LOGINวันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้น
เพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคย
หญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นสูงจับข้อมือใหญ่ ก่อนจะกระชากลงไปด้านล่าง เพื่อให้แก้มเนียนสวยเป็นอิสระ
“คุณพูดบ้าอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย ใครกันไอ้ธงไอ้ท็อป ใครที่เป็นดาวยั่ว ใครที่ทำให้คุณเจ๊ง ฉันไม่เคยทำเรื่องบ้าๆ อย่างนั้นหรอก คุณพูดมั่วๆ” คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวยังคงโต้เถียงกลับ ยิ่งเขาพูดเธอยิ่งไม่เข้าใจ
“ปากดีเหลือเกิน เถียงเก่งนัก ปากแข็งอีกต่างหาก ฉันจะบอกเธออีกครั้งว่า เธอคือน้องหนู น้องหนูได้ยินมั้ย?” เขาตะโกนใส่หน้าเพลงมีนาเสียงดัง กรามขบกันแน่นด้วยแรงโทสะ
“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันชื่อเพลง ไอ้บ้าปล่อยฉันลงจากรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ใช่น้องหนูของคุณ”
“ใช่ เธอใช่น้องหนู”
“ไม่ใช่ ร้อยก็ไม่ใช่พันก็ไม่ใช่ อยากได้หลักฐานหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยากได้เดี๋ยวฉันจะหยิบพาสปอร์ตให้ดู”
“จะดูทำไม ก็ในเมื่อเธอคือน้องหนู”
“โอ้ย!!...พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่สิ คนบ้า”
ปากน่าจูบของสาวร่างเล็กตะเบ็งเสียงตอบกลับ เขามองปากจิ้มลิ้มที่ช่างเถียงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ปากคู่นี้เหมือนมีพลังดึงดูดให้เขาอยากสัมผัส แม้ว่าเธอจะคือคนที่สร้างความเจ็บใจให้กับเขามากก็ตาม
“ฉันจะถามเธออีกครั้งว่า เธอจะยอมรับว่าเธอคือน้องหนูหรือเปล่า?” เขาพูดอย่างคนใจเย็น ทว่าหน้าตาดุดัน
“ไม่!!...” เธอกระแทกตอบเสียงหนัก “ฉันไม่ใช่น้องหนู” ก่อนจะตะโกนใส่หน้าเขาอีกครั้ง
“ดี!!” กวินภพตอบคำเดียวเน้นๆ “ปากแข็งนักใช่มั้ย ได้เลย ฉันจะทำให้เธอยอมรับเองว่าเธอคือน้องหนูเอง”
ไม่ทันที่ฝ่ายหญิงจะทันตั้งตัว ร่างงดงามก็ถูกกระชากเข้าปะทะกับอกแกร่งของกวินภพอย่างรวดเร็ว ตวัดลำแขนรัดร่างนุ่มนิ่มกลิ่นกายหอมไว้ในอ้อนแขน ใช้มือใหญ่มือหนึ่งจับมั่นตรงท้ายทอย แล้วฉกจูบปากอวบอิ่มช่างเจรจาเร็วปานงูฉก
ริมฝีปากใหญ่บดเบียดเรียวปากนุ่มรุนแรงพอสมควรประหนึ่งลงโทษ ฉวยโอกาสตอนที่เธอตื่นตะลึงสอดลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่โพรงปากสาวที่อุดมไปด้วยความหวามและกลิ่นหอมเย้ายั่ว พันรัดลิ้นเล็กที่สั่นระริกกับจูบแรกถูกกระชากไปอย่างซึ่งๆ หน้าและไม่เต็มใจ ความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านเข้าทุกเนื้อเยื่อภายในร่างกายของทั้งคู่
เพลงมีนาทั้งตื่นตระหนกและตกใจ ไม่คิดว่าชายหน้าตาหล่อตรงหน้าจะจาบจ้วงเธอได้มากขนาดนี้ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อในฉับพลัน แล้วในวินาทีที่ลิ้นร้ายของเขาเต้นระริกในช่องปากของเธอ ร่างสาวถึงกับอ่อนยวบ คิดอะไรไม่ออก งวยงง สมองมันเบลอไปหมด ปล่อยให้เขาลุกล้ำปลายลิ้นซอกซอนหาความหวานหอมอย่างไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
กวินภพไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ริมฝีปากของเธอจะน่าบดจูบถึงเพียงนี้ ยามที่บดริมฝีปากคั่วหารสชาติที่ไม่มีใครเหมือน ลิ้นสากใหญ่กระหวัดดื่มความหวานที่มาพร้อมกับความหอมระดับขั้นเทพ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ซ่านทรวงเหลือคณา แต่ทำไมหนอสาวช่างยั่วเช่นเธอ จึงจูบไม่เป็นสัปปะรดเช่นนี้ ปากสั่น ลิ้นเล็กถอยหนี ไม่โต้ตอบราวกับว่าไม่เคยผ่านการจูบมาก่อน ทั้งๆ ที่เธอน่าจะช่ำชอง
ไม่เพียงแค่คนที่ถูกจูบเท่านั้นที่ตกใจ คนที่นั่งอยู่ในรถต่างก็นั่งอ้าปากค้างตาค้างกันทุกคน จตุรทิศที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าคนขับหันกลับมามองสองร่างที่นั่งจูบกัน เจริญกรุงสารถีหนุ่มแทบจะเหยียบเบรกในวินาทีที่ได้เห็น ต่างก็ไม่คิดว่ากวินภพจะทำเยี่ยงนี้กับสาวเจ้าจอมยั่ว
“ทีนี้จะยอมรับได้หรือยังว่าเป็นน้องหนู?” คนที่ฉวยโอกาสจูบเอ่ยถามเพลงมีนาที่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ถ้าไม่ยอมรับจะจูบโชว์ทุกคนในรถนี้ แล้วฉันก็ไม่แคร์ถ้าจะทำมากกว่านั้น”
กวินภพพูดต่อโดยที่ไม่คลายอ้อมกอดจากร่างอิ่ม การกระทำของเขานั้นเรียกความตกใจให้กับเธอไม่น้อย แล้วยิ่งมาได้ยินประโยคถัดมานี้ด้วย ทำให้เพลงมีนารู้ว่าเขาทำตามที่พูดได้แน่นอน
“แล้วถ้าฉันไม่ยอมรับล่ะ?” ความตกใจกลายเป็นความเสียใจ
...เสียใจที่ถูกเขาย่ำยีศักดิ์ศรี
…เสียใจที่ถูกเขาขโมยจูบแรกที่ปราศจากความรักและความอ่อนโยน
...เสียใจที่ตนเองไม่มีทางเลือก
…เสียใจที่ตนเองต้องยอมรับผิดโดยที่ตนเองไม่ได้ก่อ
“ก็จะทั้งฟันทั้งจูบบนรถนี้แหละ โชว์หนังสดให้ลูกน้องของฉันดูเป็นขวัญตา”
เขาตอบเสียงดังฟังชัด คนที่ได้รับคำตอบถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ทางเลือกของเธอดูเหมือนจะเหลือน้อยเต็มที ไม่ใช่สิ มันไม่มีเหลือเลย ไม่ยอมรับก็โดน ยอมรับไปก็ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มีอยู่ทางเดียวที่เธอจะเลือกได้
“งั้นยอมรับก็ได้” เธอตอบกลับเสียงอ่อย “ฉันยอมรับแล้วคุณก็ปล่อยฉันได้แล้ว”
เพลงมีนาสะบัดตัวไปมา ให้เขารู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่
“ไม่อยากกอดเท่าไหร่นักหรอก”
ชายหนุ่มเจ้าของรถปล่อยเธอให้เป็นอิสระ มือใหญ่ผลักร่างงามอย่างแรงจนร่างสาวไปกระแทกกับประตูรถยนต์อย่างแรง “นั่งเฉยๆ นะ ห้ามพูด ห้ามเถียง นั่งหายใจอย่างเดียวพอ ถ้ามีคำพูดหลุดออกมาจากปากเธอแม้แต่คำเดียว ฉันจะเอาปากของฉันปิดปากเธออีกรอบ” เขาขู่สาวสวยอีกรอบ ถลึงตาใส่คนตัวเล็กที่รีบซุกตัวอยู่บนเบาะด้านในสุดอย่างน่าสงสาร
เพลงมีนาหยุดพูดในวินาทีนั้น เธอสงบปากสงบคำตามที่เขาสั่ง เพราะกลัวว่าความบ้าบิ่นที่มีมากมายของชายหนุ่มที่บดจูบปากสาวเมื่อครู่ จะดีเดือดกระชากเธอไปจูบอีกครั้งหากไม่ทำตามข้อตกลง หญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องราวนั่งก้มหน้า น้ำตาหยดไหลลงบนหน้าขาของตัวเอง ตัดพ้ออยู่ในใจว่า ทำไมเธอต้องเจอะเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย ก่อนจะหันไปนอกหน้าต่างปล่อยน้ำตาให้ไหลรินโดยที่เขาไม่เห็น พลางครุ่นคิดไปตลอดทางว่า จะแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี
กลับมาตอนนี้ และบางอย่างบอกให้ทั้งสองรู้ว่า เรื่องยุ่งยากกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า“เดี๋ยวพี่ไปหยิบเอกสารก่อนนะ”เจ้าของไร่สาวเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นบนทันทีที่พูดจบ ไม่นานเท้าใหญ่ก็นำพาร่างสูงมาถึงห้องนอนของตนเอง เดินมาหยิบเอกสารที่เขาสอดเก็บไว้ในลิ้นชักหัวเตียงร่างสูงยืนมองร่างของเชลยสาวที่นอนหลังขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ ร่องรอยป่าเถื่อนยังแต่งแต้มอยู่บนร่างกายของเธอถึงแม้ว่าผ้าห่มจะปิดคลุมกายแต่เขาก็รู้ดีว่ามันมีมากแค่ไหน ลำคอสาวเกิดรอยจ้ำจากการขบเม้มหลายที่ประโยคของจักรพงษ์ยังดังไม่เสื่อมคลายในหู “เพียงรัมภาไม่ผิด” ในเมื่อคนไม่ผิดแล้วเขาลงโทษอย่างไร้เหตุผล ในความเป็นจริงเขาต้องขอโทษเหมือนกับที่เขาขอโทษจักรพงษ์ ภายในใจของกวินภพจึงเต็มไปด้วยความสับสน ใจหนึ่งต้องการขอโทษเธอกับความดิบเถื่อนของตนเอง ในขณะที่อีกใจต่อต้านอย่างหนัก เพราะสิ่งที่เธอได้รับมันน้อยกว่าสิ่งที่ทุกคนในไร่พฤกษาได้รับแค่นี้มันจึงน้อยไป...กวินภพจึงเลือกที่จะเพิกเฉยร่างของเพลงมีนา เขาหมุนตัวเดินไปยังประตูห้องนอนแล้วเดินออกไป โดยไม่สนใจไยดีร่างสลบไสลไม่ได้สติของเธอ บ่ายวันเดียวกัน ร่างเล็กที่นอนหลับบ
เจ้าของไร่พฤกษายอมรับว่า อาหารฝีมือของเพลงมีนาไม่ได้เรื่อง แต่สีสันของผักกลับดูน่ารับประทาน เมื่อได้ชิมรสชาติก็หวานกรอบ เสมือนเพิ่งเด็ดมาจากต้น ทว่ากวินภพไม่คิดว่าเธอจะปลูกเองกับมือ อีกทั้งยังโขลกพริกแกงเอง ทำอาหารให้เขาด้วยใจ พัฒนาฝีมือการทำกับข้าวให้เขาพอใจและตลอดหลายวันมานี้อาหารรสชาติไม่ได้เรื่องของเพลงมีนาไม่ได้ตกถึงท้องเขาเลย เขาเพียงชายตาแลมองไม่คิดจะตักขึ้นมาชิมเหมือนก่อน จะเลือกรับประทานอาหารฝีมือเมธาวีมากกว่า หลายครั้งที่เขาเห็นน้ำตาเอ่อคลอเบ้าตาของเพลงมีนา เธอคงน้อยใจและเสียใจที่เขาไม่รับประทานอาหารรสชาติห่วยแตกฝีมือของเธอ กวินภพละที่จะสนใจความรู้สึกของแม่ครัวความจำเสื่อม เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ต้องการให้เธอเกิดความเจ็บช้ำ เป็นการล้างแค้นเพลงมีนาอีกทางความรู้สึกผิดเกาะกินใจกวินภพโดยไม่รู้ตัว เขาย้อนคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อวานนี้ เพลงมีนาโดนเขาทำร้ายจิตใจและร่างกายอย่างหนัก ราวกับมัจจุราชร้ายไร้ความปรานีที่ฉีกกระชากร่างสาวมอดไหม้เป็นธุลีกวินภพกำลังคิดว่า สิ่งที่เขาทำกับเพลงมีนาทั้งหมดนั้น มันมากพอกับสิ่งที่เขาสูญเสียไปหรือไม่ มากพอที่จะทำให้ความแค้นในครั้งนั้นลด
ไร่พฤกษาเวลาเช้า จักรพงษ์มานั่งรอเจ้านายขี้โมโหของตนในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าของเขายังมีรอยฟกช้ำม่วงแดงกระจายทั่วใบหน้า ปากแตก ลำแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อมีรอยจ้ำม่วงหลายจุด ยังไม่รวมขาและช่วงลำตัวมีร่องรอยความหึงหวงของกวินภพอีกหลายสิบจุด วันนี้เขาตั้งใจจะมาหาเจ้านายหนุ่ม เพื่ออธิบายทุกสิ่งอย่างให้เจ้านายหนุ่มเข้าใจ หากปล่อยไว้เช่นนี้ไม่เพียงแต่เขาจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ เพลงมีนาอาจจะโดนร่างแหไปด้วย บ่ายวานนี้หลังจากที่จักรพงษ์ถูกซ้อมจนสลบเหมือด พอฟื้นคืนสติเขาพาร่างบอบช้ำกลับไปยังบ้านพัก กินยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ ก่อนจะนำพาร่างของตนเองไปอาบน้ำและพักผ่อนเอาแรงในเวลาต่อมา จักรพงษ์หลับยาวจนถึงสองทุ่ม เขาจึงเดินไปหาพี่ชายและน้องชายบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พี่น้องฟัง พวกเขาลงความเห็นว่าจำต้องบอกความจริงให้กวินภพรู้ หากไม่บอกจักรพงษ์อาจจะโดนไล่ออก เพลงมีนาก็จะพลอยได้รับผลกระทบจากความเข้าใจผิดในครั้งนี้ ซึ่งท่าทางสาวความจำเสื่อมน่าจะได้รับโทษทัณฑ์นั้นไปแล้วไม่น้อย กวินภพเดินลงมาตามบันไดด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติเท่าไรนัก อารมณ์ของเขายังขึ้นๆ ลงๆ ความหึงหวงที่เขาไม่รู้ตั
กวินภพทนเห็นภาพนั้นไม่ไหว เขาทนไม่ได้ที่มือเล็กๆ และร่างกายของเพลงมีนาสัมผัสและใกล้ชิดกับชายอื่น ทนได้ยินคำพูดที่ว่าเธอจะหนีจากเขาไปไม่ได้ ความหึงหวงจึงกระตุ้นให้เขาทำในสิ่งที่ใครๆ ไม่คาดคิด มือใหญ่กระชากแขนเรียวเล็กอย่างแรง แรงจนกระดูกข้อต่อตรงหัวไหล่กับแขนแทบหลุด จากนั้นก็ทั้งลากทั้งกระชากร่างบอบบางไปยังน้ำตกตูม...เสียงของมีน้ำหนักกระทบกับน้ำเย็นเฉียบ น้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง ร่างของเพลงมีนาลอยละล่องมากระทบกับสายน้ำในลำธาร คนที่โยนร่างงามก้าวลงมาในน้ำ เดินลุยน้ำไปยังร่างของคนที่โผล่พ้นน้ำ ไอแค่กๆ สำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง“จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่า เธอคือเมียของฉัน เป็นของฉันคนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์”มือใหญ่ของคนขี้หึงจับตรงกลางศีรษะของเพลงมีนา แล้วจับกดจนใบหน้าสาวอยู่ใต้ผิวน้ำ เธอดิ้นรนสุดชีวิต มือทุบลงบนผิวน้ำจนน้ำกระจายกระเซ็นเป็นวงกว้าง เธอไม่ใช่ปลานะที่หายใจในน้ำ เพลงมีนาจึงสำลักน้ำและหายใจไม่สะดวกแล้วพอเขาดึงศีรษะเธอขึ้นมาเหนือน้ำ เพลงมีนาเกิดหอบหายใจแรง สูดลมหายใจเข้าไปในปอด ยังไม่ทันที่เธอจะสูดลมหายใจเต็มอิ่ม เขาก็กดศีรษะของเธอลงไปในน้ำใหม่“อื้อ...อื้อ...” เธอดิ้นและร้องอื้ออึงใน
เจ้าของไร่ค้างหมัดกลางอากาศ ปล่อยมือที่กำคอเสื้อจักรพงษ์ แล้วผลักร่างของอีกฝ่ายจนหงายท้องไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนพื้นดิน หันหน้ามามองเพลงมีนาด้วยสายตาประหัตประหาร ความโกรธแล่นพล่านจนเนื้อตัวของเขาสั่นไปหมด“เธอว่าอะไรนะ” คำถามมาพร้อมกับเสียงเหี้ยม ดวงตาลุกโชน “เธอว่าใครไม่ใช่ผัวเธอ ใครไม่ใช่”เขาถามคำถามให้ชัดเจนยิ่งขึ้น น้ำเสียงกัมปนาทก้องป่า ใบไม้ไสวตามแรงสั่นสะเทือน“ก็คุณไงล่ะ คุณไม่ใช่ผัวฉันแล้วฉันก็ไม่ใช่เมียคุณด้วย ฉันเป็นแค่นางบำเรอสนองตัณหาของคุณเท่านั้น มันจะแปลกอะไรที่ฉันจะมีอะไรกับใครก็ได้ มันไม่ได้ผิดศีลข้อไหนสักหน่อย”แม้ว่าเพลงมีนาจะกลัวและสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงอันน่าสะพรึงกลัว แต่ทว่าความโกรธและความไม่พอใจก็มีมากพอๆ กัน เธอจึงโต้กลับไปแบบไร้สติ“แสดงว่าเธอเคยนอนกับไอ้ต้อมใช่มั้ย”กวินภพกัดฟันถาม เส้นเลือดปูดขึ้นตรงแก้มตามรอยขบกัด มือทั้งสองข้างกำแน่น ดวงตาของเขานั้นไม่ต้องพูดถึง สามารถปลิดชีวิตของคนรอบข้างได้อย่างไม่ยาก“มันก็แล้วแต่คุณจะคิด”เพลงมีนาเลี่ยงไม่ตอบ ก้าวขาสั่นๆ ไปยังร่างของจักรพงษ์ที่แทบจะลุกไม่ขึ้น เพราะโดนไปหนักเอาการ ภาพของเพลงมีนาที่เข้าไปประคองร่างข
เพลงมีนากับจักรพงษ์เดินมาถึงเพิงพักท้ายไร่ ทว่าทั้งคู่ไม่ได้หยุดนั่งเหมือนกับที่ควรจะเป็น แต่กลับเดินไปยังหลังพุ่มไม้ใหญ่ที่เป็นแนวเขตป่า เขาและเธอเดินไปตามทางเล็กๆ ที่ทอดยาวไปยังจุดหมาย ตลอดสองข้างทางมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นรกครึ้ม เถาวัลย์ห้อยระโยงระย้า เสียงนกที่อาศัยอยู่ร้องประสานเสียง กระรอกตัวน้อยวิ่งไปตามกิ่งไม้ ลิงห้อยโหนไปมาจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นไม้อีกต้นหนึ่ง บ่งบอกถึงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์สองหนุ่มสาวเดินมาจนถึงน้ำตกที่มีความสูงห้าร้อยเมตร เป็นน้ำตกที่ไม่มีคนงานคนใดมาใช้ เนื่องจากต้องเดินเท้าเข้ามาราวสองร้อยเมตรกว่าจะถึง คนงานในไร่จึงหันไปใช้น้ำตกที่อยู่ใกล้กับคอกม้ามากกว่า อยู่ใกล้และเป็นน้ำตกที่ใหญ่กว่า“ดูสิพี่ต้อม มันออกดอกแล้วนะ ต้นโน้นก็ออกผลแล้วด้วย”เพลงมีนาชี้ไปยังพืชผักสวนครัวที่เธอแอบมาปลูกไว้ โดยมีจักรพงษ์เป็นคนหาสถานที่ในการเพาะปลูก และหาต้นกล้ามาให้เธอ ใบหน้าตื่นเต้นดีใจ ปลื้มอกปลื้มใจกับการออกดอกออกผลของพืชผักและต้นไม้เหล่านั้น“ดีใจอย่างกับเด็กไปได้ กะอีกแค่ต้นมะลิออกดอกกับต้นมะเขือมันออกลูก” จักรพงษ์ปากร้ายใจดีอดที่จะเหน็บแนมสาวร่างเล็กคนนี้ไม่ได้“แหม...ก็ค







