Share

Chapter 5

last update Last Updated: 2025-07-08 00:56:12

Chapter 5

สองวันต่อมา

          “อะไรนะ!!...เก็บผลผลิตที่ไร่ไม่ทัน เป็นไปได้ยังไงวะ คนงานมีเป็นร้อยทำไมถึงเก็บไม่ทัน?”

น้ำเสียงสูงของกวินภพเจ้าของไร่พฤกษาตวาดถามลูกน้องทั้งห้าคนที่ยืนก้มหน้าหนีดวงตาดุกร้าวของเจ้านาย เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทันทีที่กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน เขาจะได้รับข่าวร้ายเช่นนี้ ก้นที่นั่งเครื่องบินมายังไม่ทันหายร้อน กลับมาถึงไร่ก็มีอาการร้อนอกร้อนใจขึ้นมาอีกทำนบ แล้วไม่คิดด้วยว่าคนงานที่มีอยู่ร่วมหนึ่งร้อยคนจะไม่สามารถเก็บผลผลิตในไร่ได้ทันตามกำหนด มันต้องมีเรื่องผิดพลาดอย่างแน่นอน

“เมื่อก่อนมีนับร้อยจริงๆ ครับ แต่ตอนนี้มีไม่ถึงห้าสิบคน แล้วห้าสิบคนที่ว่าก็มีแต่คนงานหญิงครึ่งหนึ่งครับ” เสียงของจตุรทิศดังขึ้นหลังจากสิ้นเสียงของเจ้านาย

“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น แล้วทำไมพวกมึงถึงไม่โทรไปบอกกู?”

เจ้าของไร่เค้นถามเสียงเครียด ตวัดสายตาคมกริบมองลูกน้องทั้งห้าเรียงคน

“ที่ไม่บอกเพราะติดต่อเจ้านายไม่ได้ต่างหากครับ เพราะตอนที่เกิดเรื่องเจ้านายอยู่บนเครื่องบินแล้วก็ปิดมือถือส่วนพวกผมก็อยู่กรุงเทพฯ เพราะต้องดูแลเรื่องการส่งออก ป้าพิณโทรมาบอกผมว่าเมื่อวานซืนนี้ว่า พวกคนงานผู้ชายหนีตามน้องหนูไปหมดเลยครับ”

ไม่ใช่ว่าลูกน้องทั้งห้าคนไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับผู้เป็นนาย แต่เป็นเพราะวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่กวินภพกำลังโดยสารเครื่องบินเพื่อกลับเมืองไทย หลังจากเจรจาธุรกิจสำคัญเสร็จสิ้น ทำให้เขาจำเป็นต้องตัดการสื่อสารชั่วคราว และการเดินทางจากประเทศอังกฤษมายังประเทศไทยใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง หนำซ้ำต้องพักเครื่องอยู่ประเทศญี่ปุ่นนานถึงสามสิบชั่วโมงเนื่องจากเกิดพายุในประเทศนั้น ทัศนวิสัยจึงไม่เหมาะกับการนำเครื่องขึ้น อีกทั้งกวินภพไม่ได้เปิดเครื่องระหว่างพักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อรอขึ้นเครื่องอีกด้วย ทำให้การติดต่อสื่อสารลบติดศูนย์

คำตอบของจตุรทิศทำให้คิ้วหนาของผู้เป็นนายขมวดยุ่ง พร้อมกับนึกถึงคนที่ชื่อน้องหนู คนที่ชื่อนี้เขาจำได้ว่าเป็นหลานของป้านุ่มแม่ครัวประจำไร่ที่ป่วยเป็นโรคเก๊าท์ นางขอพักรักษาตัวให้หายดีโดยระหว่างหยุดพักไป จึงให้น้องหนูซึ่งเป็นหลานสาวของนางมาทำหน้าที่แทน แล้วน้องหนูคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ กวินภพเกิดความสงสัยในฉับพลัน

“น้องหนูหลานของป้านุ่มมาเกี่ยวอะไรด้วย?” เขาถามกลับไป

“ก็หลานสาวของป้านุ่มนี่แหละครับคือตัวต้นเหตุ”

จตุรทิศตอบแบบไม่ให้ความกระจ่างแจ้ง ทำให้คนที่รอฟังคำตอบเกิดอาการหงุดหงิด

“เออ!!...กูก็ถึงถามมึงไงว่า น้องหนูมาเกี่ยวอะไรด้วย มึงก็แค่ตอบกูมา ไม่ใช่มาทำให้กูสงสัยเพิ่มขึ้น”

“คืออย่างนี้ครับนาย คนงานผู้ชายของเราลาออกไปทำงานที่ใหม่พร้อมกับน้องหนูครับ แล้วที่ทำงานที่ใหม่ของน้องหนูก็คือ ไร่ปลายฟ้าของคุณท็อปครับ” จักรพงษ์ตอบแทนพี่ชายคนโต

“หา!!...ย้ายไปทำงานในไร่ของไอ้ท็อปอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมถึงย้ายตามน้องหนูไปได้ล่ะ?” กวินภพตวาดถามกลับเสียงสั่น เมื่อได้ยินชื่อของคู่อริตลอดกาลของเขา

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับนาย...”

จักรเพชรเปิดปากเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในไร่ช่วงที่กวินภพไม่อยู่อย่างละเอียด คนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่น ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าคมหล่อเริ่มมีสีแดงมาปะปน กรามทั้งสองข้างขบกันแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูนขึ้นเป็นทาง

ต้นเหตุของเรื่องนี้คือน้องหนู หลานสาวของป้านุ่มวัยยี่สิบสี่ปี สตรีที่มีรูปร่างสะเทือนใจชาย ใบหน้างามหมดจดสวยใสสมวัย ผิวกายผุดผ่องดูมีราศี พอก้าวเข้ามาเป็นแม่ครัวของไร่ เรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นทันที เป็นเพราะความละอ่อน ความสดใส สรีระที่ทุกคนเห็นแล้วต่างกลืนน้ำลายลงคอและการยั่วยวนนิดๆ ของเธอเป็นชนวนให้คนงานชายทั้งหลายทิ้งงานทิ้งการที่ไร่พฤกษา โยกย้ายไปทำงานที่ไร่ปลายฟ้าตามน้องหนูที่ลาออกไปทำงานยังไร่แห่งนั้น

ครั้งแรกที่กวินภพเห็นหน้าน้องหนู เขามองไม่เห็นจุดไหนบนร่างกายของเธอว่าจะมีส่วนคล้ายคลึงกับป้านุ่มผู้เป็นป้า แต่ทว่าเธอกล่าวอ้างว่าบิดาของตนเองเป็นคนเชื้อสายจีน เธอจึงได้รับกรรมพันธุ์มาจากบิดานั่นเอง ทำให้ความสงสัยของเขาหมดไป ด้วยความที่เธอเป็นหลานป้านุ่ม ทำให้เจ้าของไร่รับน้องหนูให้มาทำหน้าที่แทนป้านุ่ม ซึ่งฝีมือการทำอาหารของเธอก็ไม่เป็นสองรองใครเลย

น้องหนูทำงานในไร่พฤกษาเพียงสองวัน ตัวเจ้าของไร่ก็เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อร่วมประชุมและอยู่เคลียร์งานที่บริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว จากนั้นก็เดินทางไปต่างประเทศต่อ ทำให้เขาไม่ล่วงรู้พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนงานชายทั้งหลาย อีกทั้งเจริญกรุงกับวรจักรลูกน้องสองในห้าคนสนิทที่คอยดูแลไร่แทนเจ้านายก็ไม่คิดด้วยว่า การที่คนงานชายทั้งหลายต่างคลุ้มคลั่งและหลงใหลในความสดใสช่างยั่วของน้องหนูจะเป็นที่มาของเรื่องนี้ เขาทั้งสองจึงไม่ได้รายงานผู้เป็นเจ้านาย

“งานนี้มันต้องมีลับลมคมในแน่ๆ ไอ้ท็อปมันจะรับคนงานของฉันไปทำไม ในเมื่อมันก็มีคนงานของมันอยู่แล้ว” กวินภพสันนิษฐานขึ้นหลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด

“ผมก็ว่าอย่างนั้นครับ คนงานในไร่ของคุณท็อปมีตั้งเยอะแยะเก็บผลผลิตได้อย่างสบายๆ ไม่จำเป็นต้องรับคนงานเพิ่มเลย ที่สำคัญนะครับคนงานของเราทำงานที่นั่นได้เพียงสองวัน คุณท็อปก็ไล่ออกแล้วให้เงินเดือนล่วงหน้าคนละครึ่งเดือน ซึ่งระยะเวลาสองวันนั้นเป็นสองวันที่เรามีกำหนดเก็บผลผลิตพอดีครับ การกระทำของคุณท็อปทำให้ผมคิดว่า น้องหนูน่าจะเป็นนกต่อของคุณท็อป เพื่อมาหลอกล่อคนงานของเราให้ไปทำงานที่ไร่โน้นในวันและเวลาที่เรากำลังจะเก็บผลผลิตเพื่อส่งออกให้ลูกค้า เพราะถ้าเราทำไม่ทันนั่นหมายความว่า เราจะต้องเสียค่าปรับให้ลูกค้าซึ่งมันก็สูงมากทีเดียว”

แน่นอน เพราะไม่มีใครกล้าลงทุนลงแรงที่จะทำให้เจ้านายของตนล่มจมได้เท่าเจ้าของไร่ปลายฟ้า คู่อริตลอดกาลคนนี้ไปได้

“ไอ้ท็อป...งานนี้มึงเล่นกูหนักเกินไปแล้ว คอยดูนะกูจะเอาคืนให้กระอักเลย”

กวินภพกระแทกกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างหนึ่งอย่างแค้นเคือง งานนี้เขาต้องจัดการคนที่มีส่วนรู้ทุกคน ให้รู้ซึ้งว่าคนอย่างเขาไม่ได้มาลูบคมได้ง่ายๆ เริ่มต้นจากน้องหนู ตัวการสำคัญของเรื่อง ทว่าเวลานี้สิ่งที่เขาต้องจัดการอย่างเร่งด่วนก็คือ หาคนงานมาเก็บผลผลิตในไร่ของเขาให้ได้มากที่สุด แล้วหวังว่ามันจะทันเวลาที่ขีดเส้นตายไว้ในวันพรุ่งนี้ มันก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกเช่นกันที่จะเก็บผลส้มราวสามร้อยไร่ เก็บอ้อยและข้าวโพดอีกอย่างละสองร้อยห้าสิบไร่ให้เสร็จภายในวันเดียว

“อย่าให้เจอตัวนะแม่ตัวแสบ เจอเมื่อไหร่เห็นดีเมื่อนั้น” กวินภพหมายมั่นเอาไว้ในใจ งานนี้ได้เห็นดีกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 52

    Chapter 52และการที่เพียงรัมภามาอยู่ที่บ้านของกวีวัชน์ ทำให้เธอได้พบกับกวีชาติก่อนวันสอบสองวัน หน้าตาของกวีชาติที่เธอเห็นนั้น ยังมีรอยฟกช้ำกระจายเป็นจุดๆ บนใบหน้าวินาทีแรกที่กวีชาติเห็นหน้าเพียงรัมภา แล้วรู้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะของผู้หญิงของพี่ชาย เขาตกใจไม่น้อย แทบจะพูดอะไรไม่ออก คิดในใจว่าน่าจะเป็นผลพวงเรื่องในค่ำคืนนั้นพอตั้งสติได้เขาก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมา เป็นประโยคที่เขาตั้งใจจะพูดกับเธอหากเผชิญหน้ากัน“มอสขอโทษนะรัมภา ขอโทษในสิ่งที่มอสทำลงไปทั้งหมด” กวีชาติพูดอย่างกล้าหาญ พูดอย่างลูกผู้ชายที่ทำผิดแล้วต้องยอมรับผิด และเขาก็หวังว่าจะได้รับการยกโทษจากหญิงสาวตรงหน้า“ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขก็คงไม่ได้” เพียงรัมภาเวลานี้ไม่ถือโทษโกรธกวีชาติแต่อย่างใด เธอคิดเพียงว่าเมื่ออีกฝ่ายสำนึกผิดและกล่าวคำขอโทษ เธอก็พร้อมที่จะให้คำว่าอภัยและไม่จองเวรต่อกัน ขอโทษ...คำขอโทษที่ว่านี้เธอเองก็สมควรที่จะกล่าวคำนี้กับกวีชาติเช่นกัน เนื่องจากเธอไม่ได้เข้ามาในชีวิตของกวีชาติเพราะคำว่ารัก ไม่ได้ทำแบบทดสอบของกวีวัชน์เพราะคำนี้เช่นกัน แต่ที่ทำลงไปทั้งหมด เพื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนา

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 51

    Chapter 51สองสัปดาห์ต่อมา ณ ไร่พฤกษา“คุณทอร์ชเร็วๆ หน่อยสิคะ ชักช้าอืดอาดอยู่ได้”เสียงหวานของเพลงมีนาเร่งเจ้าของไร่หนุ่มที่กำลังสวมใส่รองเท้าหน้าหงิกหน้างอ รองเท้าบูทคู่เก่งของเขาไม่ได้ใส่ยากใส่เย็นอะไรเลย แต่กวินภพกลับสวมใส่มันนานราวเกือบสิบนาที“จะรีบร้อนไปไหน ในเมืองมันไม่ถูกธรณีสูบไปวันนี้หรอก”เขาเงยหน้าเอ่ยบอกเพลงมีนาที่หน้าง้ำอยู่ข้างรถกระบะคันเก่ง ยานพาหนะที่จะนำร่างของทั้งคู่ไปยังตัวเมือง“รองเท้าคู่นี้ก็ใส่อยู่ทุกวี่ทุกวัน ปกติเห็นใส่มันไม่ถึงนาที แต่ทำไมวันนี้ใส่ช้าจังหรือว่าแกล้งคะ?” เพลงมีนาตั้งข้อสงสัย“ใครบอกว่าฉันแกล้ง ที่ฉันใส่ช้าเพราะมดมันไต่อยู่บนรองเท้าต่างหาก ฉันไม่อยากทำบาปฆ่ามันตาย เพราะไม่รู้ว่ามดมันตัวเมียหรือว่าตัวผู้ ไม่รู้ว่าเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่ ฉันไม่อยากทำบาปถ้าหากใช้มือปัดมันแรงไปมันก็อาจจะตายได้ แล้วถ้ามันไม่ตายแต่กลับพิการ มดตัวนี้ก็ต้องลำบากเข้าไปใหญ่ ใครจะดูแลมันฉันก็เลยต้องปล่อยให้มันเดินไปจนกว่าจะออกไปจากรองเท้าของฉันเองไง”เพลงมีนาค้อนขวับทันทีที่ได้ยินคำกล่าวอ้างที่ไม่สมเหตุสมผลแต่อย่างใด เป็นคำพูดที่กวนประสาทมากกว่า อย่างเขานี้หรือจะกลัวบาป

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 50

    Chapter 50 “อ๊า...อ๊า...คุณท็อป” เพียงรัมภาส่งเสียงครวญครางทันทีที่ปากหนาดูดเม้มยอดถันสีสวยสะดุดตา เริ่มจากข้างขวาเปลี่ยนมาเป็นข้างซ้าย โดยมีมือใหญ่ทำหน้าที่สลับปรับเปลี่ยนการทำงานไม่ต่างกับปาก ความสยิวซ่านแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่าง ฮอร์โมนปรารถนาเดือดระอุ ยิ่งมือใหญ่นวดเฟ้นหนักมือ ล้นหนาตวัดสะบัดยอดถันและทิ่มแทงเป็นบางครั้งบางครา ตบท้ายด้วยการใช้ปากดึงดูดเข้าไปในปากร้อนผ่าว สลับหมุนเวียนทั้งสองข้างทรวง ยิ่งทำให้เพียงรัมภากระสันเสียวมากขึ้นทุกวินาที เธอถึงกับทนไม่ไหวครางกระเส่าไม่หยุด “อ๊า...อ๊า...อืม คุณท็อป” เพียงรัมภาแอ่นทรวงอกให้เขาเชยชม แอ่นรับปากและลิ้นที่ทำงานแข็งขัน ความร้อนรุ่มในเกมกามไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอพียงคนเดียว เขาเองก็กำลังจะทานทนไม่ไหว ต้านทานเสน่หาที่เธอถ่ายทอดมาสู่ร่างกายเขาไมได้ ใกล้ชิดกันครั้งใด กวีวัชน์หลงลืมทุกสิ่งอย่างจนสิ้น ไม่นึกถึงสถานที่ ไม่นึกถึงความเหมาะสม นึกถึงเพียงสิ่งเดียวคือ เพลิงพิศวาสที่ต้องการปลดปล่อย ร่างงดงามถูกตวัดให้อยู่บนโซฟาตัวนุ่ม เขาไล่สายตามองความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าตาละห้อย ดวงหน้าหวานสวยตอน

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 49

    Chapter 49เอกวิทย์กับเดชดวงไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของเขา กวีวัชน์จึงไม่สามารถสั่งสอนดังใจคิดได้ เขาจึงเดินทางไปหาครอบครัวของสองหนุ่ม พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ได้รับรู้“ที่ผมพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง มันก็ขึ้นอยู่กับว่าทางพวกคุณจะอบรมสั่งสอนหรือทำยังไงให้ลูกหลานของพวกคุณหลาบจำ แต่ถ้าพวกคุณไม่มีจิตใต้สำนึกเหมือนกับสองคนนี้ ผมก็จนปัญญาที่จะพูด แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็ไม่แปลกที่สองคนนี้จะมีความเลวติดอยู่ในสายเลือด เพราะความเลวคงจะถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม แก้ไม่หายรักษาไม่ได้ก็ต้องชั่วไปจนตัวตาย ผมขอตัวนะครับ ขอตัวไปจัดการกับน้องเลวๆ ที่บ้านก่อน” กวีวัชน์พูดได้อย่างเจ็บแสบ และทำให้อีกฝ่ายสะอึก มองหน้าชายหนุ่มหน้าตาดีที่เดินจากไปอย่างอื้ออึง ยังไม่ทันที่เขาจะเดินผ่านประตูบ้านดี เสียงดุด่า เสียงทุบตีก็ดังขึ้น ครอบครัวของเดชดวงและเอกวิทย์ กำลังสั่งสอนลูกหลานให้หลาบจำ ซึ่งเขาเองก็กำลังจะกลับไปสั่งสอนกวีชาติที่บ้านเช่นกัน“พี่ท็อป ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจเดชกับโอมมันยุผมครับ” คนที่เพิ่งถูกทำร้ายและถูกว่ากล่าวพนมมือร้องขอความเห็นใจ พร้อมกับขอโทษเสียงสั่น“มึงไม่ต้องเอาความชั่วใส่คนอื่น ถ

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 48

    Chapter 48“คุณท็อปจะขอคำแนะนำอะไรรัมภาเชิญตามสบายเลยนะคะ ดิฉันขอตัวก่อน”“แม่ไม่อยู่ด้วยเหรอคะ?”เพียงรัมภาเอ่ยถามสตรีที่เปรียบเสมือนมารดาคนที่สองทันทีที่ได้ยินคำพูดของนาง น้ำเสียงที่ถามนั้นตกใจไม่น้อย จะให้อยู่ตามลำพังกับกวีวัชน์สองต่อสองอย่างนั้นหรือ ไม่ไหวแน่ๆ หากเป็นเมื่อก่อนเธอสู้ไม่ถอย แต่หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น หน้าเขาเธอก็แทบไม่กล้ามอง ความอายมันอาบซ่านเต็มดวงหน้า“แม่จะไปเยี่ยมสุดาที่โรงพยาบาลกับยุน่ะรัมภา รัมภาอยู่คุยกับคุณท็อปนะลูก” วนารัตน์ตอบเด็กในปกครอง ก่อนจะหันไปกล่าวคำลากับกวีวัชน์ “คุณท็อปคะ ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”“ครับ ตามสบายครับ สวัสดีครับ”กวีวัชน์พนมมือไหว้กล่าวลาตามมารยาท มองตามร่างวนารัตน์ที่เดินออกไปจากห้องด้วยรอยยิ้มร้าย และทันทีที่ประตูห้องปิดลง เขารีบลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังประตูบ้านนั้น แล้วกดล็อค“คุณจะล็อคห้องทำไม?”เสียงสั่นๆ ของเพียงรัมภาเอ่ยถาม ใจนึกหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ใช้สรรพนามคำว่าคุณ แทนพี่ที่เคยเรียกขาน“ก็จะได้คุยกันได้อย่างสะดวก ไม่มีใครมากวนไงล่ะ แล้วทำไมถึงไม่เรียกพี่เหมือนก่อน”เขาตอบกลับพร้อมเอ่ยถาม“ก็คุณไม่ใช่พี่ของฉันนี่ เรียกค

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 47

    Chapter 47รถทัวร์ 32 ที่นั่งที่วิ่งระหว่างจังหวัดลำปางมุ่งตรงสู่กรุงเทพมหานคร วิ่งไปตามถนนสายหลักด้วยความเร็วตามปกติ คนที่นั่งอยู่ในรถบางคนนอนหลับพักผ่อน บางคนนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นที่นำติดตัวมา บางคนนั่งทานขนมพร้อมกับมองไปยังด้านนอกตัวรถชมวิวข้างทาง แต่มีอยู่สตรีนางหนึ่งเอาแต่นั่งปาดน้ำตาเม็ดใสที่รินไหลลงมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆที่มาของน้ำตานั้นยังคงฝังรากลึกในจิตใจของเพียงรัมภา ความเสียใจมากพูน เป็นความเสียใจที่ไม่อาจหลุดออกไปจากหัวใจง่ายๆ ด้วย จะมีใครขจัดความเสียใจไปได้ เมื่อรู้ตัวว่าความสาว ความบริสุทธิ์ที่เพียรรักษาไว้ ถูกกระชากไปด้วยฤทธิ์ยากนรกนั่น แม้ว่าชายคนที่พรากสิ่งนั้นไปคือผู้ชายที่เธอรักก็ตามวันนี้ราวเที่ยงเศษร่างสาวที่นอนหลับใหลบนเตียงอย่างมีความสุข สะดุ้งตัวตื่นมาก็พบว่า ตนเองอยู่ในอ้อมกอดของกวีวัชน์ชายที่ตนเองรักวินาทีนั้นเพียงรัมภาทั้งตกใจ อื้ออึงและสับสน คิดว่าเป็นแค่เพียงความฝัน ลองหลับตาแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ยังเหมือนเดิม พอตั้งสติได้เพียงรัมภาก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นึกเท่าที่จะนึกได้และแล้ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status