วันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้น
เพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคย
หญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นสูงจับข้อมือใหญ่ ก่อนจะกระชากลงไปด้านล่าง เพื่อให้แก้มเนียนสวยเป็นอิสระ
“คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย ใครกันไอ้ธงไอ้ท็อป ใครที่เป็นดาวยั่ว ใครที่ทำให้คุณเจ๊ง ฉันไม่เคยทำเรื่องบ้าๆ อย่างนั้นหรอก คุณพูดมั่วๆ” คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังคงโต้เถียงกลับ ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“ปากดีเหลือเกิน เถียงเก่งนัก ปากแข็งอีกต่างหาก ฉันจะบอกเธออีกครั้งว่า เธอคือน้องหนู น้องหนูได้ยินมั้ย?” เขาตะโกนใส่หน้าเพลงมีนาเสียงดัง กรามขบกันแน่นด้วยแรงโทสะ
“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันชื่อเพลง ไอ้บ้าปล่อยฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่น้องหนูของคุณ”
“ใช่ เธอใช่น้องหนู”
“ไม่ใช่ ร้อยก็ไม่ใช่พันก็ไม่ใช่ อยากได้หลักฐานหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยากได้เดี๋ยวฉันจะหยิบพาสปอร์ตให้ดู”
“จะดูทำไม ก็ในเมื่อเธอคือน้องหนู”
“โอ้ย!!...พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่สิ คนบ้า”
ปากน่าจูบของสาวร่างเล็กตะเบ็งเสียงตอบกลับ เขามองปากจิ้มลิ้มที่ช่างเถียงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ปากคู่นี้เหมือนมีพลังดึงดูดให้เขาอยากสัมผัส แม้ว่าเธอจะคือคนที่สร้างความเจ็บใจให้กับเขามากก็ตาม
“ฉันจะถามเธออีกครั้งว่า เธอจะยอมรับว่าเธอคือน้องหนูหรือเปล่า?” เขาพูดอย่างคนใจเย็น ทว่าหน้าตาดุดัน
“ไม่!!...” เธอกระแทกตอบเสียงหนัก “ฉันไม่ใช่น้องหนู” ก่อนจะตะโกนใส่หน้าเขาอีกครั้ง
“ดี!!” กวินภพตอบคำเดียวเน้นๆ “ปากแข็งนักใช่มั้ย ได้เลย ฉันจะทำให้เธอยอมรับเองว่าเธอคือน้องหนูเอง”
ไม่ทันที่ฝ่ายหญิงจะทันตั้งตัว ร่างงดงามก็ถูกกระชากเข้าปะทะกับอกแกร่งของกวินภพอย่างรวดเร็ว ตวัดลำแขนรัดร่างนุ่มนิ่มกลิ่นกายหอมไว้ในอ้อนแขน ใช้มือใหญ่มือหนึ่งจับมั่นตรงท้ายทอย แล้วฉกจูบปากอวบอิ่มช่างเจรจาเร็วปานงูฉก
ริมฝีปากใหญ่บดเบียดเรียวปากนุ่มรุนแรงพอสมควรประหนึ่งลงโทษ ฉวยโอกาสตอนที่เธอตื่นตะลึงสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่โพรงปากสาวที่อุดมไปด้วยความหวามและกลิ่นหอมเย้ายั่ว พันรัดลิ้นเล็กที่สั่นระริกกับจูบแรกถูกกระชากไปอย่างซึ่งๆ หน้าและไม่เต็มใจ ความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านเข้าทุกเนื้อเยื่อภายในร่างกายของทั้งคู่
เพลงมีนาทั้งตื่นตระหนกและตกใจ ไม่คิดว่าชายหน้าตาหล่อตรงหน้าจะจาบจ้วงเธอได้มากขนาดนี้ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อในฉับพลัน แล้วในวินาทีที่ลิ้นร้ายของเขาเต้นระริกในช่องปากของเธอ ร่างสาวถึงกับอ่อนยวบ คิดอะไรไม่ออก งวยงง สมองมันเบลอไปหมด ปล่อยให้เขาลุกล้ำปลายลิ้นซอกซอนหาความหวานหอมอย่างไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
กวินภพไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ริมฝีปากของเธอจะน่าบดจูบถึงเพียงนี้ ยามที่บดริมฝีปากคั่วหารสชาติที่ไม่มีใครเหมือน ลิ้นสากใหญ่กระหวัดดื่มความหวานที่มาพร้อมกับความหอมระดับขั้นเทพ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ซ่านทรวงเหลือคณา แต่ทำไมหนอสาวช่างยั่วเช่นเธอ จึงจูบไม่เป็นสัปปะรดเช่นนี้ ปากสั่น ลิ้นเล็กถอยหนี ไม่โต้ตอบราวกับว่าไม่เคยผ่านการจูบมาก่อน ทั้งๆ ที่เธอน่าจะช่ำชอง
ไม่เพียงแค่คนที่ถูกจูบเท่านั้นที่ตกใจ คนที่นั่งอยู่ในรถต่างก็นั่งอ้าปากค้างตาค้างกันทุกคน จตุรทิศที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันกลับมามองสองร่างที่นั่งจูบกัน เจริญกรุงสารถีหนุ่มแทบจะเหยียบเบรกในวินาทีที่ได้เห็น ต่างก็ไม่คิดว่ากวินภพจะทำเยี่ยงนี้กับสาวเจ้าจอมยั่ว
“ทีนี้จะยอมรับได้หรือยังว่าเป็นน้องหนู?” คนที่ฉวยโอกาสจูบเอ่ยถามเพลงมีนาที่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ถ้าไม่ยอมรับจะจูบโชว์ทุกคนในรถนี้ แล้วฉันก็ไม่แคร์ถ้าจะทำมากกว่านั้น”
กวินภพพูดต่อโดยที่ไม่คลายอ้อมกอดจากร่างอิ่ม การกระทำของเขานั้นเรียกความตกใจให้กับเธอไม่น้อย แล้วยิ่งมาได้ยินประโยคถัดมานี้ด้วย ทำให้เพลงมีนารู้ว่าเขาทำตามที่พูดได้แน่นอน
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมรับล่ะ?” ความตกใจกลายเป็นความเสียใจ
...เสียใจที่ถูกเขาย่ำยีศักดิ์ศรี
…เสียใจที่ถูกเขาขโมยจูบแรกที่ปราศจากความรักและความอ่อนโยน
...เสียใจที่ตนเองไม่มีทางเลือก
…เสียใจที่ตนเองต้องยอมรับผิดโดยที่ตนเองไม่ได้ก่อ
“ก็จะทั้งฟันทั้งจูบบนรถนี้แหละ โชว์หนังสดให้ลูกน้องของฉันดูเป็นขวัญตา”
เขาตอบเสียงดังฟังชัด คนที่ได้รับคำตอบถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ทางเลือกของเธอดูเหมือนจะเหลือน้อยเต็มที ไม่ใช่สิ มันไม่มีเหลือเลย ไม่ยอมรับก็โดน ยอมรับไปก็ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มีอยู่ทางเดียวที่เธอจะเลือกได้
“งั้นยอมรับก็ได้” เธอตอบกลับเสียงอ่อย “ฉันยอมรับแล้วคุณก็ปล่อยฉันได้แล้ว”
เพลงมีนาสะบัดตัวไปมา ให้เขารู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่
“ไม่อยากกอดเท่าไหร่นักหรอก”
ชายหนุ่มเจ้าของรถปล่อยเธอให้เป็นอิสระ มือใหญ่ผลักร่างงามอย่างแรงจนร่างสาวไปกระแทกกับประตูรถยนต์อย่างแรง “นั่งเฉยๆ นะ ห้ามพูด ห้ามเถียง นั่งหายใจอย่างเดียวพอ ถ้ามีคำพูดหลุดออกมาจากปากเธอแม้แต่คำเดียว ฉันจะเอาปากของฉันปิดปากเธออีกรอบ” เขาขู่สาวสวยอีกรอบ ถลึงตาใส่คนตัวเล็กที่รีบซุกตัวอยู่บนเบาะด้านในสุดอย่างน่าสงสาร
เพลงมีนาหยุดพูดในวินาทีนั้น เธอสงบปากสงบคำตามที่เขาสั่ง เพราะกลัวว่าความบ้าบิ่นที่มีมากมายของชายหนุ่มที่บดจูบปากสาวเมื่อครู่ จะดีเดือดกระชากเธอไปจูบอีกครั้งหากไม่ทำตามข้อตกลง หญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องราวนั่งก้มหน้า น้ำตาหยดไหลลงบนหน้าขาของตัวเอง ตัดพ้ออยู่ในใจว่า ทำไมเธอต้องเจอะเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย ก่อนจะหันไปนอกหน้าต่างปล่อยน้ำตาให้ไหลรินโดยที่เขาไม่เห็น พลางครุ่นคิดไปตลอดทางว่า จะแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี
Chapter 47รถทัวร์ 32 ที่นั่งที่วิ่งระหว่างจังหวัดลำปางมุ่งตรงสู่กรุงเทพมหานคร วิ่งไปตามถนนสายหลักด้วยความเร็วตามปกติ คนที่นั่งอยู่ในรถบางคนนอนหลับพักผ่อน บางคนนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นที่นำติดตัวมา บางคนนั่งทานขนมพร้อมกับมองไปยังด้านนอกตัวรถชมวิวข้างทาง แต่มีอยู่สตรีนางหนึ่งเอาแต่นั่งปาดน้ำตาเม็ดใสที่รินไหลลงมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆที่มาของน้ำตานั้นยังคงฝังรากลึกในจิตใจของเพียงรัมภา ความเสียใจมากพูน เป็นความเสียใจที่ไม่อาจหลุดออกไปจากหัวใจง่ายๆ ด้วย จะมีใครขจัดความเสียใจไปได้ เมื่อรู้ตัวว่าความสาว ความบริสุทธิ์ที่เพียรรักษาไว้ ถูกกระชากไปด้วยฤทธิ์ยากนรกนั่น แม้ว่าชายคนที่พรากสิ่งนั้นไปคือผู้ชายที่เธอรักก็ตามวันนี้ราวเที่ยงเศษร่างสาวที่นอนหลับใหลบนเตียงอย่างมีความสุข สะดุ้งตัวตื่นมาก็พบว่า ตนเองอยู่ในอ้อมกอดของกวีวัชน์ชายที่ตนเองรักวินาทีนั้นเพียงรัมภาทั้งตกใจ อื้ออึงและสับสน คิดว่าเป็นแค่เพียงความฝัน ลองหลับตาแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ยังเหมือนเดิม พอตั้งสติได้เพียงรัมภาก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นึกเท่าที่จะนึกได้และแล้ว
Chapter 46“ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า แต่งตัวแบบนี้ไม่เหมือนกับตัวเองเท่าไหร่ ขอบใจมากนะที่ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันทำอะไรกับที่นี่ไว้บ้าง”ชุดที่เธอสวมใส่อยู่นี้เป็นชุดที่ไม่เคยสวมใส่มาก่อน และไม่มีมันอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอด้วย เป็นชุดที่เธอดัดแปลงมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ เพลงมีนานำกางเกงยีนส์ขายาวมาตัดขาออกจนสั้นกุดอวดเรียวขาเพรียวสวย เสื้อที่สวมใส่เป็นเพียงเสื้อกล้ามรัดติ้ว เวลาใส่จะอวดสรีระด้านบนอย่างชัดเจน วินาทีแรกที่เห็นตนเองในกระจกเงา ความกระดากอายเปื้อนเต็มดวงหน้าหวานทันที กล้าๆ กลัวๆ ที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง กว่าจะรวบรวมความกล้าได้ก็นานโข อีกทั้งยังคิดว่าหากไม่ทำเช่นนี้ อาจจะไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ และตอนนี้ก็ได้รู้ในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ไปเรื่องหนึ่งแล้ว เหลืออีกเรื่องหนึ่งที่เพลงมีนายังไม่รู้ เป็นความอยากรู้ที่ต้องการหาคำตอบมากที่สุดเพียงรัมภาทำแบบนี้ทำไม“น่าจะไปเปลี่ยนตั้งนานแล้ว ดีนะที่คุณทอร์ชไปดูไอ้แอนเดรียที่คอก ไม่งั้นระเบิดลงแน่”“ระเบิดไม่ลงหรอก เพราะฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ไปก่อนนะเดี๋ยวจะลงมาทำงาน”หญิงสาวพูดจบก็รีบสาวเท้าเดินกลับไปยังบ้านของเจ้าของไ
Chapter 45หลังจากที่ล่อลวงคนงานไปทำงานในไร่ปลายฟ้าก่อนเวลาเก็บผลผลิตหนึ่งวันได้สำเร็จ ผลพวงจากสิ่งที่น้องหนูทำนั้น ทำให้กวินภพเก็บผลผลิตไม่ทัน เนื่องจากขาดคนงาน เจ้าของไร่พฤกษาเสียเงินค่าปรับในการส่งสินค้าไม่ทันตามกำหนดไม่พอ ยังถูกเยาะเย้ยจากกวีวัชน์คู่อริคนสำคัญ ที่ไม่มีใครรู้เลยว่า ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนรักกันมาก่อน แต่ต้องมาขัดใจกันเพราะ กวินภพไปหักอกลูกพี่ลูกน้องสาวคนสวยของกวีวัชน์ ซึ่งญาติสนิทคนนี้กวีวัชน์รักมาก และนั่นทำให้ความเป็นเพื่อนของทั้งสองขาดสะบั้น กลายเป็นคู่อริร้ายเรื่อยมาพอกวีวัชน์รู้ข่าวว่ากวินภพมาซื้อที่ดินแปลงนี้เพื่อทำไร่เกษตรกรรม เขาก็มาซื้อที่ดินใกล้เคียงกับไร่พฤกษา กวินภพปลูกอะไร กวีวัชน์ปลูกอย่างนั้นบ้าง ชิงดีชิงเด่นกันทุกทางเท่าที่จะทำได้ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ใครเป็นผู้แพ้ก็ต้องได้รับการเยาะเย้ยจากผู้ชนะเสมอ แล้วดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่มีวันลงรอยกันด้วยและสิ่งที่ทำให้กวินภพแค้นใจมากที่สุดก็คือ เขาต้องแบกหน้าไปหาบิดาเพื่อขอเบิกเงินตามราคาค่าปรับที่ต้องจ่าย ซึ่งมันสูงมากจนเขาตกใจ แต่ก็ต้องจ่ายตามสัญญาที่ระบุไว้ กวินทร์ผู้เป็นบิดาให้เบิกเงินในส่วนที่เ
Chapter 44สามวันที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าเจ้าของไร่พฤกษาจะเกียจคร้านเป็นพิเศษ ปกติพอได้ยินเสียงไก่ขัน กวินภพจะดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวออกไปทำมาหากิน แต่ทว่าสองวันที่ผ่านมานี้ เสียงไก่ขันก็ผ่านมาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้วไม่มีวี่แววว่ากวินภพจะเคลื่อนไหวร่างกายหรือเปิดเปลือกตาเหมือนทุกครั้ง กลับนอนกกนอนกอดร่างเปล่าไร้อาภรณ์ของเพลงมีนาไม่ยอมปล่อย“จะไปไหนล่ะ ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ” เสียงงัวเงียของกวินภพดังขึ้น เมื่อร่างของคนที่เขากอดขยับตัว คล้ายว่าจะลุกจากที่นอน“สายแล้วค่ะ เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้วนะคะ ลุกไปทำงานได้แล้ว”เสียงหวานเอ่ยบอกร่างหนาที่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน กลับกระชับลำแขนที่รัดเอวเล็กไว้แน่น ประหนึ่งไม่อยากให้เธอลุกไปไหน“เดี๋ยวแปดโมงค่อยลุกก็ได้ เมื่อคืนเธอเรียกพลังฉันไปหมดฉันบอกว่าพอแล้วๆ เธอก็ไม่ยอมหยุดยั่วฉันซักที ทำให้ฉันต้องฟาดผัดฟักเธอทั้งคืน ไม่มีแรงตื่นตอนนี้หรอก”เธอหน้าแดงก่ำทันทีที่ได้ยินคำพูดหน้าตายของเขา เธอนั่นหรือยั่วยวนเขา และเขานั่นหรือที่ร้องบอกว่าพอ มีแต่เธอที่บอกให้เขาหยุดพัก หยุดความเสน่หาที่มีอยู่มากมายในร่างกายของเขาลงบ้างแต่กวินภพก็ไ
Chapter 43แรงกระแทกของกวีวัชน์ที่อัดใส่ไม่ยั้ง ทำงานกับปากหนาที่ก้มลงอ้าอมปลายถัน ไล้เลียด้วยลิ้นดุนดันอย่างสำราญ เร่งเร้าอารมณ์สาวให้เดือดพล่าน และนั่นเองที่ทำให้เธอค้นพบกับสรวงสวรรค์ เธอจึงรีบตะเกียกตะกายคว้าความสุขที่โหยหานั้นทันที“กรี๊ดดดดดดดดด พี่ท็อป”“สุดยอดรัมภา ตอดอย่างนี้แหละดีเหลือเกิน ขมิบได้สุดยอดมาก โอ้ว...”เขาครางเสมือนสัตว์ร้ายที่กำลังจะถูกฆ่า กายสาวบีบรัดตัวตนอย่างหนัก ไม่เพียงแค่บีบรัดเท่านั้น ยังตอดขมิบเป็นจังหวะตุ้บๆ อีกด้วย ขยับเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ช่วงเวลานี้เองที่สุดแสนจะมันสำหรับบุรุษ เพราะความแน่นขนัดที่ได้รับมันกระชากใจชาย ยิ่งเคลื่อนไหวเวลานี้ความเสียวสุดพุ่งทะลุเพดาน“โอ้ว...พระเจ้า สุดๆ รัมภา...เธอสุดยอดมากเลย”เสียงห้าวครางอย่างพอใจ กระแทกกระทั้นกลีบดอกกุหลาบงามต่อไปไม่หยุดพัก แม้ว่าเธอจะก้าวผ่านความสุขนั้นไปแล้ว แต่เขายังไม่ถึงและที่สำคัญ เขารู้ว่าฤทธิ์ยาในร่างของเพียงรัมภายังไม่หมด ยังมีเหลือเฟือสำหรับบทรักครั้งต่อๆ ไป“พี่ท็อป...อ๊า” สะโพกงามยกขึ้นสูง ส่ายร่อนบั้นท้ายรับแรงจังหวะที่เขาโถมเข้าใส่ ปากก็ร้องครางกระเส่า มือเรียวนุ่มล
Chapter 42เธอพูดได้เพียงเท่านี้ สติที่อยู่ในสมองมันไม่หลงเหลือให้คิดสิ่งใดเลย ไม่ได้คิดว่าคำขอร้องที่เอ่ยออกไปนั้น กำลังทำให้ความอดทนอดกลั้นของชายกำหนัดยุติลง และพรมจรรย์ที่รักษาไว้ก็จะถูกพร่าไป“ฉันก็ร้อนเหมือนกัน ร้อนมาก และไม่ทนแล้วด้วย”กวีวัชน์ลุกขึ้นยืน จัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองอย่างรวดเร็ว ความที่เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เป็นคนมีเลือดเนื้อมีความต้องการ ความปรารถนาที่รุกเร้ามาตั้งแต่อยู่ในรถ สะสมจนถึงตอนนี้ก็มากโข แล้วมันก็กำลังจะระเบิดในไม่ช้า ในเมื่อทนไม่ไหว อีกทั้งเธอยังผ่านอะไรมามากมาย ผ่านเขาอีกสักคนก็คงไม่เสียหลายและความคิดที่ว่าใช้ผู้หญิงร่วมกับน้องชาย คิดไปคิดมาเวลานี้สิทธิ์ในตัวของเพียงรัมภาไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้ การที่กวีชาติทำเรื่องชั่วช้าในค่ำคืนนี้ก็บอกอะไรหลายอย่าง หนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ กวีชาติไม่ต้องการเพียงรัมภาแล้วร่างสูงเปลือยเปล่าก้าวขึ้นมาบนเตียงในสภาพร่างกายล่อนจ้อน วินาทีนี้คงไม่ต้องโอ้โลมเพียงรัมภามากนัก เพราะเปลวเพลิงพิศวาสก็เผาผลาญร่างกายของเธอจนท่วมท้น แล้วยังจะเพลิงปรารถนาในร่างของเขาที่มีมากไม่ต่างกัน ทุกอย่างจึงพร้อมสรรพใน