Share

บทที่ 8

“กระหม่อมคำนับองค์หญิงใหญ่!” เสิ่นจิ้นรีบก้าวออกไป “ไม่ทราบว่าท่านอ๋อง…”

องค์หญิงใหญ่ไม่ได้สนใจเขา พลันหันหน้ามองไปทางเสิ่นอวี้ ดวงตามืดครึ้ม แทบเก็บความโกรธแค้นไม่อยู่ “เจ้ามาทำอะไรอีก?!”

“หม่อมฉันคำนับองค์หญิง…”

เสิ่นอวี้พูดไม่ทันจบ องค์หญิงใหญ่ยกมือกะทันหัน พลันเหวี่ยงใส่ใบหน้านางอย่างแรง “เจ้ายังรู้หรือว่าเจ้าเป็นราษฎร? ใครให้ความกล้าแก่เจ้าวางแผนทำร้ายลูกข้า? แล้วเจ้านับเป็นตัวอะไร!”

เดิมทีนางก็ไม่ชอบเสิ่นอวี้อยู่แล้ว

หากไม่ใช่เพราะสัญญาณหมั่นของตระกูลเสิ่นกับตระกูลจ้านถูกกำหนดโดยอาวุโสรุ่นก่อนของทั้งสองตระกูล และมีจักรพรรดิองค์ก่อนเป็นพยาน นางคงถอนการแต่งงานครั้งนี้ไปนานแล้ว

ปัจจุบันจ้านอวิ๋นเซียวถูกเสิ่นอวี้นัดไปที่เขาเยี่ยนหนาน ทว่าสุดท้ายต้องกลับมาพร้อมกับร่างกายที่ถูกลูกศรพิษจนหมดสติ ความอดทนขององค์หญิงใหญ่มลายหายไปจนหมดแล้ว ตอนนี้เจอเสิ่นอวี้อีกครั้ง แทบอยากบดกระดูกนำไปโปรยทิ้งเสียเดี๋ยวนี้

เสิ่นอวี้โดนตบเข้าอย่างจัง ศีรษะที่วิงเวียนเพราะไข้อยู่แล้วในตอนแรก ยิ่งรู้สึกปวดหนักมากขึ้น

เกิดอาการวิงเวียนเป็นระลอก

แต่นางเข้าใจ ตนเองเป็นคนผิด

“ขอโทษเจ้าค่ะ”

นางกลืนน้ำลายทีหนึ่ง กล่าวขอโทษอย่างนอบน้อม จึงจะเงยหน้าขึ้นมองนาง

ในยามราตรี สีหน้าขององค์หญิงใหญ่น่าเกรงขามยิ่งนัก

นี่เป็นผลที่ได้รับอิทธิพลมาจากราชวงศ์มาอย่างยาวนาน ควบคู่จักรพรรดิองค์ก่อนโปรดปรานนางมาก จักรพรรดิองค์ปัจจุบันก็มีนางเป็นน้องสาวเพียงผู้เดียว ย่อมถูกยกยอจนสูงมาก…เมื่อนานวันเข้า ความน่าเกรงขามที่ถูกสั่งสมมายิ่งข่มคน

เช่นเดียวกับที่องค์หญิงใหญ่ไม่ชอบนาง นางก็ไม่ชอบองค์หญิงใหญ่เช่นกัน

โดยเฉพาะเมื่อชาติที่แล้ว เมื่อนึกถึงว่าต้องเป็นลูกสะใภ้ของผู้หญิงคนนี้ เสิ่นอวี้ก็รู้สึกสั่นสะท้านจากข้างในจิตวิญญาณ แทบอยากหนีไปให้ไกลหนึ่งหมื่นแปดพันลี้เสียเดี๋ยวนี้

หากพูดว่านางไม่ชอบจ้านอวิ๋นเซียว ให้คุณความดีกับหลิ่วอี๋เหนียงและซ่งหว่านฉิ่งหกส่วน และอย่างน้อยก็มีคุณความดีสี่ส่วนที่เป็นของคนตรงหน้าท่านนี้

ใครจะยอมให้แม่สะใภ้เช่นนี้กดขี่บ้างล่ะ?

ชาติที่แล้วเสิ่นอวี้ไม่ชอบนางอย่างยิ่ง โดยเฉพาะต่อมายิ่งบานปลายจนทั้งสองไม่ลงรอยกัน

ในงานเลี้ยงวันเกิดของพระชายาเฒ่า นางฉีกสัญญาหมั่นกับจ้านอวิ๋นเซียวต่อหน้าผู้คนโดยไม่รู้จักแยกแยะหนักเบา ทำให้จวนอ๋องหมิงหยางอับอายมาก และองค์หญิงใหญ่ก็สั่งให้สาวใช้ตบหน้านางไปหลายสิบทีต่อหน้าผู้คนเช่นกัน ตั้งแต่นั้นทำให้นางไม่สามารถเงยหน้าสู้ผู้อื่น ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งอยากให้ผู้หญิงคนนี้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้

เสิ่นอวี้ในตอนนี้ ที่จริงก็ไม่ชอบคนเช่นนี้

แต่นางติดค้างจ้านอวิ๋นเซียว และวันนี้ก็นับว่ารนหาความอับอายเอง

ลำคอเสิ่นอวี้มีกลิ่นคาวหวาน แต่ก็ยังมองนาง พลางฝืนกล่าว “องค์หญิงใหญ่สามารถด่าสามารถตีข้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือให้คนเข้าไปปลุกท่านอ๋องตื่นก่อนเจ้าค่ะ!”

“ข้าทำงานต้องให้เจ้าสอนหรือ?”

องค์หญิงใหญ่ได้ยินแล้วโกรธมาก ขันชื่อต่อว่าโดยตรง “หากเซียวเอ๋อร์ไม่ฟื้น ข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นชิ้น! เจ้ากับเสิ่นจิ้นเสิ่นลั่วสามคน วันนี้อย่าคิดว่าจะมีใครรอดออกจากจวนอ๋อง!”

ไม่ทันสิ้นเสียง เสียงปรอยๆ ดังขึ้น!

องครักษ์ลับของจวนอ๋องสิบกว่าคนปรากฏตัว ปิดล้อมเสิ่นอวี้เสิ่นจิ้นและคนอื่นไว้

เสิ่นจิ้นขวางเสิ้นอวี้ไว้ข้างหลังตามสัญชาตญาณ “องค์หญิงใหญ่ อวี้เอ๋อร์ไม่รู้ความ แต่นางก็ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน! นางเองก็เพิ่งฟื้นยังไม่หายดีเลย ก็ฝ่าสายฝนไปหาหมอให้ท่านอ๋องแล้ว หากท่านมีไฟโทสะอะไร ก็มาลงที่ข้าเถอะขอรับ!”

เสิ่นอวี้หวนคืนสติ หัวใจราวกับถูกมีดกรีด

ร่างกายเสิ่นจิ้นไม่นับว่าล่ำสัน ในบรรดาขุนนางของเมืองหลวง เขาตัวไม่สูง เป็นคนอ้วนที่กลมป่อง ปกติก็ไม่เห็นมีความสามารถใดๆ แต่วันนี้เพื่อปกป้องนาง กลับยืนขวางตรงหน้าองค์หญิงใหญ่อย่างหยาบคายไร้มารยาทโดยไม่คิดชีวิต

นางมีบิดาที่ดีเช่นนี้ เมื่อชาติที่แล้วกลับไม่เคยรักษาไว้

“ท่านพ่อ นี่ไม่เกี่ยวกับท่าน…”

เสียงเสิ่นอวี้สั่นเครือ ส่ายศีรษะดึงเขาไว้

ปรากฏว่าก่อนที่นางจะพูดจบ องค์หญิงใหญ่บันดาลโทสะแล้ว “เสิ่นจิ้น ลูกข้าหมดสติไม่ฝืน เจ้าพาลูกสาวของเจ้ามาอวดพ่อเมตตาลูกกตัญญูใช่หรือไม่? วันนี้ข้าจะสงเคราะห์พวกเจ้าเอง!”

เสียงซวาดังขึ้น องค์หญิงใหญ่ชักกระบี่

คมดาบชี้เสิ่นอวี้

ขณะกำลังจะลงมือ อวี้จู๋สาวใช้ของนางวิ่งออกมาอย่างเร่งรีบ พลางกล่าวเสียงเบา “องค์หญิงใหญ่ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ! ลมหายใจท่านอ๋องไม่สม่ำเสมอฉับพลัน หายใจติดขัด ใต้เท้าย่วนเจิ้งบอกเกรงว่าจะไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ!”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

องค์หญิงใหญ่โซเซเกือบล้ม

ป๋ายชีตกใจมาก รีบผลักเสวียโส่วไปข้างหน้า “ผู้เฒ่าท่านนี้ ท่านรีบไปดูท่านอ๋อง!”

เขาเคยเห็นทักษะการฝังเข็มของเสวียโส่ว แต่องค์หญิงใหญ่ไม่เคยเห็น และยังเป็นคนที่เสิ่นอวี้พามา ยิ่งไม่เชื่อใหญ่แล้ว พลันนางตะคอกเสียงแหบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”

ครู่ต่อมา คมกระบี่ชี้เสวียโส่ว “ใครส่งเจ้ามาลอบทำร้ายลูกข้า!”

เสิ่นอวี้ตกใจ นางกำลังจะพูด ทว่าเมื่อมองเห็นเสวียโส่วก็ตะลึงงัน

ในยามราตรี สายตาของเสวียโส่วราวกับมองเห็นคนอีกคนจากใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ แววตานั้นมีประกายวูบวาบ อารมณ์ซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ

พลันเสิ่นอวี้นึกขึ้นได้ : เสวียโส่วกับราชวงศ์หยวนมีความแค้นเลือด!

และองค์หญิงใหญ่หยวนเหอ เป็นน้องสาวแท้ๆ ของฮ่องเต้

ก็เป็นคนที่เขาจะฆ่าเช่นกัน!

พริบตาเดียว รู้สึกเพียงสถานการณ์ถึงจุดเดือด

ปราสาทของเสิ่นอวี้เริ่มตึงเครียด นางมัวแต่จะแก้พิษให้จ้านอวิ๋นเซียว กลับลืมไปว่ามารดาของเขาคือองค์หญิง ตอนนี้ทำอย่างไรดี?

ขณะที่นางคิดว่าเสวียโส่วจะทำอะไร สายตาของเขากลับค่อยๆ สงบลง กลายเป็นความยุ่งเหยิงที่คาดเดาไม่ได้ มององค์หญิงใหญ่อย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเฉยเมย “ดูเหมือนองค์หญิงใหญ่ไม่ต้องการให้เขาฟื้น”

องค์หญิงใหญ่ตะลึงงัน ได้ยินเพียงเขากล่าวต่อ “ก็สามารถเข้าใจได้ อย่างไรเสียตอนนั้นองค์หญิงใหญ่แต่งงานกับจ้านอวิ่นเทียน ก็ไม่ได้เต็มใจมากนัก ให้กำเนิดเด็กคนนี้ เป็นความอัปยศของท่านกระมัง?”

องค์หญิงใหญ่โซเซ

“ตกลงเจ้าเป็นใครกันแน่?”

เรื่องราวในตอนนั้น คนที่รู้และกล้าเอ่ยถึงเหลือไม่เยอะแล้ว

เสิ่นอวี้ตะลึงงัน มีบางสิ่งแวบเข้ามาในหัว แต่ครู่ต่อมาก็หายไป ไม่สามารถจับอะไรได้อีก

องค์หญิงใหญ่ไม่ชอบจ้านอวิ่นเทียนบิดาของจ้านอวิ๋นเซียว ถึงขั้นไม่ต้อนรับการถือกำเนิดของจ้านอวิ๋นเซียว ดังนั้นความสัมพันธ์ของจ้านอวิ๋นเซียวกับมารดาท่านนี้ไม่ดีมากนัก…

ไม่ ไม่ใช่

ที่แวบเข้ามาเมื่อครู่ไม่ใช่ข้อมูลนี้

บอกได้เพียงว่าเชื่อมโยงกัน

เสิ่นอวี้ขมวดคิ้วแน่น เจ็บจี๊ดต้องขมับ เหมือนมีบางสิ่งต้องการทะลวงออกจากศีรษะ แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยความล้มเหลว

ในภาวะชะงักสั่นๆ บรรยากาศอันตรายและตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

ป๋ายชีกระวนกระวายจนเดินวน เขารีบกล่าว “องค์หญิงใหญ่ ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้วขอรับ พวกหมอหลวงก็ร้อนรน ปล่อยให้ผู้เฒ่าท่านนี้ลองเข้าไปดูจะเป็นอะไร? อีกอย่างพ่อลูกตระกูลเสิ่นก็อยู่ที่นี่ หากพวกเขากล้าคิดไม่ซื่อ ไม่เท่ากับเอาชีวิตมาเสี่ยงหรอกหรือขอรับ?”

พูดพลาง หันไปเขม็งเสิ่นอวี้แวบหนึ่ง “แค่คิดพวกเขาก็ไม่กล้าขอรับ!”

เสิ่นอวี้เข้าใจสายตานั้น

ในสายตาของป๋ายฉี นางย่อมอยากให้ท่านอ๋องของเขาตายอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้นางไม่เคยปกปิด ป๋ายชีก็รู้อยู่แก่ใจเช่นกัน

เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ

เสิ่นอวี้เงยหน้ามององค์หญิงใหญ่ “ใช่เจ้าค่ะองค์หญิงใหญ่ พวกเราล้วนอยู่ที่นี่แล้ว ท่านจะกลัวอะไรอีก?”

องค์หญิงใหญ่สองมือกำหมัดแน่น จ้องนางอยู่พักใหญ่ จึงจะกัดฟันชี้เสวียโส่ว “ให้เขาเข้าไป แต่เจ้าไม่ได้! เขากล้ามีเจตนาร้ายเพียงน้อยนิด วันนี้ข้าจะทำให้พวกเจ้าตายไร้ที่ฝัง!”

เสิ่นอวี้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

เสวียโส่วมองนางอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง สายตากวาดผ่านใบหน้าองค์หญิงใหญ่ ยกเท้าเดินเข้าเรือนฉือเฟิงของจ้านอวิ๋นเซียว

และครู่ต่อมา แรงข่มขวัญทั้งหมดขององค์หญิงใหญ่ก็ทับลงบนตัวเสิ่นอวี้ นางตะคอก “คุกเข่าลง!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status