บุปผาข้ามภพ วิชาหมอจากแดนไกล

บุปผาข้ามภพ วิชาหมอจากแดนไกล

last updateLast Updated : 2025-10-23
By:  MumiOngoing
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
27Chapters
116views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ซูอี้เหม่ย หญิงสาวยุคปัจจุบันที่สิ้นใจเพราะอุบัติเหตุรถชนกลางถนนใหญ่ ทุกคนต่างคิดว่าเธอคงไม่รอดแน่ แต่เมื่อสติเลือนรางค่อยๆ กลับมา เธอกลับพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนแคร่ไม้เก่าๆ ริมลำธารในหมู่บ้านโบราณ! ร่างกายที่เธอสวมอยู่ไม่ใช่ของเธอ หากแต่เป็น "ซูอี้เหม่ย" อีกคนหนึ่ง—บุตรสาวชาวบ้านผู้งามล่มเมือง แต่ต้องทนอยู่ใต้การกดขี่ของแม่เลี้ยงใจร้ายและบิดาที่ไร้ความรับผิดชอบ แม่เลี้ยงคนนั้น…ยังดันมีใบหน้าเหมือนเจ้านายหญิงผู้กดขี่เธอในชาติก่อนอีกด้วย! คืนแรกที่ลืมตาตื่น เธอถูกชายแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ช่วยขึ้นมาจากลำธาร เนื้อตัวเปียกปอนและอ่อนแรงจนไม่อาจขัดขืน ความใกล้ชิดและสายตาคมลึกล้ำของเขาทำให้หัวใจเธอสั่นสะท้าน แต่แทนที่จะยอมจำนนต่อโชคชะตา ซูอี้เหม่ยกลับสาบานกับตนเองว่า—คราวนี้นางจะไม่ใช่ผู้ถูกกระทำอีกต่อไป นับแต่นี้ไป หญิงงามผู้นี้จะใช้สมองและเสน่ห์อันร้ายกาจ ทวงคืนศักดิ์ศรีของตนเอง และแก้แค้นแทนเจ้าของร่างเดิมที่ต้องทนทุกข์ทรมาน

View More

Chapter 1

ลำธารแห่งชะตาลิขิต

สายลมยามรุ่งสางพัดผ่านยอดไผ่เป็นเสียงกระซิบแผ่วเบา กลิ่นหอมชื้นจากหญ้าเขียวและกลีบดอกไม้ป่าที่ร่วงหล่นลงบนผืนน้ำลำธารทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านโบราณแห่งนี้สงบงามราวกับภาพวาด เสียงนกร้องขับขานรับแสงแรกของอรุณดังก้องประสานกับเสียงน้ำไหลเป็นท่วงทำนองธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ท่ามกลางหมอกบางที่ลอยละล่องเหนือสายน้ำ เกิดประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์สีทอง

ริมลำธารนั้น มีหญิงสาวผู้หนึ่งค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ร่างกายเปียกโชกด้วยหยดน้ำที่เกาะทั่วเนื้อผ้า ผมยาวดำสลวยชุ่มน้ำแนบไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ใบหน้างดงามราวเทพธิดา ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดหวั่น

“ที่นี่…ที่ไหนกัน?” เสียงในใจของนางสั่นพร่า พลางยกมือขึ้นลูบหน้าผาก ความทรงจำสุดท้ายของ "ซูอี้เหม่ย" คือเสียงเบรกดังลั่น ก่อนร่างเธอจะล้มลงสู่ถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและผู้คน แต่เหตุใดตอนนี้กลับได้กลิ่นดินหอมสดชื่น และสัมผัสลมเย็นของสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย

สายตาคมงดงามเบิกกว้างเมื่อสะท้อนเงาของตนในผิวน้ำ — ร่างกายที่เธอเห็นไม่ใช่เธอ! เครื่องแต่งกายที่สวมใส่เป็นชุดจีนโบราณปักลายดอกโบตั๋นด้วยเส้นด้ายทองงดงาม ผิวกายขาวละเอียดราวหิมะ และที่สำคัญ ใบหน้านั้น แม้จะคล้ายตนเอง แต่กลับดูอ่อนหวาน อ่อนเยาว์ และสง่างามยิ่งกว่าที่เคย

หัวใจพลันเต้นแรง เธอกัดริมฝีปากเบาๆ ความคิดมากมายประดังเข้ามาในหัว “นี่…ฉันทะลุมิติมางั้นหรือ? หรือว่าฉันตายไปแล้วจริงๆ…แล้วฟื้นขึ้นในร่างของใครบางคน?”

เสียงหัวเราะแผ่วจากฝั่งหมู่บ้านดังแว่วมา เด็กๆ วิ่งไล่จับกันบนทุ่งหญ้า เสียงเรียกหาของพ่อค้าแม่ค้าดังขึ้นที่ถนนสายเล็ก กลิ่นขนมแป้งทอดลอยมาแตะจมูก สายตาของซูอี้เหม่ยจับจ้องไปยังเรือนไม้ที่เรียงรายอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทุกสิ่งดูเรียบง่าย แต่กลับแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่โลกเดิมของเธอไม่มี

แต่ในความสงบก็ซ่อนบางสิ่งอันลึกลับ นางสัมผัสได้ถึงสายตาที่เหมือนจะจับจ้องจากที่ไกลออกไป ความรู้สึกเย็นวาบแผ่วขึ้นมาตามต้นคอ ทำให้นางรีบเบือนหน้ากลับไปยังผิวน้ำ ลมหายใจเริ่มถี่รัว

ทันใดนั้น ภาพหนึ่งก็วาบขึ้นมาในห้วงความทรงจำ — ใบหน้าของหญิงที่เป็นหัวหน้าฝ่ายในชีวิตก่อน ผู้กดขี่และทำร้ายเธออย่างไม่ปรานี ใบหน้านั้น…กลับไปตรงกับใบหน้าของแม่เลี้ยงใจร้ายที่ชาวบ้านเอ่ยถึงเมื่อคืนนี้ทุกประการ แม้นางจะเพิ่งตื่นในร่างใหม่นี้ แต่ก็เหมือนโชคชะตาจงใจขีดเส้นให้เธอต้องเผชิญหน้ากับคนผู้นั้นอีกครั้ง

ความกลัวผสมกับความโกรธแค้นพวยพุ่งขึ้นมา ซูอี้เหม่ยกำมือแน่น ดวงตาสั่นระริกด้วยความลังเล แต่ทันใดนั้นกลับสว่างวาบด้วยประกายใหม่ นางหวนคิดถึงวันที่เคยอ่อนแอ ต้องทนรับการกดขี่โดยไม่อาจโต้ตอบ จนสุดท้ายชีวิตก็ถูกพรากไปอย่างไร้ค่า

“ถ้าโชคชะตายอมให้ฉันเริ่มต้นใหม่ในร่างนี้ ฉันจะไม่ยอมเป็นคนอ่อนแออีกแล้ว… ต่อให้ต้องเผชิญกับความเกลียดชังหรืออุปสรรค ฉันก็จะเป็นฝ่ายกำหนดชะตาของตนเอง!” เสียงในใจดังชัดเจนกว่าครั้งใด

ราวกับธรรมชาติตอบรับ ลมเช้าวูบหนึ่งพัดปลายผมของนางให้พลิ้วไสว หมอกบางค่อยๆ จางหาย เผยให้เห็นหมู่บ้านโบราณที่อาบด้วยแสงสีทองของอรุณรุ่ง ท้องฟ้ากว้างไกลทอดตัวออกไปไม่สิ้นสุด ช่างเหมือนเป็นการประกาศถึงการเกิดใหม่ของหญิงสาวผู้หนึ่ง

ซูอี้เหม่ยยืนขึ้นช้าๆ ร่างกายที่เคยสั่นไหวด้วยความกลัวบัดนี้มั่นคง แววตาที่พร่ามัวค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นประกายเด็ดเดี่ยว แม้นางยังไม่รู้ว่าผืนแผ่นดินนี้เป็นที่ใด หรือเรื่องราวใดรออยู่ข้างหน้า แต่สิ่งหนึ่งที่นางแน่ใจ — นับจากวันนี้ เธอจะไม่ใช่เพียงหญิงงามธรรมดาอีกต่อไป หากแต่เป็น “หญิงงามพาลผู้ท้าทายโชคชะตา” ผู้พร้อมเขียนเรื่องราวใหม่ด้วยสองมือของตนเอง

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
27 Chapters
ลำธารแห่งชะตาลิขิต
สายลมยามรุ่งสางพัดผ่านยอดไผ่เป็นเสียงกระซิบแผ่วเบา กลิ่นหอมชื้นจากหญ้าเขียวและกลีบดอกไม้ป่าที่ร่วงหล่นลงบนผืนน้ำลำธารทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านโบราณแห่งนี้สงบงามราวกับภาพวาด เสียงนกร้องขับขานรับแสงแรกของอรุณดังก้องประสานกับเสียงน้ำไหลเป็นท่วงทำนองธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ท่ามกลางหมอกบางที่ลอยละล่องเหนือสายน้ำ เกิดประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์สีทองริมลำธารนั้น มีหญิงสาวผู้หนึ่งค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น ร่างกายเปียกโชกด้วยหยดน้ำที่เกาะทั่วเนื้อผ้า ผมยาวดำสลวยชุ่มน้ำแนบไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ใบหน้างดงามราวเทพธิดา ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดหวั่น“ที่นี่…ที่ไหนกัน?” เสียงในใจของนางสั่นพร่า พลางยกมือขึ้นลูบหน้าผาก ความทรงจำสุดท้ายของ "ซูอี้เหม่ย" คือเสียงเบรกดังลั่น ก่อนร่างเธอจะล้มลงสู่ถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟและผู้คน แต่เหตุใดตอนนี้กลับได้กลิ่นดินหอมสดชื่น และสัมผัสลมเย็นของสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยสายตาคมงดงามเบิกกว้างเมื่อสะท้อนเงาของตนในผิวน้ำ — ร่างกายที่เธอเห็นไม่ใช่เธอ! เครื่องแต่งกายที่สวมใส่เป็นชุดจีนโบราณปักลายดอกโบตั๋นด้วยเส้นด้ายทองงดงาม ผิวกายขาวละเอียดราวหิมะ และที่สำคัญ ใบหน
last updateLast Updated : 2025-09-07
Read more
ชายลึกลับแห่งลำธารหมอก
เสียงน้ำจากลำธารยังคงไหลรินเป็นสายยาวราวกับไม่รู้จักสิ้นสุด สายน้ำใสราวกระจกสะท้อนเงาไม้ใหญ่ที่ทอดกิ่งก้านลงมาปกคลุม ความชื้นเย็นยามเช้าซึมเข้าสู่ผิวกายของซูอี้เหม่ยจนทำให้นางสั่นสะท้านเล็กน้อย ร่างกายนี้แม้จะงดงามดุจหยก แต่กลับอ่อนแรงและบอบบางเหมือนกลีบดอกไม้ที่เพิ่งผ่านพายุฝนมา ในห้วงความคิดของนางยังคงสับสนปั่นป่วน — โลกใบนี้คือที่ใดกันแน่? เหตุใดนางจึงมาอยู่ในร่างของสตรีผู้นี้ได้?หมอกเช้าลอยคลอเคลียทั่วหุบเขา แสงอาทิตย์แรกเพียงเล็กน้อยสาดผ่านม่านหมอกลงมา คล้ายกับสวรรค์ตั้งใจปกปิดความจริงบางอย่างไม่ให้นางล่วงรู้ ทว่าในยามที่นางกำลังครุ่นคิดถึงชะตากรรมของตน เสียงกีบม้ากลับดังแทรกขึ้นมา เสียงนั้นไม่ใช่เพียงการเดินผ่านธรรมดา หากแต่เป็นจังหวะหนักแน่นที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและความมั่นใจ กีบม้ากระทบพื้นหินกรวด ก้องสะท้อนไปทั่วหุบเขาเหมือนเสียงระฆังเตือนล่วงหน้าให้ระวังภัยซูอี้เหม่ยหายใจสะดุด นางเหลือบมองไปทางทิศเสียงนั้น และเพียงอึดใจเดียว เงาร่างดำทะมึนก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมาจากม่านหมอก ม้าสีดำสนิท สูงสง่าดุจอสูรแห่งรัตติกาล กีบเหล็กของมันกระทบพื้นหญ้าเป็นประกายสะท้อนแดดยามเช้า บนหลังม้า
last updateLast Updated : 2025-09-07
Read more
บ้านที่ไม่ใช่บ้าน
เสียงกีบม้าค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมเงาของชายลึกลับผู้จากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นอายแปลกประหลาดที่ยังวนเวียนอยู่ในใจ ราวกับเงาแห่งโชคชะตาที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าแต่กลับกดทับลงบนหัวใจของซูอี้เหม่ยอย่างเงียบงันนางสูดลมหายใจลึก พยายามสงบความปั่นป่วนในอก ก่อนก้าวเดินกลับเข้าสู่หมู่บ้านเล็กริมภูเขา ที่ซึ่งชีวิตภายนอกยังคงดำเนินไปอย่างปกติ บ้านไม้เรียงรายอยู่สองฝั่งถนนดินแดง กลิ่นหอมของฟืนและอาหารพื้นบ้านลอยตามลมมา เด็กๆ วิ่งเล่นเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ผู้เฒ่านั่งสานตะกร้าใต้ร่มไม้ บรรยากาศดูอบอุ่นราวหมู่บ้านเล็กที่ห่างไกลความวุ่นวายของโลกภายนอกแต่สำหรับซูอี้เหม่ย…ที่นี่กลับเต็มไปด้วยความอึดอัดเหมือนกำลังถูกล่ามด้วยโซ่ล่องหน บรรยากาศแสนสงบนี้ไม่อาจกลบกลิ่นอายมืดดำที่คลี่คลุมหัวใจของเธอเมื่อก้าวเท้าเข้าใกล้คฤหาสน์ไม้หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางหมู่บ้าน เสียงด่าทอแหลมสูงก็ดังลอดออกมาจากด้านในทันที“เจ้าขี้เกียจ! ทำไมยังไม่ไปตักน้ำ! หรือเจ้าคิดจะใช้ความงามบังหน้าแล้วเอาตัวรอดไปวันๆ รึไง!”เสียงนั้นแทงทะลุเข้าไปในโสตประสาทจนร่างกายแข็งทื่อ ซูอี้เหม่ยหยุดชะงัก หัวใจบีบรัดแน่นราวกับถูกกำมือเย็นเยียบบ
last updateLast Updated : 2025-09-07
Read more
เริ่มต้น
ภายในเรือนใหญ่แห่งตระกูลซู กลิ่นชาดำยังคงกรุ่นกระจายอยู่ทั่วโถงไม้โอ่อ่า แสงแดดยามสายลอดผ่านหน้าต่างไม้ฉลุลาย ละลายเป็นลายเงาลงบนพื้นสะอาดมันวาว ราวกับเส้นทองที่ร่ายรำอยู่ใต้แสงอาทิตย์ บรรยากาศโดยรอบแม้ดูสงบสุข ทว่าแท้จริงกลับเต็มไปด้วยความกดดันที่อัดแน่นจนแทบหายใจไม่ทั่วท้องบนตั่งสูงด้านในสุด สวี่ซินเหมยนั่งประทับอยู่ นางสวมอาภรณ์ผ้าแพรสีชมพูอ่อน ปักลายดอกเหมยระยับแวววาว ผิวพรรณที่ทาด้วยแป้งหอมราคาแพงดูราวกับเครื่องเคลือบงดงาม หากแต่แววตาและสีหน้ากลับกรีดเฉือนดุจมีดคม นางยกพัดหยกขึ้นปิดริมฝีปาก แต่สายตากลับจับจ้องไปยังสตรีอีกผู้หนึ่งที่ยืนตรงกลางโถง“ซูอี้เหม่ย” น้ำเสียงแหลมสูงก้องสะท้อนทั่วห้องโถง “เจ้าหายไปทั้งคืน กลับมาพร้อมเสื้อผ้าเปียกปอน สภาพน่ารังเกียจเช่นนั้น กล้าทำให้ตระกูลนี้ขายหน้าได้อย่างไร!”ริมฝีปากบางภายใต้พัดหยกขยับพลางสั่นสะท้านด้วยโทสะ เสียงพูดของนางเต็มไปด้วยการกล่าวโทษและการกดข่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนทุกคนว่าตนคือภรรยาหลวงผู้ครอบครองอำนาจสูงสุดในเรือนบิดาของซูอี้เหม่ย นั่งอยู่ข้างๆ เพียงก้มหน้าดื่มชาเงียบๆ มือที่ถือถ้วยชาแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน แต่กลับไม่เปล่งเสีย
last updateLast Updated : 2025-09-07
Read more
ความลับในดวงตา
แสงอาทิตย์ยามบ่ายคล้อยสาดส่องลงบนลานดินหน้าบ้าน เงาของต้นไผ่เอนลู่ตามแรงลมทอดลงบนพื้นราวกับเส้นหมึกที่ขีดเขียนโดยจิตรกรผู้ชำนาญ ซูอี้เหม่ยก้าวออกจากเรือนด้วยจังหวะมั่นคง แม้หัวใจยังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเพราะการปะทะกับแม่เลี้ยงเมื่อครู่ แต่บนใบหน้างดงามกลับฉายรอยยิ้มเย็นเฉียบนางไม่คิดจะทนรับฟังคำด่าทอและการเหยียดหยามอีกต่อไป — ชีวิตนี้ นางมิได้เกิดมาเพื่อเป็นเครื่องรองรับความโกรธแค้นหรือเป็นตัวตลกให้ใครหยามเหยียด“บ้านหลังนี้…ไม่ใช่ที่สำหรับฉันอีกแล้ว” เสียงในใจดังขึ้นแน่วแน่ทันทีที่ก้าวพ้นประตูไม้บานใหญ่ กลิ่นอายของอิสรภาพก็เหมือนพัดเข้าสู่หัวใจ นางเดินตรงไปตามถนนสายเล็กของหมู่บ้าน เสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่วิ่งไล่จับกันดังคลอไปกับเสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า กลิ่นอาหารทอดบนกระทะและกลิ่นขนมหวานพื้นบ้านลอยมาตามลม บรรยากาศช่างคึกคักสดใส ทว่าหัวใจของซูอี้เหม่ยกลับรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคย โลกที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องเรียนรู้และเผชิญหน้าแต่ก่อนที่นางจะได้ทอดสายตาชื่นชมโลกใบใหม่นี้ เสียงฝีเท้าหนักแน่นกลับดังขึ้นจากด้านหลังตึก… ตึก… ตึก…เสียงนั้นแตกต่างจากเสียงฝีเท้า
last updateLast Updated : 2025-09-07
Read more
บทที่ 6 ก้าวแรกสู่เมืองหลวง
แสงอรุณแห่งวันใหม่ค่อย ๆ แผ่วลงจากฟากฟ้า ราวกับผืนผ้าที่ถูกกางออกด้วยสีทองอ่อน สาดแสงไปทั่วท้องทุ่งและภูเขาซึ่งทอดตัวอยู่ห่างไกล สายหมอกบางเบาลอยคลอเหนือทุ่งหญ้าและแปลงนาข้าวที่เพิ่งชุ่มด้วยหยาดฝนเมื่อคืน กลิ่นดินชื้นกับดอกหญ้าผสมน้ำค้างหอมกรุ่นอยู่ในอากาศ—เช้าวันนี้ไม่เหมือนวันไหน ๆ สำหรับหญิงสาวผู้หนึ่งซูอี้เหม่ยเดินบนเส้นทางดินแดงที่คดเคี้ยวออกจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ห่อผ้าสีซีดพาดไหล่บรรจุเพียงเสื้อผ้าหยาบสองสามชุด หนังสือเก่าขาดแหว่ง และหยกชิ้นเล็กของมารดาแท้ ๆ —ทั้งหมดที่นางเลือกจะพก นอกเหนือจากนั้นคือสิ่งที่นางซ่อนไว้อย่างแยบยล: แหวนทองหนึ่งวง สร้อยหยกหนึ่งเส้น และผ้าไหมปักพับเล็ก ๆ ที่ลอบหยิบมาจากหีบของสวี่ซินเหมยเมื่อคืน นางไม่คิดหนีมือเปล่าอีกต่อไป“ฉันไม่ใช่หญิงสาวที่ถูกกดขี่อีกต่อไป” นางกล่าวในใจ พลางย้ำเท้าให้มั่น “นับจากนี้ เส้นทางเป็นของฉัน”แสงแดดไล้ขอบผ้าโพกศีรษะเรียบ ๆ ของนาง ขณะลมเช้าไหวปลายผมสีดำให้สะบัดเบา เส้นทางยาวไกลและไม่อาจคาดเดา แต่ในดวงตากลับมีแววแน่วแน่ โลกใบนี้โหดร้ายก็จริง แต่มันก็ซ่อนโอกาสไว้—และนางจะคว้ามันหลายชั่วยามผ่านไป เมืองหลวงค่อย ๆ โผล่พ้นหมอกเช้า
last updateLast Updated : 2025-10-23
Read more
บทที่7 เงินตราจากปัญญา
เสียงจอแจของผู้คนยังกรอกหูไม่ขาดสาย กลิ่นควันธูปจากศาลเจ้าเจือกับไอทอดกระทะและชาใบแรกของวัน ลอยคลุมถนนหินกรวดให้กลายเป็นม่านบาง ๆ แห่งชีวิตชีวา ซูอี้เหม่ยยกห่อผ้าเบา ๆ ในมือ—ข้างในมีเพียงของใช้เล็กน้อย เงินรางวัลจากร้านโอสถก้อนหนึ่ง และที่สำคัญที่สุดคือ “ทุนเงียบ” ที่นางพกมาจากเรือนเดิม: เงินกับของล้ำค่าบางชิ้นที่ชิงมาจากหีบของสวี่ซินเหมยเมื่อคืนก่อน นั่นไม่ใช่เพียงทรัพย์สิน แต่คือการชดเชยปีเดือนแห่งการถูกกดขี่ และจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นรากฐานชีวิตใหม่ของนางในเมืองหลวงนางเดินลึกเข้าไปในย่านการค้าเก่า เลือกตรอกที่มีร่มไผ่ทอดเงาในยามสายและมีลมโกรกในยามบ่าย ตรงหัวมุมมีศาลาไม้เล็ก ๆ สำหรับวางถังน้ำของคนหาบ—ตรงนี้คนผ่านทั้งวัน แต่ไม่คับคั่งจนเข็นแผงลำบาก นางยิ้มบางกับตัวเอง: “ทำเลดี—ไม่โดนร้านใหญ่กลบ และไม่หลบสายตาจนไร้ลูกค้า”เงินที่ได้มาจากการต่อรองแหวนทองกับโรงรับจำนำเมื่อวาน นางกันไว้ส่วนหนึ่งสำหรับค่าเช่าโรงเตี๊ยมและอาหารสามวัน ถัดมา นางล้วงถุงผ้าเล็กจากแขนเสื้อ—เงินที่ชิงจากแม่เลี้ยงยังเหลือพอสมควร นางตั้งใจแน่วแน่: จะไม่ปล่อยให้มันรั่วไหลไปกับความฟุ้งเฟ้อแม้แต่เหรียญเดียว ทุกตำลึงต้องง
last updateLast Updated : 2025-10-23
Read more
บทที่8 เมล็ดพันธุ์แห่งศัตรู
ตลาดกลางเมืองยังคงคึกคักอย่างไม่ลดละ แม้แสงบ่ายจะสาดลงจนถนนลู่อิฐแดงร้อนระอุ กลิ่นสมุนไพรแห้งจากร้านค้าต่าง ๆ ลอยปะทะควันน้ำมันจากกระทะทอด เสียงเข็นล้อเกวียนเสียดกับหินกรวดดังครูดคราด คนเดินสวนกันแน่นราวสายน้ำไหลไม่หยุด ซูอี้เหม่ยก้าวอย่างมั่นคง ห่อผ้าเล็กในมือเบาเกือบไร้น้ำหนัก ทว่าในอกกลับหนักแน่นไปด้วยความสำเร็จ—เหรียญเงินจากการช่วยแก้ตำรับยาของหมอเฒ่าคล้ายเมล็ดพันธุ์เมล็ดแรกที่ฝังลงในดินของเมืองหลวงเสียงชมของชายชราหน้าเตียนจากร้านโอสถ— “คุณหนูซูฉลาดนัก” —กระจายไปตามตรอก ลอยผ่านป้ายไม้ ลอดชายคากระเบื้องแตก และซึมสู่หูของผู้คน มันเป็นประกายไฟเล็ก ๆ ที่ติดง่ายในเมืองซึ่งหิวเรื่องเล่าเท่า ๆ กับหิวข้าว เหรียญเงินอุ่นมือทำให้นางยิ้มบาง แต่ในรอยยิ้มนั้นยังมีแววรู้เท่าทัน—คำชื่นชมย่อมนำเงาริษยามาเป็นของแถมเสียงหัวเราะแหลมของหลี่หรงหรงเมื่อครู่ยังคุกรุ่นในอากาศ ทว่าหลังแม่ทัพหนุ่มปรากฏตัวและฝูงชนตีความถ้อยคำ “ไม่ใช่คนของโลกนี้” ว่าเป็นเพียงคำชมเกินเปรียบ นางก็เลิกค้างคาใจ—เรื่องภายในใจปล่อยให้เป็นของนางเอง ส่วนเรื่องภายนอก…นางจะบริหารด้วยฝีมือซูอี้เหม่ยแหวกฝูงชนไปยังเงาไผ่ตรงหัวมุมตรอก
last updateLast Updated : 2025-10-23
Read more
บทที่9 เชิญชวนที่ไม่อาจปฏิเสธ
เสียงซอจีนยังคงบรรเลงเคล้ากับขลุ่ย ท่วงทำนองแผ่วก้องล่องลอยไปทั่วหอประชุมใหญ่ ดุจสายลมแห่งรัตติกาลที่พัดผ่านดอกเหมยบานสะพรั่งบนจิตรกรรมฝาผนัง ผ้าแพรแดงสดทอดยาวเหนือเสาหินสูงสง่า โคมกระดาษพันดวงเปล่งแสงนวลอาบผู้คนราวกับต้องมนตร์แขกเหรื่อมากหน้าหลายตานั่งเรียงราย ทั้งขุนนางผู้ใหญ่ ศิษย์บัณฑิต แม่ทัพนายกอง และเหล่าผู้มีเกียรติ ล้วนรวมตัวกันเพื่อร่วมงานเลี้ยงที่กล่าวขานไปทั่วเมืองหลวง—งานเลี้ยงแห่งแม่ทัพหลงเทียนอวี่บนแท่นสูงสุด บุรุษผู้เป็นเจ้าของค่ำคืนนี้นั่งในอิริยาบถสง่างาม ดวงตาคมส่องประกายเย็นเฉียบ ร่างสูงใหญ่ในชุดดำปักมังกรทองชวนให้ทุกคนไม่กล้าเงยหน้ามองนาน รัศมีแห่งอำนาจที่เขาแผ่ออกมาราวภูผาสูง—หนักแน่น มั่นคง ยากที่ใครจะทัดทานทว่าในค่ำคืนนี้ มิใช่เพียงแม่ทัพหนุ่มผู้เป็นที่สนใจ หากยังมีหญิงสาวผู้หนึ่งก้าวเข้าสู่หอประชุมอย่างเงียบสงบ—ซูอี้เหม่ยนางสวมชุดแพรขาวปักโบตั๋นแดง ผ้าคลุมบางสีงาช้างปิดครึ่งใบหน้า แฝงไว้ทั้งความลึกลับและการป้องกัน เพราะนางรู้ดีกว่า “ความงามคือดาบสองคม” การเผยโฉมคือการเชื้อเชิญทั้งโอกาสและภัยพิบัติ นางจึงเลือกปิดบัง แม้ทุกย่างก้าวกลับยิ่งดึงดูดสายตาของผู้คน
last updateLast Updated : 2025-10-23
Read more
บทที่10 สับเปลี่ยนพานผลไม้
เสียงพิณสายขับขานเป็นท่วงทำนองอันเนิบนุ่ม ขลุ่ยผสานแว่วกังวานดังประหนึ่งสายลมแห่งรัตติกาลพลิ้วพัดเหนือท้องคีตกาล หอประชุมใหญ่ของจวนแม่ทัพ ณ ค่ำคืนนี้ จึงเสมือนแดนสวรรค์ที่ประดับด้วยหมู่ดารา โคมไฟกระดาษรูปดอกเหมยลอยระยับแสงนวล แพรแดงสดประดับประดาทั่วท้องโถง ผ้าไหมเนื้อดีจากแดนไกลโบกไสวรับลมเย็นยามราตรี แขกเหรื่อทั้งหลายต่างประดับเครื่องแต่งกายอันงามวิจิตร ก้าวเดินอย่างสง่าดุจเทพสวรรค์มาชุมนุมสุราหอมกรุ่นถูกกรอกลงถ้วยหยก เสียงหัวเราะสนทนาไหลลื่นไม่ต่างจากธารา แต่ภายใต้บรรยากาศครึกครื้นนั้นกลับแฝงเค้าเงาแห่งการชิงไหวชิงพริบหรงหรง—องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ หลานแท้ของฮ่องเฮา นั่งอยู่ท่ามกลางหมู่สตรีผู้สูงส่ง ผ้าไหมชมพูอ่อนปักลายเหมยบานด้วยเส้นทองวาววับประดับร่างอรชร นางถือกำพัดงดงามแนบในมือตลอดเวลา เบื้องหน้าเผยเพียงรอยยิ้มอ่อนหวาน หากเบื้องหลังสายตากลับเฉียบคมดั่งคมมีดความงามของนางไม่ด้อยไปกว่าผู้ใด แต่ยามอยู่เคียงข้างซูอี้เหม่ยกลับถูกกลบรัศมีจนแทบไร้ตัวตน หรงหรงหายใจติดขัดในอก คล้ายเปลวเพลิงริษยากำลังเผาผลาญหัวใจให้มอดไหม้นางครุ่นคิดพลางกระซิบสั่งบ่าวผู้ภักดี บ่าวชายก้มหน้ารับคำโดยไม่เอื้
last updateLast Updated : 2025-10-23
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status