Masuk“ครับ ผมรู้ กุลไม่สนใจผม แต่ผม...”
“เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ เรื่องน้ำอิงขาดพ่อ กุลคงไม่รบกวนคุณ ปีนี้คุณตาของน้ำอิงว่าง ท่านเกษียณแล้ว เดี๋ยวกุลชวนคุณตาของน้ำอิงมาร่วมงาน” ที่จริงตาของน้ำอิงเสียชีวิตไปแล้วเธอแค่หาข้ออ้างตัดรำคาญ “หรือถ้าไม่มีใครมา น้ำอิงก็เข้มแข็งพอ แกรู้ค่ะว่ามีแม่ก็แทนพ่อได้ กุลทำความเข้าใจกับน้ำอิงแล้วตั้งแต่แกเริ่มพูดคุยรู้เรื่องแกก็รู้แล้วว่าแกไม่มีพ่อ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”
“กุลเข้มแข็งมากนะครับ แต่จะดีแค่ไหนที่เด็กๆ จะมีพ่อและแม่ เป็นครอบครัวอบอุ่น น้องพีทจะได้รู้สึกไม่ขาดแม่ในวันแม่ ส่วนน้ำอิงก็จะได้มีพ่อให้ไหว้ในวันพ่อ”
“กุลรับความหวังดีนี้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ”
ท้ายประโยค กุลนิดาสบตาเขาแน่วนิ่งเหมือนทุกครั้งที่เธอพูด อาชวินคงไม่ใส่ใจ หรือไม่รับฟัง ว่าเธอไม่สนใจจะเอาเขามาทำหน้าที่พ่อของลูก
ระหว่างที่ยังไม่ทันพูดคุยกันจบ และกุลนิดาพยายามหาทางเลี่ยงการสนทนา ร่างสูงโปร่งด้วยสูทอาร์มานีสีเทาเข้มก้าวเดินอย่างรวดเร็วมาด้วยความเร่งรีบอยู่ไกลๆ
กุลนิดาเบนสายตาไปมองทางนั้นพอดี คนที่กำลังเดินมาสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร เด่นสะดุดตาด้วยดวงตาสีฟ้า ใบหน้าหล่อคมคาย เขาเป็นนักธุรกิจสมองคม คนดังร่างกำยำนั้นมีเซ็กส์แอพพีลรุนแรงมาก รังสีความหล่อกระชากสายตาผู้ปกครองที่กำลังจูงลูกหลานเพื่อส่งเข้าชั้นเรียนให้ทันเวลาหันไปมอง
“อุ๊ย ดูนั่นสิเธอ ผู้ปกครองของน้องคนไหน หล่อจัง เหมือนพระเอกฮอลลีวูดไม่มีผิด”
ยิ่งเขาฟังภาษาไทยรู้เรื่องแล้วหันกลับไปส่งรอยยิ้มกว้างพร้อมกับพูดเป็นภาษาไทย
“ไม่ใช่นะ หน้าคุ้นๆ เหมือนนักธุรกิจดังที่กำลังมีข่าวเข้ามาเทคโอเวอร์สายการบินในประเทศไทย ใครไม่รู้แต่หล่อเนอะ”
ไรอันได้ยิน เขาฟังภาษาไทยเข้าใจแม้ยังพูดไม่เก่งนัก“ขอบคุณครับ”
ทำให้ผู้คนแถวนั้นแทบอยากจะกรี๊ดสลบ
กุลนิดาไม่มีทางลืม เขาคือมิสเตอร์ ไรอัน คาเตอร์ ผู้ชายที่กุลนิดาคิดว่าชาตินี้คงไม่เจอเขาอีกแล้ว หัวใจดวงน้อยดิ่งวูบลงอย่างกะทันหัน แล้วในนาทีนั้น สายตาดุดันน่าสะพรึงกลัวอย่างยากจะบรรยายหันมาสบเข้ากับดวงตาที่กำลังตระหนกยิ่งกว่ากวางน้อยหลงฝูงเข้าพอดี
“คุณไรอัน พระเจ้าช่วย! ซวยแล้ว โผล่มาที่นี่ได้ไง!!”
“อย่าหนีนะ เจอตัวแล้ว” เสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์แต่ชวนให้ลุ่มหลงดังขึ้น “เกรซี่ ในที่สุดผมก็เจอคุณแล้ว”
แน่นอนเขาเป็นคนรักเด็ก ปรารถนาจะมีลูกมาตลอด ในเมื่อรู้ว่ามีลูก แม้จะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้สายเลือดของคาเตอร์มีความเป็นอยู่อย่างลำบาก งานนี้ไม่ได้มาตามแค่ลูก แม้แต่แม่ของลูก เขาก็สนใจจะเอากลับไปให้ได้....
ลูกคือชีวิตจิตใจของคนเป็นแม่ กุลนิดาเองก็เหมือนกัน เธอไม่มีทางปล่อยให้คนที่ไม่ได้เลี้ยงดูมาชุบมือเปิบไปง่ายๆ โดยอ้างอุบัติเหตุทางร่างกายในคืนนั้นแล้วเรียกตัวเองว่า ‘พ่อ’ เพื่อที่จะแย่ง ‘น้ำอิง’ ไปจากเธอ เขามันก็แค่คนเมาที่มั่วคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขาแล้วฉกความสาวไปจากเธอ
เธอเคยพาน้ำอิงย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียนหนีเขามาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่น้ำอิงอายุได้สองขวบ ไรอันจ้างนักสืบตามหาตัวเธอกับลูกจนเจอ เธอไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องที่เธอมีลูกได้อย่างไร แต่ถ้าให้คาดเดาคงต้องรู้จากอินทิรา เพราะอินทิราเคยพบเธอกับลูกและบอกว่า
‘ยัยเด็กนี่ ผลผลิตจากความผิดพลาดคืนนั้นละสิ’
เธอโกรธมากแต่ก็ไม่แปลกใจทีอินทิราทักน้ำอิงแบบนั้น น้ำอิงเหมือนพ่อมาก เหมือนจนเธอเองยังน้อยใจเสมอทั้งใบหน้าลูกสาวเหมือนเธอแค่มีนัยน์ตาสีดำ
สำหรับเศรษฐีหมื่นล้านที่อยากจะสืบรู้เรื่องของใครสักคนก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
กุลนิดาไม่คิดว่าเขาจะตามหาเธอถึงที่นี่ เธอเองก็ทั้งอับอายทั้งเสียใจจนไม่อยากถามหาความยุติธรรมจากใคร ไม่อยากรู้ว่าในคืนนั้นอะไรทำให้มันเกิดขึ้น ชีวิตวัยสาวที่ข้ามช็อตทำให้เสียศูนย์ไปเหมือนกัน
กุลนิดาไม่เคยคบหาผู้ชายในสถานะแฟนแต่มีสามีและได้ลูกสาวเป็นของแถมติดท้องมาจากอุบัติเหตุบนเตียงในคืนนั้น ทางเลือกที่คิดออกตอนนั้นคือทำใจให้ลืม แม้จะอยากด่าทอ อยากหาที่ระบายใส่ใครสักคน แต่คนนั้นจะเป็นใครกันล่ะ ในเมื่อเธอดันไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาส่วนเขาก็มาก่อนเวลาเอง
หลังจากคิดตกว่าจะลืมทุกอย่าง เธอก็ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แต่ผ่านเวลามาถึงตอนนี้ เธอถึงรู้ว่าหนีไม่พ้น ไรอัน คาเตอร์ยังตามหาตัวเธออยู่ และเขารู้แล้วว่าคืนนั้นเป็นเธอ ไม่ใช่อินทิรา และเธอมีลูกติดท้องมาด้วย
กุลนิดาไม่ชักช้าอีกเธอรีบหันหลังวิ่งหนี ขณะที่อาชวินร้องเรียกตามหลัง
“กุลครับ เป็นอะไรครับ”
กุลนิดาหัวไวรีบร้องบอกเสียงตระหนก “ผู้ชายคนนั้นเป็นไอ้โรคจิตที่ตามเฝ้าฉันอยู่ค่ะ คุณพ่อน้องพีทช่วยกันเขาออกไปทีนะคะ กุลกลัวค่ะ”
เมื่อสาวที่ชอบบอกแบบนั้น อาชวินก็รีบเอาตัวไปขวางหน้าร่างกำยำที่วิ่งมาถึงพอดี
“คิดจะหนีผมไปไหน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”
ไรอันมองเห็นแผ่นหลังไวๆ ของกุลนิดาที่วิ่งหายไปทางหลังตึก เสียงดุกร้าวไล่หลังกุลนิดาไป
“อย่าหนีนะ จับได้น่าดู ผมตามหาคุณไปทั่วรู้ตัวบ้างไหม” แล้วหันไปสั่งการ “ครูซแกจัดการไอ้หน้าจืดนี่ซิ สงสัยเป็นหนึ่งในสามที่กำลังตามจีบเมียฉันแน่” เขาได้รับรายงานมาแบบนั้นแล้วบังเอิญเดาถูก
สิ้นคำสั่ง ครูซก็จัดการล็อกคอไอ้หน้าจืดที่กล้ามาขวางทางรักของเจ้านายไว้ บอดี้การ์ดมืออาชีพอย่างครูซไม่ต้องออกแรงมากก็ล็อกตัวของอาชวินไว้ได้ไม่ยาก
“โอ๊ย ปล่อยนะโว้ย”
“อยู่เงียบๆ จะได้ไม่เจ็บตัว กล้าดียังไงวะมายุ่งกับเมียเจ้านายฉัน”
“ใครเมียเจ้านายแก อย่าบอกนะว่า...” อาชวินอึ้งเป็นไก่ตาแตก
ขณะที่ไรอันวิ่งตามร่างเล็กที่ช่วงขาสั้นกว่าเขามากแต่ทำไมวิ่งเร็วนัก เขาเองก็ยังงง พอมาถึงมุมตึกก็เห็นลานจอดรถ แต่มองไม่เห็นว่ากุลนิดาขับรถคันไหนออกไป ร่างสูงสบถหยาบคายในลำคอ ดวงตาสีฟ้าเข้มจัดทันที
“แม่ตัวแสบ คิดว่าจะหนีพ้นหรือไง จับได้น่าดู”
แต่ไม่ทันคิดว่าคำสบถอย่างหงุดหงิดทำให้แม่หนูสองคนอายุราวสี่ขวบที่กำลังจูงมือกันเข้าเรียนพากันร้องไห้จ้าด้วยความตกใจกลัว เมื่อเห็นเขาวิ่งผ่านหน้า แต่ปลายมือของเขาเผลอไปชนถุงขนมที่เด็กคนหนึ่งถือติดมาด้วย
“ลุงขอโทษครับ” ไรอันหยุดวิ่งแล้วย่อตัวลงไปเก็บขนมห่อใหญ่ “นี่ครับ ลุงเก็บให้แล้ว”
“ผีอยากมาแอบดูคนพลอดรักกันก็เอาสิ เกรซีกลัวผีเหรอ ผมเคยสอนวิชาไล่ผีให้แล้วไง ผีจะกลัวคนแก้ผ้า ถ้าเกรซีที่รักไม่อยากถูกผีหลอก เดี๋ยวผมช่วยถอดเสื้อผ้าให้คุณเอง”กุลนิดาอับอายจนวางหน้าไม่ถูก “ถอดอีกแล้วเหรอคะ ฉันเพิ่งใส่กลับเข้าไปเมื่อกี้นี้เอง”กุลนิดาถูกเขาผลักให้นอนราบลงบนเตียง จากนั้นความขาวโพลนพร้อมกลิ่นหอมอ่อนของน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ลอยลงมาปกคลุมสองร่างเอาไว้ อ้อมกอดของคนที่นอนทับอยู่บนตัวทั้งหอมและมีกลิ่นกายเฉพาะตัวชวนให้พาใบหน้าเข้าไปเคลียคลอกับแผงอกนั้น“กลัวผีใช่ไหม เดี๋ยวผมลงคาถากันผีให้ รับรองว่าเกรซีจะไม่ถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต”“บ้า ฉันไม่เชื่อ คุณหลอกฉัน”“ไม่เชื่อ ก็ต้องให้ผมลงคาถาอยู่ดี”ดวงตาสีฟ้าภายใต้ผ้าห่มนวมผืนใหญ่เจิดจรัสเต็มไปด้วยไฟพิศวาสลุกโชน มันพร้อมจะแผดเผาเธอด้วยความรักที่เร่าร้อนเพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าทุกชิ้นที่ห่อหุ้มร่างบางงดงามไร้ที่ติกลับปลิดปลิวออกจากร่าง แต่ละชิ้นถูกไรอันโยนออกมาอย่างไม่ไยดีเสื้อและกระโปรงร่วงหล่นลงไปตามแรงเหวี่ยง ส่วนแพนตี้ตัวน้อยถูกเขาถอดและหล่นไปกองอยู่ข้างเตียง จนกระทั่งเหลือบราเซียร์สีชมพูหวานเป็นปราการด่านสุดท้ายที่ถูกเขาลอกคราบออก
กุลนิดาบอกเขาหมดเปลือก บอกจากก้นบึ้งหัวใจ เธอทั้งคิดถึง โหยหา แต่ก็หมั่นไส้พ่อตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์ในเวลาเดียวกันไรอันทนความน่ารักของเมียไม่ไหว มือแกร่งรวบร่างบอบบางของเมียไปนั่งทับบนตัก แล้วกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาวผ่อง“เรามาทำลูกกันอีกสักคนดีไหม ผมอยากให้น้ำอิงมีน้องไว้เป็นเพื่อนเล่น”กุลนิดาหน้าแดง ยกมือทุบอกเขาดังปั้กไรอันจับมือเล็กไว้ แล้วขบเม้มใบหูขาวอย่างรักใคร่ “อยากทุบก็ทุบให้เต็มที่ ผมไม่ทุบคืนด้วยหมัดแน่ๆ เพราะผมกลัวเมียเจ็บ แต่ผมจะชกคุณคืนถึงเช้าด้วยอวัยวะที่นุ่มนวลที่สุด”“ไรอัน คนหื่น ฉันรู้นะคุณหมายถึงอะไร”แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อร่างเล็กถูกเขาผลักลงไปบนเตียงเหมือนในคืนนั้น ร่างสูงกระชากผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พันไว้รอบเอวอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้ เขานอนแช่น้ำอุ่นอย่างสบายใจ แล้วคิดเล่นๆ ว่าถ้ามีลูกอีกคนจะให้ชื่ออะไรดี เขาคิดออกแล้ว และเวลานี้ ควรต่อแขนให้ ‘น้ำอุ่น’ ออกมาเป็นตัวเป็นตนสักทีไรอันอวดหุ่นกำยำต่อหน้าเมีย กุลนิดารีบหลับตาปี๋ เพราะยังอายอยู่ จังหวะนั้นเองที่ไรอันรีบปอกเปลือกเมียให้เหลือแต่ร่างขาวโพลนทันที“ลูกคนนี้ผมจะตั้งใจทำให้หน้าเหมือนคุณนะ จะได้ไม่น้อยใจผมอ
“รู้อะไรไหม แต่ผมไม่เคยหลอกคุณนะ ว่าผมรักคุณกับลูกที่สุด รักจนหยุดหัวใจไว้ที่คุณ”“ฉันรู้ค่ะ ฉันยอมรับที่ผ่านมา ฉันขี้ขลาดเอง กลัวคุณไปเจอผู้หญิงสวยๆ ก็อยากจะเลี้ยงดูไปเรื่อยๆ แบบที่คุณเคยเลี้ยงดูพี่อินทิราเอาไว้ ตอนนี้ยังแอบส่งเสียกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าคุณมีเมียไว้ประเทศละคน ฉันคงทนไม่ได้ เลยเลือกที่จะไม่เปิดโอกาสให้คุณ” กุลนิดาบอกแล้วเบือนหน้าหนี เธอยอมรับผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อใจเขา ไม่เปิดโอกาสให้เขาไรอันเชยคางเมียกลับมา จ้องดวงตาสีนิลคู่วาววับ “ผมกับอินทิราเลิกยุ่งเกี่ยวกันตั้งแต่คืนนั้นที่ผมมีอะไรกับคุณ แล้วผมก็ไม่ได้ไปมีเมียทิ้งไว้ทุกประเทศแบบที่คุณเข้าใจ ข่าวคุณมั่ว ไม่กรองแล้วละ”“หมายความว่ายังไงคะไรอัน” กุลนิดาเบิกตาโตมองเขาอย่างสนใจ“ผมกับอินทิราเจอกันบนสายการบินพาณิชย์ ตอนเครื่องบินลำนั้นที่ระเบิดไปมันงอแง ผมเห็นอินทิราสวยดี เธอส่งสายตาให้ผมก็เลยให้ครูซยื่นข้อเสนอ และไม่ได้ตั้งใจให้มาอยู่ที่นี่หรอก แต่อินทิราบอกผมว่าคอนโดฯ ของเธอยังตกแต่งไม่เสร็จ แต่ที่ผมมาที่นี่หลายครั้งไม่ได้ติดใจอินทิรา แต่ติดใจสาวน้อยที่ดูแลกุหลาบของแม่ผมอย่างดี ผมคิดว่ามาอยู่ที่เมืองไทยมันจะตา
เฮี้ยนกว่าผีก็สามีของเธอนี่เองดวงหน้าขาวซีดแทบจะเป็นสีเดียวกับกระดาษเวลานี้พลันเปลี่ยนเป็นจ้องมองเขาอย่างขุ่นเคือง เลือดลมกลับมาสูบฉีดแรง ตอนนี้สติเธอกลับมาครบถ้วนพอจะแยกออกว่าร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาหาแล้วคว้าเธอเข้าไปกอดคือสามีไม่ใช่ผี“ไรอัน! คนบ้า คุณเล่นบ้าอะไร หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวว่าเครื่องบินระเบิด คุณตายแล้ว” กุลนิดารู้สึกว่าเธอกำลังเป็นคนเสียสติแล้วกระมังถึงได้หัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับเป็นผู้ป่วยไบโพลาร์ไรอันส่ายหน้า รอยยิ้มหล่อร้ายบนใบหน้าของเขาประดับค้างอยู่นานไม่ยอมจางหาย ในขณะที่ดวงตาสองข้างยังจ้องหน้าเมียรักอยู่ตลอดเวลา“คุณยังหลอกผมได้เลย คิดว่าผัวเคี้ยวหญ้าหรือไงจ๊ะที่รัก ถึงได้คิดว่าผมจะเชื่อว่าเมียมีฝาแฝด เป็นไงพอผมหลอกคืนบ้าง คุณถึงกับอึ้งไปเลย”กุลนิดาผลักอกเขาออกแต่มันไม่ขยับออก ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งดีใจ ทั้งโมโห “หลอกแรงเกินไปแล้ว”ไรอันขยับเข้าไปใกล้ร่างเมียรัก ประคองใบหน้างามที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาให้มองตอบเขา “ฟังผมอธิบายก่อนเกรซี อย่าเพิ่งโกรธผมเลย”กุลนิดาส่ายหน้าด้วยความน้อยใจ “คุณหลอกคนทั้งโลกว่าตายแล้ว คุณเป็นคนแบบไหนกัน ทำไมต้องหลอก
กุลนิดาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอย่างไม่อาย ตอนนี้เธออยู่คนเดียวภายในห้อง เธอไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเห็นแล้วตั้งคำถามอีก ดังนั้นเมื่อน้ำตาอยากไหลออกมา เธอก็จะปล่อยให้มันไหลไปจนกว่าจะพอ อย่างน้อย เธอจะได้ใช้มันเป็นหนทางระบายออกได้บ้างใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเลอะกรัง กวาดมองรอบห้องอย่างอาวรณ์ ตอนนี้ เธอยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เธออยากจะคิดว่าข่าวที่ลงเป็นเพียงข่าวโคมลอย เชื่อถือไม่ได้ เขายังปลอดภัยดี เพียงแต่ยังเคลียร์งานไม่เสร็จจึงยังกลับมาไม่ได้...แต่กุลนิดาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ เพราะภาพข่าวที่ทุกสื่อนำมาลงเป็นเรื่องจริงจู่ๆ ก็มีลมพัดวูบหนึ่งเข้ามาในห้อง กุลนิดาจึงเดินไปที่ระเบียง ประตูถูกเปิดออกไว้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ชายผ้าม่านสีขาวปลิวคว้าง ภาพนี้เหมือนเมื่อสี่ปีก่อนไม่มีผิด จู่ๆ กุลนิดาก็รู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“เหมือนวันนั้นไม่มีผิด” ปกติกุลนิดาเป็นคนกลัวผีมาก และตอนนี้ความหลอนก็ผุดขึ้นมาอีกหนห้องนี้เคยมีประวัติอะไรหรือเปล่านะ เธอยังจำได้ดีถึงผีจูออนชุดขาวที่เห็นวันนั้น เธอยังไม่เคยคุยกับไรอันถึงเรื่องนั้นเลย เคยตั้งใจว่า
แอชลีย์มองสองแม่ลูกแล้ววางหน้าลำบากพลางลอบถอนหายใจ “เอาละ หลานป้าแอชลีย์มีสายเลือดนักสู้ สุดยอดมาก ป้าแอชลีย์ตะลึงไปเลย แบบนี้ควรมีรางวัลให้หนูใช่ไหม”พอได้ยินคำว่ารางวัล ร่างอวบที่นอนหงายดีดตัวลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย “รางวัล! เด็กดีควรมีรางวัลค่ะ มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องใช่ไหมคะมามี้”เด็กหญิงยิ้มเผล่รู้สึกหายเหนื่อย “คุณป้าแอชลีย์คนสวย น้ำอิงอยากกินไอศกรีมเป็นรางวัลได้ไหมคะ” แม่คนช่างประจบ และหัวไวกับของฟรีกล่าวแอชลีย์ดึงหลานสาวตัวอวบไปกอด รู้แล้วทำไมน้องชายถึงได้หลงลูกสาวนัก “แน่นอนหลานสาวของป้าได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้”กุลนิดามองหน้าแอชลีย์ เสี้ยวหน้าด้านหนึ่งมีเค้าเหมือนไรอันอยู่มาก ความสนิทอย่างรวดเร็วของสองป้าหลานคงเป็นความผูกพันทางสายเลือด“อย่ารบกวนคุณป้าเลย เดี๋ยวมามี้พาไปเอง”เพียงแต่แอชลีย์หันมายิ้มแล้วพยุงหลานสาวให้ลุกขึ้น “เกรซี ฉันมีเรื่องจะบอก แม่บ้านของลักซูรีคอนโดฯ โทร.มาบอกฉันว่าอยากให้เจ้าของห้องชุดเข้าไปดูแลกุหลาบพวกนั้นที่ริมระเบียงด้วย เพราะพวกมันใกล้จะตายหมดแล้ว ไรอันจ้างให้แม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ย้ายต้นกุหลาบเหล่านั้นออกไปไหน ตอนนี้ห้อง







