กลิ่นไอน้ำอุ่นคลุ้งไปทั่วห้องน้ำหินอ่อนที่สลัวด้วยแสงไฟ indirect lighting ปลายฝันยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำที่รินรดลงมา ปล่อยให้ความร้อนซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังที่อ่อนล้าของเธอ ความตึงเครียดจากการทำงานหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาค่อยๆ คลายตัวลงทีละน้อย ความสำเร็จในโครงการที่เพิ่งประกาศผลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังคงอบอวลอยู่ในใจ ทุกตัวเลข ทุกกราฟที่พุ่งทะยานขึ้นเป็นดั่งเสียงดนตรีแห่งชัยชนะในห้วงความคิดของเธอ
ภาคินัยก้าวเข้ามาในห้องน้ำ เขาเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว กลิ่นกายของเขาที่คุ้นเคยผสมผสานกับกลิ่นไอน้ำและความหอมของสบู่ ปลายฝันไม่ได้หันไปมอง แต่เธอกลับรู้สึกถึงการปรากฏตัวของเขาได้อย่างชัดเจน ภาคินัยเดินเข้ามาโอบกอดเธอจากด้านหลัง แผ่นอกแข็งแรงของเขากระทบแผ่นหลังของเธอ สร้างความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
"คุณภีม..." ปลายฝันกระซิบเสียงแผ่ว ความรู้สึกปลอดภัยเข้าปกคลุมจิตใจ
ภาคินัยก้มลงจูบลงบนไหล่ที่เปียกชื้นของเธออย่างอ่อนโยน "ยินดีด้วยนะปาย" เขาพึมพำเสียงทุ้ม "ผมภูมิใจในตัวคุณมาก"
คำพูดนั้นเป็นดั่งรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเธอ ปลายฝันเอนศีรษะพิงกับไหล่ของเขา สูดดมกลิ่นกายของภาคินัยที่หอมสะอาด เธอรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจเขาที่หนักแน่นและสม่ำเสมอ ภาคินัยใช้มือลูบไล้ไปตามแขนเรียวของเธอช้าๆ สัมผัสที่แผ่วเบานั้นปลุกเร้าความรู้สึกที่ซ่อนเร้นภายในตัวเธอ
"มันเหนื่อยมากเลยนะคะคุณภีม" เธอสารภาพ "แต่พอได้ยินคำพูดคุณ...มันก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ"
ภาคินัยหมุนตัวปลายฝันให้หันหน้าเข้าหาเขา สายน้ำยังคงรินรดลงมาบนใบหน้าของทั้งคู่ ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังดวงตาของเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนา และความชื่นชมอย่างเปี่ยมล้น แสงสลัวๆ ในห้องน้ำทำให้ทุกอย่างดูเร่าร้อนและเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
เขายกมือขึ้นประคองใบหน้าของเธอ ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามสันกรามอย่างอ่อนโยน "คุณสุดยอดมากจริงๆ นะปาย" เขาพึมพำ "เก่งที่สุดในโลกของผมเลย"
ปลายฝันยิ้ม เธอเอื้อมมือขึ้นโอบรอบลำคอของภาคินัย ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบเขาอย่างแผ่วเบา จูบแรกในสายน้ำนั้นเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจและความรักที่ลึกซึ้ง ริมฝีปากของพวกเขาเคลื่อนไหวประสานกันอย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงและกระหาย แรงดึงดูดระหว่างพวกเขารุนแรงเสียจนเธอแทบจะทรงตัวไม่อยู่
ภาคินัยค่อยๆ คลายอ้อมกอดเล็กน้อยแต่ยังคงโอบเธอไว้แน่น เขาพยุงให้เธอพิงกำแพงห้องน้ำเพื่อรับน้ำหนัก สายน้ำที่ไหลกระทบแผ่นหลังทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกสดชื่นและตื่นตัว
"คุณอยากให้ผมฉลองชัยชนะให้คุณมากกว่านี้ไหมครับ" ภาคินัยกระซิบเสียงแหบพร่า ดวงตาของเขาเป็นประกายระยับ
ปลายฝันเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอกัดริมฝีปากเบาๆ ใบหน้าของเธอแดงซ่านจากไอน้ำและความรู้สึกที่ปะทุขึ้นภายใน "คุณภีม..." เธอครางแผ่วเบา
ภาคินัยรู้ว่าคำตอบอยู่ในแววตาของเธอ เขาโน้มตัวลงจูบเธออีกครั้ง คราวนี้เป็นจูบที่เร่าร้อนและดุดันยิ่งกว่าเดิม มือของเขาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของเธอ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปที่สะโพก บีบคลึงเบาๆ ร่างกายของปลายฝันแอ่นเข้าหาเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อการอาบน้ำสิ้นสุดลง ทั้งคู่ก็เดินกลับมาที่ห้องนอน บรรยากาศภายในห้องถูกจัดเตรียมอย่างเรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลายฝันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ภาคินัยตามลงมานอนข้างๆ เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ชิดกายกันจนแทบไม่มีช่องว่าง
ภาคินัยพลิกตัวนอนหงาย เขายกแขนขึ้นรองศีรษะ ปลายฝันเอนตัวลงนอนหงายข้างๆ เขา ก่อนที่ภาคินัยจะค่อยๆ ยกขาของเธอขึ้นพาดบนไหล่ของเขาอย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายของเธอเปิดกว้างขึ้นอย่างชัดเจน แสงจันทร์ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้มองเห็นผิวเนียนละเอียดของเธอ
ความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ปลายฝันรู้สึกตื่นตัวอย่างรุนแรง เธอรู้ดีว่าภาคินัยกำลังกระตุ้นเธอด้วยท่าทางที่เปิดเผยและเร้าอารมณ์ เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย พลางมองใบหน้าหล่อเหลาของภาคินัย ดวงตาของเขาสะท้อนถึงความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ภาคินัยก้มลงจูบเธออีกครั้ง จูบที่เนิ่นนานและลึกซึ้งยิ่งขึ้น มือของเขาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธออย่างอ่อนโยน สัมผัสถึงทุกส่วนโค้งเว้าของร่างกายที่เปลือยเปล่า เผยให้เห็นผิวเนียนนุ่มของเธอที่ล้อแสงจันทร์
"คุณสวยมากปลายฝัน" ภาคินัยกระซิบเสียงแหบพร่า "สวยที่สุดในโลก"
ปลายฝันส่งเสียงครางในลำคอ เธอขยับตัวเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายของเธอเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ภาคินัยเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความเข้าใจในร่างกายของเธอ ปลายฝันรู้สึกถึงการกระตุ้นที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อน เธอกระซิบชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกันเป็นหนึ่งเดียว ทุกการสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว ล้วนเป็นภาษาของความรักที่ไม่มีคำพูดใดๆ จะบรรยายได้หมด
เมื่อถึงจุดสูงสุด ปลายฝันปล่อยเสียงครางแผ่วเบาออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว ภาคินัยโอบกอดเธอไว้แน่น ซบหน้ากับไหล่ของเธอ ปลายฝันรู้สึกเหมือนลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาอย่างนุ่มนวลสู่ความอิ่มเอมใจที่เต็มเปี่ยม
เมื่อทุกอย่างสงบลง ทั้งคู่ยังคงกอดกันแน่นบนเตียง ปลายฝันซบหน้ากับอกของภาคินัย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวของเขา เธอรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่แสนสุข และความอิ่มเอมใจที่เต็มเปี่ยม
"คุณสุดยอดมากปลายฝัน" ภาคินัยกระซิบ "ผมรักคุณ"
"ปลายฝันก็รักคุณค่ะคุณภีม" เธอตอบ
ในคืนนั้น ความสำเร็จเล็กๆ ของปลายฝันได้จุดประกายความสุขที่ยิ่งใหญ่ในความสัมพันธ์ของพวกเขา มันเป็นมากกว่าแค่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่มันคือการยืนยันว่าความรักและความเข้าใจของพวกเขามีพลังที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องหัวใจ
ปลายฝันขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เธอคร่อมอยู่บนตัวภาคินัย มือเรียวเท้ากับแผงอกแข็งแรงของเขา แสงจันทร์ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้มองเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของภาคินัย
ภาคินัยลูบไล้ไปตามต้นขาของเธออย่างแผ่วเบา ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ ปลายฝันนั่งยองๆ อยู่บนตัวเขาอย่างช้าๆ ควบคุมจังหวะและแรงกดตามความต้องการของเธอเอง ทุกการเคลื่อนไหวเป็นการส่งผ่านความรักและความสุขซึ่งกันและกัน เธอยิ้มให้เขาอย่างเย้ายวน
"คุณชอบไหมคะคุณภีม" เธอถามเสียงกระซิบ
ภาคินัยส่งเสียงครางในลำคอ ใบหน้าของเขาแดงซ่านด้วยความปรารถนา "มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยปาย"
เธอรู้สึกถึงการเสียดสีที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนในทุกจังหวะ ภาคินัยเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาของเขาสะท้อนถึงความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปลายฝันโน้มตัวลงไปจูบเขา จูบที่ร้อนแรงและเร่าร้อนยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เธอโยกสะโพกเล็กน้อย ทำให้เกิดการกระตุ้นที่รุนแรงขึ้น
"คุณทำให้ผมมีความสุขมากนะปาย" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า
ปลายฝันยิ้ม เธอรู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเธอ พลังที่เกิดจากความรักและความสำเร็จ ทั้งสองคนเคลื่อนไหวประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ท่ามกลางค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความรัก ความภาคภูมิใจ และความสุขที่ไร้ขีดจำกัด
เสียงลมหายใจของพวกเขาดังแผ่วเบาในความเงียบสงัด มีเพียงเสียงกระซิบของความรักที่บอกเล่าเรื่องราวของหัวใจสองดวงที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น
เมื่อทุกอย่างสงบลง ทั้งคู่ก็นอนกอดกันแน่นบนเตียง ปลายฝันซบหน้ากับอกของภาคินัย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอของเขา เธอรู้สึกถึงความปลอดภัยและความสุขที่ไม่มีอะไรเทียบได้
"หลับฝันดีนะครับปาย" ภาคินัยกระซิบพลางจูบลงบนเรือนผมของเธอ
"คุณภีมก็เหมือนกันค่ะ"
ในคืนนั้น ปลายฝันรู้ว่าชัยชนะเล็กๆ ในโครงการของเธอ ไม่ใช่แค่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับภาคินัยลึกซึ้งและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น มันคือการยืนยันว่าพวกเขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อพวกเขามีกันและกัน
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ