ซ่งหยวนหลินลงจากม้า วิ่งมาด้านหน้าซ่งอวิ๋นเหยา กอดนางอย่างตื่นเต้น"ท่านพี่อวิ๋นเหยากลับมาแล้ว!""ทำไมพูดเสียเหมือนเป็นเรื่องใหญ่เลย?" ซ่งอวิ๋นเหยาประคองนางให้ยืนมั่นคง "แล้วทำไมเจ้าถึงยังกระโตกกระตากแบบนี้อยู่อีก?""ใช่เสียที่ไหนกัน?" ซ่งหยวนหลินอดกลั้นมานานแล้ว นางรออยู่ว่าเมื่อไรท่านพี่จะกลับมาล้างอายให้นางเสียทีเพราะนางรำคาญฟู่จาวหนิงอยู่ตลอดเวลา!นางทำอะไรฟู่จาวหนิงไม่ได้ เพราะอ๋องเจวี้ยนคอยปกป้องฟู่จาวหนิงอยู่!แต่ว่าตอนนี้ท่านพี่กลับมาก็แตกต่างออกไปแล้ว อ๋องเจวี้ยนจะต้องมาปกป้องพี่สาวนางแล้วกระมัง? นางเองก็อยากจะเห็น ว่าอ๋องเจวี้ยนจะปกป้องใครกันแน่!ถ้าหากอ๋องเจวี้ยนยืนอยู่ข้างพี่สาวนางทางนี้ ถ้าฟู่จาวหนิงมาเห็น ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะเสียใจจนร้องไห้ไหม?พอจินตนาการถึงภาพนี้ ซ่งหยวนหลินก็รู้สึกทนรอไม่ไหวแล้วขึ้นมา"เดิมทีก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ! ท่านพี่ไม่รู้สินะ ว่าพี่หลันยวนทรยศหักหลังท่านเสียแล้ว!"หลังจากซ่งหยวนหลินโพล่งคำนี้ออกมา หางตาก็เหลือบมองไปเห็นท่านเสิ่นที่นั่งอยู่มุมหนึงของเพิงน้ำชา จึงรีบปิดปากขึ้นมา ใช้สายตาสอบถามซ่งอวิ๋นเหยาท่านพี่ นี่คือคนป่วยคนนั
ม่านรถเลิกออก อ๋องเจวี้ยนลงจากรถม้าซ่งอวิ๋นเหยามองชายหนุ่มตรงหน้า เขาสูงกว่าหลายปีก่อนหน้ามากเลย ตอนนี้นางต้องเงยหน้ามองเขาแล้วบนหน้าเขาสวมหน้ากากเงินไว้ ปิดบังหน้าผากจนถึงจมูก แต่เผยริมฝีปากกับคางของเขาออกมา เส้นโครงเองก็งดงามพอเทียบกับหลายปีก่อนหน้า ตอนนี้ก็กลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตสมบูรณ์แบบแล้วครั้งที่แล้วตอนที่นางเห็นเขา เขายังเป็นแค่เด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มร่างบาง ดูแล้วอ่อนแอกระเสาะกระแสะดังนั้นในสมองซ่งอวิ๋นเหยาจึงหยุดไว้ที่ความทรงจำนั้นมาตลอดครั้งนี้พบกับองค์รัชทายาทต้าชื่อ นางถึงถูกชายร่างสูงใหญ่เช่นนั้นดึงดูดไปแต่ตอนนี้พอมาเห็นอ๋องเจวี้ยนที่หล่อเหลาสูงชะลูด จู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ทำไมถึงไม่คิดนะว่าอ๋องเจวี้ยนเองก็จะเติบโตขึ้นด้วย?นางเอาแต่จดจำเขาที่เป็นชายหนุ่มร่างผอมบางอ่อนแอไว้ตลอด ในใจไม่ได้ลุ่มหลงอะไรนัก เพียงแต่ตัวตนฐานะของอ๋องเจวี้ยน จึงเสียดายที่จะปล่อยไปตอนที่พบกับองค์รัชทายาทต้าชื่อนางถึงอ่อนไหวขึ้นมาถ้านางเห็นอ๋องเจวี้ยนเช่นนี้ก่อน นางไม่มีทางอ่อนไหวกับองค์รัชทายาทต้าชื่อแน่ ถึงอย่างไรถ้าหากเป็นไปได้ล่ะก็ นางก็คิดจะอยู่ในแคว้นเจา จะไม่ออกเรือนไ
แต่ว่าก็เข้าใจได้ ผู้ชายปกติก็คงจะสนใจกันนั่นล่ะท่านเสิ่นอาจะเพื่อเลี่ยงความระแวง ดันั้นตลอดทางจึงทำตัวห่างเหินกับนางกระมัง?"อื๋อ?"เซียวหลันยวนอันที่จริงก็ไม่เข้าในความหมายของนาง เขาคิดมากเรื่องอะไรกัน?"ข้าจะพูดกับเขาสักคำสองคำ มีปัญหาอะไรหรือ?"ยังไม่วางใจหรือ? ทำไมถึงต้องพูดกับเขาอีกคำสองคำ?ซ่งอวิ๋นเหยาในใจรู้สึกหวานชื่นขึ้นหน่อยๆ เซียวหลันยวนจะต้องหึงแน่ๆ จึงจะไปพูดคุยกับท่านเสิ่นเสียหน่อยไม่เจอกันหลายปี เซียวหลันยวนเห็นว่าหน้าของนางตอนนี้มีสีท้อขึ้นมาใช่ไหม ดังนั้นในใจเขาตอนนี้ก็เต้นโครมครามขึ้นเหมือนกันหรือ?พอเห็นผู้ชายของนางไม่ได้มีท่าทีไม่ชอบนาง ยิ่งไปกว่านั้นอ๋องเจวี้ยนยังถูกคนมากมายพูดตั้งแต่เด็กว่าเป็นคนที่ฟ้าส่งมาคู่กับนางอีกล่ะ?ไม่แน่ว่าในใจของเขาอาาจจะมองนางเป็นพระชายาของตนเองไว้นานแล้วก็ได้"ท่านไปเถิด ข้าไม่มีปัญหาอะไร"ซ่งอวิ๋นเหยาส่ายหัวพอเซียวหลันยวนเดินไปหาท่านเสิ่น ซ่งอวิ๋นเหยาก็รีบดึงซ่งหยวนหลินมาอยู่ข้างๆ"หลันยวนออกจากยอดเขาโยวชิงกลับเมืองหลวงนานเท่าไรแล้ว?""เกือบสองเดือน"ซ่งหยวนหลินมองพี่สาวมึนงงเช่นนี้ ท่นาพี่อวิ๋นเหยาไม่ได้รับจดหมายจา
แต่ว่าหลังจากราชวงศ์ต้าชื่อผ่านมาหลายสมัย ก็ไม่ค่อยอยากจะให้คนรู้สึกว่าเป็นคุณงามความดีของตระกูลเสิ่น อาจจะเพราะรู้สึกว่าราชวงศ์ไม่มีหน้ามีตาเสียแล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยจะเอ่ยถึงตระกูลเสิ่นเท่าไรเหล่าลูกหลานตระกูลเสิ่นที่อยู่ในราชสำนักก็ล้วนลอบถูกกดดัน ถูกละเลยคนของตระกูลเสิ่นตอนแรกยังไม่รู้สึก ยี่สิบกว่าปีก่อน กุ่ยไฉเสิ่นเสวียนแห่งตระกูลเสิ่นมีชื่อเสียงขึ้นมาจากอุปกรณ์การทำนายปรากฎการณ์ฟ้าดินชุดหนึ่ง จึงถูกอวยยศเป็นกุ่ยไฉเดิมทีที่เขาสร้างอุปกรณ์นี้ขึ้น ก็ควรจะถูกอวยยศโหวแล้ว แต่ในราชวงศ์ไม่ว่าจะที่ใดก็ไม่มีการเชิญเลย ต่อมาเสิ่นเสวียนก็เจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิดอีกหลายต่อหลายครั้ง บางครั้งก็ไปเดินอยู่ริมปากเหวความเป็นความตายอีกด้วยเขาก็น่าจะเพิ่งได้สติฉุกคิดได้ จึงเริ่มให้คนในตระกูลลดความเฉิดฉายลง ค่อยๆ แฝงกายเร้นโลกขึ้นมาและโลกก็ค่อยๆ ไม่เอ่ยถึงตระกูลเสิ่นอีก ต้าชื่อเองก็ดันเอาข้าราชการแม่ทัพเลื่องชื่อหรือจอหงวนออกมาอีกหลายคน แล้วยังกินแคว้นเล็กสองแคว้นที่อยู่รอบๆ เข้ามาด้วย ชื่อเสียงบารมีขจรขจาร พลังแห่งแคว้นก็ยกขึ้นมาอีกระดับ และก็ยิ่งไม่มีใครพูดถึงตระกูลเสิ่นอีกผ่านไปยี่สิ
หงจั๋วตกตะลึง หลังจากได้สติกลับมาก็รีบตามขึ้นรถม้า จึงได้ยินเซียวหลันยวนกำชับขึ้นมาว่า "ไปหมู่บ้านตะวันออก"ดวงตาหงจั๋วเป็นประกายท่านอ๋องรู้ว่าพระชายาไปยังหมู่บ้านตะวันออก ดังนั้นเขาตอนนี้จึงล้มเลิกการรับตัวท่านหญิงอวิ๋นเหยากลับเมือง แต่เปลี่ยนเป็นไปรับพระชายาแทนใช่ไหม?มองรถม้าของอ๋องเจวี้ยนแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว สมองซ่งอวิ๋นเหยาก็ขาวโพลน"ฟู่ ฟู่จาวหนิง"ฟู่จาวหนิงดีขนาดนั้นเลยหรือ หลังจากแต่งงานกับนาง ในสายตาเซียวหลันยวนก็ไม่มีนางอีกแล้วหรือ?"คุณหนูอวิ๋นเหยา ต้องโทษฟู่จาวหนิง" ซ่งหยวนหลินประคองนาง กัดฟันกรอด "ฟู่จาวหนิงตอนนี้แตกต่างจากก่อนหน้าแล้วจริงๆ นางจะต้องใช้วิชากู่กับพี่หลันยวนแน่!แต่ว่าท่านก็อย่าเพิ่งท้อแท้เลย ก่อนหน้านี้ท่านไม่ใช่พูดไว้ว่า ตอนเด็กๆ ท่านเคยมีบุญคุณช่วยชีวิตกับอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนกับพี่หลันยวนหรอกหรือ?"ตอนเด็กๆซ่งอวิ๋นเหยามึนงง"ขอแค่ถัดจากนี้หาโอกาสมาเจอกับพี่หลันยวนมากหน่อย คุยเรื่องสมัยเด็กให้มากหน่อย ใจของพี่หลันยวนจะต้องถูกท่านดึงกลับมาได้แน่" ซ่งหยวนหลินมองซ่งอวิ๋นเหยานางคาดหวังกับซ่งอวิ๋นเหยาไว้สูงมากองค์รัชทายาทไท่ชื่อถูกนางทำให้ลุ่มห
ถึงแม้จะยังไม่ได้นำมาทำกำไล แต่ถ้าแกะออกมาสักชิ้นหนึ่ง ก็น่าจะมีมูลค่าสูงเทียมฟ้าแล้วดูท่าลางสังหรณ์ของนางก็ยังใช้การได้ดีอยู่!"คุณหนูฟู่นี่มีเทพเจ้าอวยพรจริงๆ ดวงดีเหลือเกิน" ผู้เฒ่ากู้พยายามสะกดความเจ็บปวดในใจนั่นของตนเองลง เดินเข้ามาเอ่ยยินดีกับฟู่จาวหนิงจะโกรธไม่ได้ จะโกรธไม่ได้ จะเจ็บปวดไม่ได้ เจ็บปวดไม่ได้เขาทำการค้ากับแคว้นเจามายาวนาน ฟู่จาวหนิงแค่เพิ่งเริ่มก็ตัดมรกตออกมาได้ชิ้นหนึ่ง ถ้าลือออกไปที่นี่ก็จะมีแขกเหรื่อเข้ามากันเหมือนเมฆลอยเลยนี่นะเขาไม่ต้องไปติดแปะหรือป่าวประกาศอะไรเลยพอคิดเช่นนี้ในใจก็เหมือนดีขึ้นหน่อยฮือๆ แต่เขาก็ยังอยากจะร้องไห้จริงๆ ชายหนุ่มสองคน ขนหินมาไกลนับพันลี้เพื่อขายให้เขา ส่งมาถึงมือเขาแล้วแท้ๆ แต่เขากลับผลักไสออกไปก้อนหนึ่งเสียอย่างนั้น!หินก้อนนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ"ก็แค่เทพเจ้าอวยพรเท่านั้นจริงๆ มีดวงนิดหน่อยเท่านั้น ผผู้เฒ่ากู้ซื้อมาตั้งหลายก้อนนี่ บางทีของชั้นยอดจริงๆ อาจจะอยู่ในนไม่กี่ก้อนของผู้เฒ่ากู้ตรงนั้นก็ได้"ฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ในใจผู้เฒ่ากู้ก็ถูกปลอบประโลมขึ้นมาบ้างแล้วก็เป็นไปได้มากอยู่ หินพวกนั้นของเขาก็ใหญ่โตอยู่ ถึงอ
การเดิมพันการพนันพ่ายแพ้จนบ้านล้มละลายได้เลยทีเดียว"ลุงฟางเองกว่าจะต่อสู้จนเป็นกิจการเช่นปัจจุบันนั้นไม่ง่ายเลย ข้าเคยได้ยินฟางซือฉิงพูดว่า ก่อนหน้านี้ลุงฟางเองทำไร่ทำนาด้วย แล้วยังขึ้นเหนือลงใต้ทำการค้า เจอกับการปล้นชิง ตกเขาลงน้ำลงห้วย ลำบากมากไม่น้อยจึงมีบ้านและที่ดินเช่นปัจจุบัน""ใช่ๆๆ""ดังนั้นต้องปกป้องกิจการที่บ้านให้ดี จะมาพ่ายแพ้ลงง่ายๆ ไม่ได้"เศรษฐีฟางฟังพลางพยักหน้าจะว่าไปก็แปลก ฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ตอนที่นางพูดเช่นนี้กับเขา เขาไม่ได้มองนางเป็นสาวน้อยคนหนึ่งเลย และไม่รู้สึกเลยว่าคำพูดที่นางอายุเพียงเท่านี้มาพูดกับเขาจะดูไร้สาระ แต่กลับรู้สึกว่ามีเหตุมีผล"จาวหนิง เจ้าพูดมาถูกต้อง ลุงฟางจะฟังเจ้านะ"เศรษฐีฟางรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเองก็มองตนเองเป็นครอบครัวแล้วจริงๆให้ลูกสาวเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกับฟู่จาวหนิง เขาวางใจมากยิ่งไปกว่าฟู่จาวหนิงยังมีนิสัยดีมากอีกด้วย นางไม่ได้เปลี่ยนท่าทีต่อซือฉิงหรือพวกเขาเพียงเพราะตนเองกลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนไปแล้วเลย ไม่ได้ทำตัวสูงส่ง แต่นิสัยกลับยังดีขึ้นกว่าเดิมด้วย ใจกว้างและจริงใจขึ้นมากเศรษฐีฟางเลือกหิ
หินของเศรษฐีฟางเองก็เริ่มตัดแล้ว แต่เพราะหินก้อนนี้เป็นก้อนใหญ่ อาจจะใช้เวลาตัดค่อนข้างนาน ดังนั้นฟู่จาวหนิงจึงกลับไปกับฟางซือฉิงก่อนแล้วทิ้งให้เศรษฐีฟางคอยเฝ้าอย่างตึงเครียดอยู่ที่นั่นห้าร้อยตำลึง สำหรับเขาแล้วไม่ได้มากมายนัก แต่เรื่องนี้ก็แปลก พอมีผลลัพธ์ว่าจะราคาเพิ่มหรือลดแขวนรออยู่ ก็ทำเอาคนทั้งเฝ้ารอทั้งตึงเครียด"จาวหนิง หินที่เจ้าซื้อมาอีกสองก้อน ไม่ให้ผู้เฒ่ากู้ตัดแล้วหรือ?"หลังจากกลับไป ฟางซือฉิงเห็นฟู่จาวหนิงซื้อหินอีกสองก้อนก็รู้สึกแปลกๆคนทางนั้นเองก็ไม่มีอุปกรณ์ในการตัดหินนี่นา แล้วจาวหนิงไม่ตัดหินสองก้อนนี้ แล้วจะไปมีประโยชน์อย่างไร"ไม่ตัดแล้ว ข้าจู่ๆ ก็รู้สึกว่าซื้อหินไร่สักสองก้อนกลับไปวางไว้ที่บ้านเองก็ไม่เลว ถือว่าสะสมเงินเอาไว้เลยแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในหินแร่ที่ตนเองเลือกออกมาต้องมีหินหยกที่ดีมากอยู่ข้างในแน่ แต่นางอยู่ตัดที่นี่ต่อไปไม่ได้อีกแล้วถ้าเผื่อมีหินที่ดีออกมาได้จริงๆ ไม่มีรอยปริรอยแตก เช่นนั้นก็คงจะก่อให้เกิดความสงสัยจากผู้เฒ่ากู้และคนอื่นแล้วนางซื้อหินมาตัดสามก้อน ทุกก้อนล้วนตัดออกมาได้ดี ได้ราคาหมด นี่มันไม่แปลกหรือ?สองก้อนนี้ย้าย
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม