อดิสรจ้องมองร่างของหญิงสาวที่ยืนกอดอกยืนมองพระจันทร์ที่ริมระเบียงของบ้านพักตากอากาศที่เขาย้ายพามาเมื่อเช้า ชายหนุ่มพาหลานๆ และหญิงสาวไปพักที่โรงแรมในเมืองสองสามวัน แต่มีคนแนะนำให้มาพักที่บ้านพักนี้เพราะมีความเป็นส่วนตัวที่สำคัญสามารถทำอาหารรับประทานได้แถมติดทะเล ทำให้อดิสรตกลงเช่าทันที แม้ว่าจะเหลือเวลาแค่สองวันก็ตาม สามวันที่ใช้ชีวิตร่วมกันทำให้อดิสรรู้สึกผูกพันแบบประหลาดกับมัณฑนากรสาวอาจเป็นเพราะกริยาที่แสนคุ้นเคย อดิสรปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างน่ารักแม้บุคลิกภายนอกจะเปรี้ยวเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน แต่จริงๆกลับเป็นแม่บ้าน เธอเข้ากับหลานๆ ของตนเองได้เป็นอย่างดี อดิสรรู้สึกประหลาดใจ ทำไมตนเองถึงมีความรู้สึกพิเศษๆกับผู้หญิงตรงหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้รสนิยมของตนเอง ไปอีกแบบหนึ่ง คิดแล้วชายหนุ่มรู้สึกว้าวุ่นใจ
“ยังไม่นอนอีกเหรอคุณ” อดิสรถามเมื่อเดินเข้ามาเกือบจะยืนซ้อนหลัง เอลี่สะดุ้งแล้วเหลียวไปมอง ริมฝีปากเฉียดกันจนเอลี่รีบถอยออก “ยังไม่ง่วงค่ะ แล้วคุณล่ะ ขับรถออกมาตั้งไกลไม่เหนื่อยเหรอคะ” “ไม่ อยู่กับเด็กๆ กับคุณแล้วมีความสุขมากกว่า” “พรุ่งนี้เราไปจ่ายตลาดกัน บ่ายๆ ทำบาบีคิวกันนะ เด็กๆคงชอบ” “ตามใจคุณสิคะ” เอลี่ตอบตกลงอย่างที่หัวใจตนเองแอบคิดไว้ หลายวันมานี้ หลังจากเด็กๆนอนกลางวัน ทำให้เธอได้ทำงานเขียนแบบต่ออย่างขะมักเขม้น อาจเป็นเพราะอากาศดี แล้วบุคคลรอบตัวทำให้เอลี่มีความสุข จึงทำให้การทำงานค่อนข้างราบรื่น “ขอบคุณนะครับที่ช่วยเลี้ยงเด็กๆ ถ้าไม่มีคุณผมคงแย่” อดิสรยืนอยู่ตรงหน้าเอมิกา หรือ เอมี่ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณบอกว่าจะจ่ายเงิน มี่คิดว่าเป็นงานค่ะ” เอลี่ตอบเสียงสั่น “แค่งานจริงๆ เหรอ คุณไม่รู้สึกมีความสุขเหมือนผมมีหรือยังไง” “พี่สร” เอลี่พึมพำออกมาอย่างตกใจ “เมื่อกี้คุณเรียกผมว่าไงนะ” เอมิกาทำตาโต แล้วรีบหันหน้าหนี “ เออ คือ มี่เรียกว่าคุณสรค่ะ” “ไม่ใช่ เมื่อกี้ผมไม่ได้ยินแบบนี้ ตกลงคุณคือใครกันแน่เอมิกา” อดิสรก้าวเข้ามาใกล้จนตาจ้องตา ริมฝีปากก็ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร เอลี่เดินถอยหลังแต่อดิสรก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวแถมจับไหล่ “ผมว่า ผมชอบคุณแล้วล่ะ คุณเอมิกา” อดิสรพูดราวกับละเมอ “ไม่จริงเป็นไปไม่ได้ เราเพิ่งพบกัน” เอมิกาหรือเอลี่ ปฏิเสธพัลวัน “ใครจะมารู้หัวใจผมได้ดีกว่าตัวผมเอง ว่าแต่คุณเถอะชอบผมบ้างไหม ว่าไงเอมี่” อดิสรใช้มือลูบที่หัวไหล่ ที่เป็นสายที่ผูกเป็นโบไว้ หลวมๆ “ไม่ได้ ไม่จริง ไม่ใช่หรอก” เอลี่ ตอบอย่างรู้สึกสับสน “คุณปฏิเสธเสียงเรียกของหัวใจไม่ได้หรอก เชื่อผมสิ” อดิสรก้มลงจูบที่หัวไหล่เบาๆ เอมิการู้สึกใจสั่นรัวมือจับที่ไหล่กว้าง “คุณกำลังทำผิดกับภรรยาคุณนะคะ” “ภรรยาผม” อดิสรเลิกคิ้วแล้วหัวเราะเสียงดังที่หญิงสาวเข้าใจผิดตามที่ตนเองดำเนินแผนไว้ “การที่เราจะรู้สึกดีต่อกัน ก็ไม่เกี่ยวกับแม่ของเด็กๆนี่ มันเรื่องเราสองคนต่างหาก” อดิสรใช้มือจับที่คางของหญิงสาวตาจ้องตา อดิสรขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกคุ้นตากับดวงตาแบบนี้จนรู้สึกชาไปทั่วร่าง “เอลี่” “คุณเรียกว่าอะไรนะ” เอลี่ตกใจที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง “ขอโทษครับผมคงคิดถึงใครสักคนมากไป ขอโทษครับ” อดิสรลูบที่แก้มหญิงสาวอย่างเอ็นดู ชายหนุ่มนึกอยากจะทำมากกว่านั้น แต่พยายามหักห้ามใจเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะตื่นกลัว และอดิสรรู้สึกว่าตนเองยังไม่รู้สึกมั่นใจตัวเอง เพราะชายหนุ่มรู้ตัวดีว่ายังไม่ลืมหญิงสาวคนรักในอดีต มันยังหลอกหลอนความรู้สึกจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง “คุณสร เป็นอะไรมากหรือเปล่า” เอลี่มองชายหนุ่มที่จ้องมองหน้าตาของตนเอง แต่ความรู้สึกล่องลอยไปไกล “ไม่ครับ ไม่ คุณไปพักผ่อนเถอะดึกมากแล้ว” อดิสรยิ้มพลางจับที่ผมของมัณฑนากรสาว ลูบไล้เพลิน “ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะ” “ขออะไรอย่างได้ไหม” อดิสรขยับเข้าไปใกล้ เอมิกาถอยหลังเล็กน้อยอย่างกำลังตกใจ “อะไรค่ะ” “เรียกแทนตัวเอง ชื่อเล่นแบบที่คุณเรียกกับพวกเพื่อนๆ คุณได้ไหม ผมว่าน่ารักดี” “เออ ค่ะ” เอมิกาหลบสายตาคมเข้ม มือที่จับที่บ่าเริ่มสั่น เมื่อชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ “อะไรคะ มันเกินข้อตกลงแล้วนะ” “good night kiss” อดิสรกระซิบข้างๆหู “ไม่นะ ไม่ได้” เอลี่หรือเอมิการีบปฏิเสธเสียงสั่น เพราะหัวใจตัวเองเริ่มสั่นไหวใจอ่อนตัวอ่อนมือไม้ก็เริ่มสั่น เมื่ออยู่ใกล้คนที่ตัวเองหลงรักมาตลอด ชายคนเดียวที่อยู่ในหัวใจ แม้ว่าเขาก็จะเป็นชายคนเดียวที่ทำให้เธอเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ดูเหมือนความเจ็บปวดมันมลายหายไปจนสิ้น เมื่อได้มาอยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้ง เขาก็ยังเป็นชายที่มีอิทธิพลกับหัวใจกับเธอเพียงคนเดียว “งั้นก็อยู่ด้วยกันทั้งคืน” อดิสรรวบร่างบาง เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อดิสรกอดร่างบางแน่น ยิ่งร่างบางแนบกับร่างกายของตนเอง อดิสรยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกับร่างบางนี้ มันรู้สึกอุ่นกระจายไปทั่วหัวใจ “ลี่ ถ้าเป็นคุณ ผมคงมีความสุขมากๆ เมื่อไหร่คุณจะกลับมา ผมคิดถึงคุณ” อดิสรพูดกับตัวเอง ในใจอดิสรรู้สึกผิดกับหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด ที่ในระหว่างที่ตนเองกอดเธออยู่ กลับคิดถึงคนอีกหนึ่งคน “ผมขอโทษ ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณ แต่เขาทำให้ผมคิดถึงคุณมากเหลือเกิน ลี่ ยกโทษให้ผมนะ” อดิสรหลับตาพลางลูบที่แผ่นหลังหญิงสาวที่กำลังมีอิทธิพลกับหัวใจตนเอง แม้ว่าในใจอีกด้านหนึ่งจะบอกกับตัวเองว่ายังรักคนรักเก่า อยู่เต็มหัวใจ “ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้เราต้องไปจ่ายตลาดกัน ทำบาบีคิวเด็กๆ คงจะสนุกกันมาก” อดิสรปล่อยให้หญิงสาวออกจากอ้อมกอด “ผมขอจูบคุณได้ไหม” “เออ เออ” “ที่แก้ม ผมรู้ว่าลิมิตอยู่แค่ไหน” เอลี่หรือเอมิกาพยักหน้าอย่างเขินๆ อดิสรก้มลงจูบที่แก้มแผ่วเบา ก่อนที่ทั้งสองจะโบกมือลากันและแยกย้ายไปนอนในห้องนอนของกันและกัน เอลี่ นอนพลิกตัวไปมา หญิงสาวนอนไม่หลับจนต้องลุกขึ้นนั่ง “ทำไมต้องอ่อนไหวนะ เอลี่ท่องไว้สิ เขาแต่งงานแล้ว อย่าทำตัวผูกพันเขาไปมากกว่านี้ เดี๋ยวแกจะเจ็บ คราวนี้เจ็บยิ่งกว่าแผลเก่ายังไม่หาย” เอลี่ท่องกับตัวเองขณะที่ใช้มือทุบที่หมอน เมื่อนึกถึงภาพโรแมนติคตอนหัวค่ำ “ไม่ได้ เราจะทำตัวอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ เราต้องท่องไว้สิ เขามีเจ้าของแล้ว จำไว้สิเอลี่ แกกำลังจะเป็นชู้งั้นเหรอ แกจะสิ้นคิดแบบนี้ใช่ไหม” เอลี่ตีที่มือตัวเองหนักๆ มือเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่อดิสร ยืนกอดอกมองพระจันทร์อย่างเหม่อลอย “ผมกำลังทำผิดกับคุณใช่ไหม ลี่ ทำไมคุณยังไม่กลับมา รีบกลับมาสิ รีบกลับมาก่อน ก่อนที่ผมจะหวั่นไหวกับเขาไปมากกว่านี้เพราะเขาเหมือนคุณเหลือเกินอยู่ใกล้เขา ผมเหมือนอยู่ใกล้คุณ เหมือนจนคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแค่หน้าตา หน้าตาเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน” อดิสรรำพึงกับตัวเองอย่างกลุ้มใจ“น่า ...เดี๋ยวเรามีวิธีจัดการเอง คุณกริชนะ อ้อนๆหน่อย ไม่มีปัญหา” กอหญ้าตอบ พลางยิ้มเมื่อนึกถึงว่าตอนนี้ ชายหนุ่มคงโกรธที่ตื่นมาไม่เจอตนเอง “งั้น ลุยเลยเรา ไปช้อปปิ้งกันก่อน แล้วค่อยไปฉลองกันร้านเดิม” พัชราเอ่ยอย่างนึกสนุก เธอก็ไม่มีห่วง เพราะต้นตาลไปประชุมที่สิงคโปร์ ดังนั้นเธอจึงว่างที่พร้อมจะลุยกับเพื่อนๆ อีกสองคน ระหว่างทางที่อดิสร เดินทางไปวิภาคกรณ์ ชายหนุ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า แล้วนึกสงสัยอะไรบางอย่าง “ทำไมถึงเหมือนกันขนาดนี้ เพียงแต่หน้าตาเท่านั้นที่ไม่เหมือนกัน มีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ชอบทำอาหารเหมือนกัน พูดยังเหมือนกันอีก มันจะเหมือนกันเกินไปหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นคนๆ เดียวกันล่ะ เป็นไปไม่ได้มันต่างกันเกินไป” อดิสรพึมพำกับตนเองอย่างหงุดหงิด “ไม่รู้ล่ะ ผมต้องรู้ให้ได้ว่า คุณคือใครกันแน่ คุณเอมิกา โทมัส” บ้านพิพัฒนพงค์ กริชชัยตื่นขึ้นมาตอนบ่ายๆ เพราะเมื่อคืนกลับดึกมาก หลังจากลุยงานที่โรงแรมอย่างหนักทั้งอาทิตย์ ตื่นขึ้นมา แล้วไม่เจอภรรยา ชายหนุ่มเดินตามหาภรรยาสาว เกือบรอบบ้าน “พี่หวานครับ พี่หวาน มีใครอยู่บ้าง” น้ำเสียงกริชชัยเริ่มหงุดหง
คอนโดริเวอร์ไซด์ เอลี่ยืนมองเหม่อวิวนอกหน้าต่าง แล้วรู้สึกเศร้า ห้าวันที่ผ่านมาหญิงสาวปฏิเสธตัวเองไม่ว่าตนเองมีความสุขมากแค่ไหน แม้จะพยายามย้ำกับตัวเองว่า ชายหนุ่มมีเจ้าของแล้ว แต่เอลี่ก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่า มีความสุขแค่ไหนที่ได้ใช้เวลาร่วมกับชายหนุ่ม และลูกๆของเขา เสียงกริ่งที่ประตูหน้าบ้านทำให้เอลี่รู้สึกตัว หญิงสาวเดินไปเปิด แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเพื่อนสาวสองคนมาพร้อมกับลูกโป่งและเค้กก้อนโต “เซอร์ไพร์ส แฮปปี้เบิร์ดเดย์เอลี่” กอหญ้าและพัชราพูดพร้อมกันๆ เอลี่ยิ้มกว้าง หญิงสาวลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง จนกระทั่งเห็นหน้าเพื่อนสาวทั้งสอง “ขอบคุณมาก เอลี่ลืมไปเลย” สาวประเภทสองในร่างสาวสวยน้ำตาซึม ก่อนจะสวมกอดเพื่อนสาวทั้งสอง “รีบเป่าสิ เทียนจะไหม้ถึงเค้กแล้ว” กอหญ้าเตือนเสียงใส “อธิษฐานก่อนนะ”พัชรากล่าวเตือนอีกคน เอลี่หลับตาพร้อมอธิษฐาน ก่อนจะเป่าเทียน สามสาวช่วยกันวางเค้ก และลูกโป่งลงบนโต๊ะ ในห้องนั่งเล่น “ของคุณญ่ากับพัชมากนะ ว่าแต่ญ่ามาได้ไงวันนี้วันครอบครัวนี่ คุณกริชยอมได้ไง” เอลี่ถาม เพราะกริชชัยขึ้นชื่อเรื่องติดเมียมาก นานๆ ครั้งถึงจะปล่อยให้หญิงสาวไปเที่ยวกับ
เอลี่ เข้าครัวทำอาหารเช้าง่าย ๆ ให้เด็ก ๆ รับประทาน อดิสรตื่นสายมากวันนี้ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนชายหนุ่มคิดเรื่องหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากับอดีตคนรักจนทำให้นอนไม่หลับว้าวุ่นใจ ใจหนึ่งก็ยังรักอดีตคนรักมาก แต่อีกใจหนึ่งก็นึกชอบมัณฑนากรหญิงที่อยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองตลอดทั้งคืนว่าเป็นเพราะตนเองคิดถึงอดีตคนรักมาก จนทำให้มองสิ่งที่หญิงสาว มีอะไรหรือทำอะไรก็คล้ายกับอดีตคนรักไปเสียหมด อดิสรกลุ้มใจ จนรู้สึกกดดันมากอย่างบอกไม่ถูก“ขอโทษครับที่ตื่นสาย คุณกำลังทำอะไร”“กำลังจะเตรียมทำขนมหวานไว้ทานหลังอาหารค่ะ เด็กๆ ขอช่วยด้วย” เอลี่อุ้มน้องแพร นั่งที่เค้าเตอร์ข้างๆ ในขณะที่ อั๋นและอ้น ยืนอยู่บนเก้าอี้ที่ทำให้ร่างของเด็กชายตัวน้อย สูงเท่ากับมัณฑนากรสาว“กำลังจะทำอะไรเด็กๆ” อดิสร หอมแก้มหลานสาว อย่างรู้สึกมันเขี้ยว“บลูเบอรี่คัพ ชีสเค้ก ครับ ค่ะ” เด็กๆ พูดประสานเสียงกัน“บลูเบอรี่คัพ ชีสเค้กงั้นเหรอ” อดิสร นึกย้อนไปในอดีตที่ภูเก็ต ภาพของอดีตคนรักที่ทำของหวานแบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ยังจำได้ดีว่าเป็นของหวานที่อร่อยและยังเป็นความทรงจำดีๆ ของตนเองและอดีตคนรักอดิสรเกือบจำทุกขึ้นตอนได้ เพรา
อดิสรจ้องมองร่างของหญิงสาวที่ยืนกอดอกยืนมองพระจันทร์ที่ริมระเบียงของบ้านพักตากอากาศที่เขาย้ายพามาเมื่อเช้า ชายหนุ่มพาหลานๆ และหญิงสาวไปพักที่โรงแรมในเมืองสองสามวัน แต่มีคนแนะนำให้มาพักที่บ้านพักนี้เพราะมีความเป็นส่วนตัวที่สำคัญสามารถทำอาหารรับประทานได้แถมติดทะเล ทำให้อดิสรตกลงเช่าทันที แม้ว่าจะเหลือเวลาแค่สองวันก็ตาม สามวันที่ใช้ชีวิตร่วมกันทำให้อดิสรรู้สึกผูกพันแบบประหลาดกับมัณฑนากรสาวอาจเป็นเพราะกริยาที่แสนคุ้นเคย อดิสรปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างน่ารักแม้บุคลิกภายนอกจะเปรี้ยวเป็นเวิร์กกิ้งวูแมน แต่จริงๆกลับเป็นแม่บ้าน เธอเข้ากับหลานๆ ของตนเองได้เป็นอย่างดี อดิสรรู้สึกประหลาดใจ ทำไมตนเองถึงมีความรู้สึกพิเศษๆกับผู้หญิงตรงหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้รสนิยมของตนเอง ไปอีกแบบหนึ่ง คิดแล้วชายหนุ่มรู้สึกว้าวุ่นใจ“ยังไม่นอนอีกเหรอคุณ” อดิสรถามเมื่อเดินเข้ามาเกือบจะยืนซ้อนหลัง เอลี่สะดุ้งแล้วเหลียวไปมอง ริมฝีปากเฉียดกันจนเอลี่รีบถอยออก“ยังไม่ง่วงค่ะ แล้วคุณล่ะ ขับรถออกมาตั้งไกลไม่เหนื่อยเหรอคะ”“ไม่ อยู่กับเด็กๆ กับคุณแล้วมีความสุขมากกว่า”“พรุ่งนี้เราไปจ่ายตลาดกัน บ่ายๆ ทำบาบีค
“จะห้องใคร ก็ห้องผม” อดิสรตอบ พลางขยับตัวอีกนิด ทำให้เสื้อคลุมเตะที่แขนราวกับตั้งใจ เอลี่ขยับออกจนชิดติดพนักโซฟา “ห้องคุณ....” “ใช่ ทำไม คุณคิดว่าคุณมีห้องที่คอนโดฯ นี้ได้คนเดียวหรือไง อีกอย่างไม่มีคนบอกคุณหรือไง ว่า เดอะริวเวอร์ไซด์ เป็นโครงการของกรณ์วิภาค ไอ้การที่ผมจะมีเพนส์เฮ้าส์ที่นี้ก็ไม่แปลก” “ก็บ้านคุณอยู่ถัดจากนี้ไปสองซอยเอง” เอลี่ตอบเร็ว แต่ทำให้อดิสรเหลียวกลับมามองหญิงสาวที่ตรงหน้าราวกับตกตะลึงในคำตอบ “คุณรู้ได้ยังไง ว่าผมมีบ้านอีกหลังใกล้ๆ นี้” อดิสรชะโงกใบหน้าจนเกือบไปชิดกับใบหน้าของหญิงสาวอย่างทั้งประหลาดใจ ตกใจ หัวใจอดิสรเต้นแรงและเร็ว บ้านหลังที่ว่าเป็นบ้านหลังเดียวที่เกือบเหมือนถูกปิดตายตั้งแต่อดีตคนรักหนีไปต่างประเทศ อดิสรเวลาคิดถึงก็จะแวะไปดูบ้าง นานๆครั้งไปนอน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนก็ยังใส่เหมือนเดิม ผ่านมาสี่ปีก็ยังมีคนเข้าไปทำความสะอาด แต่นี่เกือบสี่ห้าเดือนนี้ไม่ได้แวะไปดูอีกเลย อาจเป็นเพราะงานยุ่ง ประจวบเหมาะกับว่างเมื่อไหร่ก็จะหาเวลาไปขลุกอยู่กับหลานๆ ทำให้อดิสรเกือบจะลืมบ้านที่เคยอยู่ร่วมอดีตคนรักร่วมปี จนกระทั่งหญิงสาวตรงหน้ามาสะกิดต่อม ทำให้อดิสรรู้สึก
กรุงเทพฯ ชั้น 61 โรงแรมบันยันทรี ร้านอาหาร vertigo grill and moon bar ร้านอาหารติดท๊อปไฟล์ร้านอาหารที่ดีและโรแมนติก สำหรับคู่รักที่สามารถเห็นบรรยากาศสามร้อยหกสิบองศาของกรุงเทพฯ เอลี่หรือชื่อใหม่ เอมิการู้สึกแปลกใจที่เจ้านายหนุ่มเลือกสถานที่นี้เป็นที่นัดรับประทานอาหาร ตอนแรกหญิงสาวก็ลังเลว่าจะมาหรือไม่ แต่ในเมื่อตกปากรับคำว่าจะรับเดท ทำให้เอลี่ตัดสินใจที่จะมารับประทานอาหารกับเจ้านายชาวต่างประเทศตามลำพัง แต่ยิ่งแปลกใจยิ่งกว่าเมื่อมิสเตอร์ฟิลิปเลือกสถานที่สุดแสนโรแมนติค ระหว่างรอเจ้านายที่ออกไปคุยโทรศัพท์ ทำให้หญิงสาวมองบรรยากาศรอบๆ แล้วคิดอะไรเพลิน ๆ วันนี้เอลี่แต่งชุดเดรสสีขาว ทำให้ขับผิวสีน้ำผึ้งให้ดูอ่อนหวาน ผมรวบไปข้างบนแต่ปล่อยย้อยระย้า ทำให้ดูอ่อนหวานปนๆ เซ็กซี่ เจ้านายหนุ่มไปรับเธอมาจากคอนโดฯ ที่เค้าเช่าให้เธอ ตอนเซ็นต์สัญญาว่าจ้าง เดอะริเวอร์ไซด์ถือว่าเป็นคอนโดฯ ที่หรูพอสมควรสำหรับตำแหน่งหน้าที่ของเธอ แต่อาจเป็นเพราะว่าเจ้านายหนุ่มมีความรู้สึกพิเศษกับเธอ ซึ่งเอลี่หรือเอมิการู้สึกเริ่มอึดอัดกับความสัมพันธ์แบบนี้ เธอจะบอกเขาว่ายังไงว่าเธอไม่สามารถรักใครได้อีกเพราะทั้งตัวและหั