ตอนที่ 49 การช่วยเหลือจากคุณภีม

ตอนที่ 49 การช่วยเหลือจากคุณภีม

ท่ามกลางความกดดันที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ทั้งงานโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ที่เป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง การแข่งขันและการแทรกแซงจากมิ้นท์ และแรงกดดันจากทิชาที่กลับมาสร้างความวุ่นวาย ปลายฝันรู้สึกเหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะคุณภีมยังคงเป็นเสาหลักและกำลังใจสำคัญที่สุด เขาไม่ได้แค่ให้คำปรึกษา แต่ยังคอยสนับสนุนปลายฝันอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เป็นเหมือนแสงสว่างที่คอยนำทางและปกป้องเธอจากพายุร้าย

ภาคินัยรู้ดีว่าปลายฝันกำลังเผชิญกับอะไรบ้าง เขาเห็นถึงความเครียดและความเหนื่อยล้าในแววตาของเธอ แต่เขาก็เชื่อมั่นในความสามารถและความเข้มแข็งของปลายฝันเสมอ เขาเลือกที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายโดยตรงในทุกเรื่อง เพื่อให้ปลายฝันได้เรียนรู้และเติบโตด้วยตัวเอง แต่เขาก็จะอยู่ตรงนั้นเสมอ เพื่อคอยยื่นมือเข้าช่วยเมื่อปลายฝันต้องการ หรือเมื่อสถานการณ์คับขันเกินกว่าที่เธอจะรับมือไหว

ภาคินัยเริ่มต้นด้วยการให้คำปรึกษาทางธุรกิจอย่างชาญฉลาด เขาไม่เคยบอกปลายฝันว่าต้องทำอะไร แต่จะใช้คำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นให้ปลายฝันคิดวิเคราะห์และหาทางออกด้วยตัวเอง

วันหนึ่ง หลังจากที่ปลายฝันต้องเผชิญกับปัญหาข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ ทำให้โครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" เกือบจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก เธอรู้สึกท้อแท้และเข้ามาปรึกษาภาคินัย

“คุณภีมคะ ปายไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ข้อมูลรั่วไหลไปหมดเลย” ปลายฝันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า

ภาคินัยลูบผมของปลายฝันเบาๆ “ใจเย็นๆ ก่อนนะครับปาย ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” เขาเว้นจังหวะ “คุณคิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ข้อมูลรั่วไหล และเราจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไรบ้างครับ”

คำถามของภาคินัยทำให้ปลายฝันได้คิดทบทวน เธอนำเสนอแนวคิดในการเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการตรวจสอบบุคคลภายในอย่างเข้มงวดมากขึ้น ภาคินัยรับฟังอย่างตั้งใจ และให้คำแนะนำเพิ่มเติมในส่วนที่จำเป็น

“ดีมากครับปาย” ภาคินัยเอ่ยชม “คุณมีความคิดที่เป็นระบบมากครับ ลองนำแนวคิดเหล่านี้ไปปฏิบัติใช้ดูนะครับ”

การให้คำปรึกษาในลักษณะนี้ ทำให้ปลายฝันได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และเพิ่มความมั่นใจในความสามารถของเธอ ภาคินัยเป็นเหมือนโค้ชที่คอยชี้แนะ ไม่ใช่เจ้านายที่ออกคำสั่ง ซึ่งทำให้ปลายฝันรู้สึกได้รับการยอมรับและเคารพ

นอกจากคำปรึกษาแล้ว ภาคินัยยังให้การสนับสนุนด้านทรัพยากรอย่างเต็มที่ เพื่อให้ปลายฝันทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น การจัดหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการจัดหาทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามาเสริมทัพ

เมื่อปลายฝันต้องการทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ภาคินัยก็จัดการให้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ปลายฝันร้องขอซ้ำสอง

“คุณภีมคะ ปายต้องการทีมงานด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมค่ะ เพื่อช่วยตรวจสอบเอกสารสัญญาต่างๆ ของโครงการให้รัดกุมมากขึ้น” ปลายฝันเสนอ

ภาคินัยพยักหน้า “ได้เลยครับปาย ผมจะจัดการให้ทันที คุณต้องการคนแบบไหนเป็นพิเศษไหมครับ”

การสนับสนุนที่รวดเร็วและเต็มที่ของภาคินัย ทำให้ปลายฝันสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว และรับมือกับปัญหาที่เกิดจากการแทรกแซงของมิ้นท์และทิชาได้ดียิ่งขึ้น เธอรู้ว่าเธอมีหลังบ้านที่แข็งแกร่ง และมีคนที่พร้อมจะสนับสนุนเธอในทุกๆ ด้าน

ภาคินัยรู้ดีว่าทิชาและมิ้นท์ยังคงพยายามสร้างปัญหาให้กับปลายฝัน เขาจึงเข้ามาปกป้องปลายฝันจากแรงกดดันภายนอกอย่างเงียบๆ

เมื่อมีข่าวลือเชิงลบเกี่ยวกับโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" ที่ทิชาจงใจปล่อยออกมา ภาคินัยก็ไม่ได้รอให้ปลายฝันรับมือเพียงคนเดียว เขาใช้ความสัมพันธ์และอิทธิพลของเขาในวงการสื่อและธุรกิจ เพื่อที่จะสกัดกั้นและแก้ข่าวลือเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ครั้งหนึ่ง ทิชาพยายามที่จะจัดงานแถลงข่าวเพื่อโจมตีโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" และปลายฝันโดยตรง แต่ภาคินัยก็ใช้บารมีของเขาในการเจรจากับเจ้าของสื่อและผู้จัดงาน ทำให้งานแถลงข่าวถูกยกเลิกไปในที่สุด

“ไม่ต้องห่วงนะครับปาย ผมจัดการเรื่องข่าวลือแล้ว” ภาคินัยบอกปลายฝันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “คุณโฟกัสกับงานของคุณให้เต็มที่ก็พอครับ”

ปลายฝันรู้ดีว่าภาคินัยกำลังทำอะไรอยู่เบื้องหลัง เธอรู้สึกซาบซึ้งใจในความพยายามของเขาที่คอยปกป้องเธอจากสิ่งที่ไม่ดีงาม แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่การกระทำของเขาก็บ่งบอกถึงความรักและความห่วงใยที่มีต่อเธออย่างแท้จริง

นอกเหนือจากเรื่องงาน ภาคินัยยังเป็นกำลังใจและแรงผลักดันที่สำคัญในชีวิตส่วนตัวของปลายฝัน เขาจะคอยสังเกตความรู้สึกของเธอเสมอ เมื่อเห็นว่าปลายฝันเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ เขาก็จะเข้ามาปลอบโยนและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด

ในวันที่ปลายฝันรู้สึกอ่อนล้าที่สุดจากแรงกดดันรอบด้าน ภาคินัยก็จะชวนเธอไปทานอาหารเย็นที่ร้านโปรดของเธอ หรือพาเธอไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลายและปลดปล่อยความเครียด

“คุณปายครับ อย่าเก็บเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียวนะครับ” ภาคินัยเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเดินจับมือปลายฝันในสวนสาธารณะ “ผมอยู่ตรงนี้เสมอ พร้อมจะรับฟังและเป็นที่พึ่งให้คุณนะครับ”

ปลายฝันพยักหน้า น้ำตาคลอเบ้า เธอซบหน้ากับไหล่ของภาคินัย “ขอบคุณนะคะคุณภีม ปายโชคดีที่สุดที่มีคุณอยู่ข้างๆ”

ภาคินัยกอดปลายฝันแน่น “ผมก็โชคดีที่มีคุณครับปาย คุณคือคนที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุด”

การที่ภาคินัยคอยอยู่เคียงข้าง ไม่เพียงแค่ให้คำปรึกษาและสนับสนุนในเรื่องงาน แต่ยังเป็นกำลังใจสำคัญในชีวิตส่วนตัว ทำให้ปลายฝันรู้สึกว่าเธอไม่ได้สู้เพียงลำพัง และมีคนรักที่พร้อมจะเดินเคียงข้างเธอไปในทุกสถานการณ์

ความท้าทายและอุปสรรคที่ปลายฝันต้องเผชิญในโครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" รวมถึงการแทรกแซงจากทิชาและมิ้นท์ กลับกลายเป็นบทพิสูจน์ความรักและความผูกพันระหว่างภาคินัยและปลายฝันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พวกเขาต่างก็ได้เรียนรู้ที่จะเชื่อใจและพึ่งพาซึ่งกันและกันมากขึ้น

ปลายฝันได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ ความสามารถในการเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา และความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ ทำให้ภาคินัยยิ่งภูมิใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีก

ส่วนภาคินัยเอง ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นคนรักที่คอยอยู่เคียงข้าง ปกป้อง และสนับสนุนคนที่เขารักอย่างเต็มที่

โครงการ "เดอะ กรีน ลีฟ" กำลังจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ และความรักของภาคินัยและปลายฝันก็กำลังจะเบ่งบานอย่างงดงามท่ามกลางบททดสอบที่พวกเขาได้ผ่านพ้นมาด้วยกัน