พรวด!คำว่าอาสะใภ้อ๋องเจวี้ยนนี่ ทำเอาเซียวเหยียนจิ่งสำลักจนไอเลยเขาไม่เคยคิดทางด้านนี้มาก่อนเพราะเขาไม่เคยคิดจะมองฟู่จาวหนิงเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ เลย เข้าไปขวางรถม้าแล้วก็แต่งงานด้วย จะอยู่ได้นานสักแค่ไหนกัน?"ข้าไม่มีความคิดจะให้เซียวเหยียนจิ่งมาเรียกข้าว่าเสด็จอาเสียหน่อย" ใต้เงาไม้ทางนั้น อ๋องเจวี้ยนสีหน้ารังเกียจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมกับความหน้าหนาของฟู่จาวหนิงด้วยนี่ถึงกับจะให้คู่หมั้นคนที่แล้วเรียกนางว่าอาสะใภ้เลยหรือ?ชิงอีมุมปากกระตุก อยากจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้าพระชายายอดจริงๆ แต่งกับรัฐทายาทเซียวไม่ได้ แต่มาเป้นอาสะใภ้เขาแทน? นี่มันความสัมพันธ์ตะลึงฟ้าดินอะไรกันเนี่ย แต่ทำไมเขาถึงอยากจะหัวเราะนักนะ?ทางนั้น เซียวเหยียนจิ่งถูกฟู่จาวหนิงประโยคนี้เล่นงานจนว้าวุ่นไปหมด"ฟู่จาวหนิง เจ้า เจ้านี่มันไร้ยางอายเสียจริง""จงเจี้ยน ถ้าข้าทำให้ไปตบปากรัฐทายาทเซียว เจ้าจะกล้าไหม?" ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็หันหน้ามองจงเจี้ยนจงเจี้ยนสีหน้าตั้งใจ วิเคราะห์อย่างจริงจัง "พระชายา ถ้าหากพึ่งบารมีของท่านอ๋อง ข้าน้อยก็กล้าทำ ถึงอย่างไรต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีท่านอ๋องแบกรับไว้ได้"ชิง
หลี่จื่อเหยาถ้าตอนนี้พุ่งเข้าไป ถึงตอนนั้นไฟโกรธของอ๋องเจวี้ยนจะสาดมาที่นางด้วยแน่นอน"เจ้ากล้านัก"เซียวเหยียนจิ่งไม่ไหวแล้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้ที่เขาเตรียมตัวเรียบร้อย แต่ฟู่จาวหนิงก็ยังตบเขาได้อีกครั้ง!เขาคิดจะเรียกชื่อฟู่จาวหนิงออกมาอีกครั้งด้วยสัญชาตญาณ แต่พอเจอกับสายตาฟู่จาวหนิงก็กลืนมันกลับลงไปถ้าเขาตะโกนเรียกขึ้นอีกครั้ง ฟู่จาวหนิงคงได้ตบเขาอีกฉาดแน่!ให้ตายเถอะ เขารู้สึกได้เลยว่านางจะตบเขาอีกครั้ง!ก่อนหน้านี้เขาทำไมจึงไม่รู้เลยว่าฟู่จาวหนิงมีความสามารถเช่นนี้? ก่อนหน้านี้นางดูโง่โง่ บื้อบื้อจะตาย ทำอะไรก็ไม่เป็น ดูท่าทางเป็นคนโง่เขลาอยู่คนที่อยู่ที่นี่แต่ละคนล้วนนิ่งอึ้งเป็นไก่ไม้สลักฟู่จาวหนิงเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว คนที่เปลี่ยนคนแต่งงานกลางถนนที่พวกเขาซุบซิบนินมาแล้วตั้งหลายวันคนนั้น!ยิ่งไปกว่านั้น อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่พระโอรส แต่เป็นเสด็จอา!เดิมทีฟู่จาวหนิงที่เกือบจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวไปแล้ว เพียงพริบตาก็เปลี่ยนมาเป็นอาสะใภ้ของเขา!ฟู่จาวหนิงก็ยังกล้าหาญชาญชัย ตบฉาดใส่รัฐทายาทเซียวไปถึงสองครั้งแบบนี้!ให้ตายเถอะ คนที่ล้อมดูรู้สึกว่าหูตาของต
"ข้าก็อยากจะหาโอกาสถามอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย ว่าเขายอมให้เจ้ามารังแกคนอื่นเช่นนี้ด้วยหรือ?"เซียวเหยียนจิ่งหลังจากทิ้งคำพูดนี้ก็สะบัดชายเสื้อเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเขารู้สึกว่าคนทั้งหมดกำลังมองเขา เขาวันนี้ขายหน้าประชาชีไปหมดแล้ว! ถูกฟู่จาวหนิงตบฉาดไปสองทีต่อหน้าประชาชี หลังจากนี้เขาจะไปพบผู้คนได้อย่างไร?"ท่านพี่เซียว!"หลี่จื่อเหยาเห็นเซียวเหยียนจิ่งเดินไปเช่นนี้ จึงสาวเท้าไล่ตามออกไปโดยไม่ต้องคิด"จื่อเหยา!"หมอเทวดาหลี่ยื่นมือจะดึงนาง แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่งดึงไม่ทัน ทำได้แค่ถลึงตามองหลี่จื่อเหยาไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งที่เดินออกไปแล้วสีหน้าเขาดำทมึนขึ้นมาอับอายขายหน้า!นอกจากรัฐทายาทเซียวจะขายหน้าแล้ว หน้าของเขาก็ถูกผู้หญิงคนนี้ทำลายจนยับเยินด้วย เมื่อครู่ตอนที่พูดถึงเรื่องแต่งงานรัฐทายาทเซียวไม่ได้ต่อคำมาเลย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้เอาจื่อเหยาวางไว้ในใจเลย!จื่อเหยาที่คิดจะแต่งเข้าจวนชินอ๋องเซียว ดูท่าจะไม่ง่ายเสียแล้ว!หมอเทวดาหลี่ตอนนี้รำคาญเซียวเหยียนจิ่งขึ้นมาแล้ว ถ้าไม่คิดจะแต่งกับจื่อเหยาแล้วทำไมจึงเอาแต่จีบนางอยู่นั่น? ตอนนี้คนไม่น้อยล้วนรูแล้วว่าลูกสาวเขาวันวันเอาแต่วิ
"ก่อนหน้านี้ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณหนูฟู่ไม่เรียนรู้ไม่มีความรู้ วันวันแบกแต่ตระกร้าหลังทำท่าทำทางออกไปขุดยา ผลลัพธ์คือแต่ละครั้งก็ขุดมาแต่กองหญ้าวัชพืชกลับมา"หมอหม่าตอนนี้เอ่ยขึ้นเสียงประหลาดหมอเฉียนเพียงไม่นานหัวเราะตามขึ้นมาและไม่รู้ว่าเถ้าแก่รองหูพวกนั้นก็มาถึงที่นี่แล้วเช่นกัน เขายังมองไม่เห็นว่าข้างหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้ยินแค่คำพูดนี้ของหมอหม่า จากนั้นก็มองไปตามสายตาของหมอหม่า จึงเห็นฟู่จาวหนิงนางอีกแล้วหรือ?ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเอาแต่วิ่งเสนอหน้าในนี้ไปทั่วเลย?รองเถ้าแก่หูหัวเราะร่าขึ้นมาโดยไม่คิด"สที่แท้เจ้าก็คือคุณหนูตระกูลฟู่ที่ตกต่ำคนนั้นนี่เอง? ข้าได้ยินพวกในร้านคุยเรื่องของเจ้า มีครั้งหนึ่งเจ้าเอาผักโขมกอหนึ่งเข้ามาในโรงยาทงฝูของพวกเรา บอกว่าจะขายยา! ฮ่าๆๆ อยากจะหัวเราะให้ฟันหัก โรงยาของพวกข้าเอาเรื่องนี้ไปคุยเป็นเรื่องตลกกันนานพอดูเลย"หมอเทวดาหลี่พอเห็นคนต่อคำเข้ามาเย้ยหยันฟู่จาวหนิง ก็อดภาคภูมิขึ้นมาไม่ได้ เขาถลึงตากว้าง ร้องเรียกขึ้นมา"ไม่ขนาดนั้นกระมัง? เห็นผักโขมเป็นยาสมุนไพรหรือ?""มีเรื่องเช่นนี้ด้วย!"เถ้าแก่รองหูดึงออกมาคนหนึ่ง "ให้หมออู๋ลองพู
อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปทางซือถูไป๋สายตาของซือถูไป๋ตกอยู่บนใบหน้าฟู่จาวหนิงตลอดเขามองเช่นนี้ สายตาของพวกเขาทั้งสองมองไกลๆ เหมือนปะทะกันกลางอากาศแล้ว ซ้ำยังเกาะอยู่ด้วยกันเสียด้วยในใจอ๋องเจวี้ยนไม่รู้ทำไมถึงไม่สบายใจเอาเสียเลยซือถูไป๋แค่เหลือบมองก็เห็นฟู่จาวหนิงอยู่ในกลุ่มคนแล้ว แม้ว่านางจะสวมใส่ชุดที่ไม่สะดุดตา และไม่ใส่เครื่องประดับใด แต่ยืนอยู่นี่นั้นก็ยังคงจับเอาสายตาเขาไปอยู่ดีเขายิ้มออกมา รีบก้าวเข้ามาทางนี้แต่ไม่ต้องรอให้เขาพูดกับฟู่จาวหนิง รองเถ้าแก่หูก็มองเห็นเขาแล้ว เขาถลึงตาโต ไม่อยากจะเชื่อ "คุณชาย?"ตระกูลซือถูคือเจ้านายของเขา โรงยาทงฝูก็ล้วนเป็นของตระกูลซือถูรองเถ้าแก่หูตอนนี้รู้สึกว่าที่พึ่งของตนเองมาถึงแล้ว เขายกมือขึ้นพุ่งไปเบื้องหน้าไป๋ซือถู ร้องห่มร้องไห้เรียกขึ้นมา "ข้าน้อยคารวะคุณชาย คุณชายท่านมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ซือถูไป๋เดิมทีจะเดินไปทางฟู่จาวหนิง จู่ๆ ก็ถูกคนขวางเอาไว้ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา"เจ้าคือ?""คุณชายไป๋ ข้าน้อยคือรองเถ้าแก่หูร้านสาขาโรงยาทงฝูในเมืองหลวงแคว้นเจาขอรับ จ้าย้อนสกุลหู""โอ้" ซือถูไป๋พยักหน้า "ร้านสาขาทางนี้ก็ลำบ
อ๋องเจวี้ยนมองดูคู่ที่ยืนอยู่ตรงข้าม ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกขัดตา พอมองๆ ฟู่จาวหนิ่งยังยิ้่มให้ซือถูไป๋อีกด้วยยิ้มเสียเจิดจ้าเชียว?อ๋องเจวี้ยนยื่นมือกดบนต้นไม้ข้างๆ ใช้กำลังภายในออกมาอย่างไม่ทันระวัง ใบไม้ถูกสะเทือนจนทยอยร่วงลงมาแล้วชิงอีถลึงตาโต ลมฤดูใบไม้ร่วงแรงไปหรือ? ไม่นี่ ทำไมจู่ๆ ใบไม้จึงร่วงลงมากัน?"ข้ายอมให้นางเข้ามาดูอาการข้า"ตอนนี้เองฮูหยินที่อ่อนแอคนนั้นก็ส่งเสียงขึ้นฟู่จาวหนิงหมุนตัวเดินไปที่นาง"ท่านป้า ข้าจะดูอาการให้ท่านเอง ท่านผ่อนคลายไม่ต้องกังวล" ฟู่จาวหนิงดค้งตัวลงดูใบหน้านาง ยื่นมือไปกดเบาๆ บนใบหน้านาง"เจ็บไหม? มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง?""ไม่เจ็บไม่คันเลย เหมือนแต่ก่อน" ท่านป้ามองฟู่จาวหนิงใกล้เช่นนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา พระชายาอ๋องเจวี้ยนคนนี้หน้าตาดีเหลือเกิน"ตอนที่นอนหลับท่านชอบตะแคงนอนทางนี้ใช่ไหม? แล้วตอนที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า หน้าด้านนี้ก้ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม อย่างอาการชาอะไรพวกนี้"ฟู่จาวหนิงถามไปด้วยจับชีพจรไปด้วยฮูหยินรู้สึกว่านางอ่อนโยนมาก พูดจาเองก็แผ่วเบาละเมียดละไม อย่างกับคนละคนกับตอนที่ตบฉาดสองทีที่หน้าของรัฐทายาทเซียวเลยฟู่จาวห
"หมอเทวดาหลี่เองก็ไม่อดทนเอาเสียเลย สู้ไปหาสถานที่ฟังเพลงดื่มชาเสียดีกว่า อย่ามารออยู่ที่นี่เลย"ฟู่จาวหนิงเหล่มองหมอเทวดาหลี่ผาดหนึ่ง ประชดประชันกลับไป "เมื่อครู่ตัวเองก็พูดไร้สาระไปครึ่งค่อนวัน ตอนนี้ข้าจะใช้ชามเล็กมาพิสูจน์การพิจารณาของตนเอง หมอเทวดาหลี่ก็รอไม่ไหวเสียแล้วหรือ?"ใบหน้าหมอเทวดาหลี่ร้อนวูบวาบ แต่หลักๆ คือโทสะเขาโกรธฟู่จาวหนิงขึ้นแล้วจริงๆก็แค่หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าเขาไม่ใช่แค่สองรอบคนหนึ่ง แต่พูดจาไม่เคารพเขาเลย!"ได้ เจ้าทำต่อไปสิ"เขาเองก็จะดูเสียหน่อยว่าจะดิ้นรนเอาผลลัพธ์อะไรออกมากันคนรอบๆ เองก็ดูอยากรู้อยากเห็นมาก ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงเอาชามเล็กออกมาเทน้ำลงไปครึ่งหนึ่งทำไม"นี่เป็นน้ำสะอาดใช่ไหม?" ฮูหยินเองก็ถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น"ไม่ใช่ นี่เป็นยาน้ำน่ะ" ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกอดทนต่อคนป่วยอยู่ "สิ่งนี้สามารถละลายวัตถุได้ ด้านในมีสีอะไรอยู่ก็จะปรากฎออกมา""เส้นผมจะมีสีอะไรได้อีกล่ะ? ไม่ใช่ว่าสีดำหรอกหรือ?" คนรอบๆ พูดออกมาคำหนึ่งส่วนซือถูไป๋กลับครุ่นคิด "เมื่อครู่ท่านป้าคนนี้บอกว่านางย้อมผมมา ที่ออกมาก็น่าจะเป็นสีของน้ำยาย้อมผมกระมัง?"ฟู่จาวหนิงส่
หมอเทวดาหลี่รู้สึกโกรธขึ้นบ้างแล้วถ้าเป็นเช่นนีค้จริง เช่นนั้นตรวจไข้เมื่อครู่นี้ของเขาก็กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วสิ?!"ข้าบอกแล้ว ข้าก็แค่พิสูจน์การพิจารณาของตนเอง ตอนนี้สีก็สอดคล้องกัน ข้าจะตรวจสอบอีกครั้ง" ฟู่จาวหนิงล้วงเข็มอีกหลายเล่มออกมา"ท่านอาจารย์ ต้องการไฟเทียนกับผ้าทำแผล" นางพูดกับผู้อาวุโสอีกครั้งผู้อาวุโสจี้ถีบคนข้างๆ อีกครั้ง "เร็ว ไปหยิบไฟเทียนกับผ้าทำแผลมาเร็ว""ศิษย์เอ๋ย เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ เจ้าเองก็เป้นหมอคนหนึ่ง ไม่มีกล่องยาได้อย่างไร? เดี๋ยวอาจารย์จะมอบให้เจ้าใบหนึ่งเอง" ผู้อาวุโสจี้พูดกับฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงคิดถึงกล่องยาน้อยใหญ่ในห้องเภสัชของตนเองขึ้นมานางไม่ใช่ว่าไม่มี กล่องยาของนางระดับสูงอยู่นะ หยิบออกมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ดูท่านางต้องเตรียมกล่องยาสำหรับทางนี้แล้วสักใบจริงๆ"ขอบคุณท่านอาจารย์"ซูถูไปตาเปล่งประกายกล่องยาหรือ? เขาเหมือนรู้แล้วว่าตนเองต้องมอบอะไรให้นางไฟเทียนจุดเสร็จแล้ว ฟู่จาวหนิงนำมาใช้เผาเข็มเงิน อันที่จริงเข็มเงินของนางเองก็ฆ่าเชื้อในห้องเภสัชมาแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังเคยชินที่จะทำอีกครั้ง อย่างน้อยก็ทำให้หมอคนอื่นหลังจากที่
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ