วันรุ่งขึ้น ณ ไร่ปลายฟ้า
กวีวัชน์มองคนงานของไร่พฤกษาที่เดินเข้ามาในไร่ของตนเองด้วยความพอใจ โดยเฉพาะสาวน้อยวัยใสนางยั่วนางนกต่อที่ทำงานได้ดีเกินคาด กวีวัชน์ไม่คิดว่าจะทำให้คนงานชายนับสิบๆ คนเปลี่ยนใจมาทำงานกับเขาได้ในระยะเวลาสองสัปดาห์ตามที่ตกลงกันไว้
“มาแล้วเหรอรัมภา เธอทำงานดีเกินคาดเลยนะเนี่ย?”
กวีวัชน์เจ้าของไร่ปลายฟ้า ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีผู้มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว กล่าวคำชื่นชมเพียงรัมภาหรือรัมภาชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของเธอด้วยความจริงใจ หลังจากที่สาวเจ้าเดินเข้ามาหาเขาที่ยืนอยู่หน้าบ้านพักหลังใหญ่ ส่วนคนงานจากไร่พฤกษาเดินเลี้ยวไปทางบ้านพักคนงานที่จัดเตรียมไว้ให้
“ฉันทำงานสำเร็จแล้ว นายก็อย่าลืมสัญญาก็แล้วกัน” เธอพูดกับคนที่ตัวสูงกว่า
“แน่นอน คนอย่างนายกวีวัชน์ไม่เคยผิดสัญญาอยู่แล้ว ต่อไปนี้เธอก็ก้าวเข้ามาอยู่ในตำแหน่งว่าที่น้องสะใภ้ของฉันได้เลย” กวีวัชน์ยินยอมทำตามข้อสัญญา
“ดี” เธอกระแทกเสียงพูด “ฉันขอไปพักผ่อนก่อน เหนื่อยชะมัด” คำที่เธอเอ่ยออกมานั้น เป็นเชิงบ่นเสียมากกว่า
“ทำไม ยั่วพวกมันหนักหรือไง ยั่วท่าไหนล่ะ พวกมันถึงได้ยอมตามมาเป็นพรวนขนาดนี้?”
เพียงรัมภารู้สึกไม่ชอบใจกับน้ำเสียงและสีหน้าของผู้พูดเลย มันเหมือนกับว่าเขากำลังดูถูกเธออยู่
“หลายท่าเลยล่ะ ฉันก็ยั่วพวกคนงานเหล่านั้นเหมือนกับที่ยั่วน้องชายของพี่ท็อปยังไงล่ะ?”
เพียงรัมภากระแทกเสียงตอบ มองหน้าคนที่ถามอย่างไม่ยี่หระ คู่สนทนาเนื้อเต้นในทันทีที่สาวร่างเล็กกล้าต่อปากต่อคำกับเขา ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนรักของน้องชาย รับรองได้ว่าเขาตบคว่ำเลือดกบปากแล้ว
“เธอทำอะไรก็ให้เกียรติน้องชายของฉันบ้างนะ ไม่ใช่เที่ยวไปยั่วไม่เลือกคนอย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะเลยเถิดไปถึงไหนๆ” เขาเค้นเสียงพูด จ้องมองสาวหน้าสวยรูปร่างเซ็กซี่เขม็ง
“แล้วพวกคนที่พี่พูดถึง ไม่ใช่คนที่พี่ต้องการให้มาที่นี่หรือไง อย่าทำเป็นสั่งสอนฉันหน่อยเลย ฉันรู้ตัวดีว่าต้องทำยังไงบ้าง ฉันก็มีขอบเขตของฉันเหมือนกัน อีกอย่างนึงนะ พี่ท็อปไม่ใช่เจ้านายของฉัน แล้วฉันก็ไม่ใช่ลูกน้องของพี่ด้วย เพราะฉะนั้นอย่ามาทำเป็นหมาบ้าเห่าหอน แยกเขี้ยวใส่ฉันแบบนี้ รู้จักฤทธิ์แม่น้อยไปซะแล้ว นี่แน่ะ”
เพียงรัมภาพูดเป็นชุด ก่อนจะยกเข่าขึ้นสูงกระแทกไปยังกล่องดวงใจของกวีวัชน์ ชายหนุ่มที่เธอหมั่นไส้ตั้งแต่แรกเห็นเต็มแรง
“โอ๊ย!!...ทะ...เธอ”
เขาร้องครวญเสียงดัง ใช้มือทั้งสองข้างจับตรงจุดที่โดนกระแทก ตัวงอ หน้าดำหน้าแดง พูดไม่ออก ได้แต่ส่งสายตาอาฆาตให้กับสาวหน้าหวานที่ยืนกอดอกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“นี่แค่สั่งสอนนะ ถ้าเผื่อพี่ท็อปยังเห่าใส่ฉันอีก หรือว่ามองฉันเหมือนกิ้งกือไส้เดือน ฉันจะกระแทกให้ใช้การไม่ได้เลย คอยดู เชอะ”
พูดจบเพียงรัมภาก็เดินสะบัดหน้าเข้าไปในบ้านหลังนั้นทันที ปล่อยให้เจ้าของบ้านเจ็บจนจุกทั้งจากการกระทำและคำพูดของแม่ดาวยั่วจำเป็นตามลำพัง
“ฝากไว้ก่อนเถอะรัมภา อูยส์!!”
เสียงคำรามเบาๆ ตามมาด้วยเสียงครางเจ็บของกวีวัชน์ ดังตามหลังสาวหุ่นดีที่เดินเข้าไปในบ้านของตน ครั้งนี้เขาจะปล่อยเธอไปก่อน เพราะเขาต้องพึ่งเพียงรัมภาไปจนกว่างานของเขาจะสำเร็จ งานนี้เจ้าของไร่พฤกษาต้องเจ็บจนกระอักเลือดแน่ เมื่อกลับมาจากต่างประเทศแล้วรู้ว่า คนงานชายตัวหลักของการเก็บผลผลิตได้มาอยู่ในไร่ของเขา
อยากเห็นหน้ากวินภพตอนนั้นเหลือเกิน...คงสะใจพิลึก
Chapter 11เหมือนกับครั้งแรกที่ถูกจูบไม่มีผิด อาการตกใจทำให้กลีบปากสวยอ้าค้าง ปลายลิ้นใหญ่จึงแทรกเข้าไปสำรวจในช่องปากสาวอย่างง่ายดาย รัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามจะถอยร่นหนี บดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง แรงจุมพิตที่หักหาญน้ำใจทำให้เพลงมีนาคิดจะต่อต้าน มือเล็กผลักร่างหนา ใบหน้าสาวส่ายสะบัดเพื่อไม่ให้เขาจุมพิตเธอได้โดยง่าย ร้องประท้วงในลำคอทว่ามันก็ไม่เป็นตามที่ตนเองคิดไว้ มือใหญ่จับมั่นตรงท้ายทอยของเพลงมีนา ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหน ส่งผลให้เธอต้องยอมรับจุมพิตในครั้งนี้ด้วยความจำยอมเรี่ยวแรงทั้งหมดดูจะเหือดหายไปสิ้น เมื่อกระแสบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย จุมพิตของเขานั้นสร้างความอ่อนแอให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างมากมาย พ่ายแพ้ หมดแรงต้านทาน จำยอมให้เขาดื่มด่ำความหวานที่ปลูกฝังอยู่ในช่องปากของเธอต่อไปน่าแปลกเหลือเกิน...น่าแปลกจริงๆ ปลายลิ้นของคนแปลกหน้าที่ตวัดโบกลิ้นเล็ก กวาดต้อนซอกซอนหาน้ำหวานรสเลิศอย่างกระหายและเร่าร้อน ไม่ได้ทำให้เธอเกิดความขยะแขยงหรือว่ารังเกียจ ตรงกันข้ามซาบซ่านราวกับเธอกำลังถูกไฟฟ้าสถิตเล่นงาน แปลบปลาบตลอดเวลาในความรู้สึกของกวินภพ เขากำลังถูกดึงตัวลงไปในบ่อโคลนพ
Chapter 10จะค้านว่าภาพนี้ไม่ใช่น้องสาวของตัวเองก็ไม่ได้ เพราะใบหน้าเครื่องเครา รูปร่างสวยงามมันบ่งชี้เช่นนั้น อีกทั้งเพลงมีนาไม่มีวันลืมหน้าตาของน้องสาว ทุกครั้งที่เธอส่องกระจกเงา ภาพของเพียงรัมภาก็จะซ้อนทับเสมอคำถามหลายคำถามจึงผุดขึ้นในใจ เพียงรัมภาไปทำอะไรให้กวินภพแค้นใจ ถึงขั้นพกรูปไว้เตือนความจำตลอดเวลา แล้วทำเช่นนี้ทำไม มีเหตุผลใดที่จะต้องทำ ที่สำคัญทำไมต้องใช้ชื่อเรียกว่าน้องหนู ทำไมไม่ใช้ชื่อเรียกแทนตัวเป็นชื่อจริง ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก หลายคำถามมะรุมมะตุ้มอยู่ในสมองที่เริ่มจะไม่สั่งการ ความงวยงงเข้ามาแทนที่ หรือว่ากวินภพจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ณ วินาทีนี้เพลงมีนามีแต่คำว่าไม่เข้าใจและสับสน วนเวียนอยู่ในสมอง“เป็นไงทีนี้ชัดมั้ย จะยอมรับได้หรือยังว่าเธอคือน้องหนู?” เสียงของกวินภพดังขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งมองรูปภาพตาไม่กระพริบ“ว่า...ว่าไงนะ?” เธอถามอีกครั้งหลังจากที่เสียงของเขาดึงสติของเธอให้คืนกลับมา“ฉันถามว่า คราวนี้เธอจะเถียง และไม่ยอมรับอีกหรือเปล่าว่าเธอไม่ใช่น้องหนู?”คำถามของเขาทำให้เธอประติดประต่อเรื่องได้คร่าวๆ กวินภพเห็นเธอก็นึก
Chapter 9รถยนต์คันเดิมยังคงแล่นบนถนนสายหลัก ตรงดิ่งไปยังจังหวัดลำปางซึ่งใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวจังหวัด และอีกสี่สิบห้านาทีกว่าจะถึงไร่พฤกษา คนที่ตั้งใจว่าจะคิดหาทางออกในเรื่องคับขัน เวลานี้กับผลอยหลับศีรษะพิงกับประตูรถยนต์ กวินภพเห็นแล้วเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ เขาจับตัวเธอมาไม่ได้ให้มานอนหลับสบายๆ อย่างนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด คิดได้ดังนั้นร่างหนาจึงขยับเข้าไปใกล้สาวร่างเล็ก ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ใบหูสาว ให้ริมฝีปากหนาชิดติดกับส่วนรับฟังของเธอ“ตื่นได้แล้ว ตื่นสิ น้องหนูตื่น”เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังอยู่ตรงใบหูของเพลงมีนา เสียงที่ดังสนั่นทำให้สาวเจ้าสะดุ้งตัวตื่น มองหน้าเขาเลิกลั่ก ใจเต้นโครมคราม“ไม่เคยหลับเคยนอนหรือไง หลับมาได้ตลอดทาง” น้ำเสียงของเขายังคงดังลั่นรถ“ก็คนมันง่วงนี่นา” เธอพูดเสียงอ่อย “คุณจะพาฉันไปไหน?”“ไปนรก” เขาตอบสั้นๆ แต่สำหรับคนที่ได้ยิน หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เกรงกลัว“ฉัน...ฉันไม่ใช่น้องหนูนะ” เสียงของเธอดังออกมาแผ่วๆ แต่ดังราวกับพลุแตกสำหรับเขา“อยากจะให้ฉันจูบก็พูดมาดีดี ไม่ต้องมาทำเป็นพูดอย่างนี้หรอกน้องหนู ฉันไม่หลงกลดาวยั่วอย่างเธอง่ายๆ อย
Chapter 8วันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้นเพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคยหญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกม
Chapter 7“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิมกวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือ
Chapter 6สองเดือนต่อมาเวลาประมาณสิบ 13.00 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิสตรีนางหนึ่งเดินออกมาจากช่องประตูของผู้โดยสารขาเข้าด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ นานสิบปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่เธอต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงดูเธอไปเป็นลูกยังประเทศนิวซีแลนด์เพลงมีนาเฝ้ารอการกลับมาเมืองไทยทุกลมหายใจ เฝ้ารอให้ตนเองจบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีตามความตั้งใจของผู้มีพระคุณ แล้วหากถึงวันนั้น เธอจะได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดตามคำสัญญา ซึ่งวันนั้นก็เดินทางมาถึง...วันที่เธอจะได้พบหน้าน้องสาวฝาแฝด พบเด็กๆ หลายคนที่ตอนนี้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ได้พบกับคุณแม่วนารัตน์ แม่ที่ให้โอกาส ให้ที่อยู่และให้ชีวิตใหม่กับเด็กกำพร้าคนนี้ และอาจได้พบกับสมาชิกใหม่อีกหลายชีวิต ได้กลับไปหาบ้านหลังแรกแสนอบอุ่น...สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารัตน์...“คุณแม่คะ เพลงถึงสนามบินแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังออกไปเรียกแท็กซี่ค่ะ”พอตนเองออกมายืนอยู่หน้าประตูตรงช่องทางที่ตัวเองเดินออกมา สิ่งแรกที่เพลงมีนาทำก็คือ โทรศัพท์ไปหามารดาบุญธรรม รายงานตามที่ได้ตกลงกันไว้“ดูแลตัวเองดีดีนะลูก” เสียงแสดงความเป็นห่วงและห่