อ๋องเจวี้ยนได้รับการแจ้งจากในวัง ตอนได้ยินว่าพรุ่งนี้ให้เขาพาพระชายาเข้าวังเพื่อร่วมงานเลี้ยงก็รู้ขึ้นมาทันทีว่าองค์จักรพรรดิจะต้องทำเรื่องน่าเบื่ออีกแน่เขาหัวเราะเย็นชาขึ้นมาชิงอีกังวลเล็กน้อย"ท่านอ๋อง งานเลี้ยงครั้งที่แล้วคืองานเลี้ยงหงเหมิน ครั้งนั้นท่านก็มีปานประหลาดลามขึ้นมาทั้งตัว หายามารักษาอยู๋นานกว่าจะดีขึ้น ตอนนี้ยังจะเชิญท่านไปงานเลี้ยงในวังอีก"งานเลี้ยงวังครั้งที่แล้วคือเมื่อหลายปีก่อนแต่ว่าครั้งนั้นท่านอ๋องก็เหมือนทิ้งชีวิตไปครึ่งหนึ่งครั้งน้นเองก็ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้ องค์จักรพรรดิจึงผลักขันทีกับสาวใช้ในวังหลายคนออกมารับเคราะห์ โบยจนตายไปตั้งหลายคนต่อหน้าท่านอ๋องแต่ว่าท่านอ๋องเองก็ได้รับความทรมานมานานพอควรครั้งนั้นองค์จักรพรรดิเอ่ยขึ้นอย่างเสียใจว่าหลังจากนี้ถ้ามีงานเลี้ยงในวังก็จะไม่ให้อ๋องเจวี้ยนมาเข้าร่วมอีกแล้ว อนุญาตให้ท่านอ๋องไม่ต้องเข้าวังร่วมงานเลี้ยงใดๆอีกตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?เป็นถึงจักรพรรดิ แต่พูดเหมือนผายลมแบบนี้ได้ด้วยหรือ?คนที่ไม่รักษาคำพูดแบบนี้มันก็เป็ฯขยะทั้งนั้นคำว่าขยะคำนี้ ชิงอีก็เรียนรู้มาจากฟู่จาวหนิง เขารู้สึกว่ามีเหตุผลดี"พวก
ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่นางยังต้องให้เจ้าเด็กน้อยนี่มาเลี้ยงดูหรือ?เจ้าเด็กน้อยไม่ได้เรื่องที่มาหาคนไกลถึงพันลี้ แต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรเลย แล้วยังเกือบจะถูกคนตีจนตายเหมือนเหยื่อล่า อย่างเขาเนี่ยนะ คิดจะมาเลี้ยงดูนางกับท่านปู่?"จริงนะ ท่านอย่าไม่เชื่อสิ ตั้งแต่เด็กข้าไม่เคยมีผู้อาวุโสเลย มีแค่ท่านแม่คนเดียวเท่านั้น แต่ว่าท่านแม่เองก็ดูแลมากไม่ไหว ตอนที่ข้าเห็นท่านก็รู้สึกว่าท่านคือพี่สาวของข้า พอเห็นท่านปู่ก็รู้สึกว่าเขาคือท่านปู่ของข้า ข้าพักเข้ามา ก็รู้สึกว่าที่นี่เหมือนบ้านของข้า"เฮ่อเหลียนเฟยกลัวฟู่จาวหนิงจะไม่เชื่อ จึงคิดจะยกมือลั่นคำสาบาน่"เอาล่ะเอาล่ะ เจ้าดูแลตัวเองดีดี ถ้าหากมีคนจากบ้านอื่นมาหาเรื่อง เจ้าก็ให้พวกเขามาขวางเอาไว้แล้วกัน อย่าบุ่มบ่ามรู้ไหม?""ขอรับ พี่หญิง ข้าจะไม่เพิ่มความลำบากให้ท่านแน่""คุณหนู"เสี่ยวเถารีบร้อนวิ่งเข้ามา "ท่านพี่หงจั๋วมาอีกแล้ว"นางรู้จักหงจั๋วกับเฝิ่นซิงแล้ว"นางมาทำอะไรหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกแปลกๆ มากันอีกทำไม?"ท่านพี่หงจั๋วบอกว่า องค์จักรพรรดิมีรับสั่ง ให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ ด
คนมากมายล้วนได้รับข่าวในวังหลวงแล้วจู่ๆ ก็มีงานเลี้ยงในวัง ทุกคนล้วนรู้สึกแปลกใจ แต่นี่ก็เป็นรับสั่งจากองค์จักรพรรดิ ทุกคนแน่นอนว่าทำได้เพียงไปตระเตรียม วันถัดมาตอนบ่ายก็ทยอยกันเข้าวังงานเลี้ยงวังนี้จัดขึ้นในตำหนักเหอชิงตำหนักเหอชิงไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นวันนี้จึงไม่ได้มีมหรสพยิ่งใหญ่นัก คนที่เรียกเข้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเครือพระญาติในราชวงศ์ และยังมีพวกคนใหญ่โตที่มียศถาหน่อยอีกบางส่วน พาเหล่าภรรยาและทายาทเข้ามาแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่คนที่มาก็ยังมีไม่น้อยในตำหนักจัดโต๊ะไว้สองแถว ตรงกลางเว้นว่างเอาไว้เหล่าสาวชาวเดินเข้าออกจัดวางสำรับอาหารสุราเลิศรสไว้แล้วด้านนอกยังมองเห็นดอกไม้ที่เบ่งบานสะพรั่ง นี่อยู่ในวัง แต่ด้านนอกกลับเหมือนฤดูใบไม้ร่วง ไม่มีดอกไม้เหลืออยู่เลยนายท่านจ้าวก็พาจ้าวเฉินจ้าวหรูมาด้วยนายท่านจ้าวพอเข้ามาก็พูดคุยกับสหายก่อน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนที่เข้ามาประจบประแจงเยินยอเขา จนทำให้จ้าวเฉินจ้าวหรูที่ได้ยินยืดอกภูมิใจขึ้นมาดูเอาเถิด บิดาของพวกเขาจะได้รับการเอ็นดูจากองค์จักรพรรดิ คนอื่นๆ จึงยกยอพวกเขาเช่นนี้รอจนอันเหนียนอันชิงเข้ามา สีหน้าของพี่น้องก็ดูขรึมลงทันทีเ
พอคนคู่นี้เดินเข้ามา ครู่หนึ่งก็ดึงสายตาคนทั้งหมดไปทันทีในนี้มีคนไม่น้อยที่ตั้งอกตั้งใจแต่งหน้าแต่งตัวมา และยังมีหญิงสูงศักดิ์อีกลหายคนที่อยากจะเข้าวัง ดังนั้นวันนี้จึงแข่งกันสวยแข่งกันงามเดิมทีพวกนางล้วนกำลังแอบพิจารณาการแต่งกายของคนอื่น ต่างฝ่ายต่างมีความคิดขึ้นมาแต่ว่าขณะที่คู่สามีภรรยาอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา ความคิดเหล่านี้ก็ถูกสั่นสะเทือนลอยไปทั้งหมด คนอื่นๆ แต่งตัวกันอย่างไรก็ไม่มีใครสนใจแล้วอ๋องเจวี้ยนมาในชุดจักรพรรดิสีม่วง บนสีม่วงเข้มปักอินทรีเงิน คอปกสีดำ แขนเสื้อสีดำ เข็มขัดเอวสีดำรองเท้าสีดำ ทำให้คนล้วนต้องศิโรราบ ต่อให้เขาสวมหน้ากากเงินครึ่งหน้าอยู่ ก็ไม่ได้ทำลายท่วงท่าของเขาเลย ซ้ำยังทำให้เขาดูแล้วยิ่งเพิ่มความลึกลับขึ้นไปอีกฟู่จาวหนิงที่อยู่ข้างๆ เขาก็อยู่ในชุดชาววังสีม่วง ในสีม่วงมีประกายสีเงิน ขณะที่เดินก็ราวกับจันทราบนฟ้าราตรี ด้นบนปักโบตั๋นสีเงินไว้ ดูสูงส่งเรียบสงบและรูปร่างของนางก็สวยสง่า เรียวคอยาวราวหงส์ฟ้า ไหล่กลึงกลมเกลี้ยงทั้งสอง เอวที่โอบได้รอบ กระโปรงยาวลากพื้น ทรงสง่ามีระดับผมสีดำขลับของนางถูกรวบเป็นมวย เสียบเอาไว้ด้วยปิ่นไข่มุกสองเล่ม และยังมีด
ช่วงนี้นางก็ยังไปหาเซียวเหยียนจิ่งอยู่ตลอด แต่ว่าเขาก็ไม่เออไม่ออกับตนเองสักเท่าไร นางเดิมทีก็รู้สึกไม่วางใจอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นเซียวเหยียนจิงเป็นแบบนี้ หลี่จื่อเหยาในใจจึงดำดิ่งอยู่ตลอด"องค์จักรพรรดิ"ฮองเฮากว่าจะหาเสียงตนเองเจอ หันหน้าไปมององค์จักรพรรดิ แต่กลับเห็นว่าในตาขององค์จักรพรรดิก็เผยความเคลิบเคลิ้มออกมาด้วย ใจก็ปะทุไฟโกรธขึ้นมาทันทีเจ้าผู้ชายต่ำช้า!นั่นมันน้องสะใภ้ของเจ้านะ!ก่อนหน้านี้เขาเห็นๆ อยู่ว่าไม่ชอบฟู่จาวหนิง ตอนนี้กลับมาเคลิบเคลิ้มเสียอย่างนั้น?ฟู่จาวหนิงนี่มันภัยพิบัติจริงๆ!นางจะต้องกำจัดฟู่จาวหนิงออกไปให้ได้!ถ้าหากหลังจากนี้อ๋องเจวี้ยนป่วยจนตาย ฟู่จาวหนิงในฐานะพระชายาอ๋องเจวี้ยน ก็คงจะมีโอกาสมากเลยทีเดียวที่จะต้องเข้าวัง พอถึงตอนนั้นใครจะรู้ว่านางจะอยากปีนตัวจักรพรรดิ ไปยั่วยวนองค์จักรพรรดิเพราะความเหงาหรือไม่?ตอนนี้ฮองเฮาเกลียดฟู่จาวหนิงแล้วจริงๆฟู่จาวหนิงไม่สนใจสายตาคนทั้งหมด เดินตามอ๋องเจวี้ยนไปหาที่นั่งด้านหน้าอ๋องเจวี้ยนเหลือบมองนางผาดหนึ่ง"เจ้าดูนิ่งมากจริงๆ"เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงทำนางเกินคาดจริงๆเดิมทีคิดว่าในฐานะคุณหนูตกอับคนหนึ
"ไม่หรอก ข้าไม่มีอะไรที่ไม่ยินดี เดิมทีข้าก็หน้าตาดีอยู่แล้ว"ฟู่จาวหนิงก็เหมือนฟังไม่ออกว่าอะไรไม่ถูกต้อง ยิ้มตาหยีเอ่ยออกมาคำหนึ่ง แต่ว่าก็เหมือนรู้สึกว่าชมตัวเองแบบนี้ดูไม่ค่อยดี ก็เลยเสริมไปอีกประโยคหนึ่ง "ก็แค่ดูดีกว่าฮองเฮาแค่นิดเดียวเท่านั้น"พูดถึงจุดนี้ นางยังใช้มือวาดเปรียบเทียบ แต่ก็วาดขนาดที่ใหญ่ขนาดแตงโมใหญ่ลูกหนึ่งออกมา ไม่ได้นิดเดียวเลยจริงๆนี่เหมือนกับตบฉาดไปที่หน้าฮองเฮาตรงๆเลยฮองเฮาลมหายใจเร่งถี่ขึ้นมาแล้ว"แต่ว่า ความงามเดิมทีก็มีอยู่นับพันรูปแบบ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเอกภาพ เหล่าคุณหนูฮูหยินก็ล้วนมีคุณค่าของตน ข้าแค่ชนะเพราะจันทราโน้มเมืองชุดนี้ที่ท่านอ๋องของข้าเตรียมไว้ก็เท่านั้น"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน หมุนตัวเบาๆนางหมุนเช่นนี้ ชายกระโปรงก็หมุนพริ้ว จนส่องแสงระยับจับตา ทำให้คนสัมผัสได้ถึงภาพฉาก "จันทราโน้มเมือง" จริงๆพอชมหญิงสาวที่อยู่ในลานทั้งหมด แล้วยังสาดความรักออกมาอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังขานชื่อชุดกระโปรงทั้งตัวนี้ของนางออกมาอีกเหล่าหญิงสาวในลานพอได้ยินคำพูดของนางก็ล้วนชื่นชมเห็นด้วย ความงามมีอยู่นับพันแบบ ดังนั้นพวกนางเองก็งดงามเช่นกัน ฟู่จาวหนิงพูดได้ถู
พระชายาที่อภิเษกอย่างฉุกละหุกขนาดนั้น จะได้รับของดีมาตั้งมากมายได้อย่างไร?"อายวน เจ้าดูจะมีความรู้สึกให้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยนลึกซึ้งจริงๆ ของขนาดนี้ก็ยังมอบให้นางได้ พวกเจ้าคงไม่ได้รู้จักกันมาก่อนใช่ไหม?" องค์จักรพรรดิอดถามอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาไม่ได้เซียวเหยียนจิ่งจ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิงเขาตอนนี้ก็สงสัยเช่นกัน!ฟู่จาวหนิงอาจจะไปยั่วยวนอ๋องเจวี้ยนเอาไว้ตั้งนานแล้วไหม? หลังจากถูกเขาปฏิเสธ นางก็พุ่งเข้าไปหาอ้อมกอดของอ๋องเจวี้ยนทันที!ก่อนหน้านี้เห็นๆ อยู่ว่านางเอาแต่ไล่ตามเขา นางอยากจะแต่งงานกับเขา หรือว่านางหลอกเขามาตลอดกัน?"จาวหนิงเป็นพระชายาของข้า ถ้าข้าไม่นำสิ่งของให้นาง แล้วจะเอาไปให้ใครกัน" อ๋องเจวี้ยนถามขึ้นมาคำหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยื่นมือมาจับมือฟู่จาวหนิงเอาไว้ เอ่ยขึ้นกับนางอย่างอ่อนโยน "จาวหนิง นั่งเถอะ ยืนแล้วเหนื่อยนะ"เขาพานางนั่งลงมา ด้วยท่าทีเหมือนรักกันอย่างลึกซึ้งฟู่จาวหนิงยิ้มให้เขา ในดวงตากลับมีสายตาเย้ยหยันแสดง เขากำลังแสดง!ในจวนอ๋อง ตอนเขาให้คนเอาชุดนี้ออกมาก็บอกกับนางเอาไว้อย่างชัดเจน"ชุดกระโปรงนี้ให้เจ้ายืมใส่หนึ่งครั้ง คอยสนับสนุนสถานการณ์ ถึงอย่างไรตร
นี่ไม่ใช่การชม แต่ว่าแม่นางคนอื่นก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเออออกันพวกนางยอมรับคำพูดของฟู่จาวหนิง และเชื่อด้วยเพราะว่าพวกนางตอนนี้เห็นอ๋องเจวี้ยน แต่ในใจพวกนางก็ล้วนวาดโครงกันออกมาจนใจเต้นปึงปังถ้าสามารถสัมผัสระยะใกล้ได้ จากนั้นยังได้ยินอ่องเจวี้ยนใช้น้ำเสียงที่น่าดึงดูดนั่นพูดกับพวกนางอย่างอ่อนโยน พวกนางก็คงถูกทำให้เคลิบเคลิ้มอย่างแน่นอนภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนเลยเหล่าชายหนุ่มกลับมีไฟโกรธกันขึ้นมาพวกเขาถูกชายที่สวมหน้ากากคนหนึ่งแซงขึ้นหน้าไปเสียแล้วหลายวันนี้ ในเมืองหลวงล้วนมีคนไม่น้อยที่เดาว่าใบหน้าอ๋องเจวี้ยนน่าจะพิกลพิการไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ยอมปลดหน้ากากลงมา แล้วยังมีคนที่แอบถากถางประชะประชันเขารับหลังอีกด้วยจะเป็นอ๋องเจวี้ยนได้อย่างไร? เจวี้ยนคำนี้ไม่ได้เหมาะกับเขาที่ใบหน้าพิกลพิการหรอก น่าจะเรียกว่าอ๋องพิการไปเลยดีกว่าพอบวกกับร่างกายของเขาที่ย่ำแย่ขนาดนี้ คอยชุบเลี้ยงอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาตลอดหลายปี นั่นคือป่วยหนักแล้วจริงๆแต่ว่าตอนนี้พอเห็นสายตาของเหล่าคณหนูที่นี่ พวกนางล้วนรู้สึกเหมือนถูกตบฉาดเข้ามา"ทำไมข้าถึงจำได้ ว่าแต่ก่อ
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม