“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”
“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม
“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด
“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”
คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”
เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิม
กวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือของจตุรทิศมาปาใส่ร่างของหญิงสาว
กระเป๋าใบใหญ่ที่มีน้ำหนักมากเนื่องจากเธอใส่เครื่องมือสื่อสารไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์และไอแพด เธอจึงเจ็บจนจุกไปในทันทีเมื่อโดนกระแทก หนำซ้ำตรงช่วงขาที่ถูไถไปบนพื้นถนนคอนกรีตยังแสบร้อนไปทั้งขา โชคดีที่ว่าวันนี้เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ จึงทานแรงเสียดสีได้มากโข หากเธอสวมใส่กระโปรงมามีหวัง ขาของเธอต้องถลอกเป็นรอยแดงแน่นอน
ปัง...
เสียงปิดประตูโครมใหญ่ หลังจากที่เจ้าของรถสอดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ร่างเล็กที่ถอยร่นไปนั่งชิดติดประตูอีกด้าน นั่งมองหน้าเขานิ่งงัน มองทั้งน้ำตา
“ฮือๆๆ คุณทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
เพลงมีนาร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น เหลือบมองใบหน้าของเขาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าตักของตนเอง เมื่อเห็นประกายตาน่ากลัวคู่นั้น
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉันน้องหนู ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรไว้กับฉันบ้าง”
เสียงเข้มโต้กลับ ดวงตาคมกล้ามองเขม็งไปยังร่างสาวที่กอดกระเป๋าเอาไว้แน่น สายตาคู่นั้นแข็งกร้าว โกรธแค้น อยากจะเฉือนเนื้อเธอออกมาทาเกลือแล้วแปะทับเข้าไปใหม่ ให้เธอแสบร้อนครางครวญอย่างทุกข์ทรมาน
“ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันไม่ใช่ ฉันชื่อเพลงมีนา”
“อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน้องหนู อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ว่าตัวเองชื่อเสียงเรียงนามอะไร” เขาตวาดลั่นเสียงดังลั่นรถที่กำลังมุ่งตรงไปยังไร่พฤกษาจังหวัดลำปาง “อ๋อ!!...ฉันลืมไป ชื่อน้องหนูเป็นชื่อปลอม ชื่อจริงของเธอคงจะชื่อเพลงมีนาล่ะซิ”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชื่อน้องหนู ไม่เคยใช้ชื่อนี้ด้วย ฉันใช้แต่ชื่อเพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนาได้ยินหรือเปล่า ฉันชื่อเพลงมีนา”
เธอตะโกนใส่หน้าชายหน้าเข้มบ้าง พอตะโกนออกไปใจสาวก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เมื่อเขาเลื่อนลำตัวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาบีบแก้มทั้งสองข้างของเธอ จนแก้มเนียนสวยร้าวเจ็บไปทั่ว น้ำตาจึงขับออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง
“ใช่ เธอชื่อน้องหนู ฉันสมองไม่เสื่อม ตาไม่พร่ามัวถึงขนาดจำคนที่ทำให้ฉันเกือบจะเจ๊งไม่ได้หรอกนะ ฉันสู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปกับไร่นี้ตั้งหลายปี แต่พอเธอเข้ามาทำงานในไร่ของฉัน เธอก็สร้างความฉิบหายให้กับฉันอย่างมากมาย ยั่วยวนคนงานในไร่จนหลงหัวปักหัวปรำ ก่อนจะชักชวนให้ไปทำงานในไร่ของไอ้ท็อป พอพ้นวันกำหนดที่เก็บเกี่ยวเสร็จ เธอก็ให้ไอ้ท็อปมันถีบหัวคนงานทิ้ง ปล่อยพวกเขาลอยแพ ตกงานอย่างไม่ดูดำดูดี ส่วนเธอพอเป็นนกต่อเสร็จก็บินหนีอย่างไร้ร่องรอย สองเดือนมานี้ฉันไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย แล้วคงไม่โง่ปล่อยให้เธอเดินออกไปจากไร่นี้ง่ายๆ แน่ เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่ทำไว้กับฉัน”
กวินภพกล่าวอย่างเดือดดาล ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาเขาไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องการออกตามหาน้องหนูเลย เริ่มต้นหาจากป้านุ่มเพราะน้องหนูคือหลานสาวของนาง ทว่าพอไปคาดคั้นถามความจริงจึงปรากฏขึ้น น้องหนูไม่ใช่หลานของนาง แต่เป็นผู้จ้างวานให้นางพูดและทำเช่นนั้น กล่าวคือให้นางบอกกับเขาว่าขอลาหยุดไปรักษาตัวจนกว่าจะหาย แต่ระหว่างนั้นจะให้หลานสาวมาทำหน้าที่แทน แล้วที่ป้านุ่มยอมทำตามเป็นเพราะตอนนั้นหลานของนางเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับคู่กรณี ทำให้ตอนนั้นนางเดือดร้อนเรื่องเงินมาก พอน้องหนูยื่นขอเสนอในการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ และให้เงินค่าจ้างอีกจำนวนหนึ่ง ป้านุ่มจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของน้องหนู อีกทั้งไม่ได้ถามหรือคิดสงสัยเลยว่า เหตุใดน้องหนูจึงต้องการเข้าไปทำงานในไร่พฤกษามากขนาดนี้
ณ ตอนนั้นเขาไม่มีข้อมูลของน้องหนูเลย คำพูดของป้านุ่มส่งผลให้เขาเกิดทางตันขึ้นมาทันทีทันใด ความที่เธอเป็นหลานของป้านุ่มทำให้เขาไม่ได้ขอหลักฐานต่างๆ เช่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไว้ เขาจึงไม่ทราบเลยว่าชื่อน้องหนูคือชื่อจริงหรือว่าชื่อเล่น แต่
กวินภพก็ใช้หลักฐานที่มีอยู่น้อยนิดเป็นช่องทางออกตามหา เขาไว้วานให้วิกรมหลานชายของป้าพิณที่ทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอสืบเสาะหาข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ให้
ปรากฏว่าชื่อน้องหนูที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ไม่กี่คน แล้วไม่กี่คนที่ว่านี้หาใช่น้องหนูที่เขาต้องการตัวไม่ นั่นหมายความว่าชื่อน้องหนูเป็นเพียงชื่อเล่นหรือไม่ก็ชื่อปลอม กวินภพสันนิษฐานไว้เช่นนั้น คราวนี้ช่องทางการออกตามหาน้องหนูแทบจะไม่มีเลย เพราะหลังจากที่งานสำเร็จเธอได้อันตรธานไปจากไร่ปลายฟ้า หลอกถามคนในไร่แห่งนั้นก็ไม่ได้ความอีก
ส่วนคนงานในไร่ที่เคยหลงผิดไปทำงานในไร่ปลายฟ้า ต่างพากันมาขอพึ่งใบบุญกวินภพ เนื่องจากพวกเขาถูกปล่อยลอยแพ เงินเดือนที่มากกว่า สวัสดิการและความเป็นอยู่ที่เหนือกว่าไร่พฤกษาตามคำกล่าวชักชวนของน้องหนู ไม่ได้เป็นไปดั่งที่พวกเขาคิดเอาไว้ จนในที่สุดพวกเขาก็ถูกผลักไสให้ออกจากไร่ปลายฟ้าโดยเจ้าของไร่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ให้เงินเดือนครึ่งเดือนเท่านั้น
กวินภพรู้สึกสงสารคนงานเหล่านั้น แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเขาก็หนักหนาสาหัสเช่นกัน ไม่เพียงแค่เขาเก็บผลผลิตไม่ทัน ยังต้องเสียเงินค่าปรับไปเป็นจำนวนเงินไม่น้อย หากรับเข้าทำงานโดยไม่มีการลงโทษ มันก็กระไรอยู่ บทลงโทษของเขาไม่ใช่การซ้ำเติม แต่ทำให้ทุกคนรู้ว่าก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป ต้องไตร่ตรองให้หนักเสียก่อน เขารับคนงานทุกคนกลับเข้ามาทำงานในไร่ ภายใต้ข้อแม้ว่าเงินเดือนที่ทุกคนเคยได้รับ เขาจะหักออกหนึ่งส่วนเป็นระยะเวลาหกเดือน อาทิเช่น นายโม่งได้รับเงินเดือนสี่พันบาท ก็จะได้รับค่าจ้างเดือนละสามพันบาทแทน หากใครยินยอมตามข้อตกลงเขาก็เต็มใจรับเข้าทำงานใหม่ แต่ถ้าไม่ก็ไปหางานใหม่ทำ ซึ่งทุกคนต่างยอมรับกติกาที่กวินภพตั้งขึ้น คิดว่าดีกว่าตกงานไม่มีรายได้
กวินภพก็ใช้คนเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่ง ทางนั้นก็คือให้คนงานทั้งหลายเป็นหูเป็นตา หากใครพบเห็นน้องหนูให้รีบตระคลุบตัวเอาไว้ แล้วเขาจะเดินทางมาจัดการด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าพอจะเจอก็เจออย่างง่ายดาย
Chapter 47รถทัวร์ 32 ที่นั่งที่วิ่งระหว่างจังหวัดลำปางมุ่งตรงสู่กรุงเทพมหานคร วิ่งไปตามถนนสายหลักด้วยความเร็วตามปกติ คนที่นั่งอยู่ในรถบางคนนอนหลับพักผ่อน บางคนนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นที่นำติดตัวมา บางคนนั่งทานขนมพร้อมกับมองไปยังด้านนอกตัวรถชมวิวข้างทาง แต่มีอยู่สตรีนางหนึ่งเอาแต่นั่งปาดน้ำตาเม็ดใสที่รินไหลลงมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆที่มาของน้ำตานั้นยังคงฝังรากลึกในจิตใจของเพียงรัมภา ความเสียใจมากพูน เป็นความเสียใจที่ไม่อาจหลุดออกไปจากหัวใจง่ายๆ ด้วย จะมีใครขจัดความเสียใจไปได้ เมื่อรู้ตัวว่าความสาว ความบริสุทธิ์ที่เพียรรักษาไว้ ถูกกระชากไปด้วยฤทธิ์ยากนรกนั่น แม้ว่าชายคนที่พรากสิ่งนั้นไปคือผู้ชายที่เธอรักก็ตามวันนี้ราวเที่ยงเศษร่างสาวที่นอนหลับใหลบนเตียงอย่างมีความสุข สะดุ้งตัวตื่นมาก็พบว่า ตนเองอยู่ในอ้อมกอดของกวีวัชน์ชายที่ตนเองรักวินาทีนั้นเพียงรัมภาทั้งตกใจ อื้ออึงและสับสน คิดว่าเป็นแค่เพียงความฝัน ลองหลับตาแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ยังเหมือนเดิม พอตั้งสติได้เพียงรัมภาก็นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นึกเท่าที่จะนึกได้และแล้ว
Chapter 46“ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า แต่งตัวแบบนี้ไม่เหมือนกับตัวเองเท่าไหร่ ขอบใจมากนะที่ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันทำอะไรกับที่นี่ไว้บ้าง”ชุดที่เธอสวมใส่อยู่นี้เป็นชุดที่ไม่เคยสวมใส่มาก่อน และไม่มีมันอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอด้วย เป็นชุดที่เธอดัดแปลงมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ เพลงมีนานำกางเกงยีนส์ขายาวมาตัดขาออกจนสั้นกุดอวดเรียวขาเพรียวสวย เสื้อที่สวมใส่เป็นเพียงเสื้อกล้ามรัดติ้ว เวลาใส่จะอวดสรีระด้านบนอย่างชัดเจน วินาทีแรกที่เห็นตนเองในกระจกเงา ความกระดากอายเปื้อนเต็มดวงหน้าหวานทันที กล้าๆ กลัวๆ ที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง กว่าจะรวบรวมความกล้าได้ก็นานโข อีกทั้งยังคิดว่าหากไม่ทำเช่นนี้ อาจจะไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ และตอนนี้ก็ได้รู้ในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ไปเรื่องหนึ่งแล้ว เหลืออีกเรื่องหนึ่งที่เพลงมีนายังไม่รู้ เป็นความอยากรู้ที่ต้องการหาคำตอบมากที่สุดเพียงรัมภาทำแบบนี้ทำไม“น่าจะไปเปลี่ยนตั้งนานแล้ว ดีนะที่คุณทอร์ชไปดูไอ้แอนเดรียที่คอก ไม่งั้นระเบิดลงแน่”“ระเบิดไม่ลงหรอก เพราะฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ไปก่อนนะเดี๋ยวจะลงมาทำงาน”หญิงสาวพูดจบก็รีบสาวเท้าเดินกลับไปยังบ้านของเจ้าของไ
Chapter 45หลังจากที่ล่อลวงคนงานไปทำงานในไร่ปลายฟ้าก่อนเวลาเก็บผลผลิตหนึ่งวันได้สำเร็จ ผลพวงจากสิ่งที่น้องหนูทำนั้น ทำให้กวินภพเก็บผลผลิตไม่ทัน เนื่องจากขาดคนงาน เจ้าของไร่พฤกษาเสียเงินค่าปรับในการส่งสินค้าไม่ทันตามกำหนดไม่พอ ยังถูกเยาะเย้ยจากกวีวัชน์คู่อริคนสำคัญ ที่ไม่มีใครรู้เลยว่า ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนรักกันมาก่อน แต่ต้องมาขัดใจกันเพราะ กวินภพไปหักอกลูกพี่ลูกน้องสาวคนสวยของกวีวัชน์ ซึ่งญาติสนิทคนนี้กวีวัชน์รักมาก และนั่นทำให้ความเป็นเพื่อนของทั้งสองขาดสะบั้น กลายเป็นคู่อริร้ายเรื่อยมาพอกวีวัชน์รู้ข่าวว่ากวินภพมาซื้อที่ดินแปลงนี้เพื่อทำไร่เกษตรกรรม เขาก็มาซื้อที่ดินใกล้เคียงกับไร่พฤกษา กวินภพปลูกอะไร กวีวัชน์ปลูกอย่างนั้นบ้าง ชิงดีชิงเด่นกันทุกทางเท่าที่จะทำได้ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ใครเป็นผู้แพ้ก็ต้องได้รับการเยาะเย้ยจากผู้ชนะเสมอ แล้วดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่มีวันลงรอยกันด้วยและสิ่งที่ทำให้กวินภพแค้นใจมากที่สุดก็คือ เขาต้องแบกหน้าไปหาบิดาเพื่อขอเบิกเงินตามราคาค่าปรับที่ต้องจ่าย ซึ่งมันสูงมากจนเขาตกใจ แต่ก็ต้องจ่ายตามสัญญาที่ระบุไว้ กวินทร์ผู้เป็นบิดาให้เบิกเงินในส่วนที่เ
Chapter 44สามวันที่ผ่านมานี้ดูเหมือนว่าเจ้าของไร่พฤกษาจะเกียจคร้านเป็นพิเศษ ปกติพอได้ยินเสียงไก่ขัน กวินภพจะดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวออกไปทำมาหากิน แต่ทว่าสองวันที่ผ่านมานี้ เสียงไก่ขันก็ผ่านมาร่วมหนึ่งชั่วโมงแล้วไม่มีวี่แววว่ากวินภพจะเคลื่อนไหวร่างกายหรือเปิดเปลือกตาเหมือนทุกครั้ง กลับนอนกกนอนกอดร่างเปล่าไร้อาภรณ์ของเพลงมีนาไม่ยอมปล่อย“จะไปไหนล่ะ ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ” เสียงงัวเงียของกวินภพดังขึ้น เมื่อร่างของคนที่เขากอดขยับตัว คล้ายว่าจะลุกจากที่นอน“สายแล้วค่ะ เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้วนะคะ ลุกไปทำงานได้แล้ว”เสียงหวานเอ่ยบอกร่างหนาที่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน กลับกระชับลำแขนที่รัดเอวเล็กไว้แน่น ประหนึ่งไม่อยากให้เธอลุกไปไหน“เดี๋ยวแปดโมงค่อยลุกก็ได้ เมื่อคืนเธอเรียกพลังฉันไปหมดฉันบอกว่าพอแล้วๆ เธอก็ไม่ยอมหยุดยั่วฉันซักที ทำให้ฉันต้องฟาดผัดฟักเธอทั้งคืน ไม่มีแรงตื่นตอนนี้หรอก”เธอหน้าแดงก่ำทันทีที่ได้ยินคำพูดหน้าตายของเขา เธอนั่นหรือยั่วยวนเขา และเขานั่นหรือที่ร้องบอกว่าพอ มีแต่เธอที่บอกให้เขาหยุดพัก หยุดความเสน่หาที่มีอยู่มากมายในร่างกายของเขาลงบ้างแต่กวินภพก็ไ
Chapter 43แรงกระแทกของกวีวัชน์ที่อัดใส่ไม่ยั้ง ทำงานกับปากหนาที่ก้มลงอ้าอมปลายถัน ไล้เลียด้วยลิ้นดุนดันอย่างสำราญ เร่งเร้าอารมณ์สาวให้เดือดพล่าน และนั่นเองที่ทำให้เธอค้นพบกับสรวงสวรรค์ เธอจึงรีบตะเกียกตะกายคว้าความสุขที่โหยหานั้นทันที“กรี๊ดดดดดดดดด พี่ท็อป”“สุดยอดรัมภา ตอดอย่างนี้แหละดีเหลือเกิน ขมิบได้สุดยอดมาก โอ้ว...”เขาครางเสมือนสัตว์ร้ายที่กำลังจะถูกฆ่า กายสาวบีบรัดตัวตนอย่างหนัก ไม่เพียงแค่บีบรัดเท่านั้น ยังตอดขมิบเป็นจังหวะตุ้บๆ อีกด้วย ขยับเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ช่วงเวลานี้เองที่สุดแสนจะมันสำหรับบุรุษ เพราะความแน่นขนัดที่ได้รับมันกระชากใจชาย ยิ่งเคลื่อนไหวเวลานี้ความเสียวสุดพุ่งทะลุเพดาน“โอ้ว...พระเจ้า สุดๆ รัมภา...เธอสุดยอดมากเลย”เสียงห้าวครางอย่างพอใจ กระแทกกระทั้นกลีบดอกกุหลาบงามต่อไปไม่หยุดพัก แม้ว่าเธอจะก้าวผ่านความสุขนั้นไปแล้ว แต่เขายังไม่ถึงและที่สำคัญ เขารู้ว่าฤทธิ์ยาในร่างของเพียงรัมภายังไม่หมด ยังมีเหลือเฟือสำหรับบทรักครั้งต่อๆ ไป“พี่ท็อป...อ๊า” สะโพกงามยกขึ้นสูง ส่ายร่อนบั้นท้ายรับแรงจังหวะที่เขาโถมเข้าใส่ ปากก็ร้องครางกระเส่า มือเรียวนุ่มล
Chapter 42เธอพูดได้เพียงเท่านี้ สติที่อยู่ในสมองมันไม่หลงเหลือให้คิดสิ่งใดเลย ไม่ได้คิดว่าคำขอร้องที่เอ่ยออกไปนั้น กำลังทำให้ความอดทนอดกลั้นของชายกำหนัดยุติลง และพรมจรรย์ที่รักษาไว้ก็จะถูกพร่าไป“ฉันก็ร้อนเหมือนกัน ร้อนมาก และไม่ทนแล้วด้วย”กวีวัชน์ลุกขึ้นยืน จัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองอย่างรวดเร็ว ความที่เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เป็นคนมีเลือดเนื้อมีความต้องการ ความปรารถนาที่รุกเร้ามาตั้งแต่อยู่ในรถ สะสมจนถึงตอนนี้ก็มากโข แล้วมันก็กำลังจะระเบิดในไม่ช้า ในเมื่อทนไม่ไหว อีกทั้งเธอยังผ่านอะไรมามากมาย ผ่านเขาอีกสักคนก็คงไม่เสียหลายและความคิดที่ว่าใช้ผู้หญิงร่วมกับน้องชาย คิดไปคิดมาเวลานี้สิทธิ์ในตัวของเพียงรัมภาไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้ การที่กวีชาติทำเรื่องชั่วช้าในค่ำคืนนี้ก็บอกอะไรหลายอย่าง หนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ กวีชาติไม่ต้องการเพียงรัมภาแล้วร่างสูงเปลือยเปล่าก้าวขึ้นมาบนเตียงในสภาพร่างกายล่อนจ้อน วินาทีนี้คงไม่ต้องโอ้โลมเพียงรัมภามากนัก เพราะเปลวเพลิงพิศวาสก็เผาผลาญร่างกายของเธอจนท่วมท้น แล้วยังจะเพลิงปรารถนาในร่างของเขาที่มีมากไม่ต่างกัน ทุกอย่างจึงพร้อมสรรพใน