LOGINเจิ้งซูอี้ถูกธนูยิงตกจากหลังม้าเมื่อฟื้นคืนสติกลับมาพบว่าตนเองอยู่ในร่างของเด็กสาวชาวบ้าน นางต้องช่วยเหลือเด็กสาวผู้นี้ไม่ให้ถูกครอบครัวเดิมเอาเปรียบทั้งยังต้องหาทางหนีจากองค์ชายห้าคู่ปรับเก่าของตน
View Moreเจิ้งซูอี้
บุตรสาวของแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นซีหยวน
ถูกธนูยิงตกจากหลังม้าทำให้วิญญานเข้ามาอยู่ในร่างของหลิวอันอัน
เด็กสาวที่ถูกทุบตีจนวิญญาณออกจากร่างไป
เมื่อเจิ้งซูอี้ต้องมาใช้ชีวิตแทนหลิวอันอันดังนั้น
หนี้แค้นของนางที่มีต่อคนตระกูลหลิว
นางเจิงซูอี้จะเป็นคนจัดการเอง
ซีหยวนไห่หนาน
องค์ชายห้าแห่งแคว้นซีหยวน บุตรชายของหลิงกุ้ยเฟย
นิสัยเจ้าเล่ห์และขี้เบื่อ แต่เมื่อเขาต้องการสิ่งใดแล้วเขาจะต้องเอามันมาครอบครองให้ได้
องค์ชายห้าเป็นคู่ปรับของเจิ้งซูอี้มีอาจารย์สอนวรยุทธคนเดียวกัน
เมื่อเขาออกมาทำภารกิจลับที่ฮ่องเต้สั่งการ
ทำให้เขาได้พบกับเด็กสาวชาวบ้านที่น่าสนใจผู้หนึ่ง
จนทำให้เขาอยากได้นางมาไว้ในครอบครอง
เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดดังลอดออกมาจากกระท่อมไม้ผุพังตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านมาทางเชิงเขา เจิ้งซูอี้ยกมือกุมขมับตนเองด้วยความเจ็บปวดภาพเด็กสาวร่างผอมบางกำลังถูกเด็กในหมู่บ้านรังแกและภาพที่นางกำลังถูกหญิงชราทุบตีกำลังหมุนวนอยู่ในหัวเจิ้งซูอี้ไม่เข้าใจว่ามันคือสิ่งใด เสียงประตูไม้เก่าๆ ถูกเปิดออกอย่างแรงตามมาด้วยสตรีร่างผอมที่รีบพุ่งมาที่เตียงที่นางนอนอยู่
“อันอันของแม่เป็นอย่างไรบ้างเจ็บที่ใดบอกแม่มาเถิดเหตุใดถึงได้ร้องเสียงดังเพียงนี้”
สตรีที่แต่งชุดเหมือนชาวหญิงบ้านธรรมดาแต่กลับมีใบหน้าที่งดงามท่าทางดูใจดีมองมาเจิ้งซูอี้ด้วยความเป็นห่วง
“ท่าน...”
เจิ้งซูอี้กำลังจะถามสตรีผู้นั้นว่านางเป็นใครเหตุใดถึงมาอยู่ในห้องของนาง ภาพต่อมาก็ทำให้เจิ้งซูอี้ตกใจกว่าเดิมเพราะสตรีผู้นี้เป็นมารดาของเด็กสาวที่นางเห็นในความทรงจำ แล้วเหตุใดนางมาอยู่ที่นี่ ไม่สิข้าต่างหากอยู่ที่ไหนกันแน่ เจิ้งซูอี้มองไปรอบๆ อย่างสำรวจ ห้องเล็กๆ ที่ทำขึ้นมาอย่างลวกๆ มีกลิ่นอับเล็กน้อยเพราะไม่ได้เปิดหน้าต่าง สิ่งที่นางเห็นบ่งบอกว่าผู้ที่อยู่ที่นี่ค่อนข้างรักความสะอาด
“เหตุใดเงียบไปเล่า บอกแม่มาว่าลูกเจ็บตรงไหนให้แม่ไปตามท่านหมอหลี่มาหรือไม่”
เจิ้งซูอี้ส่ายหัว จากความทรงจำของนางครอบครัวนี้ไม่มีแม้แต่ข้าวสารจะกรอกหม้อแล้วจะเอาเงินที่ไหนพาหมอมารักษานางได้ ความจริงนางก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บตรงไหน เพียงแค่ตอนที่นางฟื้นขึ้นมานางรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดเท่านั้น
“ข้า...หายดีแล้ว”
เจิ้งซูอี้เอ่ยเบาๆ ทั้งยังมองสำรวจรอบห้องที่นางกำลังนั่งอยู่ เป็นไปไม่ได้กระมัง นางอยู่ที่ชายแดนกำลังทำศึกกับแคว้นจ้าวไม่ใช่หรือแล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ภาพสุดท้ายที่นางโดนธนูยิงตกจากหลังม้าก็แวบเข้ามาในหัว หรือว่า.....
“ที่นี่คือที่ไหน”
เจิ้งซูอี้ถามสตรีวัยกลางคนอย่างลุกลี้ลุกลน นางมองเจิ้งซูอี้ด้วยดวงตาเบิกโพลงคล้ายตกใจกับคำถามของนางมาก
“อันอันลูก....จำไม่ได้หรือที่นี่ก็บ้านของเราอย่างไรเล่า”
หญิงวัยกลางคนที่เรียกตนเองว่าแม่บอกเจิ้งซูอี้ด้วยท่าทางไม่แน่ใจ หรือว่าบุตรสาวของนางจะถูกตีบาดเจ็บจนความทรงจำหายไป ไม่ได้การนางต้องรีบไปตามท่านหมอมาดูอาการของอันอันของนาง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรบุตรสาวของนางจะต้องได้รักษา สตรีวัยกลางคนผู้นั้นกำลังจะผละจากไปเจิ้งซูอี้เหมือนจะรู้ความคิดของนางจึงรีบดึงแขนนางเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน!!ข้าแค่สับสนไปเท่านั้นเจ้าค่ะ.....ท่านแม่”
ตอนนี้เจิ้งซูอี้คิดได้เพียงอย่างเดียวคือนางอาจตายไปแล้วเพราะธนูดอกนั้นที่สนามรบ จากนั้นวิญญาณของนางจึงได้มาสิงร่างของเด็กสาวคนนี้ เจิ้งซูอี้มองใบหน้าที่ซูบตอบของหญิงวัยกลางคนด้วยความรู้สึกเห็นใจ นางไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้นางไม่ได้อยากมาแย่งร่างบุตรสาวของนาง เพียงแต่เรื่องนี้นางไม่สามารถควบคุมได้ เจิ้งซูอี้จับมือของสตรีวัยกลางคนเอาไว้หลวมๆ แล้วส่งสายตาขอโทษไปที่นาง
“ไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว แม่ต้มโจ๊กมันเทศเอาไว้ลูกทานสักหน่อยเถอะนะ”
หวังเจียอี๋มารดาของหลิวอันอันเดินออกจากห้องไป แล้วหัวเล็กๆ ก็โผล่มาที่ประตูแทนเจิ้งซูอี้เลิกคิ้วมองด้วยความสนใจ เด็กคนนี้คงจะเป็นหลิวซีฮันน้องชายของหลิวอันอันสินะ นางกวักมือเรียกเขาให้เข้ามาใกล้ๆ หลิวซีฮันเดินมาหานางในมือถือบางอย่างเอาไว้
“ท่านพี่ข้ามีของบางอย่างมาให้ท่าน”
หลิวซีฮันแบมือออกในมือของเขามีไข่ไก่หนึ่งฟอง เจิ้งซูอี้ไม่เข้าใจว่าเด็กคนนี้ต้องการทำอะไร
“ไข่ไก่ที่ข้าแอบเอามาจากเรือนของท่านย่า ข้าต้มมาแล้วท่านพี่รีบกินสิเดี๋ยวท่านย่ารู้เข้าอดกินพอดี”
เจิ้งซูอี้หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ไข่ไก่เพียงแค่ฟองเดียวถึงกับต้องทำท่าทางลับๆ ล่อๆ เพียงนี้เชียว แต่เพียงไม่นานเสียงด่าทอที่ดังมาจากด้านนอกก็ทำให้เจิ้งซูอี้รู้ว่าแค่ไข่ไก่หนึ่งฟองสามารถฆ่าคนตายได้
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะเจ้าเด็กหัวขโมย ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างในถ้าไม่ออกมาข้าจะพังกระท่อมเก่าๆ ของเจ้าให้ราบเลยคอยดู”
เจิ้งซูอี้เลิกคิ้วมองหลิวซีฮันเล็กน้อย เขาย่นคอเหมือนเต่าด้วยความหวาดกลัวทำเอาเจิ้งซูอี้หัวเราะออกมาอย่างขบขัน
นางรับไข่ไก่มาจากเด็กชายจากนั้นจึงลุกจากเตียงออกไปดูสถานการณ์ด้านนอก หวังเจียอี๋มารดาของหลิวอันอันและหลิวซีฮันกำลังโดนแม่เฒ่าจางท่านย่าของเด็กทั้งสองใช้ไม้ไผ่ลำเท่าท่อนแขนกระหน่ำตีไม่ยั้ง หวังเจียอี๋ทำได้แค่ใช้มือกุมหัวขดตัวเอาด้านหลังรับแรงกระแทก เจิ้งซูอี้เดินเข้าไปคว้าไม้ไผ่ในมือแม่เฒ่าจางโยนทิ้งจากนั้นรีบไปพยุงหวังเจียอี๋ที่นอนขดอยู่ที่พื้น
“ออกมาแล้วหรือเจ้าพวกเด็กสารเลว กล้าบังอาจขโมยไข่ไก่ของข้าไปวันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย”
เจิ้งซูอี้มองหัวของหวังเจียอี๋ที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด นางก็ตวัดหางตามองไปที่แม่เฒ่าจางทันที
“ไข่นี่ใช่หรือไม่ที่ทำให้ท่านถึงกับต้องตีคนเกือบตาย ไก่ทั้งหมดก็ล้วนเป็นคนบ้านข้าที่ดูแลเลี้ยงดูให้อาหารมันแล้วเหตุใดพวกข้าถึงกินมันไม่ได้ ยายเฒ่าท่านรู้หรือไม่ว่าฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิตทำร้ายผู้อื่นก็ต้องติดคุกเช่นกัน นี้ไข่ของท่านจากนี้ก็เตรียมตัวไปพบกันที่ศาลที่ว่าการอำเภอได้เลย”
เจิ้งซูอี้ปาไข่ต้มไปที่แม่เฒ่าจางจากนั้นนางจึงพูดออกมายาวเหยียด ทั้งแม่เฒ่าจางและชาวบ้านที่มามุงดูถึงกับเงียบไปตามๆ กันเพราะไม่เข้าใจว่านางพูดเรื่องอะไร แต่ที่พวกเขาพอจะฟังออกคือฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิตแม่เฒ่าจางหดคอด้วยความหวาดหวั่น แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่พูดคือหลานนอกไส้ของนาง นางก็กลับมาพองขนอีกครั้ง
“หน็อยแน่นางเด็กปากดีเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวอย่างนั้นหรือ ข้าตีพวกเจ้าแม่ลูกตายแล้วอย่างไร ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็เป็นคนสกุลหลิวของข้าคิดว่าพูดข่มขู่ข้าเช่นนี้แล้วข้าจะกลัวหรือ”
เจิ้งซูอี้ส่ายหัวให้กับความไร้เหตุผลของนาง คนที่ไม่ได้รับการศึกษานั้นส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ เจิ้งซูอี้หันไปประจันหน้ากับแม่เฒ่าจาง
“เช่นนั้นมาลองดูกันสักตั้งดีหรือไม่”
“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายเหยียนและฮูหยินน้อยเหยียนด้วย ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อีกครั้ง”“จะ...จริงหรือขอรับท่านหมอหลวง”เหยียนอี้เฟยถึงกับติดอ่าง หลังจากที่ลูกคนแรกได้สามเดือนเขาก็รีบทำเวลา เคี่ยวกรำฮูหยินของตนทั้งเช้าค่ำเพราะได้ข่าวว่ารุ่ยอ๋องได้ลูกแฝด เขาที่เป็นคู่ปรับจะยอมน้อยหน้าได้อย่างไร เขากอดภรรยาของตนด้วยความยินดี ไม่หลงเหลือความสุขุมใดใดให้เห็นอีกแล้วเรื่องมงคลได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันถึงสองเรื่อง ฮ่องเต้ที่ได้หลานชายฝาแฝด สั่งให้มีการเฉลิมฉลองทั่วเมืองหลวงถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน แม้จะเป็นช่วงอยู่เดือนของเจิ้งซูอี้แต่ซีหยวนไห่หนานก็คลอเคลียอยู่ข้างกายนางไม่ห่างแม้กระทั่งตอนที่ให้นมบุตรชายทั้งสองของตน ท่าทางเช่นนั้นของคนเห่อเมียสร้างความหมั่นไส้ให้แก่บ่าวไพร่ยิ่งนักน้ำนมของเจิ้งซูอี้คนเดียวไม่พอต่อความต้องการของเด็กทั้งสอง ฮองเฮาจึงหาแม่นมเพิ่มอีกสองคนมาให้นาง หลังจากที่พาต้าเป่าและเอ้อเป่ามาดื่มนมจากเจิ้งซูอี้ เขาก็ให้แม่นมรีบพาบุตรชายทั้งสองออกจากห้องไป“ท่านทำอย่างนั้นทำไม วันนี้ข้าพึ่งจะได้เห็นหน้าของพวกเขาเองนะ”ซีหยวนไห่หนานหน้ามุ่ยแต่ไม่ยอมตอบคำถามของนาง แต่มีหรือที่นางจะไม
ผ่านไปสามเดือน ตำหนักรุ่ยอ๋องก็ได้รับข่าวดีว่าพระชายากำลังตั้งครรภ์ สร้างความยินดีให้แก่เจ้านายที่อยู่ภายในวังและแต่คนตระกูลโจวยิ่งนัก อาหารบำรุงครรภ์มากมายถูกส่งมายังตำหนักรุ่ยอ๋องไม่เว้นแต่ละวัน องค์ชายเก้าที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทหมาดๆ เพราะรุ่ยอ๋องปฏิเสธตำแหน่งนี้ มาเยือนที่ตำหนักรุ่ยอ๋องด้วยตนเอง“พี่ห้าพี่สะใภ้ข้ามาเยี่ยมพวกท่านแล้ว”ซีหยวนเหวินเฮ่ายังคนมีนิสัยขี้เล่นไม่ต่างจากเดิม ถึงแม้ตนเองจะได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทแล้วก็ตาม ตอนนี้หลิงฮองเฮากำลังมองหาบุตรสาวของขุนนางเพื่อที่จะแต่งให้เป็นพระชายาเอกและพระชายารองแก่เขา แต่องค์รัชทายาทหมาดๆ นั้นไม่เคยสนใจเพราะสตรีที่เขาต้องการมาครองคู่จะต้องเหมือนพี่สะใภ้ห้า ไม่ว่าฮองเฮาจะหาใครมาเขาก็ไม่ชอบทั้งนั้นทุกครั้งเมื่อยามที่เขาถูกฮ่องเต้ซีหยวนหมิงตำหนิ เขาก็จะหนีมาที่ตำหนักรุ่ยอ๋อง และหลังจากนั้นทั้งซีหยวนไห่หนานและองค์รัชทายาทก็จะกลายเป็นผู้ประสบภัยไปทันที ทั้งสองถูกสั่งให้คุกเข่าหน้าห้องทรงงานด้วยกันจนกว่าจะสำนึกผิด ดังนั้นเมื่อยามที่เขาเห็นน้องชายต่างมารดาผู้นี้เขาจะมีใบหน้าบูดบึ้งทุกครั้ง“องค์รัชทายาท ท่านมาแ
ซีหยวนไห่หนานจับเรียวขาของนางแยกออกจากกัน เขาค่อยๆ ใช้แก่นกายถูไถไปที่กลีบดอกไม้ของนางเบาๆ เป็นจังหวะ น้ำหวานชโลมส่วนหัวจนฉ่ำเยิ้ม เสียงครางอย่างสุขสมของนางดังออกมาอย่างต่อเนื่องร่างบางกระตุกเกร็งอย่างรัวๆ เขายังไม่ทันได้สอดใส่นางก็เดินทางไปสู่สวรรค์ก่อนเขาแล้ว เขานี่ช่างเก่งกาจเสียจริง ซีหยวนไห่หนานคิดในใจอย่างฮึกเหิมโอกาสมาถึงแล้ว ช่วงเวลาที่นางสุขสมเป็นช่วงเวลาที่กลีบดอกไม่ของนางกำลังอ่อนไหว เขาค่อยๆ สอดแก่นกายอันใหญ่โตของตนเข้าไปช้าๆ ร่างบางที่กำลังเคลิบเคลิ้มได้สติกลับมาทันที“โอ๊ย!!! ข้าเจ็บ!!!”เจิ้งซูอี้บิดกายหลบ แต่ท่อนล่างของทั้งสองยังคงสอดประสานทำให้นางมิอาจหนีไปไหนได้“ยอดรักอดทนอีกหน่อย อีกเดี๋ยวก็จะไม่เจ็บแล้ว หลังจากนี้ข้าสัญญาว่าเจ้าจะรู้สึกดีเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ดั่งเช่นก่อนหน้านี้”เขาจูบปลอบประโลมร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน ตัวเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวเพราะความรัดแน่นของนาง แต่ครั้งแรกเขาจะปล่อยให้พังทลายลงไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปนางอาจจะกลัวแล้วไม่ยอมมีอะไรกับเขาอีกซีหยวนไห่หนานค่อยๆ ขยับแก่นกายของตนช้าๆ จนกระทั่งเขารับรู้ได้ว่าน้ำหวานของนางกำลังหลั่งออกมาชโลมเพื่
หลิวอันอันตอบ นางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกำลังรำลึกความหลังครั้งที่นางพูดคุยกับฮูหยินเจิ้ง“หลังจากที่เจ้าจากไป ข้าได้ไปที่วัดประจำเมืองหลวงเพื่อขอพรให้เจ้าปลอดภัย ข้าไปที่นั่นหลายต่อหลายครั้งและก่อนที่ข้าจะแต่งงานกับเหยียนอี้เฟยข้าได้พบกับพระชรารูปหนึ่ง ท่านได้พูดกับข้าก่อนที่ที่ข้าจะกลับว่า เหตุที่ข้ากำลังประสบเป็นเพราะข้าและเจ้านั้นมีกรรมร่วมกันมา หากข้าต้องการรู้เรื่องทั้งหมดข้าจะต้องถามท่านแม่ในตอนที่เจ้าเกิด”เจิ้งซูอี้หยุดไปสักพักก่อนที่จะเอ่ยขึ้นอีก“เมื่อข้ากลับมาที่จวน คำพูดของพระชรารูปนั้นทำให้ข้าว้าวุ่นใจจนทนไม่ไหว ข้าจึงไปพบท่านแม่เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น นางเล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนที่เจ้าคลอดออกมาครั้งแรกเจ้านั้นหยุดหายใจไปแล้วแต่ท่านหมอช่วยเจ้ากลับมาได้ แต่น่าเสียดายที่น้องสาวของเจ้าอีกคนที่คลอดตามมาทีหลังนั้นเสียชีวิต ตอนนั้นท่านแม่เสียใจมากคนที่รู้เรื่องนี้มีเพียงท่านแม่ท่านพ่อ มามาที่รับใช้ข้างกายนางและหมอตำแย ท่านพ่อสั่งให้พวกนางปิดปากเงียบเอาไว้ห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผู้ใดรู้”เจิ้งซูอี้อึ้งไป นางไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยมิน่าท่านพ่อและท่านแม่ของนางถึงได้


















reviews