"หนิงหนิง"เซียวหลันยวนเข้ามาพอดี"คารวะท่านอ๋อง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงรีบทำความเคารพ"ไปเตรียมข้าวเช้าเถอะ จะไปกินกันที่เรือนหนิงโยว" เซียวหลันยวนโบกมือให้พวกนาง"่เจ้าค่ะ"สองสาวใช้รีบถอยออกไปฟู่จาวหนิงหมุนตัวเข้ามา มองไปทางเซียวหลันยวนเขายังคงสวมหน้ากากอยู่ดูเหมือนก่อนหน้าที่จะรู้แผนการขององค์จักรพรรดิเขายังไม่คิดจะเปิดเผยใบหน้าแท้จริงออกมาตอนนี้เขาสวมหน้ากากครึ่งหน้าไว้ จะดื่มน้ำหรือกินข้าวก็ไม่เป็นอุปสรรค เหมือนกับเขาสมัยก่อนเขาอยู่ในชุดคลุมผ้าไหมสีม่วงเข้มเหมือนเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ฟู่จาวหนิงจึงถามขึ้น "ไปพบอวิ๋นจูที่เรือนแขกมาหรือ?"ไม่เช่นนั้นจะไปลงโทษคนเขาไม่ทำตามกฎเกณฑ์ได้อย่างไรกัน?เซียวหลันยวนงงงันเขาสังเกตเห็นในพริบตาว่าอารมณ์ของฟู่จาวหนิงนั้นไม่ดีนัก"ข้ากับมาจากด้านนอก ทำไมต้องไปพบน้องอวิ๋นด้วยล่ะ?""ข้าได้ยินว่า ท่านอ๋องลงโทษห้ามนางกินข้าวหนึ่งวัน สาเหตุคือนางไม่ทำตามกฎระเบียบ เข้าไปในเรือนโยวหนิงโดยพลการ" ฟู่จาวหนิงเดินมาตรงหน้าเขา มือข้างหนึ่งทาบไปเบาๆ ที่หน้าอกเขา เงยหน้ามองเขา น้ำเสียงอ่อนนุ่ม "ข้าอยากจะถาม ว่ากฎระเบียบของจวนอ๋องนี้คืออะไรกัน? บอ
นางใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกเขา "อวิ๋นจูคนนั้นท่านไปพบมาแล้วหรือยัง? ทั้งขาวทั้งสวยแล้วก็น่าเอ็นดูด้วยนะ เมื่อคืนนี้ข้าเจอนางครั้งหนึ่งก็ทำเอานางโมโหจนสลบไปเลย ท่านคิดว่าข้าใจดำไปหน่อยไหม?""แล้วเจ้าถูกยั่วโมโหหรือเปล่า? ถ้าเจ้าถูกยั่วโมโหล่ะก็ ก็ไปอัดนางระบายโกรธเสียหน่อย" เซียวหลันยวนกุมมือนาง ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดตน ก้มหน้าลงจูบบนริมฝีปากนางครู่หนึ่ง "ใครให้เจ้าหน้าตาแบบนี้ล่ะ? ในใจข้า ไม่มีใครเทียบหนิงหนิงได้อยู่แล้ว"พูดจบ เขาก็จูบอย่างดูดดื่มยิ่งขึ้นฟู่จาวหนิงถูกเขาจูบจนตัวเริ่มอ่อนยวบ"ท่านอ๋อง..."หงจั๋วจะเข้ามาเชิญพวกเขาไปกินข้าวเช้าด้านนอก ผลคือพอเข้ามาก็เห็นทั้งสองคนกอดกันกลม จึงรีบถอยออกไปทันที ใบหน้าแดงก่ำท่านอ๋องกับพระชายานี่รักกันดีจริงๆก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ใช่แบบนี้นี่นา ดูท่าหลังจากนี้นางคงจะเดินเข้าไปก่อนอย่างเคยชินไม่ได้แล้ว ต้องส่งเสียงก่อนด้วยฟู่จาวหนิงยื่นมือไปจิ้มเอวเซียวหลันยวนนางเองก็ไม่ใช่ว่าด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินว่าหงจั๋วเดินเข้ามา แต่นี่ดันไม่ยอมปล่อยนางก่อนเสียอย่างนั้นเซียวหลันยวนจูบนางเสร็จ จึงปล่อยนางออกอย่างอาลัยอาวรณ์ ใช้ปลายนิ้
เซียวหลันยวนเหมือนไม่เคยเรียกองค์จักรพรรดิฮองเฮาไทเฮาอย่างจริงจังเลยฟู่จาวหนิงถูกเขาพูดมาเช่นนี้จึงไม่มีคำจะต่อแล้ว"ไม่ใช่ว่าใครก็จะมาเรียกข้าว่าพี่ชายได้" เซียวหลันยวนถึงอย่างไรก็เป็นคนที่นิสัยโดดเดี่ยวมากตอนเขายังเล็กมากก็ถูกวางยาพิษจนเกือบตาย คนข้างกายเขาเหล่านั้นก็ไม่จริงใจกับเขา ต่อให้พวกคนในวังที่มารับใช้ข้างกายเขาตอนที่ยังเล็กส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ขั้วอำนาจต่างๆ ส่งเข้ามาคอยจับจ้องเขาทั้งนั้น คิดหาวิธีเล่นงานเขาให้ตาย ทรมานเขา คนแบบไหนก็มีทั้งนั้นพวกพี่น้องหรือเหล่าองค์หญิงก็ล้วนเอาแต่แย่งชิงความโปรดปรานกันหมดตอนเขายังเล็กถูกพากลับเข้าวัง หลังจากที่ไท่ซ่างหวงปฏิบัติกับเขาเป็นพิเศษ พวกพี่น้องเหล่านั้นก็เข้าหาเขาด้วยเป้าหมายต่างๆ นานาเคยมีองค์หญิงเล็กคนหนึ่งทำดีกับเขา แต่ต่อมาเขาก็รู้ว่า นั่นเป็นเพราะน้องสาวคนนั้นรู้สึกว่าไท่ซ่างหวงเอ็นดูเขา ถ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับเขาหน่อย ไท่ซ่างหวงก็อาจจะเอ็นดูตามไปด้วยแม่นางคนนั้นแต่ก่อนก็เรียกเขาว่าพี่ชายพี่ชาย แต่หลังจากที่รู้เป้าหมายของนางที่ยังเล็กแล้ว เซียวหลันยวนก็ตีตัวออกห่าง และไม่ยอมให้ใครเรียกตนเองว่าพี่ชายอีกเลยถึงอย่า
ลากเวลามาได้นานขนาดนี้ องค์หญิงหนานฉือก็ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วยังอยู่ในเมืองหลวงมาได้ตลอดรอดฝั่งอีกคนที่แคว้นหนานฉือกู่ก็ไม่ได้เร่งรัดนาง องค์จักรพรรดิเลยปล่อยให้นางกินข้าวสบายอยู่ที่นี่หรือ?ยิ่งไปกว่านั้นเพราะอะไรองค์หญิงหนานฉือจึงมากับอันเหนียนล่ะ?เซียวหลันยวนให้ผู้ดูแลไปเชิญคนเข้ามาที่โถงหน้าเขากับฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าเสร็จจึงค่อยเดินออกไปพอเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โถงหน้า สายตาของฟู่จาวหนิงืก็ย้ายจากตัวอันเหนียนไปที่ตัวองค์หญิงหนานฉือ จากนั้นก็หันมามองหน้าอันเหนียนอีก"สองคนนี้มีอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมถึงอยู่ด้วยกันบ่อยจัง?"ฟู่จาวหนิงถามเซียวหลันยวนเสียงแผ่วแต่ว่า เซียวหลันยวนก็ไม่ตอบ นางมองออกถึงความผิดปกติขององค์หญิงหนานฉือ "ไม่ถูกสิ องค์หญิงหนานฉือทำไมถึงผอมลงไปขนาดนี้?"ใบหน้าก็เล็กลง เดิมทีเป็นสาวสวยคนหนึ่ง ตอนนี้พอหน้าเล็กลง ดวงตาจึงดูใหญ่ขึ้น สีหน้าขาวซีด ดูแล้วเหมือนอ่อนแอลงไปอย่างไรอย่างนั้นพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา องค์หญิงหนานฉือก็ลุกขึ้นยืนทันที"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกลับมาได้เสียที!"นางพูดคำนี้ออกมา แล้วรีบพุ่งโถมไปหาฟู่จาวหนิงนี่ราวกับเป็นเพื่อนเก่
"ข้าแต่งกับนางไม่ได้" อันเหนียนนิ่งงันไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นมา"มีอะไรไม่ได้กัน? ช่วงนี้องค์หญิงอย่างข้าเห็นชายหนุ่มในเมืองหลวงมาตั้งเยอะแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเข้าตาเลย ข้าเองก็กลับไปไม่ได้อีก มีแต่ท่านที่พอไปวัดไปวาได้ เช่นนั้นข้าก็จะแต่งกับท่านี่ล่ะ ไม่ได้ตรงไหนกัน?"องค์หญิงหนานฉือจ้องอันเหนียน ดูโมโหหน่อยๆ"องค์หญิง ข้าบอกกับท่านชัดเจนไปแล้ว สาเหตุท่านเองก็รู้อยู่""เหตุผลพวกนั้นข้าไม่ยอมรับ""นี่ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะยอมรับหรือไม่ ข้าไม่แต่ง ข้าแต่งด้วยไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเหลือบสบตากันสองคนนี้มันสถานการณ์อะไร?มาทะเลาะกันต่อหน้าพวกเขาตั้งแต่ไก่โห่?"ถึงอย่างไรข้าก็ไม่สน อย่างมากสุดในสามวัน องค์จักรพรรดิจะต้องให้ข้าแต่งให้ได้ ข้าก็แต่งได้กับท่านเท่านั้น ถ้าท่านไม่แต่งด้วย พรุ่งนี้ตอนค่ำๆ ข้าจะสั่งคนยกเกี้ยวเจ้าสาวพาขาส่งไปที่ประตูใหญ่จวนตระกูลอันของท่านเลย" องค์หญิงหนานฉือหัวเราะเย็นชาขึ้นมา จากนั้นก็พูดต่อว่า "แล้วข้าก็จะแก้ผ้ามุดประตูเข้าห้องนอนท่านด้วย""องค์หญิง..." อันเหนียนมุมปากกระตุก หน้าดำทมึนขึ้นมาแล้วฟู่จาวหนิงถลึงตาโตองค์หญิงหนานฉือบ้าดีเดือดขนาดนี้เ
องค์หญิงหนานฉือเองก็ตกตะลึงไปเช่นกันเซียวหลันยวนมองอันเหนียนนิ่งๆอันเหนียนหยิบม้วนหนังแกะที่ดูมีอายุม้วนหนึ่งออกมาจากในอก ม้วนหนังแกะนี้ออกเหลืองไปแล้ว และยังมีคราบดำๆ อยู่อีกด้วยชิงอีขึ้นมารับไป ส่งให้กับมือเซียวหลันยวนเซียวหลันยวนค่อยๆ กางม้วนหนังแกะออกดูอันเหนียนเองก็เอ่ยต่อว่า "ท่านอ๋อง องค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้มอบหมายงานให้กับข้า""ก็ไม่ใช่เพราะท่านไปยั่วโมโหองค์จักรพรรดิเขาจนไม่ได้รับการให้ความสำคัญ องค์จักรพรรดิจึงแอบลงโทษท่านเพื่อลดทอนความเฉียบขาดของท่านลงหรอกหรือ จึงสั่งงานเก็บกวาดของพวกข้าทาสมาให้ท่าน" องค์หญิงหนานฉือจุ๊ปากขึ้นมาอันเหนียนมุมปากกระตุกอีกครั้ง อธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง"ห้องเอกสารเก่าในวังไม่มีคนไปจัดการทำความสะอาดมานานแล้ว มีแต่พวกเอกสารทางการหนังสือเก่าๆ องค์จักรพรรดิจึงให้ข้าไปจัดการเสียหน่อย"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขาในห้องเอกสารเก่านั้นน่าจะมีพวกหนังสือบันทึกนับพันเล่มกองสุมกันอยู่ ก่อนหน้านี้มีคนในวังตายอย่างประหลาดอยู่ในนั้น ต่อมาก็มีคนได้ยินเสียงแปลกๆ ช่วงกลางดึก ดังนั้นในวังจึงลือกันว่าวิญญาณของคนในวังคนนั้นไม่ได้จากไปไหนเรื่องนี้เขาเคยได้ยิ
องค์หญิงหนานฉือกัดฟัน "ข้าขอดูหน่อยได้ไหม?"เซียวหลันยวนพยักหน้าองค์หญิงหนานฉือเดินขึ้นมา ก้มหน้าลงมองม้วนหนังแกะนางเองก็มองออกถึงตราประทับแคว้นหนานฉือเป็นหนานฉือของพวกนางจริงๆและเกาะซีอวิ๋นก็ถูกแบ่งอยู่ในตงฉิงจริงๆนางไม่รู้ว่าจะพูดอะไรขึ้นมาทันทีทำไมจึงเป็นเช่นนี้?คนของหนานฉือเข้าใจว่าเกาะซีอวิ๋นเป็นส่วนหนึ่งของหนานฉือมาโดยตลอด"แล้วตอนนี้เกาะซีอวิ๋นใครเป็นคนดูแล" เซียวหลันยวนถามองค์หญิงหนานฉือเอ่ยขึ้นมาอย่างลำบากพอควร "เกาะซีอวิ๋นมีกรมขนส่งทางทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ เชียนเจาอวิ๋นผู้ดูแลอันดับหนึ่งของกรมขนส่งทางทะเล เขา..."องค์หญิงหนานฉือพูดถึงจุดนี้ก็ชะงักไปอันเหนียนเห็นนางไม่พูดต่อ จึงเสริมคำพูดนางมาว่า "นายท่านเชียนจากกรมขนส่งคนนี้ เป็นบุคคลพิเศษในหนานฉือของพวกท่านกระมัง? เพราะนางเป็นหญิงสาว ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลเชียนก็มีหญิงสาวเป็นผู้นำมาตลอด ผู้ชายจะนับว่าแต่งเข้าไปในบ้านภรรยา คลอดเด็กออกมาก็ล้วนใช้สกุลเชียนทั้งหมด จะไม่ใช้นามสกุลของพ่อ บรรพบุรุษของตระกูลเชียนไม่ใช่คนหนานฉือ ที่มาของนางลึกลับ ความสามารถทางน้ำน่าทึ่ง แล้วยังถนัดการเดินเรืออีกด้วย..."หรือก็คือ ค
ฟู่จาวหนิงสังเกตเห็นท่าทางของเขา จนเกือบจะหัวเราะพรวดออกมานี่มันเกิดอะไรขึ้น นางออกไปครึ่งปีกว่า อันเหนียนกับองค์หญิงหนานฉือทำไมจึงเปลี่ยนไปแปลกๆ แบบนี้? น่าตลกจริงๆ"ถึงอย่างไร เรื่องที่ข้าไม่อยากแต่งงานทำไมต้องซับซ้อนเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้" องค์หญิงหนานฉือผายมือออกอย่างจนใจ "สามเดือนก่อนข้าก็ใช้เรื่องบาดเจ็บต้องพักรักษาตัวมาเป็นข้ออ้างเลื่อนแต่งงานไปแล้ว...""นั่นองค์หญิงไม่ได้วางแผนขึ้นมาเสียหน่อย ท่านบาดเจ็บจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอาการบาดเจ็บที่องค์หญิงทำขึ้นเองด้วย" อันเหนียนเอ่ยต่อมาเกือบจะพูดออกมาแล้วว่าเป็นเพราะนางโง่องค์หญิงหนานฉือกัดฟันถลึงตาใส่เขาฟู่จาวหนิงดื่มชามองพวกเขา อยากจะสาระแนเข้าไปจริงๆสองคนนี้พออยู่ด้วยกันแล้วก็ดูแปลกหน่อยๆ อันเหนียนไม่มีเกรงใจกับองค์หญิงหนานฉือเลยแม้แต่น้อยองค์หญิงหนานฉือเองพออยู่ต่อหน้าเขาก็ดูผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผย เป็นตัวของตัวเอง"องค์หญิงบาดเจ็บหรือ?" นางถามขึ้นมาคำหนึ่ง"อืม องค์หญิงคิดจะปฏิเสธการแต่งงาน ตอนนั้นหาวิธีดีดีไม่ได้ จึงออกไปล่าสัตว์ด้วยตนเอง คิดจะแกล้งหลงอยู่ในภูเขา หลอกให้ข้าออก
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม