารักของแฟนสาว ก่อนที่จะโต้ตอบกลับมาให้เธอหลงเขาหัวปักหัวปำบ้างรจนาถูกรสจูบหวานครอบงำจนใจกระเจิง ยามที่เขาพรมปลายลิ้นเข้าหาและจุมพิตเธอแบบสูบวิญญาณทั้งเป็นนั่น หญิงสาวก็เริ่มจะหายใจไม่ทันทำให้ต้องวิงวอนเขาทางสายตาสาธุคุณจึงยอมผ่อนแรงจูบให้เธอได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มโอบกอดเธอเข้ามาจนชิดใกล้“เราแต่งงานเสียพรุ่งนี้เลยไหม พี่ไม่อยากโสดแล้ว อยากมีรจเป็นเมีย อยากให้เมียจูบรับขวัญแบบนี้ทุกวันทุกคืนเลย”จะน่ารักไปไหนวะแฟนฉัน หลงจนหัวจะทิ่มแล้วเนี่ย“ดีเหมือนกัน พี่รีบไปขอรจกับพ่อแม่สิ หอบสินสอดไปเยอะๆ ล่ะจะได้ตบปากพวกชอบนินทา
“รจจะทิ้งพี่ได้ลงคอจริงเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงเว้าวอน“ใครทิ้งใครกันแน่ โอ๊ย! ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่แล้วกัน เรายังเป็นเพื่อนบ้านกันได้”“แต่พี่ไม่อยากเป็นเพื่อนบ้านกับรจแล้วนี่”รจนาถอนหายใจพรืด อะไรวะ ขนาดสถานะเพื่อนบ้านเขาก็ไม่อยากให้ งกอะไรขนาดนั้น“งั้นเป็นศัตรูเลยดีไหม จะได้จบๆ ไม่ต้องเห็นหน้า ตายไปไม่ต้องเผาผี จะเอาแบบนี้ก็ได้นะ” บอกว่าจะพูดจาดีๆ แต่ไหงอินเนอร์มาเต็มอีกแล้วนี่“รจพูดจบหรือยัง”“อืม...จบแล้ว งั้นก็แยกย้ายเนอะ” หญิงสาวเอ่ยพลางจะตรงไปอุ้มหมากลับบ้าน แต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้นเสียก่อน“นี่! จะทำอะไร”“ทำน้ำปลาหวานให้เมียกินไง”“ไปทำให้ยัยนางเอกปากแดงนั่นกินสิไป เขาอาจจะชอบ ปล่อยฉันลงนะ”“พี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด!”“ก็เรื่องของคุณสิ มาบอกฉันทำไม...เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณว่าไงนะ” หญิงสาวชะงักกึก หน้าตาเหรอหราอย่างน่าเอ็นดูในสายตาชายหนุ่ม“พี่บอกว่าพี่ไม่ได้กลับไปคบกับลูกเกด ไม่มีทางกลับไปคบเขาด้วย เลิกแล้วเลิกเลยลาขาด” รจนาขมวดคิ้วแน่น“แล้วรูปที่คุณไปกอดแฟนเก่านั่นล่ะคืออะไร”“เขาขอให้พี่ช่วยเรื่องงานในวงการ พี่ก็ช่วยไปตามประสาคนเคยรู้จั
รจนาฟังแล้วอยากจะกรี๊ด เธอหรืออุตส่าห์ไม่ไปที่นั่น แล้วนี่อะไรกัน เจ้าเอริบ้านี่ ดันมาทำเสียเรื่อง แล้วทีนี้จะยังไง ถ้าไปที่นั่นก็ต้องเจอเขา หรืออาจเจอแฟนเก่าที่กลายเป็นแฟนใหม่เขาอีกครั้งล่ะสิเอาไงดีวะเนี่ย ตัดหางปล่อยวัดเสียดีไหม ไอ้หมาไม่รักดีนี่“เมรีว่างไหม พี่วานไปดูเจ้าเอริที่ท้ายซอยหน่อยสิ”“เมรีก็อยากไปให้นะพี่รจ แต่ต้องทำงานที่อาจารย์สั่งน่ะสิ เยอะเสียด้วย ทำทั้งคืนจะเสร็จไหมไม่รู้ ทำไมพี่ไม่ลองโทรถามเจ้าของไร่ทางนั้นเขาดูล่ะว่าเห็นหมาเราไหม”โทรไปให้เขาได้ใจน่ะสิ เรื่องอะไรเธอจะทำให้โง่“เออๆ พี่ไปเองก็ได้ คอยดูนะ ถ้าเจอจะตีให้ ไม่ได้สิมันท้องอยู่ตีไม่ได้ งั้นให้อดขนมสามวันละกัน” หญิงสาวบ่นอุบ ก่อนคว้าจักรยานปั่นออกไป พอคล้อยหลังพี่สาว คนที่บอกต้องทำงานส่งอาจารย์ก็เงยหน้าตาวาว หันไปคว้าโทรศัพท์มากดส่งไลน์รัวๆ“ขอโทษนะพี่รจ น้องทำเพื่อพี่ อโหสิให้กันเถอะนะ” ไร่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนครั้งสุดท้ายตอนวันที่เธอจากมา รจนามองบ้านของเจ้าของไร่ที่วันนี้ปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ เจ้าของไร่คงไปทำงานในไร่ หรือไม่แน่ว่าอาจจะกำลังพาแฟนไปเปิดตัวให้คนงานรู้จักในฐานะว่าที่นายหญิงคนใหม
พอไปถึงหน้าบ้านสาวที่คิดถึง ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม บ้านปิดเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่ ชายหนุ่มชะเง้อคอยาวมองเข้าไปในบ้านหวังจะเห็นใครออกมาเปิดประตูให้“มีใครอยู่ไหมครับ”“โฮ่ง!” ชายหนุ่มหันขวับไปทางเสียงทักทายจากใต้แคร่ไม้ไผ่ก็เห็นเจ้าหมาบีเกิ้ลของเธอนอนพังพาบอยู่ ดูเหมือนมันจะอ้วนขึ้นกว่าตอนที่เห็นครั้งสุดท้ายจนแปลกตาสาธุคุณขมวดคิ้วคำนวนเวลาในใจ หรือว่า...หมาของเธอจะท้องลูกเจ้าวายของเขาเสียแล้ว“เอริ...มานี่มา”เพราะความคุ้นเคยที่มุดรั้วเข้าบ้านเขาอยู่เป็นเดือนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยยอมเดินมาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ หากพูดได้มันคงถามหาแฟนหนุ่มที่นอนเหงาซึมกระทืออยู่ที่บ้านเขาเป็นกระบุงไปแล้ว“คิดถึงเจ้าวายล่ะสิ ไม่ได้เจอกันกี่วันแล้วเนี่ย”“โฮ่งๆ!” ชายหนุ่มเผลอยิ้ม ก่อนที่ทำหน้าเซ็ง“ฉันก็คิดถึงเจ้านายแกเหมือนกัน แกรู้ไหมว่าเขาหายไปไหน”“รู้สิ!”คราวนี้ไม่ใช่เสียงหมา แต่เป็นเสียงของ...“น้องเมรี...”คนถูกเรียกยืนหน้าบึ้งไม่ยิ้มแย้มให้เขาเหมือนเคยเอาล่ะสิ ไม่ใช่แค่แฟน กระทั่งน้องสาวแฟน หรือพ่อแม่ของเธอก็คงจะโกรธเขาเหมือนกัน งานเข้าแล้วไอ้สาธุ!“พี่สาธุมาทำอะไรที่นี่เหรอ มาหาใคร” เมรีถามเสียง