ในกลุ่มหนุ่มสาวเหล่านี้ อ๋องเจวี้ยนเดิมทีไม่ได้มีความรู้สึกมีตัวตนอะไรอยู่แต่ว่าวันนี้ ครั้งนี้ อ๋องเจวี้ยนค่อยๆ เดินเข้ามาในระยะสายตาของพวกเขาชุดคลุมผ้าไหมสีม่วงเข้ม เสื้อคลุมจิ้งจอกขาวผืนหนึ่ง หน้ากากครึ่งหน้าสีเงินใบหนึ่ง ดูสูงส่งอย่างเป็นธรรมชาติ นำเอาความลึกลับน่าดึงดูดเข้ามาด้วย พอปรากฎตัวก็ดึงดูดสายตาคนทั้งหมดไปภายใต้หน้ากากครึ่งหน้าเผยริมฝีปากงามออกมา เส้นคางแหลมคม ทำเอาหญิงสาวหลายคนใจเต้นระรัวไปหมดแล้วพอบวกกับรูปร่างยืดตรงของเขา สูงชะลูดกว่าคนทั้งหมดในที่นี้ พอปรากฎตัวก็กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งลานไป"นี่ยังไปแต่งตัวมาด้วยหรือ?"ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกเซียวหลันยวนจะต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาโดยเฉพาะแน่! ขนาดก้วนที่ผูกรวบผมของเขาก็ยังเปลี่ยนเป็นทำจากเงินสลักฝังไว้ด้วยทับทิม ดูสูงส่งน่ามองคนงามเพราะแต่ง เดิมทีเขาก็เป็นคนรูปร่างดีอยู่แล้ว พอแต่งตัวเช่นนี้ก็ดูดีจริงๆแล้วยังกล้าบอกว่าไม่ได้จะเอาชนะเพื่อนัดหญิงสาวอีกหรือ?เซียวหลันยวนมาเขาเมฆอรุณก็น่าจะเพราะเป้าหมายนี้กระมัง?ฟู่จาวหนิงร้องเชอะฟางซือฉิงพอได้ยินนางร้องเชอะก็ได้สติกลับมา จับชายเสื้อนางอย่างตื่นเต้น กดเ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังคิดว่าเขาอายุยังไม่ถึงสามสิบก็คงตายไปแล้วด้วย แม้ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนจะเพิ่งยี่สิบต้นๆ แต่ดูจากที่อายุน่าจะสั้น ใครก็ล้วนจำเขาไม่ได้ตอนนี้เขากลับปรากฎตัวออกมาแล้ว!ยิ่งไปกว่านั้นยังออกไปล่าสัตว์ด้วย นี่อธิบายว่าร่างกายเขาไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?หรือว่าอ๋องเจวี้ยนรักษาตัวดีแล้ว จึงกลับมาเมืองหลวงเพื่อแบ่งสิทธิ์อำนาจหรือ?หากอ๋องเจวี้ยนคิดจะชุบเลี้ยงขั้วอำนาจของตนเองขึ้นมาบ้าง สถานการณ์ในเมืองคงถูกทำลายลงแน่ พวกเหล่านี้คงต้องดูแล้วว่าจะยืนอยู่ฝ่ายไหนจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสอี้น้อยเดิมทีก็ถือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มศูนย์กลางอำนาจด้วย แน่นอนว่าคนมากมายรู้จุดนี้"คารวะอ๋องเจวี้ยน"จ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยในใจไม่ค่อยยินดีนัก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงก้มหัวให้อ๋องเจวี้ยนไปก่อนพวกของลู่ทงก็ถลึงตาโตฮ่าๆๆ!อย่างนี้นี่เองหรือ? จู่ๆ ในใจก็รู้สึกดีสุดๆ ขึ้นมาเลยไหม?ที่แท้อ๋องเจวี้ยนพอปรากฎตัวก็สะกดจ้าวเฉินกับโหวอาวุโสน้อยอี้ได้เลยหรือ? แล้วพวกเขาจะต้องกลัวอะไรกันอีก อ๋องเจวี้ยนอยู่ฝ่ายลูกพี่หนิงของพวกเขานะ!"เจ้งหยาง อ๋องเจวี้ยน"ลู่ทงกำลังสะกินเจิ้งหยางจะพูดกับเขา แต่เสียงของเจียง
ตบฉาดครั้งนี้ ทำเอาคนทั้งหมดในลานใจสั่นระรัวคนที่อยู่ใกล้หน่อยกระทั่งลมหายใจยังตึงเครียดขึ้นมา ไม่กล้าจะหายใจเฮือกใหญ่นายท่านจ้าวขุนนางผู้บัญชาการที่ได้รับการเชื่อใจจากองค์จักรพรรดิ ตอนนี้เองก็กำลังมีชื่อเสียง บางครั้งกระทั่งเครือพระญาติบางส่วนก็ยังต้องยอมให้เขาดังนั้นจ้าวหรูจึงกำเริบเสิบสานในเมืองหลวงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องด้วยลูกขุนนางที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่าองค์หญิงอย่างหลินหวานซิน ก็ยังต้องเกรงอกเกรงใจกับนาง ต่อให้ทั้งสองคนไม่สนิทกันนัก เที่ยวเล่นด้วยกัน แต่ถ้าจุดที่ต้องให้หน้าแก่นางก็คือต้องให้ทว่าตอนนี้จ้าวหรูกลับถูกทหารคนหนึ่งตบฉาดเข้าที่หน้า!จ้าวหรูสมองมึนงงไปหมด ทั่วร่างทั้งเจ็บทั้งชา ยืนอยู่ที่นั่นสงสัยต่อชีวิตคนขึ้นมานางไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อมีคนกล้าตบหน้านาง!จ้าวเฉินเองก็หน้าเปลี่ยนสี กำหมัดแน่นเขาเองก็พยายามควบคุมตนเองถึงไม่ได้เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ชิงอี นี่คอือ๋องเจวี้ยน ลูกมือของอ๋องเจวี้ยน!ก่อนหน้านี้อ๋องเจวี้ยนทำตัวเงียบเชียบจนไม่มีใครสัมผัสถึงตัวตนได้มาโดยตลอด ครั้งนี้กลับทำให้พวกเขาสลักลึกความจำลงไปลึกสุด"อ๋องเจวี้ยนลงมือกับแม่
ยิ่งไปกว่านั้นการยอมรับตัวตนฐานะของนางต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ก็ดูไม่เหมือนตัวนางนักเซียวหลันยวนจับมือนาง มองไปทางจ้าวหรู "พระชายาของข้า ไม่นับเป็นคนของราชวงศ์หรือ?"ทำไมจะไม่นับกันล่ะ?จ้าวหรูแค่ไม่อยากเชื่อเท่านั้น"ท่านไม่ได้จำคนผิดหรือ?" นางไม่อยากจะเชื่อจริงๆ เรื่องทำไมจึงไร้สาระเช่นนี้ "ท่านรุ้ไหม หลายปีมานี้นางวันวันเอาแต่หัวหันอยู่กับรัฐทายาทเซียว นางเอาแต่อยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ยิ่งไปกว่านั้นยังไปอ้อนวอนองค์จักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ!"นางมองไปยังคนรอบๆ "ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามพวกเขา คนทั้งหมดที่นี่ล้วนรู้กัน ฟู่จาวหนิงอยากจะแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว!"มีคนร้องขึ้นมา "ใช่ๆๆ พวกเราเองก็เคยได้ยินมา""ข้ายังเห็นว่านางไปอ้อนวอนรัฐทายาทเซียวด้วยซ้ำ บอกว่าขอแค่รัฐทายาทเซียวยอมรับนางเป็นภรรยา จะเงื่อนไขอะไรนางก็ยอมรับทั้งสิ้น! แล้วยังบอกว่าหลังจากเป็นภรรยาแล้ว นางจะคอยยกชายกน้ำ คอยนวดขาทุบขา คอยปอกเปลือกองุ่น คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้ถึงมุมปากของเขาเลยด้วย"มีคนหลบอยู่ในกลุ่มร้องออกมาฟู่จาวหนิงรู้สึกว่ามือของตนเองถูกบีบแรงขึ้นแรงมือของเซียวหลันยวนแทบจะบีบมือของนา
เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว หญิงสาวคนนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?ที่นี่มีเรื่องเกี่ยวกับนางด้วยหรือ?"แต่ว่าท่านก็อย่าเห็นว่าแปลกเลยอ๋องเจวี้ยน ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนนัดข้าออกไปเที่ยวเล่นในภูเขา ข้า ข้าจะทำตัวตามประเพณีอย่างแน่นอน ข้ากับอ๋องเจวี้ยนจะพูดคุยกันแต่เรื่องกลอนเรื่องภาพ จะไม่พูดคุยอะไรที่ไม่งามแม้แต่น้อย"หลินหว่านซินตอนนี้เสียใจจนจะบ้าอยู่แล้ว นางยังคิดว่าตนเองยังสามารถเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ คิดไม่ถึงว่าอ๋องเจวี้ยนแม้จะสนใจต่อตัวนาง แต่ตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนกลับมีคนนั่งอยู่แล้วหรือว่าอ๋องเจวี้ยนคิดจะให้นางเป็นพระชายารองกัน?ถ้าหากจะให้นางไปเป็นพระชายารอง เช่นนั้นนางก็ต้องเห็นเขาปลดหน้ากากลงก่อนจึงจะรับปากได้ถึงอย่างไร พระชายารองอ๋องเจวี้ยน ตัวตนฐานะก็ยังสูงกว่าภรรยาหลวงของเหล่าขุนนางใหญ่เสียอีกนางแต่ก็ยังรู้สึกทั้งดิ่งทั้งเสียใจ"อื๋อ?"เซียวหลันยวนไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร เขาทำไมต้องนัดนางออกไปเที่ยวด้วย?"ข้าไปพูดเมื่อไรกันว่าจะนัดเจ้าออกไปเที่ยว?"หลินหว่านซินน้ำตาไหลพูดกับเขาอย่างเสียใจ "อ๋องเจวี้ยนอยากจะกลับเมืองหรือว่าอยากจะไปฟังดนตรีที่ไหนหรือ? หรือว่าจะนั่ง
พวกลิ่วล่อข้างกายโหวอาวุโสน้อยอี้หลายคนนั้นก็ล้วนเดินเข้าไปหาเขา ดูกังวลเล็กน้อย"โหวอาวุโสน้อย แล้วตอนนี้ทำอย่างไรดี?""โหวอาวุโสน้อย แผนการของพวกเรายังทำต่อไหม?"โหวอาวุโสน้อยอี้กัดฟัน"ขอแค่อันชิงยังไม่เข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ข้าจะแตะต้องนางก็ไม่ต้องกลัวอ๋องเจวี้ยนหรอก" ถึงตอนนั้นไปโวยวายต่อหน้าองค์จักรพรรดิฮองเฮา ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิไม่มีทางช่วยอ๋องเจวี้ยน"ไปหาอันชิง"เขาก็แค่จัดการเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนที่อันชิงจะพบกับอ๋องเจวี้ยน อันชิงก็เป็นของเขาแล้ว หนีไปไหนไม่รอดหรอกถึงตอนนั้นอ๋องเจวี้ยนยังกล้ามาแย่งก็คงไม่สำเร็จแล้วกระมัง?ฟู่จาวหนิงถูกเซียวหลันยวนดึงไปอยู่ในมุมลับตาคนเซียวหลันยวนถึงได้ปล่อยมือนางออก"เซียวหลันยวนท่านบ้าหรือเปล่า?" ฟู่จาวหนิงมองข้อมือขาวของตนเองถูกเขาจับจนแดงเป็นวง ก็อดถลึงตามองเขาไม่ได้ นวดนวดข้อมือขึ้นมานี่คิดจะบิดแขนของนางให้หลุดเลยหรือไร?"ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องที่เจ้าไล่ตามรัฐทายาทเซียวจะมีคนรู้กันมากมายขนาดนี้"เซียวหลันยวนพอคิดถึงคำพูดคนเหล่านั้นเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าในใจมีไฟโกรธพุ่งขึ้นไปถึงบนหัว"เจ้าเพื่อที่จะให้เซียวเหยียนจิ่ง
เซียวหลันยวนกับชิงอีรีบจากออกไปฟู่จาวหนิงมองแผ่นหลังพวกเขา ชั่วขณะหนึ่งยังไม่แน่ใจว่าตนเองมีความรู้สึกอะไร"คุณหนู""จาวหนิง!"นางงงงัน รอจนฟางซือฉิงกับเสี่ยวเถาเข้ามา พอได้ยินเสียงของพวกนางจึงได้สติกลับมาเสี่ยวเถามองนาง สายตามองหาไปรอบๆ "คุณหนู ท่านอาเขยล่ะ?""อาเขย? เขยอะไร?!"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะอาเขยอะไร เพื่อผู้หญิงคนอื่นก็ร้อนรนจนหน้าเสีย ครั้งนี้คงได้เจอคนในดวงใจเขาแล้วสินะฟางซือฉิงกลับมองไม่ออกเลยว่าอารมณ์นางไม่ถูกต้อง เข้ามาคล้องแขนนาง เอ่ยขึ้นอย่างดีใจ "จาวหนิง ดีเหลือเกิน ที่เจ้าไม่ได้แต่งงานกับรัฐทายาทเซียว ข้าดีใจแทนเจ้าจริงๆ!"นางก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเซียวหลันยวนไม่ดีนัก ที่ปล่อยให้ฟู่จาวหนิงเอาแต่ไล่ตาม แล้วยังพูดคำจาทำร้ายจิตใจไม่น้อยอีกด้วยถ้าหากบอกมาว่าไม่อยากแต่งงานกับจาวหนิง เช่นนั้นก็บอกถอนหมั้นมาเลยสิ เดิมทีพวกเขาเองก็มีการหมั้นหมายอยู่แล้วแต่ว่ารัฐทายาทเซียวก็ไม่ยอมบอกถอนหมั้นมาโดยตลอด จนทำให้ฟู่จาวหนิงทำได้แค่คอยตื๊อให้เขาแต่งงานด้วย นางเป็นคู่หมั้นของรัฐทายาทเซียว ไม่มีทางไปไล่ตามตื้อคนอื่นให้แต่งกับนางหรอก"ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนก็เก่งกาจม
นางจะลงไปขวางพวกนางก่อนที่พวกนางจะลงจากเขาและก็ตามคาด ระหว่างที่ฟู่จาวลงจากเขา ก็เจอเข้ากับรถม้าของฟู่เป่าเจินกับฟู่เจียวเจียวพอเห็นรถม้าตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงก็มายืนอยู่กลางถนนคนขับรถพอเห็นคนยืนอยู่ตรงกลาง ก็รีบร้อนร้องขึ้น "รีบหลีกทาง หลีกทาง!"ฟู่จาวหนิงไม่ขยับเขยื้อนรถม้าพอมาถึงหน้านางก็ทำได้แค่หยุดรถเท่านั้นฟู่เจียวเจียวกับฟู่เป่าเจินในรถม้าจึงเลิกม่านแล้วตะโกนด่าออกมาก่อน"ใครน่ะ? มาขวางรถม้าพวกข้า จาวหนิง?"พวกนางตอนที่เห็นฟู่จาวหนิงก็สีหน้าเปลี่ยน"จะรีบหนีไปไหน?" ฟู่จาวหนิงพูดแล้วเดินตรงเข้ามา แตะมือแล้วกระโจนขึ้นรถม้า มุดเข้ามาในตัวรถ"เจ้า เจ้าเจ้าเจ้าขึ้นมาทำอะไรกัน"ฟู่เป่าเจินพูดพลางยื่นมาผลักนางลงไปฟู่จาวหนิงคว้าข้อมือของนางไว้ บิดมือของนาง ฟู่เป่าเจินร้องแหลมขึ้นมา"เจ็บๆๆ! เจ้าปล่อยนะ! ฟู่จาวหนิงเจ้าเป็นบ้าไปแล้ว!"ฟู่เจียวเจียวถลึงตาโตมองนางฟู่จาวหนิงแบบนี้ราวกับเป็นคนละคนไป"ข้าบ้าหรือ? ข้าจะบ้าหรือไม่บ้า ก็ต้องดูว่าพวกเจ้าจะซื่อตรงหรือไม่"ฟู่จาวหนิงสะบัดมือฟู่เป่าเจิน นั่งอยู่ที่นั่นพิจารณารถม้าคันนี้ บนรถม้ายังใส่ของไว้ไม่น้อยด้วย ดูท่าครั้งน
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ