เซียวหลันยวนเองก็เดินออกมา"ไม่เป็นไรแล้ว"พอได้ยินประโยคนี้ของเขา ฟู่จาวหนิงก็คิดในใจ ที่แท้อ๋องเจวี้ยนก็ปลอบคนเป็นนี่นา พอเห็นหญิงสาวที่ตนเองชอบเป็นเช่นนี้ เขาเองก็ปวดใจขึ้นมาแล้วใช่ไหม?"ท่านอย่าเข้ามา"อันชิงกลับเหมือนจะตกใจอย่างมาก พอเขาเดินออกมา นางก็ถอยกลับไปหลายก้าว แต่ยังห่อเสื้อคลุมของเขาเอาไว้แน่น"อันเหนียนให้ข้ามาหาตัวเจ้า"เซียวหลันยวนพอเห็นนางยังมีสีหน้าระแวดระวัง จึงพูดออกมาประโยคหนึ่ง"พี่ชายข้าหรือ?" อันชิงพอได้ยินชื่อของพี่ชายก็ตัวสั่นขึ้นมา รีบร้อนถามขึ้น "แล้วพี่ชายข้าล่ะ? เขามาด้วยไหม?"ชายหนุ่มที่สวมหน้ากากคนนี้คือใคร?"เขายังปลีกตัวมาไม่ได้" เซียวหลันยวนพูดพลางคิด ฟู่จาวหนิงหนีไปไหนแล้วนะ? ชิงอีไล่ไปตั้งครึ่งค่อนวันก็ยังตามไม่ทัน?เขาปลอบหญิงสาวไม่เป็น พอเห็นอันชิงตกใจอย่างหนัก แข้งขาอ่อนจนยืนแทบไม่อยู่ จงจะเดินกลับเรือนรับรองไม่ได้แน่เขาเองจะแบกนางหรือประคองนางก็ไม่ได้ฟ้ามืดแล้ว ลมเองก็แรงขึ้น เขาอยู่ในสถานที่นี้นานๆ เกรงว่าจะป่วยเอาเซียวหลันยวนเริ่มหมดความอดทน"ฮือๆๆ..."อันชิงยืนไม่อยู่ ล้มนั่งลงบนพื้น ร้องไห้อย่างหวาดกลัวออกมา"เจ้ายังจะร้
"ข้าเองก็จงใจมาช่วยเจ้าปกป้องเจ้านะ"โหวอาวุโสอี้น้อยตอนนี้เองก็ดูระแวดระวังมาก คนที่เขาส่งมาทำไมหายไปแล้ว? ทำไมถึงมีแค่อันชิงอยู่ที่นี่คนเดียว?เดิมทีเขาก็ให้คนล่ออันชิงไปยังจุดลับตาคน พอดีจนสลบแล้วจึงพามาที่นี่ กรอกยาให้กับนางต่อมาเจ้าคนนั้นก็แสร้งทำเป็นจะทำร้ายอันชิง เขาก็ปรากฎตัวออกมาเหมือนวีรบุรุษ ช่วยชีวิตอันชิงแต่ว่ายาที่เขาให้คนกรอกใส่อันชิง คุณสมบัติทางยากลับรุนแรงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์แค่ไหนร้อนแรงแค่ไหนก็ล้วนทนไม่ไหว ดังนั้น อันชิงจะทนรับไม่ไหว มึนงงจนจำตัวเองไม่ได้ อ้อนวอนขอให้เขาช่วยสนองความใคร่ด้วยตัวเองเขายังจัดเวลาเอาไว้อย่างดี รอจนที่เขาใกล้จะลงมือ เจ้าพวกเพื่อนสุนัขของเขาเหล่านั้นก็จะหาคนมาที่นี่พวกเขาจะได้ยินเสียงอันชิงอ้อนวอนให้เขาสนองความใคร่กับนางด้วยตนเองพอถึงตอนนั้น อันชิงจะโดดลงแม่น้ำล้างตัวอย่างไรก็ไม่สะอาดแล้วคนทั้งหมดล้วนได้ยินนางอ้อนวอนกับเขา หลังจากกลับไปเมืองหลวง นางไม่แต่งกับเขาก็คงไม่ได้แล้ว ถ้าไม่แต่งกับเขา นางก็มีแต่ต้องไปตายเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีหน้าอยู่บนโลกนี้แล้วและตอนนั้นเอง เขาก็ยังยืดหน้ายืดตา ให้ตระกูลอั
ตอนที่โหวอาวุโสน้อยอี้พูดประโยคนี้น้ำเสียงก็อึมครึมขึ้นมา ระงับความโกรธเอาไว้เขามองอันชิงเป็นเหมือนของเล่นบนฝ่ามือตนเอง และตอนนี้ก็พบว่าอันชิงน่าจะเป็นของอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ความริษยาจึงทำให้ใจเขาเจ็บปวดขึ้นมา"เซียว เซียวหลันยวน"อันชิงคุณสมบัติยากำเริบ หัวสมองเองก็มึนงงขึ้นมาแล้ว แต่ว่าร่างกายกลับยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ นางปล่อยผ้าคลุมออกอย่างควบคุมไม่อยู่เดิมทีคิดอยากจะถามว่าเซียวหลันยวนเป็นใคร แต่นางถ้าพูดตอนนี้ กลับจะยิ่งเหมือนเป็นการร้องเรียกเซียวหลันยวนแทน"เจ้าจะเรียกเขามาช่วยเจ้าหรือ?"โหวอาวุโสอี้ยื่นมือออกมาฉับพลัน จับผ้าคลุมของนางออกแรงสะบัดออกอันชิงมองเขา สายตาเหม่อลอยไม่ว่าคนที่เขาเตรียมมาจะไปอยู่ไหน ถึงอย่างไรตอนนี้โหวอาวุโสน้อยอี้ก็มองออกแล้ว ว่าอันชิงถูกกรอกยาไป ยิ่งไปกว่านั้นยากำลังออกฤทธิ์ผู้ชมที่เขาเตรียมไว้ก็ใกล้จะมาแล้ว จะมาเสียเวลาไม่ได้อีกโหวอาวุโสน้อยอี้ยื่นมือไปกดบ่าของอันชิง"เสี่ยวชิงชิง ไม่ต้องเซียวหลันยวนหรอก เจ้ามองข้านี่ ข้ามีตรงไหนที่ดูไม่ดีหรือ? ข้าชอบเจ้ามาตั้งหลายปีแล้ว ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่น ข้าจะยังทนต่อไปได้อย่างไร? ตีให้สลบแล้วลากเข้าไปเ
"วันนี้ซวยเสียจริง"ฟู่จาวหนิงยืดตัวตรง ถึงอย่างไรก็ถูกผลักออกมาแล้ว นางเองก็ซ่อนต่อไม่ได้เหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีก็ทนไม่ไหวอยู่แล้วด้วย จะมองดูอันชิงถูกคนอื่นข่มเหงต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกัน?"เจ้ามาทำอะไรที่นี่? อยู่แค่คนเดียวหรือ?"โหวอาวุโสน้อยอี้คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะอยู่ที่นี่แต่ว่าเขาก็ไม่เห็นคนอื่นด้วยเช่นกัน ตอนนี้มีแค่ฟู่จาวหนิงคนเดียว น่าเสียดาย เขาเองเดิมทีก็สนใจตัวฟู่จาวหนิงอยู่ แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่านางเอป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนต่อให้มีความกล้าสักแค่ไหน โหวอาวุโสน้อยอี้ก็ไม่มีทางลงมือกับพระชายาคนหนึ่งแน่ดังนั้นตอนนี้ฟู่จาวหนิงปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ทำให้เขารู้สึกตึงมือขึ้นมา"ทำไมหรือ ที่นี่เป็นที่ดินของเจ้าหรือไร? ข้าถึงมาที่นี่ไม่ได้? ข้ามาหาแม่นางอันน่ะ""มานานาง?""แน่นอน" ฟู่จาวหนิงพูดไปด้วยพลางเดินไปทางอันชิงเมื่อครู่เพราะอันชิงกัดลิ้นตนเอง ความเจ็บปวดทำให้นางได้สติขึ้นมา แต่ยาที่นางถูกกรอกลงไปก็รุนแรงเกินไป การได้สตินี้คงอยู่ไม่นานนักตอนนี้นางมองโหวอาวุโสน้อยอี้ จากนั้นก็เกิดอาการทนไม่ไหวอยากจะพุ่งตัวไปหาเขาอันชิงเดินออกไปหาเขาก้าวหนึ่งโหวอาวุโส
เซียวหลันยวนพอเห็นนางตรงมาหาตนเอง ก็ถอยออกไปสองก้าวทันที"รีบพานางออกไป"ฟู่จาวหนิงรีบดึงตัวอันชิงที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เหลือบตามองเขาผาดหนึ่ง นางจู่ๆ ก็พบกับปัญหาเข้าแล้ว"ที่นี่ส่งให้ท่านเลย"นางดึงตัวอันชิงออกไปทันที"หยุดนะ เจ้าจะพานางไปไหน?"โหวอาวุโสน้อยอี้หน้าเปลี่ยนสี รีบเดินจะเข้าไปขวางฟู่จาวหนิงแต่เซียวหลันยวนพอสับเท้า ก็เข้ามาขวางหน้าเขาไว้แล้ว"บังอาจ""อ๋องเจวี้ยน ข้ากับอันชิงรู้จักกันมาแล้วหลายปี นางจะต้องเชื่อใจข้าแน่ พวกท่านจู่ๆ ก็มาดึงนางไป ข้าไม่วางใจเอาเสียเลย!""รู้จักมาหลายปี?""แน่นอน ข้าคิดจะไปสู่ขอที่ตระกูลอันแล้วด้วย อันชิงจะช้าเร็วก็ต้องเป็นภรรยาข้า แล้วข้าก็ไม่ได้ทำร้ายนางเสียหน่อย"โหวอาวุโสน้อยอี้สองมือกำหมัด อยากจะเหวี่ยงใส่หน้าเซียวหลันยวนเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่กล้า"แต่อ๋องเจวี้ยนอย่างท่านต่างออกไป ท่านมีพระชายาแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะเอาตัวอันชิงอีก ท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือว่าท่านจะไม่รู้ ว่าหญิงสาวจากตระกูลอันไม่มีทางจะไปเป็นนางสนมแน่?"อ๋องเจวี้ยนร้องเฮอะตอนนี้ ด้านหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่โหวอาวุโสน้อ
ฟู่จาวหนิงดึงอันชิงเดินมาพักหนึ่งเพราะอันชิงไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว บิดตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดนาง แล้วยังครางว่าร้อนอยู่ตลอดด้วย คอยดึงแต่เสื้อผ้าของตนเองผิวหนังของนางแดงจนไม่ปกติ อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆ สายตาเองก็ดูหย่อนยานฟู่จาวหนิงพอเห็นว่านางสถานการณ์ไม่ปกติ จึงไม่กล้าเดินต่อแล้ว ใช้มือข้างหนึ่งฟาดนางจนสลบ จากนั้นก็แบกเข้าไปด้านหลังพงหญ้าหินผาแห่งหนึ่ง"นี่กรอกยามาเท่าไรกันนะ?"นางมองอันชิงที่แดงไปทั้งตัวแล้วขมวดคิ้วด้านหน้ามีเสียงกลุ่มคนพูดคุยหัวเราะลอดเข้ามา ฟังออกว่าเป็นผู้ชายหลายคนฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าเป็นใคร เกรงว่าพวกเขาคงเข้ามาหาอันชิง อันชิงตอนนี้ก็ดึงเสื้อผ้าตนเองจนยู่ยี่ไปหมด ตอนที่ดึงตัวมา กระโปรงเองก็ถูกเกี่ยวจนขาด ตอนนี้ถ้าให้ผู้ชายมาเห็นนางสภาพนี้ กลับไปคงนางคงรับไม่ไหวแน่ฟู่จาวหนิงถอนหายใจอีกครั้ง หยิบถุงเข็มออกมา"เอาล่ะ ช่วยคนแล้วก็ต้องช่วยให้สุด"นางเดิมทีไม่อยากจะเข้ามายุ่งความสัมพันธ์ของเซียวหลันยวนกับอันชิง แต่ตอนนี้เห็นเด็กสาวถูกกรอกยาชั่วร้ายลงไปไม่น้อย นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงดึงเสื้อผ้าของอันชิงออก รีบฝังเข็มให้กับนางเข็มชุดนี้คื
เซียวหลันยวนกับชิงอีหาฟู่จาวหนิงเจอเร็วกว่าพวกเขาก้าวหนึ่งพวกเขาเพิ่งตามมาถึง ฟู่จาวหนิงก็กดฟันประคองตัวอันชิงมาเบื้องหน้าเซียวหลันยวนแล้ว เตรียมจะผลักไปยังอกเขา"ที่เหลือต้องเป็นท่านมาดูแลเองแล้วใช่ไหม?"พอเห็นอันชิงล้มมาที่อ้อมกอดตนเอง เซียวหลันยวนก็หน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดึงชิงอีเข้ามาขวางไว้ชิงอีรีบประคองตัวอันชิงท่านอ๋อง ท่านจะหลบทำไมเนี่ย?ถ้าแม่นางอันล้มลงไปบาดเจ็บบนพื้นจะทำอย่างไรกัน?เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง ระงับความโกรธไว้ "เจ้าผลักนางมาหาข้านี่หมายความว่าอย่างไรกัน?""คนของท่าน ข้าช่วยรักษาแทนท่านไปแล้ว หรือว่าหลังจากนี้ไม่ควรส่งต่อให้ท่านกัน? ท่านคงไม่คิดจะให้ข้าช่วยดูแลนางต่อหรอกนะ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ถลึงตากลับมา "นางเอาแต่เรียกชื่อของท่าน!"ดังนั้น เขาน่าจะเป็นคนที่อันชิงเชื่อใจ นางเอาแต่เรียกชื่อเขาตลอด แล้วยังไม่ส่งให้เขาได้หรือ?"นาง? เรียกชื่อของข้าหรือ?"เซียวหลันยวนไม่อยากจะเชื่อ ว่าอันชิงจะกล้าหาญขนาดนี้"แน่นอนสิ!ข้าจะโกหกท่านทำไมกัน?""แล้วนางเรียกขึ้นมาอย่างไร?""ก็ต้องเรียกว่าเซียวหลันยวนน่ะสิ!ท่านลืมชื่อตัวเองไปแล้วรึ?" ฟู่จาวหนิงร้องเชอะขึ้นม
ฟู่จาวหนิงด่าเซียวหลันยวนจนเลือดไหลซิบ มองดูอาการป่วยของอันชิง ถอนหายใจออกมา"เช็ดเนื้อตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสีย ข้าจะไปที่พักนางเอาเสื้อผ้านางกลับมาเสียหน่อย นางยังต้องกินยาอีก เฉินซาน เจ้าไปหาคนต้มข้าวต้มเข้ามาด้วย""ขอรับ""เช่นนั้นให้สาวใช้ข้าไปช่วยเสี่ยวเถาแล้วกัน" ฟางซือฉิงเห็นสภาพอันชิงแล้วก็ใจอ่อนขึ้นมาแม้ว่านางจะยืนอยู่ข้างฟู่จาวหนิงแน่นอน ถ้าหากอันชิงมาแย่งอ๋องเจวี้ยนจากนาง ก็ควรจะมีความสัมพันธ์ฉันท์ศัตรูจึงจะถูกแต่ตอนนี้พอเห็นอันชิงน่าสงสารเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไปเจออะไรมาก นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงพยักหน้า หิ้วตะเกียงเดินออกไปเดินไปพักหนึ่ง ชิงอีก็หมุนตัวเข้ามาพอดี ยื่นส่งห่อผ้าห่อหนึ่งให้กับนาง"พระชายา นี่คือสิ่งของของแม่นางอัน""เฮอะ" ฟู่จาวหนิงรับมา "ท่านอ๋องของพวกเจ้าไปเอามาหรือไร?""อ่า ไม่ใช่ ท่านอ๋องสั่งให้คนอื่นเข้าไปเอามา"พวกเขาจะเข้าไปในห้องที่หญิงสาวพักอยู่ได้อย่างไร? ท่านอ๋องสั่งคนเข้าไปหยิบ คิดว่าอันชิงตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปพักในที่พักเดิมแน่ จึงได้ส่งมาให้กับฟู่จาวหนิง"ข้าไม่เคยเห็นพระชายาคนไหนต้องมาดูแลคนที่จะแย่งตำแหน่
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ