พอกลไกดังขึ้น ทั้งหมดรอบๆ ก็เหมือนกำลังเปลี่ยนแปลงไปอันดับแรก พวกเขาเห็นว่ากำแพงด้านหลังเหล่านี้ไม่อยู่แล้ว ตอนที่มองไปทางพวกฟู่จิ้นเชินก็ไม่ใช่ความรู้สึกแปลกประหลาดเหมือนอยู่ห่างไกลนั่นแล้ว แต่มองเห็นได้จริงๆ แทน"เปิดแล้วหรือ?"จากมุมมองทางพวกฟู่จิ้นเชินจะเห็นได้ชัดเจนยิ่งกว่าที่แท้กำแพงล้อมเหล่านั้น เหมือนค่อยๆ โดนกัดกร่อนจากบนลงล่างหายไปทีละชุ่นๆหลังจากกำแพงล้อมหายไปจนหมด พวกเขาก็มองเห็นพวกฟู่จาวหนิงทั้งสามคนพวกเขายืนอยู่กลางพื้นที่ว่างผืนใหญ่ผืนหนึ่ง ที่นั่นเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี มีพุ่มดอกไม้ปลูกไว้ และตอนนี้พุ่มดอกไม้เหล่านั้นถูกปกคลุมไว้ด้วยหิมะและพื้นที่เล็กๆ ที่พวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่ ก็มีเสาดำสนิทตั้งอยู่หลายต้นพอมองเข้าไปด้านหน้าอีก ก็เป็นประตูวังสีแดงตำหนักที่ยิ่งใหญ่ในที่สุดก็ปรากฏแก่สายตาพวกเขาอย่างแท้จริงกำแพงแดง บนกระเบื้องมีกองหิมะ"เห็นวังจักรพรรดิแล้ว!"ฟู่จาวเฟยประคองท่านปู่อยู่ ก็รู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหวขึ้นมา"สวยงามจริงๆ ยิ่งใหญ่อลังการมาก" ผู้เฒ่าฟู่มองตำหนักแห่งนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นจนเบ้าตาร้อนวูบวาบกำแพงวังสูงมาก ประตูวังเองก็หนาหนักวังจัก
ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็รู้สึกว่าความคิดของเซียวหลันยวนมันไร้สาระแต่ตอนที่นางมาเห็นสัญลักษณ์ใต้เสาเหล็กดำที่เขียนอักษร "หลิน" ไว้ สมองนางก็วิ้งขึ้นมาเลยความคิดของเซียวหลันยวนไม่ใช่ไร้สาระ แต่ว่าถูกต้องเลย!เพราะนี่เป็นสัญลักษณ์ของอาจารย์นาง!แต่ก่อนนางไม่ค่อยเข้าในความหมายแฝงของสัญลักษณ์นี้ แต่อาจารย์เคยบอกกับนาง ว่านี่เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลถัง เขาเพิ่มเติมเข้าไปนิดหน่อย สมัยก่อนเวลาออกไปช่วยเหลือด้านการแพทย์ บางครั้งได้ไปยังประเทศที่เกิดสงคราม หรือบางทีเข้าไปในพื้นที่ที่ล้าหลังมาก สัญลักษณ์นี้ก็สามารถบ่งบอกทิศทางได้เช่นกันตอนนี้นางมาเห็นสัญลักษณ์ที่ไม่ได้เห็นมาเสียนานในตงฉิงที่อักษร "เจ๋อ" ก็มีสัญลักษณ์นี้อยู่ถ้าคนอื่นมาเห็น สองสัญลักษณ์นี้อาจจะเหมือนกัน แต่ฟู่จาวหนิงกลับมองเห็นความแตกต่างเล็กน้อยด้านในได้ความแตกต่างนี้ คือลำดับก่อนหลัง"ต้องกดลงไปหรือ?" นางมองไปทางเจ้าอารามโยวชิงเจ้าอารามโยวชิงพยักหน้า "ต้องใช้กำลังภายในกดลงไปบนเสาเหล็กสีดำ กำลังธรรมดากดไม่ลงหรอก แต่ว่าห้ามเลือกผิดเด็ดขาด ถ้าเลือกผิด กลไกก็จะทำลายตัวเองในสามวัน และตำแหน่งของเสาดำเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย
เจ้าอารามโยวชิงอันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อฟู่จาวหนิงนักแต่พวกเขาก็ทดลองมาพักหนึ่งแล้ว ทว่าก็ยังเปิดกลไกไม่ได้จริงๆพอเห็นว่าผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว เขาก็ต้องยอมรับอย่างจนใจ"ไม่งั้นให้จาวหนิงมาลองดูหน่อยไหม?"เซียวหลันยวนหมุนตัวเดินออกไปทุกคนเห็นเขาเดินออกมา แต่สถานการณ์ตรงหน้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทำให้พวกเขายังไม่ค่อยเข้าใจอะไร"อายวน เจอเรื่องยุ่งยากหรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"หนิงหนิง เจ้ามานี่หน่อย"ฟู่จาวหนิงงงงันไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยังเดินไปหาเขาทันทีฟู่จิ้นเชินขมวดคิ้ว คิดจะตามเข้ามา เซียวหลันยวนก็บอกว่า "ไม่เป็นไร ข้าจะปกป้องนางเอง"เขาจูงมือฟู่จาวหนิง บอกสถานการณ์ด้านในกับนางฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "ดังนั้นท่านเลยคิดว่ากลไกนี้น่าจะให้ข้าเข้าไปเปิดหรือ?"นางทำไมถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยน่าเชื่อเลยคนที่วางกลไกนี้ของตงฉิงอดีตจะรู้ได้ยังไงว่าในอนาคตจะมีคนที่ชื่อมีอักษรหนิงจะมาที่นี่? ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมคนที่มีคำว่าหนิงถึงสามารถไขกลไกนี้ได้?"อายวน ท่านไม่คิดว่าการคาดเดานี้มันเหลวไหลไปหน่อยหรือ?" นางรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเซียวหลันยวนกลับบอกว่า "เจ้าลืมเรื่องอาจารย์เจ้าไปแล
เจ้าอารามโยวชิงเดินเข้าไปจนสุดทางเดินเส้นนั้นทั้งที่เห็นอยู่ว่าสุดทางแล้ว ตรงหน้าเป็นกำแพงหินแล้วแท้ๆ แต่เขาก็ยังไม่หยุดเท้า ยกเท้าเดินต่อเข้าไปดูเหมือนว่าเขาจะเดินชนกำแพงเข้าไปตรงๆแต่ตอนที่เขากำลังจะชนกำแพง ร่างของเขาก็ทะลุเข้าไปแล้วเหมือนกับวิชาทะลวงกำแพงอย่างไรอย่างนั้น"อายวน เข้ามาสิ"กำแพงทางนั้นมีเสียงของเขาดังลอดเข้ามาเซียวหลันยวนเปลี่ยนความคิดแล้วเดินเข้าไป ไม่มีลังเล ทำตามวิธีการของเขา เดินตรงไปทางกำแพงด้านนั้นและก็ไม่ได้ชนเข้ากับวัตถุอะไรเลย เขาเองก็ทะลุเข้าไปด้วยเช่นกันนี่น่าจะเป็นค่ายกลที่สร้างภาพลวงตาขึ้นมาและพอผ่านกำแพงนั้นไป เซียวหลันยวนพอเพ่งมองดู ก็เห็นทะเลดอกไม้ที่สวยงามผืนหนึ่งอยู่ตรงหน้าผืนใหญ่เลยทีเดียวไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้อะไร แต่ว่าหลากสีหลากสัน ล้วนเบ่งบานกันอย่างสวยสด ขอบของทะเลดอกไม้มีสิ่งปลูกสร้างที่ดูเลือนราง มองเห็นไม่ค่อยชัดเจน"เครื่องพยากรณ์"เขาหยิบเครื่องพยากรณ์ออกมาเจ้าอารามโยวชิงรับมา กดลงไปที่ฐานด้านล่างสองครั้ง เครื่องพยากรณ์ก็ค่อยๆ เปิดออก ปรากฏเข็มเงินเล่มหนึ่ง ที่รองรับแผ่นเงินสี่เหลี่ยมแผ่นหนึ่ง กำลังหมุนเบาๆเจ้าอาราม
เซียวหลันยวนถามเจ้าอารามโยวชิงแบบนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะเจ้าอารามโยวชิงดูคุ้นเคยกับที่นี่มาก อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกแปลกหน้าเหมือนเพิ่งมาครั้งแรก"ยังขอรับ"เจ้าอารามโยวชิงกลับส่ายหัว "ไม่เคยมา แต่ก็ค้นคว้าประวัติศาสตร์ทั้งทางการและไม่เป็นทางการ หนังสือที่สืบทอดมาในตระกูล ก็พลิกอ่านจนแทบจะเปื่อยหมดแล้ว"เซียวหลันยวนไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนั้นดังนั้น สายเลือดราชครู ก็น่าจะไม่เปิดเผยความลับทั้งหมดต่อราชวงศ์โดยสิ้นเชิง เพื่อรักษาสถานะของตระกูลตนเองเอาไว้ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าอารามอยู่กับเขามานานหลายปี เขาก็ยากที่จะไว้วางใจราชครูแบบนี้เจ้าอารามโยวชิง เหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เขายิ้มๆ จากนั้นก็มองเซียวหลันยวนอย่างตั้งใจ"อายวน อันที่จริง ข้าแค่ต้องการให้เรามีความไว้วางใจกันและกันมากกว่าราชวงศ์ตงฉิงกับสายเลือดราชครูในอดีต และเต็มใจที่จะพึ่งพากันมากขึ้น จึงอยู่เคียงข้างเจ้าจนเติบใหญ่ที่อารามโยวชิง"เซียวหลันยวนตะลึงเล็กน้อย"ไม่เช่นนั้น เจ้าคิดว่าทำไมข้าต้องอยู่แต่ในยอดเขาโยวชิงล่ะ? ในฐานะสายเลือดราชครู นอกจากเรียนรู้กับฝึกฝนการสังเกตดาวบนเขาแล้ว ยังต้องท่องไปทั่วทั้งแดนด้วย ไปดูทั
"ข้าจะสั่งคนรับผิดชอบสำรวจร้านรวงกับบ้านเรือนในเมืองทั้งหมด ตอนนี้ทุกคนอย่าเพิ่งเข้าไปบ้านเรือนทางซ้ายขวาตามอำเภอใจ"เซียวหลันยวนพวกชิงอีไปปิดประตูเมืองช่างที่เสิ่นเสวียนพามาก็ให้อยู่ที่นี่ค่อยตรวจสอบกับซ่อมแซมประตูเมือง และยังมีคนรับผิดชอบเรื่องการเสริมแกร่งด้วยส่วนองครักษ์เงามังกรก็มีกลุ่มหนึ่งขึ้นไปบนหอเมืองคนที่เหลือล้วนตามเจ้าอารามโยวชิงตรงไปยังวังจักรพรรดิพวกเขาเดินผ่านถนนสายยาว แต่เบื้องหน้าก็เหมือนจะยังคงเป็นกำแพงสูงทอดยาว รอบๆ ก็เหมือนจะมีแม่น้ำในเมืองด้วยตอนนี้แม่น้ำแข็งเป็นน้ำแข็ง ซ้ายขวาปกคลุมด้วยหิมะตลอดทางที่เดินมา ก็ยังไม่เห็นเข้ากับโครงกระดูกอะไรเลย แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกหิมะกลบทับไว้ ดังนั้นจึงมองไม่เห็น"วังจักรพรรดิอยู่ที่ไหนหรือ?" อันห่าวดูตึงเครียดหน่อยๆ เพราะในเมืองนี้เงียบสงัดเกินไป พอนางนึกถึงว่าเมื่อก่อนที่นี่เคยคึกคักมีผู้คนมากมาย ซึ่งไม่รู้ว่าตายอยู่ที่นี่กันหมดหรือเปล่า จึงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาคนอื่นอันที่จริงก็รู้สึกเหมือนกัน เหยียบพื้นหิมะดังสวบสาบ ก็ทำพวกเขาไม่ค่อยสบายใจนัก ไม่รู้ว่าใต้หิมะมีอะไรอยู่หรือเปล่าแต่ต่อให้อยู่ในอารมณ์เช่นนี