สีหน้าของชาร์ลีเปลี่ยนจากความง่วงงุนสับสนเป็นโหมดจู่โจมเต็มขั้นภายในไม่ถึงสามวินาที เธอมองลงไปดูตำแหน่งท่าทางของพวกเขาที่น่าอึดอัดสุด ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองเทย์เลอร์ด้วยสายตาอาฆาตเธอลุกขึ้นนั่งโดยไม่ลังเล แขนพร้อมจะลุย แล้วก็บึ้ม! ชาร์ลียกนิ้วกลางให้เทย์เลอร์ถึงสองข้าง ส่งตรงถึงหน้า เสิร์ฟร้อน สดใหม่“โว้ว โว้ว ใจเย็น แม่เสือสาว” เทย์เลอร์ทำหน้าตกใจเกินจริงแล้วถามว่า “ใครสอนเธอให้ทำเรื่องแบบนี้?”ชาร์ลี “???”“อาจารย์ของฉัน” ชาร์ลีตอบ “เขาบอกอย่างชัดเจนว่าให้ใช้ท่านี้กับคนที่สมควรได้รับ และตอนนี้นายก็สมควรได้รับมันเต็ม ๆ ฉันฉวยโอกาสจากนายงั้นเหรอ? นายชวนฉันมาเอง...ไม่สิ ขอย้อนใหม่ นายทำสงครามประสาทใส่ฉันจนฉันต้องมา!”เทย์เลอร์เอนหลัง ถามว่า “ทำสงครามประสาทใส่เธองั้นเหรอ? พูดแบบนั้นมันฟังดูแย่จังเลยนะ”“ใช่” ชาร์ลีพูด “นาย...” เธอผายมือไปทางเขา โดยเฉพาะที่ลำตัวของเขา “นายกับ...” สายตาเธอจ้องไปที่แผงอกของเขาแล้วพูดว่า “ก็รู้กันอยู่!”เขายิ้มมุมปาก เอนหลัง แล้วเกร็งกล้าม! แน่นอนว่าเขารู้ว่าเธอพูดถึงอะไร!“แล้วยังมีอีกเพียบ!” เธออุทาน “เพราะงั้นอย่ามาโทษฉันนะ เทย์เลอร์ เวสต์!”“แต
เมื่อเวลาผ่านไป ทริสตันก็ยังคงรายงานเรื่องของชาร์ลีให้ฟัง“ฉันเห็นเธอที่ห้องสมุด เธอดูจริงจังกับการอ่านมาก เธอต้องฉลาดแน่ ๆ มีผู้ชายหลายคนมองเธอ แต่เธอก็เอาแต่อ่านหนังสือ”ในอีกโอกาสหนึ่ง ขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากมหาวิทยาลัย ทริสตันพูดว่า “ดูนั่นสิ นั่นเธอ! เธออยู่กับลุค ซัลลิแวน!”เทย์เลอร์จำได้ว่าเขาเคยเห็นชาร์ลีตอนนั้น เธอยื่นขวดน้ำให้ลุคและดูเป็นห่วงเขาจริง ๆ ทริสตันพูดว่า “ลุคนี่โชคดีชะมัด”“สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ ทริสตัน” เทย์เลอร์พูด “เธอดูเป็นคนดีก็จริงนะ แต่เราก็ยังไม่รู้จักเธอดีพอ”เทย์เลอร์ลืมเรื่องที่ทริสตันแอบชอบเธอไปนานแล้ว จนกระทั่งวันงานประชุมใหญ่ เทย์เลอร์จึงเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าชาร์ลีคือผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกสนใจ และยิ่งประทับใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่าเธอเป็นนักศึกษาที่ได้คะแนนสูงสุดของคณะบริหารธุรกิจ ผู้หญิงที่จดจ่อกับเป้าหมายของตัวเองงั้นเหรอ? นั่นคือสิ่งที่เขาชื่นชมจริง ๆ เพราะเขาก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันวันนั้น เทย์เลอร์ยังได้รู้ด้วยว่าลุคคือคนที่หักหลังชาร์ลีเทย์เลอร์ไม่ชอบลุค สำหรับเขา ลุคไม่ใช่พวกเล่นกีฬาอย่างแท้จริง แน่นอนว่าเขาเล่นเกมปั่นประสาทกับ
โอ้ พระเจ้า! ชาร์ลีกรีดร้องอยู่ในหัว เพราะประตูเปิดออกด้วยเสียงเอี๊ยดอ๊าดเธอแทบจะได้ยินเสียงดนตรีของเหล่านางฟ้าดังขึ้นเบา ๆ เหมือนคณะนักร้องประสานเสียงกำลังเฉลิมฉลองต่อการมาถึงของเธอ แสงสีทองอ่อน ๆ ดูเหมือนจะส่องออกมาจากห้องของเทย์เลอร์ ราวกับกำลังเชื้อเชิญให้เธอเข้าไป ถ้าเธอตั้งใจมองดี ๆ อาจจะเห็นกามเทพตัวจิ๋วกำลังโยนกระดาษโปรยอยู่ก็เป็นได้แน่นอน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง... แต่รู้สึกเหมือนจริงสุด ๆปีศาจในใจ “ไม่ใช่กามเทพหรอก ชาร์ลี นั่นฉันต่างหาก!”‘กามเทพต่างหาก’ ชาร์ลีตอบกลับในใจ หรืออย่างน้อยเธอก็ทำให้ตัวเองเชื่อแบบนั้นเธอกลืนน้ำลายอย่างลังเล แต่ก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้เช่นกัน หัวใจของเธอบอกว่า เธอจะพักผ่อนได้เต็มที่ก็ต่อเมื่ออยู่ข้าง ๆ เทย์เลอร์เท่านั้นหลังจากปิดประตูแล้ว เธอก็ล้มตัวลงบนเตียงของเทย์เลอร์ เขานอนคว่ำหน้าอยู่ดูเหมือนจะหลับสนิท ชาร์ลีนอนตัวแข็งทื่อ พร้อมกับกอดตุ๊กตาตัวโปรดของเธอไว้แน่น ต้องใช้เวลาสักพักกว่าหัวใจที่ตื่นเต้นของเธอจะสงบลง แต่ไม่นานนัก เปลือกตาของเธอก็เริ่มหนัก เธอหลับตาเพียงชั่วครู่ แล้วสิ่งต่อมาก็คือ ร่างกายเธอที่ผ่อนคลายลง และเธอก็เข้าสู
ชาร์ลีรู้สึกประหม่า แต่เพราะพี่สาวบอกให้ทำ เธอจึงกลับไป เธอเปิดไฟแล้วมองดูเทย์เลอร์ จนถึงตอนนี้ เขายังไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย ชาร์ลีรีบถ่ายรูปเขาอีกครั้ง และขณะที่เธอกำลังลงมืออยู่นั้น เทย์เลอร์ก็พลิกตัวนอนหงายเฟรย่ากรีดร้องในใจ ผ่านวิดีโอคอลเธอพูดแบบไม่มีเสียงว่า “ถ่ายรูปสิ! โอ้ เขาหล่อจริง ๆ นั่นแหละ!”มือของชาร์ลีสั่นขณะที่เธอถ่ายรูปอีกครั้ง“ซูมเข้าไป ถ่ายใกล้ ๆ เลย” เฟรย่ากระซิบ“ชู่ว์ เงียบหน่อย” ชาร์ลีดุเธอขยับเข้าไปใกล้ แล้วถ่ายรูปเทย์เลอร์อีกหลายรูป ชาร์ลีกำลังจะกลับออกไปแล้ว เธอหมุนตัวเตรียมเดินออก แต่จู่ ๆ เทย์เลอร์ก็คว้าแขนเธอไว้! แล้วสิ่งต่อมาที่เธอรู้ก็คือ ทั้งตัวเธอก็ล้มลงไปบนเตียง แล้วเธอก็นอนอยู่ข้าง ๆ เทย์เลอร์!“ว๊ายยย!” ชาร์ลีกับเฟรย่ากรีดร้องพร้อมกัน“เธอทำอะไรน่ะ?” เทย์เลอร์ถาม ทั้งที่ยังลืมตาไม่เต็มที่ และเสียงก็ยังแหบพร่าอยู่ก่อนที่ชาร์ลีจะทันตอบ เทย์เลอร์ก็หยิบโทรศัพท์ของเธอไป และเมื่อเขาเห็นเฟรย่าก็ถามขึ้นว่า “คุณเป็นใคร?”“อ้อ สวัสดี เทย์เลอร์ ฉันเป็นพี่สาวของชาร์ลี ชื่อเฟรย่า ชาร์ลีกำลังแนะนำคุณให้ฉันรู้จัก ระหว่างที่คุณนอนอยู่น่ะค่ะ!” เฟรย่า
ตอนตีหนึ่ง ชาร์ลีทำสมาธิตอนตีสอง ชาร์ลีนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงตอนตีสาม ชาร์ลีกระเด้งตัวขึ้นมาเธอกรีดร้องในใจแบบไม่มีเสียงว่า ‘โอ๊ยยย! ไปตายซะ เทย์เลอร์!’ชาร์ลีรู้สึกสิ้นหวัง เธอนอนไม่หลับเลยสักนิด!แล้วเธอจะทำยังไงดี?เธอตัดสินใจไปแล้วว่าจะเป็นเด็กดี และจะไม่ยุ่งกับผู้ชายจนกว่าจะอายุยี่สิบห้า ตอนนี้เธอรู้สึกพอใจที่เลิกกับลุคแล้ว เพราะอย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องรู้สึกผิดที่โกหกพ่อแม่อีกต่อไป!แต่นี่มันอะไรกัน? สิ่งล่อใจที่อยู่ห้องข้าง ๆ กำลังก่อร่างสร้างตัว และมันช่างเชื้อเชิญเหลือเกิน‘นางฟ้าผู้พิทักษ์’ ของเธอไม่ได้ช่วยอะไรเลย‘ปีศาจในใจ’ กลับดูเหมือนจะลำเอียงเสียด้วย!ดังนั้น ชาร์ลีจึงทำในสิ่งที่เธอคิดว่าดีที่สุดตอนประมาณตีสามครึ่ง เธอโทรหาพี่สาว“ชาร์ลีเหรอ?” เฟรย่ารับสาย “ทำไมโทรมาดึกขนาดนี้ล่ะ?”“พี่...ฉันมีปัญหาแล้ว” ชาร์ลีสารภาพ เธอกอดเข่าอยู่บนเตียง พร้อมกับถือโทรศัพท์แนบหู“ปัญหาแบบไหน? เกี่ยวกับลุคเหรอ? บอกมาเลย เดี๋ยวพี่จัดการเขาให้จบ ๆ ไปเลย” เฟรย่าพูดอย่างจริงจัง“ไม่ใช่ลุคหรอก” ชาร์ลีถอนหายใจ แล้วสารภาพว่า “ฉันว่าปัญหานี้มันใหญ่กว่านั้นอีก”“เล่ามาเลย พี่
“รู้สิ ฉันแค่อยากคิดเรื่องนี้ให้ดีก่อน” ชาร์ลีกล่าว พร้อมกับสลัดเสียงในหัวออกไป จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเรื่อง “เทย์เลอร์ พอพูดถึงการทำให้ดูเหมือนเราคบกันจริง ๆ นายก็ควรจัดการกับพวกผู้หญิงที่ชอบอ้างตัวว่าเป็นแฟนนายหน่อยนะ”“เธอหึงเหรอ?” เทย์เลอร์ถาม“เปล่า! แต่มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุคเชื่อว่าเรากำลังแกล้งคบกันตั้งแต่แรกต่างหาก!” ชาร์ลีตอบทันควัน เธอเล่าให้เขาฟังว่าเมซี่พูดอะไรกับคนอื่นบ้าง “ให้ตายสิเทย์เลอร์ ทำไมนายไม่เคยจัดการเรื่องนี้บ้างเลยล่ะ? นายปล่อยให้ผู้หญิงพวกนั้นพูดถึง...เอ่อ...ขนาดของนาย แล้วก็เรื่องที่พวกเธอมีอะไรกับนายได้ยังไง? มีเวอร์ชันต่าง ๆ ของสิ่งนั้นของนายเต็มไปหมดเลยนะ!”“สิ่งนั้น?” เทย์เลอร์พูดเสริม “หมายถึงไอ้นั่นของฉันน่ะเหรอ” เทย์เลอร์แก้ “ฟังดูเหมือนเป็นของสะสมรุ่นลิมิเต็ดเลยนะ”ชาร์ลี “…”“อย่างแรกเลยนะ ชาร์ลี” เทย์เลอร์เริ่มพูด “ฉันไม่รู้จักผู้หญิงพวกนั้นด้วยซ้ำ ฉันต้องใช้ชีวิตด้วยการออกล่าคนพูดมั่วไปทั่วหรือไง? ก็พวกเธอไม่ได้พูดต่อหน้าฉันนี่นา เธอก็รู้”“แต่เรื่องเมซี่ ฉันยอมรับว่าฉันรู้” เทย์เลอร์ยืนยัน “ฉันแค่ไม่อยากเผชิญหน้ากับเธอเพราะเห็นแก่คาร์ล แล้วฉ
“เธอควรฝึกอีกสักหน่อยนะ” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีกะพริบตาค้างพร้อมขมวดคิ้ว “ฉันเหรอ?” “ใช่ จูบนั้นมันก็แค่…พอใช้ได้” เทย์เลอร์ยักไหล่ พลางทำมือที่แปลว่า ก็แค่กลาง ๆ ออกมา “พอใช้ได้?” ชาร์ลีอ้าปากค้าง “นายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!” เทย์เลอร์หรี่ตา แล้วอยู่ ๆ ก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยิ้มมุมปาก และนั่นแหละ ที่ชาร์ลีรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีปัญหาแล้ว เธออยู่กับเทย์เลอร์มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้ก็คือรอยยิ้มแบบนั้นของเขาหมายถึงปัญหาแน่นอน “โอเค” เทย์เลอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “เรามาตั้งขอบเขตกันดีกว่า” ชาร์ลีกอดอก “ขอบเขตเหรอ?” “ใช่ เรื่องการจูบน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ ชาร์ลีพยักหน้าเร็ว ๆ “ถูกต้อง ความชัดเจนน่ะสำคัญ” “กฎต้องมี” เทย์เลอร์เริ่มพูดต่อ “จะได้ชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย ว่าควรจูบเมื่อไหร่ ใครเริ่มก่อน และจูบยังไง” ชาร์ลีขยับตัวอย่างอึดอัด อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว “ใช่ ฟังดูมีเหตุผล” “งั้นสิ่งที่ฉันคิดว่าควรทำก็คือ…” เทย์เลอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ดูจริงจังมาก เขาพักข้อศอกไว้บนเข่าแล้วพูดว่า “เพื่อให้ลุคหัวเสียต่อไป เราต้องยอมรับว่าการจู
“ว่าแต่ว่าชาร์ลี ถึงเธอจะอยู่กับเทย์เลอร์ ฉันก็แค่อยากบอกให้ชัดนะว่าฉันเห็นเธอก่อน” แอตลาสมองเทย์เลอร์อย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “เทย์เลอร์ก็แค่ขโมยเธอไปจากฉันเท่านั้นเอง” พวกผู้ชายพากันหัวเราะ รวมถึงแองเจิล น้องสาวของแอตลาสด้วย แองเจิลพูดว่า “ไม่รู้สิ แอตลาส แต่เทย์เลอร์ไม่เคยหวงผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย ฉันว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อกันและกันแน่” พอชาร์ลีได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าความร้อนลามไปถึงหูแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘พระเจ้า ถ้าพวกเขารู้ว่าเรากำลังแกล้งคบกันอยู่ล่ะก็…’ “จริง ๆ แล้ว” เทย์เลอร์เอาแขนที่โอบไหล่ของชาร์ลีออก เขาเอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ชาร์ลีอยู่กับฉันแล้ว เราคบกันก่อนที่พวกนายจะเห็นเธอบนเวทีในวันประกาศรางวัลเสียอีก” “อะไรนะ?” แอตลาสพูดขึ้น “ฉันนึกว่านายแค่แกล้งทำให้ลุคหัวเสีย นี่พวกนายอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ?” “ใช่!” เทย์เลอร์ตอบ แอตลาส “แล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ ที่นายบอกฉันว่าชาร์ลีไม่ใช่สเปคนายก็คือแค่...” “ใช่” เทย์เลอร์ยืนยันอีกครั้ง แอตลาส “แล้วที่นายพูดว่าเธอเป็นแค่...” “ใช่! และใช่!” เทย์เลอร์โอบแขนกลับไปรอบตัวชาร
ชาร์ลีโกรธมาก เธอไม่เข้าใจว่าลุคทำเหมือนเธอยังเป็นของเขาได้ยังไง ‘เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเขาทำร้ายฉันมากแค่ไหน? เขานอกใจแล้วยังโกหกอีก?’ เธอคิดอย่างโกรธจัด ‘แล้วตอนนี้ เขาคิดว่าฉันจะกลับไปหาเขาอีกงั้นเหรอ?’ นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แต่ถึงเธอจะโกรธแค่ไหน การมีเทย์เลอร์อยู่ตรงนั้นก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แขนของเขาที่โอบเธอไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นเกราะที่กันความหยิ่งผยองของลุคไม่ให้เข้ามาถึงเธอ เธอยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ความเจ็บมันเบาลงเพราะมีเทย์เลอร์อยู่ข้าง ๆ ตอนที่พวกเขาหันหลังเดินออกมา ชาร์ลียังอยากเอาคืนลุคมากกว่านี้ เธอกระซิบกับเทย์เลอร์ “จูบฉันสิ” “ว่าไงนะ?” เทย์เลอร์ถาม “จูบฉันสิ” เธอพูดย้ำอีกครั้ง เสียงยังคงนุ่มนวล “เดินลงไปอีกสองขั้นก่อน จะได้ดูสมจริง” เทย์เลอร์เสนอ หลังจากเดินลงไปอีกสองขั้น เทย์เลอร์ก็ดึงชาร์ลีเข้ามาใกล้แบบสบาย ๆ เขาหยุดเดินและหันมาเผชิญหน้ากับเธอ เพื่อนร่วมทีมของเขาสังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจว่าทั้งคู่ต้องการเวลา จึงเดินนำหน้าไปก่อน “เราทำทีว่าเราคุยกันนะ จะได้ดูเป็นธรรมชาติ” เทย์เลอร์พูดขณะปัดผมปอยหนึ่งของชาร์ลี “เธอไหวนะ?”