หลังจากที่ธามและน้ำหวานเปิดเผยแผนการของมิ้นท์และรวินท์รยา ปลายฝันก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันทางธุรกิจ แต่เป็นการถูกแทรกแซงจากความอิจฉาและความแค้นที่ฝังลึกในใจของคนบางคน แต่ถึงแม้จะรับรู้ถึงภัยคุกคามรอบด้าน ปลายฝันก็ยังคงต้องรับมือกับความกดดันจากงาน โครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ที่สำคัญและใหญ่หลวง รวมถึง การแข่งขันจากมิ้นท์ ที่พยายามบ่อนทำลายเธออย่างไม่ลดละ และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ แรงกดดันจากทิชาที่เริ่มกลับมาวุ่นวายกับงานของเธอ อีกครั้ง ทำให้สถานการณ์ของปลายฝันยิ่งตึงเครียดมากขึ้นไปอีก
ปลายฝันพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมทิชาถึงกลับมาข้องเกี่ยวกับเธออีกครั้ง แม้ว่าธามจะบอกว่าทิชาได้เปลี่ยนใจไปแล้ว แต่การกระทำของทิชาที่ร่วมมือกับรวินท์รยาและมิ้นท์ กลับแสดงให้เห็นว่าทิชายังคงมีความแค้นอยู่ในใจ และยังคงต้องการทำลายความสุขของเธอ
โครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ไม่ใช่แค่ความฝันของภาคินัย แต่ยังเป็นความท้าทายครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานของปลายฝัน เธอทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับโครงการนี้ ตั้งแต่การออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน ไปจนถึงการบริหารจัดการทีมงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในออฟฟิศ จนบางครั้งก็ลืมเวลาพักผ่อนไปเลย
“คุณปายคะ คุณควรจะพักบ้างนะคะ ดูสิคะ ใต้ตาคล้ำหมดแล้ว” น้ำหวานเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นปลายฝันยังคงนั่งทำงานอยู่ดึกๆ ในออฟฟิศ
ปลายฝันยิ้มอ่อนๆ “ไม่เป็นไรหรอกน้ำหวาน งานมันสำคัญน่ะ”
แรงกดดันจากงานนั้นมหาศาล กำหนดส่งงานที่กระชั้นชิด การควบคุมงบประมาณ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน ทำให้ปลายฝันต้องใช้พลังงานทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนัก เธอรู้ดีว่าภาคินัยเชื่อมั่นในตัวเธอมากแค่ไหน และเธอไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง
การแทรกแซงของมิ้นท์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เธอพยายามสร้างความเข้าใจผิดและใส่ร้ายปลายฝันในหมู่ทีมงาน ทำให้เกิดความแตกแยกและลดประสิทธิภาพในการทำงานของทีม บางครั้งข้อมูลสำคัญของโครงการก็รั่วไหลไปถึงคู่แข่ง ทำให้ปลายฝันต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอยู่ตลอดเวลา
มิ้นท์ใช้ความสัมพันธ์กับรวินท์รยาในการเข้าถึงข้อมูลภายใน และใช้จุดอ่อนของโครงการในการโจมตี ปลายฝันต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และต้องทำงานอย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลออกไป
“คุณปลายฝันคะ ทำไมข้อมูลชุดนี้ถึงหลุดออกไปได้คะ” หนึ่งในทีมงานถามด้วยความกังวล “นี่มันจะส่งผลกระทบต่อโครงการเรานะครับ”
ปลายฝันถอนหายใจ “ผมก็กำลังหาคำตอบอยู่ครับ ไม่เป็นไร เรามาแก้ไขกันก่อน”
แม้จะรู้ว่ามิ้นท์อยู่เบื้องหลัง แต่ปลายฝันก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานที่ชัดเจนพอที่จะจัดการกับมิ้นท์ได้อย่างเด็ดขาด เธอจึงต้องใช้ความอดทนและสติในการรับมือกับการแข่งขันและการแทรกแซงที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
นอกจากมิ้นท์แล้ว สิ่งที่ทำให้ปลายฝันต้องหนักใจมากขึ้นคือการที่ ทิชาเริ่มกลับมาวุ่นวายกับงานของเธอ อีกครั้ง หลังจากที่ธามยุติความสัมพันธ์กับทิชา ทิชาก็รู้สึกโกรธแค้นและพยายามจะหาทางแก้แค้นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับภาคินัยและปลายฝัน เธอจึงหันมาให้ความสนใจกับโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" และพยายามใช้ช่องทางของเธอในการสร้างปัญหา
ทิชาใช้คอนเนกชันที่เธอมีในวงการธุรกิจและสื่อ เพื่อที่จะเผยแพร่ข่าวลือเชิงลบเกี่ยวกับโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" และโจมตีปลายฝันโดยตรง เธอพยายามทำให้ภาพลักษณ์ของโครงการดูแย่ในสายตาของสาธารณชน และทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในตัวปลายฝันในฐานะหัวหน้าโครงการ
“โครงการ ‘เดอะ กรีน ลีฟ’ มีข่าวลือว่าใช้งบประมาณเกินจริง แถมยังไม่มีความโปร่งใสในการดำเนินงาน” นักข่าวคนหนึ่งกล่าวในรายการข่าวภาคค่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทิชาจงใจปล่อยข่าวออกไป
ข่าวลือเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของโครงการและบริษัทเป็นอย่างมาก ทำให้ปลายฝันต้องใช้เวลาและพลังงานในการชี้แจงและแก้ข่าวอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แต่ก็ไม่สามารถท้อถอยได้ เพราะนี่คือความรับผิดชอบของเธอ
ท่ามกลางความกดดันที่ถาโถมเข้ามา ภาคินัยยังคงเป็นเสาหลักและแรงสนับสนุนที่สำคัญที่สุดของปลายฝัน เขาเชื่อมั่นในตัวเธอเสมอ และคอยให้กำลังใจเธออยู่ไม่ห่าง เขาเข้ามาช่วยปลายฝันแก้ปัญหาต่างๆ และคอยอยู่เคียงข้างเธอเมื่อเธอรู้สึกท้อแท้
“ปายครับ อย่าท้อนะครับ ผมรู้ว่าคุณเก่ง คุณทำได้แน่นอน” ภาคินัยกอดปลายฝันอย่างอบอุ่น เมื่อเห็นเธอเหนื่อยล้าจากการทำงานและแรงกดดันต่างๆ
ปลายฝันซบหน้ากับอกของภาคินัย เธอรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา “ปายเหนื่อยจังเลยค่ะคุณภีม”
“ผมรู้ครับ” ภาคินัยลูบผมของเธอเบาๆ “แต่คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีผมอยู่ข้างๆ คุณเสมอ”
ภาคินัยไม่เพียงแค่ให้กำลังใจ แต่ยังเข้ามาช่วยปลายฝันจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วย เขาใช้ประสบการณ์และบารมีของเขาในการเจรจากับคู่ค้า นักลงทุน และสื่อ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่ทิชาและมิ้นท์สร้างขึ้น
ธามและน้ำหวานก็ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่คอยอยู่เคียงข้างปลายฝัน พวกเขาช่วยกันรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำของมิ้นท์และทิชา เพื่อที่จะนำมาใช้ในการเอาผิด และช่วยปลายฝันจัดการกับปัญหาต่างๆ
ธามใช้ความรู้ด้านธุรกิจของเขาในการช่วยปลายฝันวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนรับมือกับการโจมตีจากทิชาและมิ้นท์ ส่วนน้ำหวานก็คอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลือปลายฝันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยลดความตึงเครียดจากการทำงาน
“เราต้องหาวิธีที่จะหยุดทิชาให้ได้นะคะคุณธาม” น้ำหวานเอ่ยขึ้นด้วยความมุ่งมั่น “เธอทำร้ายปลายฝันมากเกินไปแล้ว”
ธามพยักหน้า “ผมกำลังรวบรวมหลักฐานอยู่ครับคุณน้ำหวาน คราวนี้ผมจะไม่ยอมให้เธอทำลายความสุขของใครได้อีกแล้ว”
แม้ว่าความกดดันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ปลายฝันก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เธอรู้ดีว่าเธอจะต้องผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ เพื่อความสำเร็จของโครงการ เพื่อความเชื่อมั่นที่ภาคินัยมีต่อเธอ และเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นแค่ผู้หญิงที่โชคดี แต่เธอมีความสามารถและคู่ควรกับทุกสิ่งที่เธอได้รับ
ปลายฝันเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เธอใช้ความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งภายในใจในการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา เธอเชื่อมั่นว่าความจริงจะเปิดเผย และความดีจะเอาชนะความชั่วร้ายได้ในที่สุด
เธอรู้ว่านี่คือบททดสอบครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ เพราะเธอมีภาคินัย มีธาม และมีน้ำหวานอยู่เคียงข้างเสมอ
ความกดดันที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่ได้ทำให้ปลายฝันอ่อนแอลงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งทำให้เธอเข้มแข็งและมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และเพื่อความสำเร็จของโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ที่เป็นความฝันของเธอและภาคินัย
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ