ฟู่จาวหนิงยังคิดอยู่ ว่าวันนี้ไห่ฉางจวิ้นทำไมถึงไม่โผล่มาเสียทีครั้งที่แล้วก่อนที่นางจะออกไปทิ้งคำพูดไว้ แล้วก็ไม่โผล่ออกมาเลย ฟู่จาวหนิงก็นึกอยู่ว่าเรื่องอะไรที่ยังทำไม่เสร็จตอนนี้พอเห็นไห่ฉางจวิ้นมาแล้ว ฟู่จาวหนิงก็วางใจขึ้นมาไห่ฉางจวิ้นพอมาถึง ซือถูไป๋ก็ขยับตัวเข้ามาขวางสายตาที่นางจ้องเขม็งฟู่จาวหนิงไว้ด้วยสัญชาตญาณ"คุณชายซือถู?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา แต่พอเห็นว่าเขาคิดจะมาปกป้องฟู่จาวหนิง ไฟโกรธของนางก็ปะทุขึ้นมาแล้ว"ฟู่จาวหนิง ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ยืนขึ้นมา หลบอยู่ด้านหลังคุณชายซือถูทำไมกัน?" ไห่ฉางจวิ้นเอ่ยขึ้นเย็นชาฟู่จาวหนิงเก็บของเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาจากศาลาฮูหยินคนนั้นเองก็กำลังขอบคุณนางจากนั้นก็รีบกลับบ้านไป นางจะรีบไปบอกข่าวดีกับคนที่บ้านส่วนคนอื่นก็ล้วนพาคนไข้เข้ามา แล้วยังมีคนนำวัตถุดิบยาที่อยู่ในกล่อง วิธีเดิมพันต่างๆ ก็เริ่มขึ้นมา หมอคนอื่นเองก็กำลังวุ่นวายขึ้นพวกเขาอยากจะจับตาดูฟู่จาวหนิงต่อ แต่อะไรก็ไม่ได้สำคัญกว่าการเดิมพันหมอการรู้จักยาของพวกเขารอบๆ มีเสียงจอแจขึ้นมา ฟู่จาวหนิงเก็บของเดินออกมาอีกด้านหนึ่ง ห่างออกจากกลุ่มคนหน่
นางมองไปทางซือถูไป๋อาเพียนก็โมโหขึ้นทันที มายืนอยู่ข้างหน้าซือถูไป๋ "เจ้าเป็นบ้าหรือไรกัน? คุณชายของข้าเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า? แล้วเจ้าจะมาเดิมพันถึงตัวคุณชายข้าได้อย่างไร?"เขาหันหน้าไปเอ่ยกับซือถูไป๋ "คุณชาย พวกเราไปเถอะ อย่าไปสนใจพวกนางเลย!"น่าขันเสียจริง!"แม่นางไห่คิดจะเดิมพันอย่างไร?" ซือถูไป๋กลับยืนนิ่งไม่ขยับ เอ่ยถามไห่ฉางจวิ้นขึ้นมาอย่างอ่อนโยน"คุณชาย?" อาเพียนถลึงตาโตมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ หรือว่าคุณชายจะรับปากเดิมพันจริงๆ?"ข้ากับนางมาแข่งความรู้เรื่องยาสมุนไพร วันนี้เดิมทีก็มีการแข่งรู้จักสมุนไพรนี่ พวกเขาล้วนนำเอาวัตถุดิบยาล้ำค่าของตนเองออกมา ข้าจะแข่งกับนางว่าใครรู้จักมากกว่ากัน!"ไห่ฉางจวิ้นี้ไปที่ลานแห่งหนึ่งที่ไม่ห่างออกไปนัก ที่นั่นคนมีคนมากมายนำเอาวัตถุดิบยาออกมาจริงๆ และมีคนกำลังพิจารณาอยู่ที่นั่นด้วยฟู่จาวหนิงมองไปทางผู้อาวุโสจี้ ผู้อาวุโสจี้พยักหน้าสิ่งที่พันธมิตรโอสถใต้หล้ากับโรงหมอเมตตาจะแข่งขันกันก็คือสิ่งนี้!ในเมื่อผู้อาวุโสจี้เองก็จะเข้าร่วมสิ่งนี้ เช่นนั้นจะตอบรับไห่ฉางจวิ้นไปก็ได้ แต่การเอาซือถูไป๋มาเดิมพันเป็นหลัก นางเองก็ไม่ได้บ้าระดับนั้น
ไม่รู้เพราะอะไร ตอนที่ไม่ได้เห็นอ๋องเจวี้ยน ไห่ฉางจวิ้นรู้สึกว่าซือถูไป๋หล่อเหลาไร้เทียมทาน แต่พออ๋องเจวี้ยนปรากฎตัว นางก็รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนท่วงท่าชนะขาดลอยถึงแม้อ๋องเจวี้ยนจะสวมหน้ากากจนมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่ท่วงท่าของเขาที่แสดงออกมานั้น ก็ยังเป็นเป็นประเภทที่จะมองท่วงท่าหรือมองรูปร่างหน้าตาก็ยังเป็นชายงามไร้เทียมทานไห่ฉางจวิ้นมองจ้องไปที่อ๋องเจวี้ยน"ข้าคิดจะเดิมพันกับฟู่จาวหนิง! ถ้าหากนางแพ้ ข้าต้องการให้ท่านอยู่กับข้าสามวัน"เพราะฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้เดินออกมา จึงห่างจากกลุ่มคนมาพอประมาณ คนอื่นจึงไม่ได้ยินว่าพวกเขาทางนี้กำลังคุยอะไรกัน แต่พวกเขายืนกันอยู่ตรงนี้ก็ดึงดูดสายตามาก มีคนไม่น้องกำลังมองมาทางนี้"บังอาจ!"ชิงอีพอได้ยินคำพูดไห่ฉางจวิ้นก็โกรธขึ้นมาแล้ว"ข้าไม่ได้จะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียหน่อย ก็แค่ให้ท่านอ๋องของพวกเจ้ามาอยู่กับข้าสามวันก็พอ!"คำพูดไห่ฉางจวิ้นสั่นสะเทือนคนทั้งหมดนี่มันแม่นางที่มาจากไหนกันเนี่ย หนังหน้าทำไมจึงหนาขนาดนี้!ซือถูไป๋มองอ๋องเจวี้ยน สีหน้าอ่อนโยนแต่เดิมก็เก็บลงมาส่วนหนึ่งแล้ว อ๋องเจวี้ยนกลับไม่มองเขา แต่มองไปทางฟู่จาวหนิง"พระ
"พรวด"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่อาเพียนเองก็โมโหจนปากเบี้ยวไปแล้ว ถ้าไม่ใช่คุณชายไม่ให้เขาด่าคน เขาก็จะเอามือเท้าสะเอวด่าไห่ฉางจวิ้นเป็นหมาให้เลือดซิบไปเลยเห็นคุณชายของคนอื่นเป็นอะไรไปกัน?คนรอบๆ ไม่น้อยพอได้ยินคำพูดของไห่ฉางจวิ้น ก็ล้วนตกตะลึงกันจนทยอยสูดปาก"แม่หญิงคนนี้เป็นใครกัน?""ผิดศีลธรรม นี่มันผิดศีลธรรมชัดๆ"และมีคนไม่น้อยที่เห็นท่าทางไม่ยับยั้งชั่งใจแบบไห่ฉางจวิ้นมาจนชิน ส่ายหัวก่นด่าขึ้นมา"คุณหนูฟู่ ช้าน้อยเชื่อว่าท่านจะชนะ" ซือถูไป๋ยิ้มอบอุ่นให้ฟู่จาวหนิงขึ้นมา สายตาที่มองนางเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น "ดังนั้นข้าสามารถเป็นสิ่งเดิมพันให้ได้ ตัวข้าก็ส่งให้ท่านเลยแล้วกัน""คุณชาย" อาเพียนเบ้ปากคุณชายเชื่อมั่นฟู่จาวหนิงเช่นนี้เลยหรือ? ที่ไห่ฉางจวิ้นบอกว่าอยู่ด้วยกันนั่น แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่อยู่ด้วยกันแบบถูกต้อง! ถ้าเผื่อฟู่จาวหนิงแพ้ขึ้นมา ไม่ใช่ว่าคุณชายของตนเองจะกลายเป็นขายร่างกายตัวเองออกไปหรือ?มือที่ไพล่อยู่ด้านหลังอ๋องเจวี้ยนกำแน่นขึ้นมารู้ๆ อยู่ว่าฟู่จาวหนิงคือพระชายาอ๋องเจวี้ยน ซือถูไป๋ยังจะเรียกนางว่าคุณหนูฟู่อีก นี่จงใจใช่ไหม?เชื่อว่านาง
"ได้!"พอได้ยินของสองสิ่งที่ตนเองต้องการ ไห่ฉางจวิ้นก็กลับฟู่จาวหนิงจะเปลี่ยนใขจ จึงรีบร้อนรับคำขึ้นมา"แต่คุณชายซือถูไป๋กับผู้อาวุโสจี้ตามเจ้าไป พวกเขาห้ามช่วยเจ้า!"สองคนนี้คนหนึ่งเป็นผู้อาวุโสพันธมิตรโอสถใต้หล้า อีกคนหนึ่งเป็นคุณชายน้องโรงยาทงฝู รู้จักวัตถุดิบยามากมายแน่ๆผู้อาวุโสจี้ร้องเฮอะ"ข้าเป็นคนแบบนั้นหรือไรกัน?"ตัวเขาเองก็ไม่ชอบคนที่โกงชาวบ้านเขาอยู่แล้ว แล้วจะมาช่วยโกงให้ศิษย์ได้อย่างไรกัน?ซือถูไป่เองก็พูดขึ้นว่า "คุณหนูฟู่ชนะด้วยตนเองได้"ไห่ฉางจวิ้นสีหน้าปั้นยาก ซือถูไป๋นี่อย่างไรกัน? เชื่อมั่นเหลือเกินว่าฟู่จาวหนิงชนะแน่? นางมีอะไรดีกัน?ฮูหยินสามฟู่เล่าเรื่องฟู่จาวหนิงตั้งแต่เล็กจนโตให้นางฟัง ต่อให้นางช่วงนี้ฝากตัวเป็นศิษย์กับผู้อาวุโสจี้ เสริมเรื่องวัตถุดิบยาเข้ามาให้อย่างหนัก ในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำแนกของหายากออกมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆวันนี้ของที่นำมาเดิมพันหมอเดิมพันวัตถุดิบยา ไม่ใช่วัตถุดิบยาทั่วไปแน่นอน"เช่นนั้นข้าจะให้คุณชายซือถูดูว่านางจะพ่ายแพ้ให้กับข้าอย่างไร"ไห่ฉางจวิ้นตัดสินใจจะโค่นล้มฟู่จาวหนิง ให้ซือถูไป๋เห็นความเก่งกาจของนาง
ดังนั้นนางชนะก็เท่ากับโรงหมอเมตตาที่ชนะ"ข้าจะแข่งขันกับฟู่จาวหนิง พวกเจ้าตอนนี้ถ้าจะมาเสียใจก็ไม่ทันแล้ว" ไห่ฉางจวิ้นเงยเชิดคางมองผู้อาวุโสจี้ "ถ้าพวกเจ้าขับไล่ฟู่จาวหนิงออกจากพันธมิตรโอสถใต้หล้า ข้าจะหันไปหาพันธมิตรโอสถใต้หล้าของพวกเจ้าแทน ช่วยพวกเจ้าเอาชนะการเดิมพันโอสถครั้งนี้""แม่นางอายุยังน้อย ก็ทำน้ำเสียงให้เป็นผู้น้อยหน่อย!" ผู้อาวุโสจี้หน้าถมึงทึง"แม่นางไห่อย่าล้อเล่นเช่นนี้สิ "หมอเทวดาหลี่รีบเดินเข้ามา "พันธมิตรโอสถใต้หล้าไม่ได้มีอะไรดีเลย""สกุลหลี่อย่างเจ้ามาเล่นสกปรกอีกแล้วรึ!" ผู้อาวุโสจี้พอเห้นผู้อาวุโสหลี่เดินเข้ามา แล้วยังพูดเช่นนี้กับไห่ฉางจวิ้นอีก ก็รู้แล้วว่าไห่ฉางจวิ้นจะต้องถูกเขาดึงเข้ามาแน่นอน"นี่มันเล่นสกปรกตรงไหนกัน?" หมอเทวดาหลี่มองผู้อาวุโสจี้ ผู้อาวุโสจี้คงยังไม่รู้จักตัวตนฐานะแท้จริงของไห่ฉางจวิ้นแน่นอนนักบุญหญิงเผ่าโม๋ลั่ว อันที่จริงก็ยังรู้จักวิชาแพทย์ของพวกเขาอยู่ด้วย ที่รักษาก็ล้วนเป็นพวกโรคแปลกๆ และสถานที่ต้องห้ามของเผ่าโม๋ลั่วทางนั้นก็มีวัตถุดิบยาขึ้นอยู่ไม่น้อย คนของโรงหมอเมตตาอย่างพวกเขาก็อยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าโม๋ลั่วเอาไว้ผ
"คนตั้งมากมายยังมองไม่ออก ข้าว่า พวกเจ้ามองออกสักสองสามอย่างก็ไม่แน่อาจจะชนะแล้วก็ได้"หมอเทวดาหลี่เอ่ยเสริมขึ้นมาอย่างตื่นเต้น "มีเวลาจำกัดนะ ครึ่งชั่วยาม นาฬิกาทรายวางไว้แล้ว"ฟู่จาวหนิงก็เพิ่งจะเห็นว่ามีแท่นหินอยู่ตัวหนึ่ง ด้านบนวางนาฬิกาทรายที่ทำจากแก้วเคลือบวางอยู่ ดูแล้วงามประณีตมากนาฬิกาทรายนี้ถ้าไหลหมดก็คือครึ่งชั่วยาม"เริ่มได้"ตอนที่คำว่าเริ่มต้นสองคำของผู้ดูแลเจียงพูดจบ ไห่ฉางจวิ้นรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นทันทีแต่นางเพิ่งจะออกเดิน ข้างกายก็ลมพัดผลิว ฟู่จาวหนิงแล่นผ่านตัวนางไป และรีบเดินตรงไปทางสองคนนั้นไห่ฉางจวิ้นพอเห็นก็ลนลานเข้าแล้ว ฟู่จาวหนิงน่าจะไม่รู้จักวัตถุดิบยาสองชนิดนั้นหรอกกระมัง?นางรีบใช้วิชาตัวเบาไล่ไปทันที แต่ว่านางก็คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงยังไม่ทันเดินไปอยู่ด้านหน้าคนทั้งสอง แต่ก็ใช้นิ้วชี้ไปทางนั้นแต่ไกล เอ่ยขึ้นอย่างแจ่มชัดว่า"วัตถุดิบยาสองชนิดนั้นข้ารู้จัก ลำดับที่หกคือรากชิงเหริง ส่วนลำดับที่เจ็ดคือผงรัง"ลำดับที่หกกับเจ็ดล้วนเป็นหญิงสาว ทั้งสองคนพอได้ยินเสียงของฟู่จาวหนิงก็งงงันผู้ดูแลเจียงตาเป็นประกาย"รากชิงเหริง? ผงรัง? สิ่งนี้ในคัมภีร์
แค่มองผาดเดียวก็มองวัตถุดิบยาสองชนิดออกแล้วจริงหรือไห่ฉางจวิ้นสูดลมหายใจลึก จะโกรธไม่ได้ นางจะถูกความโกรธจนสับสนวุ่นวายไม่ได้ ที่นี่มีอยู่สิบแปดชนิด หายไปสองชนิดก็ยังมีอีกสิบหกชนิดเลย นางไม่เชื่อว่าตนเองจะมองไม่ออกนางถลึงตามองหญิงสาวจากในเผ่าทั้งสองคนผาดหนึ่งพวกนางจะต้องโพล่งออกมาตอนไหนแน่ๆ จนทำให้คนได้ยิน แล้วไปบอกกับฟู่จาวหนิงพอดี! กลับไปนางจะจัดการนังสารเลวสองคนนี้เสียหญิงสาวทั้งสองคนมองสายตาโหดเหี้ยมของนางก็ตกใจจนแข้งขาอ่อนจบแล้ว วิธีลงโทษของนักบุญหญิงนั้นโหดร้ายมาก พวกนางเกรงว่าคงต้องทิ้งชีวิตไปครึ่งหนึ่งเสียแล้ว"ถือว่าเจ้านำไปก่อนแล้วกัน" ไห่ฉางจวิ้นร้องเชอะ ตั้งใจไปมองวัตถุดิบยาชนิดอื่นทันทีหมอเทวดาหลี่ส่งสายตาให้กับคนหนึ่งในนี้ ชายตัวเตี้ยคนนั้นก็กระทืบเท้าขึ้นอย่างรู้สึกผิดอ่องเจวี้ยนสายตากวาดดูทั้งลาน และเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาในสายตา เขาขมวดคิ้ว ส่งสื่อเสียงบอกกับฟู่จาวหนิงทันที "ผู้ชายคนที่สามจากด้านซ้ายของเจ้า น่าจะถูกหมอเทวดาหลี่ซื้อตัวไว้แล้ว อาจจะมีคนบอกไห่ฉางจวิ้นไว้แล้วว่านั่นคือยาอะไร"คำพูดนี้มีเพียงแค่ฟู่จาวหนิงที่ได้ยินฟู่จาวหนิงตกตะลึง แต่ก็ไม่ไ
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ