Beranda / รักโบราณ / ฮูหยินวิปลาส. / ตอนที่4 เสี่ยวซู

Share

ตอนที่4 เสี่ยวซู

Penulis: SnailW
last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-30 17:16:52

ตอนที่ 4

เสียงลมพัดหวิวผ่านต้นไม้ใหญ่ริมทุ่งหญ้า กลิ่นดินเปียกชื้นแทรกมากับไอหมอกบางยามเช้า แสงแดดอ่อน ๆ สาดผ่านใบไม้ลงมากระทบกับหลังคากระเบื้องดินเผาของบ้านหลังเล็กในชนบท

เสียงไก่ขันแว่วมาแต่ไกล ตามด้วยเสียงหมาเห่า และเสียงน้ำไหลจากรางไม้ที่พาดออกจากโอ่ง

ภายในห้องนอนขนาดเล็ก ผ้าห่มผืนบางปกคลุมร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนนิ่งอยู่บนฟูกเก่าที่ปูบนเสื่อทอมือ ข้างเตียงมีถ้วยน้ำวางอยู่ และสมุนไพรตากแห้งห้อยระโยงระยางอยู่เหนือหัวเตียง

หญิงวัยกลางคนผิวกร้านในชุดผ้าฝ้ายเก่าขาดแต่สะอาด เดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วง เธอถือชามข้าวต้มอุ่น ๆ ไว้ในมือ มองดูหญิงสาวที่ยังไม่ตื่นด้วยสายตาเวทนาอีกฝ่าย

“ท่านแม่” เสียงเรียกของหญิงสาวนางหนึ่งที่เดินมาจากทางด้านหลังดังขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วงสตรีที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเช่นกัน

“นางไม่ได้สติมาสามวันแล้ว พวกเราพานางไปที่ในเมืองให้ท่านหมอตรวจดูอีกรอบดีหรือไม่?” 

หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเตียง มองหน้าบุตรสาวสลับกับหญิงสาวที่นอนอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจ 

“หากวันนี้นางยังไม่ฟื้นอีก พรุ่งนี้เราค่อยให้พี่ชายเจ้าพานางไปก็แล้วกัน”

แม้เด็กสาวที่นอนอยู่จะไม่ใช่คนในครอบครัวของนาง แต่มารดาที่ล่วงลับไปของอีกฝ่ายกลับมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อครอบครัวนางเป็นอย่างยิ่ง

แต่เมื่อนึกถึงคนที่ทำให้เด็กสาวต้องเป็นเช่นนี้ นางก็อดที่จะโมโหขึ้นไม่ได้

“ครั้งนี้เจ้าซานโก่วทำเกินไปแล้ว ถึงกับกลั่นแกล้งกันถึงตายเช่นนี้” 

โจวจวงจื่อที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย 

“เดิมทีการที่นางเป็นเช่นนี้ก็น่าสงสารพออยู่แล้ว” 

ทั้งสองคนต่างถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เวทนาอีกครั้ง 

“อาา…” เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นมา พร้อมกับเปลือกตาของสตรีที่นอนไม่ได้สติขยับเล็กน้อย สีหน้าของนางคล้ายกำลังทรมาน

โจวซื่อ*ที่เห็นเช่นนั้นก็เบิกตากว้างทันที พร้อมกับรีบเข้ามาดูนางอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่กำลังนอนอยู่กำลังจะได้สติขึ้นมาแล้ว

หญิงสาวค่อย ๆ ขมวดคิ้วแน่น ดวงตาที่ปิดสนิทอยู่เริ่มสั่นไหวคล้ายต่อสู้กับความฝันอันเลือนราง เสียงหายใจแผ่วเบาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นลมหายใจถี่รัว ก่อนที่เปลือกตาจะค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า

แสงแดดอ่อนยามเช้าสะท้อนเข้าดวงตา ทำให้เธอต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย เสียงน้ำในรางไม้ยังคงไหลอย่างสม่ำเสมอ กลิ่นสมุนไพรแห้งที่แขวนอยู่เหนือหัวเตียงลอยมาแตะจมูกทีละน้อย ท่ามกลางความพร่าเลือน หญิงสาวกะพริบตาถี่ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ กลอกตามองไปรอบห้อง

“เสี่ยวซู! เสี่ยวซู?” โจวซื่อเอ่ยถามเสียงตื่นตระหนก มือกร้านของนางจับมือของสตรีผู้นอนป่วยแน่น

หญิงสาวกะพริบตาอีกครั้ง คราวนี้นางพยายามจะขยับริมฝีปาก แต่มีเพียงเสียงแหบพร่าไร้ถ้อยคำเล็ดรอดออกมา

โจวจวงจื่อที่ยืนอยู่อีกด้านรีบหยิบถ้วยน้ำที่วางข้างเตียงแล้วยื่นให้ “เจ้าดื่มน้ำก่อนนะ ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ”

หญิงสาวเบือนหน้าช้า ๆ ไปทางต้นเสียง พยายามตั้งสติรับรู้ว่ามีใครอยู่รอบกาย ก่อนจะยกมือขึ้นรับถ้วยน้ำจากอีกฝ่าย มือของเธอสั่นจนโจวจวงจื่อต้องช่วยประคอง

เมื่อจิบน้ำลงคอได้เล็กน้อย ใบหน้าซีดเซียวก็เริ่มมีสีเลือดจาง ๆ กลับคืนมา หญิงสาวมองสองแม่ลูกสลับกันไปมา ความงุนงงและความระแวดระวังฉายชัดในแววตา 

ไม่ว่าจะเป็นของที่อยู่รอบ ๆ หรือแม้แต่คนที่อยู่ตรงหน้าของเธอสองคน ซูอวี้หนิงกลับไม่คุ้นเคยทั้งคู่

“…ที่นี่…ที่ไหน…” เสียงแผ่วเบาราวกระซิบเล็ดรอดออกมาในที่สุด 

แต่แทนที่คนทั้งสองจะตอบคำถามของนาง กลับกลายเป็นสีหน้าตกใจราวกับเห็นเรื่องที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะโจวซื่อ นางถึงกับยกมือขึ้นทาบอก 

เพล้ง

ชามใส่น้ำในมือของโจวจวงจื่อเองก็ร่วงลงพื้นด้วยความตกใจเช่นกัน

ซูอวี้หนิงมองหน้าทั้งสอง ในตอนนั้นเองนางก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าของทั้งสองอยู่บ้าง แต่อาจเป็นเพราะตอนนี้นางปวดหัวอยู่ ทำให้นางใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

ป้าโจว โจวจวงจื่อ 

ชื่อของทั้งสองคนปรากฏขึ้นในหัวของนาง ภาพเหตุการณ์บางอย่างปรากฏขึ้นอย่างเลือนรางภายในความทรงจำของใครคนหนึ่ง ซึ่งนางมั่นใจว่ามันไม่ใช่ความทรงจำของนางแน่นอน

“สะ เสี่ยวซู” โจวซื่อเรียกเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียง คล้ายว่าตนเองพึ่งค้นพบเสียงของตนเองได้ หลังจากผ่านความตกใจมาครู่หนึ่ง

ซูอวี้หนิงเงียบ ไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่าย

โจวซื่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบกลับ นางจึงลุกขึ้น ก่อนดึงมือของบุตรสาวไปที่ด้านหน้าห้อง พร้อมกับสั่งการ

“เจ้าไปบอกพี่ชายของเจ้า ไปที่หมู่บ้านข้าง ๆ ตามท่านหมอหูมา” โจวซื่อบอกกับบุตรสาวด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

“ท่านแม่…เสี่ยวซูนางจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?” โจวจวงจื่อถามมารดาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเช่นกัน

“อย่าพึ่งพูดตอนนี้ ไปตามท่านหมอมาที่นี่ก่อน” 

โจวจวงจื่อพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ทุ่งนาไม่ไกลจากบ้านของตนเอง เพื่อไปตามหาพี่ชายของนาง

โจวซื่อมองตามหลังบุตรสาวไป ก่อนจะถอนหายใจออกมา พร้อมกับมองไปที่เตียงด้านในห้องด้วยความประหลาดใจ

นางมองแววตาของซูอวี้หนิงที่เต็มไปด้วยความสับสนและระแวดระวัง แล้วยิ่งรู้สึกผิดแปลกไปจากเดิม เด็กสาวคนนี้ไม่เคยจ้องมองผู้ใดตรง ๆ แบบนั้นมาก่อน และไม่เคยเป็นฝ่ายพูดถามอะไรเลยสักครั้ง

แม้จะใช้ชื่อว่า “เสี่ยวซู” ร่วมอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่นางกลับเป็นเด็กที่ไม่เหมือนใคร

ตั้งแต่มารดาของนางเสียไปเมื่อสามปีก่อน เสี่ยวซูก็ยิ่งเงียบขรึมลงไปทุกที มิใช่เพียงไม่พูดจา หากแต่ไม่เคยส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ต่อให้บาดเจ็บจนเลือดไหล นางก็ยังคงเงียบงัน ราวกับโลกนี้ไม่มีสิ่งใดควรค่าแก่การตอบสนอง

ผู้คนในหมู่บ้านต่างก็เรียกขานกันอย่างแผ่วเบาว่า “วิปลาส” บ้างก็ว่า “อาภัพ” บ้างก็ว่า “ปีศาจไร้เสียง”

แม้ตัวนางและลูกสาวจะสงสารและให้ความเอ็นดูเสี่ยวซูอยู่เสมอ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า…เสี่ยวซูไม่เหมือนคนทั่วไปจริง ๆ

วันทั้งวันนางมักเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปทางลำห้วย หรือนั่งเขียนลวดลายแปลกประหลาดลงบนพื้นดินหน้าบ้าน เมื่อถามไถ่ก็ไม่ตอบ บางครั้งจ้องตาใครนานเกินไปจนคนรอบข้างรู้สึกขนลุก

จนกระทั่งเมื่อสามวันก่อนที่นางถูกซานโก่วกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง ผลักตกเนินดินจนศีรษะกระแทกกับหินและหมดสติไป คนในหมู่บ้านก็พากันลือว่าบางทีนี่อาจเป็นผลกรรมจากความ “ผิดปกติ” ของนางเอง

แต่ตอนนี้...หญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้ากลับเอ่ยถามว่า “ที่นี่ที่ไหน” อย่างชัดถ้อยชัดคำ!

ไม่เพียงน้ำเสียงที่ฟังดูแปลกไป หากแต่ยังเต็มไปด้วยสติและความฉลาดเฉียบแหลมที่ไม่เคยปรากฏในตัวเสี่ยวซูมาก่อน

โจวซื่อขมวดคิ้วแน่น มองซูอวี้หนิงด้วยความไม่แน่ใจ ไม่ใช่ความกลัว…แต่เป็นความสงสัยลึก ๆ ในใจ

หรือว่า...เด็กคนนี้จะไม่ใช่เสี่ยวซูคนเดิมอีกต่อไปแล้ว?

ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาเหล่านั้น ซูอวี้หนิงเหลือบตามองหญิงวัยกลางคนตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้ากลับไปด้านข้าง ปล่อยให้ม่านตาทอดยาวไปยังรอยแตกร้าวบนผนังดิน

แม้ภายในใจจะคลาคล่ำไปด้วยคำถาม แต่เธอกลับไม่ปริปากใด ๆ ออกไปอีก 

ซูอวี้หนิงกะพริบตาช้า ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนหลับตาลงอีกครั้ง

"เสี่ยวซู"...ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอ…

หรือว่าเธอ...กำลังติดอยู่ในร่างของคนอื่น?

เสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้ประตูบ้านไม้เก่า ก่อนที่บานประตูจะถูกผลักออกพร้อมกับเสียงหอบหายใจของหญิงสาวผู้วิ่งนำมา

“ท่านแม่! ข้า…ข้าพาท่านหมอหูกับพี่จื่อเฉียงมาด้วยแล้ว!”

โจวซื่อหันกลับไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงของโจวจวงจื่อ แล้วจึงรีบลุกขึ้นต้อนรับชายชราร่างผอมในชุดผ้าสีเทาหม่นที่เดินตามเข้ามา พร้อมไม้เท้าซึ่งเจ้าตัวใช้ยันกาย แม้จะดูอายุมากแล้ว แต่ดวงตาของเขายังเฉียบคม

“ท่านหมอหู ลำบากท่านแล้วจริง ๆ” โจวซื่อกล่าวพลางโค้งตัวลงอย่างมีมารยาท

“ไม่เป็นไร ข้าเองก็อยากดูนางด้วยตา ข้าจำได้ว่าเสี่ยวซูไม่ค่อยพูดจา คราวนี้ที่ได้ยินว่า ‘เอ่ยปากถาม’ ก็อดไม่ได้จริง ๆ” หมอหูตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะย่อตัวนั่งลงข้างเตียง

โจวจื่อเฉียง ชายหนุ่มในวัยยี่สิบต้น ๆ สะพายตะกร้าฟืนไว้บนหลัง เดินตามเข้ามาเงียบ ๆ ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เขาก้าวมายืนข้างน้องสาว มองซูอวี้หนิงที่นอนอยู่บนเตียงด้วยแววตาซับซ้อน

หมอหูเริ่มตรวจชีพจรด้วยท่าทางที่คล่องแคล่ว เขาจับข้อมือของซูอวี้หนิงเบา ๆ นิ้วเรียวยาวกดอยู่ตรงจุดสำคัญเป็นจังหวะ

ซูอวี้หนิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของนางนิ่งเฉยแต่ลึกซึ้งเกินวัย ราวกับมองผ่านการวินิจฉัยของหมอหูออกหมดจด

“ชีพจร…ไม่ได้สับสน” หมอหูขมวดคิ้วเล็กน้อย อ่อนแอก็จริง แต่นิ่งและมั่นคงผิดปกติ…ราวกับคนที่จิตตั้งมั่นกว่าทุกครั้งที่เขามาจับชีพจรของนาง 

หรือการที่นางได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ จะทำให้นางกลับมาเป็นเด็กสาวปกติอีกครั้ง?

“หมายความว่าอย่างไรหรือ ท่านหมอ?” โจวจื่อเฉียงถามขึ้นในที่สุด

หมอหูวางมือของซูอวี้หนิงไว้ตามเดิม ก่อนจะลุกขึ้นยืนมองหน้าคนในห้องอีกครั้ง “อาการของนางดีขึ้น ไม่มีไข้หรือผิดปกติใด ๆ แล้ว ข้าจะจัดยาให้นางอีกเทียบหนึ่ง" 

หมอหูกล่าวพร้อมกับมองไปที่โจวซื่อ ก่อนส่งสายตาให้อีกฝ่ายเดินตามตนออกไป

โจวซื่อเดินตามอีกฝ่ายออกมาเงียบๆ เมื่อเห็นว่าห่างจากห้องเมื่อครู่พอสมควรแล้ว หญิงชราจึงถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ท่านหมอ อาการของนางน่าเป็นห่วงอย่างมากเลยหรือ?” 

หมอหูถอนหายใจออกมา “ไม่เป็นเช่นนั้น อาการของนางปกติยิ่ง”

โจวซื่อที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ “หากอาการของนางเป็นปกติ แล้วเหตุใดท่านจึงมีสีหน้ากังวลเช่นนี้”

“เพราะชีพจรของนางเหมือนคนปกติ ไม่เหมือนชีพจรก่อนหน้านี้อีกแล้ว”

“!!” โจวซื่อ

…………………….

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฮูหยินวิปลาส.   บทที่18 ฉากหลังของแต่ละคน2

    ตอนที่ 18“ลองกล่าวมา เห็นด้วยหรือไม่ข้าจะตัดสินเอง” โจวต้าซานกล่าวเสียงแข็ง เพราะสถานการณ์ตอนนี้เขาเองก็มองไม่เห็นทางออกใด ๆ ได้เลยเช่นกัน“ตอนนี้เสี่ยวซูเองก็อยู่วัยต้องออกเรือนแล้ว มิสู้ใช้เรื่องนี้ ให้เสี่ยวซูออกเรือนไปกับเฟิ่งอวี่เซียน…”ปัง!!“เจ้าจะบ้าหรือ!!” ยังไม่ทันที่หลี่เจิ้นกัวจะกล่าวจบ เยี่ยหลัวก็ตวาดขึ้นทันทีใบหน้าของเขาเกรี้ยวกราด คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ก็ขมวดคิ้วพร้อมทำสีหน้าอย่างไม่เห็นด้วยเช่นกัน“แต่ข้ากลับเห็นด้วยกับเจิ้นกัว” ยังไม่ทันที่บรรยากาศภายในกระท่อมจะสงบ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าประตู เสียงนั้นแม้ไม่ดังนัก ทว่ากลับแฝงพลังหนักแน่นจนทุกคนเงียบกริบ เงาร่างในผ้าคลุมก้าวเข้ามาทีละก้าว เสียงฝีเท้าเบาราวกับลมพัด แต่ละก้าวกลับทำให้บรรยากาศภายในกระท่อมแปรเปลี่ยนไปในทันใด“ท่านหมอหู…” โจวต้าซานเอ่ยออกมาช้า ๆ ดวงตาเผยแววตื่นตระหนก เพราะน้อยครั้งนักที่หูเทียนเหิงจะเข้าร่วมพูดคุยในที่ลับเช่นนี้ มีเพียงคำสั่งของนายหญิงเท่านั้นที่จะสั่งการเขาได้ แต่การที่อีกฝ่ายมาปรากฏตัวที่นี่ นั่นย่อมต้องมีเรื่องที่เกี่ยวกับนายหญิงที่ล่วงลับไปอย่างแน่นอนหูเทียนเหิงเข้

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่17 ฉากหลังของแต่ละคน1

    ตอนที่ 17กลางดึก ฟ้ามืดสนิทราวกับผืนผ้าไหมดำ เงาเมฆบดบังแสงจันทร์จนทั่วทั้งป่าดูลึกลับน่าหวาดหวั่น เสียงจิ้งหรีดแผ่วเบาดังก้องอยู่ไกล ๆ สายลมเย็นพัดผ่านใบไม้เกิดเสียงซู่ซ่าดั่งเสียงกระซิบภายในกระท่อมไม้หลังเล็กกลางป่าลึก แสงตะเกียงเพียงดวงเดียวส่องแสงวาบวับ เผยให้เห็นเงาร่างของคนสิบกว่าคนในชุดอาภรณ์ดำที่ปกปิดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า พวกเขานั่งเรียงรายอยู่รอบโต๊ะไม้เก่า ทุกสายตาจับจ้องไปยังชายชราผู้หนึ่งที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ที่ทุกคนในหมู่บ้านเรียกเขาว่า โจวต้าซาน หรือท่านลุงโจวโจวจื่อเฉียงยืนอยู่ด้านหลังของบิดาด้วยทีท่าสงบ ไม่มีท่าทางขี้เล่นเหมือนที่แล้วมาแต่อย่างใด ทุกคนที่อยู่ภายในกระท่อมต่างทำความเคารพทั้งสองคนชุดดำที่เห็นว่าทั้งสองคนพ่อลูกเดินทางมาถึงแล้วพวกเขาก็ต่างถอดผ้าคุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่อยู่ด้านใน หากคนภายในหมู่บ้านเห็นคนเหล่านี้ ทุกคนจะรู้จักพวกเขาทั้งหมด เพราะพวกเขาเหล่านี้ต่างใช้ชีวิตแฝงตัวอยู่ภายในหมู่บ้าน เป็นชาวบ้านทั่วไป จนคนในหมู่บ้านต่างหลงลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นคนต่างถิ่นที่มาอาศัยภายในหมู่บ้านนี้เพียงสิบกว่าปีนี้เท่านั้น“เรื่องข่าวลือจัดการเรียบร้อยแล้วหรือไ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่16 ข่าวลือที่แพร่สะพัด

    ตอนที่ 16เพียงไม่นานหลังจากเหตุการณ์นั้น เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็แพร่กระจายรวดเร็วราวไฟลามทุ่ง จากปากของชาวบ้านที่อยู่ริมธาร ทั้งหมู่บ้านต่างพูดถึงเรื่อง “หญิงวิปลาสที่กล้าจูบศพชายที่ลอยน้ำมา”ซูอวี้หนิงที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนเจ็บเพื่อเฝ้าดูอาการเขาอย่างเงียบงันไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องเล่านี้เลยแม้แต่น้อย เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่เบา ๆ กลิ่นยาสมุนไพรยังลอยคลุ้งในอากาศ ชายที่อยู่บนเตียงยังคงไม่ได้สติ แต่สีหน้าดูสงบขึ้นมาก ชีพจรสม่ำเสมอขึ้นทีละน้อย“ซูอวี้หนิง!”เสียงทุ้มแหบของชายวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านนอกก่อนร่างของ ลุงโจว จะปรากฏที่หน้าประตู สีหน้าของเขาในตอนนี้กลับเคร่งขรึมและไม่สบอารมณ์นัก และนี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่โจวจวงจื่อจะเห็นสีหน้าของบิดาที่มักจะอ่อนโยนต่อซูอวี้หนิงอยู่เสมอ แสดงสีหน้าน่ากลัวเช่นนี้ซูอวี้หนิงเงยหน้าขึ้นไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวอีกฝ่ายแต่อย่างใด ต่างจากโจวจวงจื่อที่ตอนนี้กระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังของซูอวี้หนิงอย่างไม่รู้ตัว พร้อมกับตกใจจนหน้าซีดเผือดลุงโจวเดินเข้ามาในเรือนด้วยสีหน้าบึ้งตึง ดวงตาเขาเหลือบไปมองร่างชายแปลกหน้าที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าซู

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่15 ช่วยชีวิต

    ตอนที่15ซูอวี้หนิงโน้มตัวลงโดยไม่ลังเล มือทั้งสองประคองใบหน้าของชายหนุ่มให้หงายขึ้น ดวงตาเธอแน่วแน่ไร้ความลังเลใด ๆ“จวงจื่อ รีบหาผ้ามาซับตัวเขาไว้ก่อน แผลตรงหัวไหล่ห้ามให้โดนน้ำอีก!”เสียงสั่งนั้นหนักแน่นและเฉียบขาดจนอีกฝ่ายรีบทำตามโดยไม่กล้าซักถาม ซูอวี้หนิงยกคางชายผู้นั้นขึ้นเล็กน้อย ใช้นิ้วตรวจโพรงปากอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีสิ่งใดขวางอยู่หรือไม่ ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วโน้มตัวลงริมฝีปากอุ่นสัมผัสกับริมฝีปากเย็นเฉียบของชายแปลกหน้า นางเป่าลมหายใจเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ สลับกับกดหน้าอกตามจังหวะที่คำนวณไว้ในใจ เสียงน้ำที่หยดลงจากปลายผมของนางผสมกับเสียงลมหายใจที่เป่ารัว ๆ กลายเป็นจังหวะที่เร่งเร้าทุกคนที่ยืนดูอยู่เงียบกริบ บ้างก็เอามือปิดปาก บ้างก็หันหน้าหนีไปทางอื่น ความตกใจและความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าโดยไม่ปิดบัง“นาง... นางกำลังทำอะไรกับศพนั้นกัน?!”“บาปหนา! นางเป็นบ้าไปแล้ว!”คำพูดของชาวบ้านที่มาที่ริมลำธารต่างวิพากษ์วิจารณ์เสียงดัง แต่ซูอวี้หนิงไม่ได้ยินสักคำ เสียงในหัวนางมีเพียงจังหวะชีพจรที่พยายามตามหา ความเงียบงันในวินาทีนั้นยาวนานราวนิรันดร์จนกระทั่ง —“แค่ก! แค่ก แค่กกก!”เ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่14 อคติ

    ตอนที่ 14แสงอาทิตย์ยามสายส่องลอดผ่านยอดไม้เข้ามาในลานเล็ก ๆ ด้านหน้าบ้านของซูอวี้หนิง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรที่ถูกต้มไว้ตั้งแต่รุ่งเช้าโชยคลุ้งไปทั่ว เรื่องที่มีคนถูกหมาป่ากัดเมื่อคืนนี้เองก็รับรู้กันทั่วทั้งหมู่บ้าน“ได้ยินว่าเมื่อคืนมีคนถูกหมาป่ากัด!"“ใช่ ๆ ว่ากันว่าเลือดไหลแทบหมดตัว แต่ซูอวี้หนิงใช้วิธีแปลก ๆ เย็บแผลเอาไว้จนยังมีชีวิตอยู่” “เย็บแผล? ใช่หรือไม่ที่ว่ากันว่าเหมือนเอาเข็มร้อยผ้าของหญิงสาวมาใช้กับร่างคน!”“ข้าบอกแล้วว่านางเป็นหญิงบ้าคนหนึ่ง จะมาเป็นหมอได้อย่างไร?”เสียงซุบซิบเริ่มกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับคลื่นน้ำที่ซัดกระทบผนังไม้ไม่หยุดหย่อน ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงความสงสัย แต่ปนด้วยความกลัวและรังเกียจ“ได้ยินมาว่า นางเย็บเนื้อคนเข้าด้วยกันจริง ๆ!”“ข้าเห็นกับตาเมื่อคืน เลือดเต็มมือ เหมือนพวกวิปลาสเลยต่างหาก!”“หากวันหนึ่งนางถือมีดไปปาดคอผู้อื่น ใครจะรับผิดชอบ!”ซูอวี้หนิงและคนอื่น ๆ ไม่ได้รับรู้ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไปเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อคืนกว่านางจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางเสียแล้ว นางได้นอนพักสายตาชั่วครู่ ก็ตื่นขึ้นมาเพื่อดูอาการของผู้ป่วยก่อน แ

  • ฮูหยินวิปลาส.   ตอนที่13 ผู้ป่วยคนแรก

    ตอนที่ 13ยามดึกคืนนั้น แสงจันทร์ข้างแรมสาดผ่านม่านไม้ไผ่เข้ามาในห้องพักของซูอวี้หนิง นางเพิ่งจะวางแผ่นไม้ไผ่ที่จดบันทึกตำราสมุนไพรลงบนโต๊ะ กำลังเตรียมจะดับตะเกียงเพื่อพักผ่อน ทว่าทันใดนั้นกลับได้ยินเสียงโกลาหลดังมาจากลานด้านหน้าเสียงฝีเท้าหนักรีบร้อนดังขึ้นพร้อมเสียงของโจวจวงจื่อ“เสี่ยวซู! เร็วเข้า! มีคนเจ็บ ถูกหมาป่ากัด”ประตูไม้ถูกเคาะแรง ๆ สามครั้ง ซูอวี้หนิงรีบลุกขึ้นผลักประตูออกไป เห็นโจวจวงจื่อใบหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยเหงื่อ ส่วนด้านหลัง โจวจื่อเฉียงกำลังประคองชายหนุ่มร่างใหญ่ที่แขนขวาถูกกัดจนเนื้อฉีก เห็นได้ชัดว่าถูกหมาป่าฉีกกระชาก เลือดสดไหลทะลักจนชุ่มเสื้อผ้าแต่แทนที่ซูอวี้หนิงจะตื่นตกใจ นางกลับใจเย็นอย่างที่สองพี่น้องโจวไม่เคยเห็นมาก่อน“พาเข้ามาในเรือนด้านหน้าก่อน แล้วให้ใครก็ได้ไปตามหมอหู!” เสียงนางเด็ดขาดโดยไม่ลังเล“ข้าให้คนไปตามแล้ว” โจวจื่อเฉียงที่หามคนเจ็บมากล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มไม่นาน หมอหูก็มาถึงด้านหน้าเรือนของซูอวี้หนิง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แต่ทันทีที่เห็นบาดแผลที่แขนชายหนุ่ม เขาก็ขมวดคิ้วแน่น “บาดแผลลึกมาก หากเสียเลือดมากกว่านี้ เกรงว่าจะไม่รอดถึงรุ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status