“อะพาร์ตเมนต์ใหม่ของเธอเยี่ยมไปเลย!” พี่สาวของชาร์ลีเอ่ยปากชมชาร์ลีพาพี่สาวชมที่พักใหม่แบบเสมือนจริงผ่านวิดีโอคอลแม้จะเป็นเวลาค่อนข้างดึก แต่เธอยังตื่นเต้นอยู่เธอยังนอนไม่หลับเลย!“ใช่ไหมล่ะ! ที่นี่สะอาดแถมยังกว้างขวางอีกด้วย คิดว่าแสนห้าบาทก็คงคุ้มแหละนะ ฮ่าฮ่า!”“เหอะ” เฟรย่าพี่สาวของเธอแค่นเสียง “ฉันว่านี่ถูกแล้วนะ”“ไม่สิ! ฮ่าฮ่า” ชาร์ลีหัวเราะอีกครั้ง “ลักซ์ฟอร์ดไม่ได้เจริญเท่าฮัลลิพอร์ตเลยด้วยซ้ำ มันแค่ดังเรื่องมหาลัยเท่านั้นเอง ค่าเช่าที่นี่ถึงไม่น่าจะแพงขนาดนี้ แต่ฉันก็ดีใจที่หาที่อยู่ได้แล้ว”ชาร์ลียิ้ม ขณะนั่งบนโซฟาเธอก็มองไปรอบ ๆ ลมจากระเบียงห้องนั่งเล่นพัดปะทะใบหน้า เธอเอ่ยขึ้น “ฉันรู้สึกว่า คอนโดกับวิวแบบนี้นี่แหละที่จะทำให้ฉันเรียนที่ลักซ์ฟอร์ดจนจบปีได้เลย”เธอเหลือแค่ปีเดียว และมันจะลำบากมากถ้าจะเปลี่ยนมหาลัยกลางคัน บางทีเธออาจทนไหวก็ได้ชาร์ลีเริ่มคุยกับครอบครัวต่อ พวกเขามีคำถามสารพัด โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน ๆ ของเธอ แต่ชาร์ลีตอบเพียงว่า “หนูแค่อยากได้วิวสวย ๆ จะได้มีแรงบันดาลใจดี ๆ เพื่อให้ได้ที่หนึ่งในคณะต่อไปเท่านั้นเองค่ะ!”“เก่งมากลูก!” ไรลีย์ คิง แม่ของเ
ย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อสองวันก่อนหน้านี้“ลูกต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาได้แล้ว! พ่อเบื่อที่มหาวิทยาลัยโทรมาทุกครั้งเลย…” พ่อของเทย์เลอร์บ่นเรื่องที่เขาไปมีเรื่องชกต่อยที่มหาวิทยาลัยครั้งล่าสุด เทย์เลอร์ไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่การบ่นนี้ก็เหมือนเป็นคำกล่าวต้อนรับกลับบ้านของเขา เทย์เลอร์แทบไม่สนใจคำพูดพ่อเลย ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เขาขัดจังหวะพ่อแล้วพูดว่า “พ่อ แป๊บหนึ่ง ทันย่าโทรมา” “ไงทันย่า?” เทย์เลอร์รับสายทั้งที่พ่อยังพูดอยู่ เขาไม่สามารถตั้งสมาธิได้และรีบคุยสายอย่างลวก ๆ “เทย์เลอร์…ชาร์ลี คิง…จะมาเช่าคอนโดร่วมกับนาย” ทันย่าพูดทางสาย “ชาร์ลีเหรอ?” เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่คนที่ชื่อชาร์ลีหนึ่งคนที่ผุดขึ้นมาในหัวคือชาร์ลีที่เป็นนักศึกษาวิศวะปีสาม และพวกเขาเรียนวิชาการวิเคราะห์โครงสร้างด้วยกัน แถมยังบังเอิญว่า ชาร์ลีคนนี้เคยถามเขาเกี่ยวกับห้องว่างที่เฟิร์นวูด เรสซิเดนซ์ด้วย เทย์เลอร์เลยเข้าใจไปทันทีว่าเป็นผู้ชายคนนั้น “ใช่ ฉันรู้จักชาร์ลี” เทย์เลอร์พูด ทันย่าอยู่ต่างประเทศสัญญาณโทรศัพท์ของเธอก็เลยขาด ๆ หาย ๆ“นาย…แน่ใจเหรอ? เธอเป็น…” ทันย่าถาม “ใช่ ๆ ไม่ต้องห่วงน่า ฉ
“ยังมีอะไรให้ต้องคิดอีกเหรอ?” ชาร์ลีถาม สีหน้าแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไม่รู้สิ แค่อยากให้เราคิดให้รอบคอบน่ะ ชาร์ลีสาวผมบลอนด์” เทย์เลอร์พูด เขาดูนาฬิกาแล้วพูดต่อ “ถ้าไม่ไปตอนนี้ ฉันจะไปเรียนสายแล้ว”เทย์เลอร์ลุกขึ้น สะพายเป้ขึ้นบ่า แล้วพูดว่า “ไว้เราค่อยคุยกันต่อเย็นนี้นะ”ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เทย์เลอร์ก็เดินเข้าเรียนวิชาการวิเคราะห์โครงสร้างและเห็นชาร์ลีชาร์ลีคนนี้เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ชาร์ลีสาวผมบลอนด์ที่เขาเผลอให้แบ่งคอนโดของทันย่าครึ่งหนึ่งให้เช่าโดยไม่ได้ตั้งใจเขาไม่เหมือนชาร์ลี คิงเลย ชาร์ลีคนนี้เป็นผู้ชายแท้ ๆ และเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันอีกด้วยเทย์เลอร์เดินเข้าไปหาชาร์ลีแล้วถามว่า “ไง ชาร์ลี ขอโทษทีนะ แต่นายนามสกุลอะไรนะ?”“อ้อ สเลดน่ะเพื่อน” ชาร์ลีตอบพร้อมรอยยิ้ม เขายื่นมือออกมาหาเทย์เลอร์แล้วพูดว่า “ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ”เขาหัวเราะ และเทย์เลอร์ก็หัวเราะเบา ๆ ขณะจับมือกัน“ขอโทษนะ สเลด ฉันจำชื่อคนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่” เทย์เลอร์สารภาพ “ฉันจำได้ว่านายกำลังหาที่พักใช่ไหม? ตอนนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้เช่าครึ่งหนึ่งของคอนโดที่ฉันอยู่ นายยังสนใจอยู่ไหม?”“แน่นอนสิ!
ที่คอนโด ชาร์ลีกับเทย์เลอร์นั่งประจำที่ของตัวเอง พลางจ้องหน้ากันทั้งคู่ต่างก็ดูลังเลกับสถานการณ์นี้อย่างเห็นได้ชัด“ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าต้องมาเจอเรื่องบ้า ๆ แบบนี้” ชาร์ลีพึมพำ “นายเป็นรูมเมตที่แย่ที่สุดที่ฉันจะมีได้เลย”“จริงเหรอ?” เทย์เลอร์ตอบกลับ “ที่พูดแบบนี้เพราะเธอเคยอยู่กับรูมเมตผู้ชายคนอื่นมารึไง?”“นาย…” ชาร์ลีกัดฟัน ใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ“แม่ชาร์ลีผมบลอนด์ ทำไมเธอไม่บอกฉันล่ะ ว่าทำไมเธอถึงหาที่อยู่ใหม่หลังเปิดเทอมแค่ไม่กี่สัปดาห์แบบนี้ ก่อนหน้านี้เธออยู่ที่ไหน?” เทย์เลอร์เย้ยหยันและเอ่ยต่อ “บางทีรูมเมตเก่าเธออาจทนเธอไม่ไหวเลยไล่เธอออกก็ได้นี่เนอะ!”“นายไม่รู้หรอกว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร!” ชาร์ลีโต้กลับ “ฉันมีเหตุผลของฉัน และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนายด้วย”เทย์เลอร์กระแอมแล้วพูดว่า “เอาเถอะ ยังไงก็ตาม ชาร์ลีผมบลอนด์...”“หยุดเรียกฉันแบบนั้นสักที!” ชาร์ลีตะคอก“ฉันแค่ใช้เรียกเพื่อแยกระหว่างเธอกับชาร์ลี สเลดน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ“ใครคือชาร์ลี สเลด?” ชาร์ลีถามเทย์เลอร์ยิ้มมุมปากแล้วตอบ “ไม่ใช่เรื่องของเธอ”ชาร์ลีอ้าปากค้าง แต่ก่อนที่เธอจะทันโต้กลับ เทย์เลอร์ก็พูดว
“ก็ได้” เทย์เลอร์ตอบรับ “ทุกวันฉันจะมีซ้อมรอบเช้า เพราะงั้นฉันจะอาบน้ำตอนหกโมงเช้า”“ฉันไม่ชอบให้ห้องรก เพราะงั้นถ้าใช้อะไรเสร็จก็ช่วยเก็บของให้เรียบร้อยด้วย แล้วฉันก็ไม่ชอบเสียงดัง หวังว่าเราจะรักษาความสงบของที่นี่ไว้หน่อย”ชาร์ลีพูดเสริม “ฉันออกไปข้างนอกบ่อย จะซ้อมบาสหรืออะไรก็แล้วแต่” เทย์เลอร์เผย “เธอคงไม่ค่อยได้เห็นหน้าฉันบ่อยนักหรอก”“นั่นยิ่งดีเข้าไปใหญ่!” ชาร์ลีพูดอย่างตื่นเต้น“ห้ามพาแขกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอีกฝ่าย นายต้องเข้าใจนะว่าเพื่อนของนายส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ฉันไม่อยากต้องมาอึดอัด” ชาร์ลีพูดต่อ “ฉันเข้าใจ แต่กฎข้อนี้ก็ใช้กับเธอด้วยนะ” เทย์เลอร์ตอบ“แล้วถ้านายพาเพื่อนมา พวกเขาต้องเคารพของของฉันกับพื้นที่ส่วนตัวของฉันด้วย” ชาร์ลีพูด“ในฐานะเพื่อนร่วมห้อง เธอก็เรียกร้องเยอะเหมือนกันนะ” เทย์เลอร์ว่า “แต่ไม่เป็นไร ฉันก็เคร่งเรื่องขอบเขตเหมือนกัน ซึ่งแปลว่าเธอก็ห้ามเข้าไปในห้องฉันหรือเอาของของฉันไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกันนะ คุณชาร์ลีผมบลอนด์”“ทำอย่างกับว่าฉันจะต้องการของอะไรจากนายงั้นแหละ” ชาร์ลีกลอกตา“เราจะไม่แบ่งอาหารกันด้วย” ชาร์ลีพูดต่อ“แหม ขี้งกข
ตามที่เทย์เลอร์สัญญาไว้ เขาตื่นเช้าและกำลังจะออกไปซ้อมบาสตอนเจ็ดโมงเช้า เขาใส่ชุดแข่งบาสอยู่แล้ว แต่เพราะอากาศไม่ดี เขาเลยใส่แจ็คเก็ตคลุมไว้ เทย์เลอร์สูงมากถึง 180 ซม. เขาสูงกว่าชาร์ลีมากทีเดียวเทย์เลอร์เห็นชาร์ลีรับอาหารเดลิเวอรี่อีกครั้ง เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ เธอน่าจะทำอาหารกินเองได้ มีคลิปในยูทูปเยอะแยะ”ชาร์ลีแกะอาหารของเธอแล้วพูดว่า “โอ้ ฉันทำอาหารเป็นนะ แค่ยังไม่ได้ไปซื้อของเข้าบ้านเท่านั้นเอง”นั่นเป็นคำโกหก ชาร์ลีทำอาหารไม่เก่ง แต่เธอก็รู้ว่าถึงเวลาต้องเรียนรู้แล้ว เธอยอมรับในใจว่าโซเฟียกับแอชลีย์คอยตามใจเธอโดยการทำอาหารให้ตลอด สิ่งที่เธอเคยช่วยในอะพาร์ตเมนต์ที่แล้วส่วนใหญ่คือการทำความสะอาดกับล้างจาน“ยังไงก็เถอะ ฉันต้องไปแล้ว” เทย์เลอร์พูด เสียงเขายังแหบเล็กน้อย “ฉันจะกลับมาตอนเที่ยง”“ฉันจะไม่อยู่นะ” ชาร์ลีบอก“ดีแล้ว!” เทย์เลอร์พูดก่อนจะออกจากห้องอย่างน้อยเธอก็ไม่ตาย ขอบคุณพระเจ้า ชาร์ลีสรุปว่าเธอน่าจะอยู่รอดเทอมนี้ในฐานะรูมเมตของเทย์เลอร์ได้หลังจากกินข้าวเช้า เธอไปอาบน้ำแล้วแต่งตัว จากนั้นเธอก็เช็คกับอาจารย์ว่าสามารถสลับเวลาเรียนบางวิชาได้หรื
“เธอก็รู้นี่ ชาร์ลี มันเป็นความผิดของเธอเองนะ ที่รักษาผู้ชายของตัวเองเอาไว้ไม่ได้” เรจิน่าพูดหลังจากทาลิปสติกเสร็จ เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วสะบัดผมสีดำ จากนั้นหันมาทางชาร์ลีพลางพูดต่อว่า “ถามจริงนะ พวกเธอคบกันตั้งสองปี แต่ยังไม่เคยมีอะไรกันเลยเนี่ยนะ?”“ชาร์ลี เขาเป็นผู้ชายนะ! เธอทำให้ลุคเขาอดอยากปากแห้ง!” เรจิน่าพูดอย่างแรงใช่ มันเป็นความจริง ลุคกับชาร์ลีไม่เคยมีอะไรกัน เพราะเธอกลัวพ่อจะรู้! นอกจากนั้นลุคก็ไม่เคยกดดันเธอเรื่องเซ็กซ์เลย“โอ้ งั้นเธอมีอะไรกับลุค แล้วก็ภูมิใจงั้นเหรอ?” ชาร์ลีสวนกลับ “แหม งั้นก็ยินดีด้วยนะ หวังว่ามันจะยืดยาวกว่าตอนเริ่มต้นก็แล้วกัน”“มันต้องเป็นแบบนั้นแน่อยู่แล้ว!” เรจิน่าพูดอย่างมั่นใจ “ลุคไม่ได้อยู่กับฉันแค่เพราะเรื่องเซ็กซ์หรอก”“ฉันหมายถึง ดูสภาพเธอนี่สิ” เรจิน่ากวาดตามองชาร์ลีซ้ำ ๆ แล้วพูดว่า “เธอใส่เสื้อตัวโคร่ง กางเกงยีนส์ แล้วก็รองเท้าบู๊ตเนี่ยนะ”เรจิน่าทำหน้ารังเกียจแล้วเสนอว่า “บางครั้งเธอก็ต้องโชว์เนื้อหนังบ้างสิ!”“ไม่ล่ะ ขอบใจ ตอนนี้ฝนตกน่ะ” ชาร์ลีตอบ “ฉันขอให้ร่างกายอุ่นไว้ก่อนดีกว่า”เรจิน่าหัวเราะออกมาอย่างหงุดหงิด เธอโพล่งออกมาว่า “
“อี๋! แหยะชะมัด…เดี๋ยวนะ! ฉันมีถุงมือนี่นา!” ชาร์ลีร้องขึ้น หลังจากพยายามปั้นเนื้อไก่บดด้วยมือเปล่าชาร์ลีกำลังอยู่ในครัวของอะพาร์ตเมนต์ใหม่ตอนเจ็ดโมงเช้า แต่รูมเมตของเธอยังไม่กลับมาเธอกำลังดูยูทูบเพื่อเรียนรู้วิธีทำโครเกต์ไก่กับชีส ก่อนหน้านั้นเธอทำตามขั้นตอน ผสมเครื่องเทศและเครื่องปรุงลงในเนื้อไก่ ตอนนี้เธอปั้นมันให้เป็นก้อน แล้วใส่ชีสแผ่นใหญ่เข้าไปด้านใน“ชีสน่าอร่อยจัง” ชาร์ลีพูดพร้อมรอยยิ้ม เธอชอบชีสมาก“ชีสคือชีวิต!” เธอยืนยันแบบนั้นหลังจากปั้นโครเกต์ไก่ได้สิบลูก เธอก็เริ่มเตรียมน้ำมันมะกอก ชาร์ลีพึมพำว่า “ฉันเริ่มคล่องแล้ว ฉันเก่งเรื่องนี้ใช้ได้เลยนะเนี่ย”ชาร์ลีทอดโครเกต์ไก่อย่างมีความสุข เธอตื่นเต้นมากจนถ่ายรูปตอนทำอาหารไว้ แล้วส่งเข้าแชทกลุ่มครอบครัวด้วยความดีใจ[ดูสิคะทุกคน! หนูกำลังทำอาหารที่ยากมาก ๆ อยู่ด้วย!]ไรลีย์ สุดยอดคุณแม่ [ลูกทำมีตบอลเหรอ? แม่ภูมิใจในตัวลูกมากเลย ชาร์ลี!]ชาร์ลี [แม่คะ มันคือโครเกต์ไก่ต่างหากล่ะคะ]แจสเปอร์ พี่ชายจอมน่ารำคาญ [โครเกต์ไก่ไม่เห็นยากเลย ฉันเคยช่วยคุณย่าเรเน่ทำมาก่อนแล้ว]ชาร์ลี [มันยากจะตายไป!]เคียน พี่ชายที่น่ารำคาญน้อย
“เธอควรฝึกอีกสักหน่อยนะ” เทย์เลอร์เสนอ ชาร์ลีกะพริบตาค้างพร้อมขมวดคิ้ว “ฉันเหรอ?” “ใช่ จูบนั้นมันก็แค่…พอใช้ได้” เทย์เลอร์ยักไหล่ พลางทำมือที่แปลว่า ก็แค่กลาง ๆ ออกมา “พอใช้ได้?” ชาร์ลีอ้าปากค้าง “นายก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไหร่หรอก!” เทย์เลอร์หรี่ตา แล้วอยู่ ๆ ก็เอนตัวไปข้างหลังแล้วยิ้มมุมปาก และนั่นแหละ ที่ชาร์ลีรู้ทันทีว่าเธอกำลังมีปัญหาแล้ว เธออยู่กับเทย์เลอร์มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว และสิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้ก็คือรอยยิ้มแบบนั้นของเขาหมายถึงปัญหาแน่นอน “โอเค” เทย์เลอร์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “เรามาตั้งขอบเขตกันดีกว่า” ชาร์ลีกอดอก “ขอบเขตเหรอ?” “ใช่ เรื่องการจูบน่ะ” เทย์เลอร์ตอบ ชาร์ลีพยักหน้าเร็ว ๆ “ถูกต้อง ความชัดเจนน่ะสำคัญ” “กฎต้องมี” เทย์เลอร์เริ่มพูดต่อ “จะได้ชัดเจนกันทั้งสองฝ่าย ว่าควรจูบเมื่อไหร่ ใครเริ่มก่อน และจูบยังไง” ชาร์ลีขยับตัวอย่างอึดอัด อยู่ ๆ ก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว “ใช่ ฟังดูมีเหตุผล” “งั้นสิ่งที่ฉันคิดว่าควรทำก็คือ…” เทย์เลอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ดูจริงจังมาก เขาพักข้อศอกไว้บนเข่าแล้วพูดว่า “เพื่อให้ลุคหัวเสียต่อไป เราต้องยอมรับว่าการจู
“ว่าแต่ว่าชาร์ลี ถึงเธอจะอยู่กับเทย์เลอร์ ฉันก็แค่อยากบอกให้ชัดนะว่าฉันเห็นเธอก่อน” แอตลาสมองเทย์เลอร์อย่างไม่พอใจ แล้วพูดว่า “เทย์เลอร์ก็แค่ขโมยเธอไปจากฉันเท่านั้นเอง” พวกผู้ชายพากันหัวเราะ รวมถึงแองเจิล น้องสาวของแอตลาสด้วย แองเจิลพูดว่า “ไม่รู้สิ แอตลาส แต่เทย์เลอร์ไม่เคยหวงผู้หญิงแบบนี้มาก่อนเลย ฉันว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อกันและกันแน่” พอชาร์ลีได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงเรื่อขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าความร้อนลามไปถึงหูแล้ว พลางคิดในใจว่า ‘พระเจ้า ถ้าพวกเขารู้ว่าเรากำลังแกล้งคบกันอยู่ล่ะก็…’ “จริง ๆ แล้ว” เทย์เลอร์เอาแขนที่โอบไหล่ของชาร์ลีออก เขาเอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ชาร์ลีอยู่กับฉันแล้ว เราคบกันก่อนที่พวกนายจะเห็นเธอบนเวทีในวันประกาศรางวัลเสียอีก” “อะไรนะ?” แอตลาสพูดขึ้น “ฉันนึกว่านายแค่แกล้งทำให้ลุคหัวเสีย นี่พวกนายอยู่บ้านเดียวกันงั้นเหรอ?” “ใช่!” เทย์เลอร์ตอบ แอตลาส “แล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ ที่นายบอกฉันว่าชาร์ลีไม่ใช่สเปคนายก็คือแค่...” “ใช่” เทย์เลอร์ยืนยันอีกครั้ง แอตลาส “แล้วที่นายพูดว่าเธอเป็นแค่...” “ใช่! และใช่!” เทย์เลอร์โอบแขนกลับไปรอบตัวชาร
ชาร์ลีโกรธมาก เธอไม่เข้าใจว่าลุคทำเหมือนเธอยังเป็นของเขาได้ยังไง ‘เขาลืมไปแล้วหรือไงว่าเขาทำร้ายฉันมากแค่ไหน? เขานอกใจแล้วยังโกหกอีก?’ เธอคิดอย่างโกรธจัด ‘แล้วตอนนี้ เขาคิดว่าฉันจะกลับไปหาเขาอีกงั้นเหรอ?’ นั่นเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก แต่ถึงเธอจะโกรธแค่ไหน การมีเทย์เลอร์อยู่ตรงนั้นก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แขนของเขาที่โอบเธอไว้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นเกราะที่กันความหยิ่งผยองของลุคไม่ให้เข้ามาถึงเธอ เธอยังรู้สึกเจ็บอยู่ แต่ความเจ็บมันเบาลงเพราะมีเทย์เลอร์อยู่ข้าง ๆ ตอนที่พวกเขาหันหลังเดินออกมา ชาร์ลียังอยากเอาคืนลุคมากกว่านี้ เธอกระซิบกับเทย์เลอร์ “จูบฉันสิ” “ว่าไงนะ?” เทย์เลอร์ถาม “จูบฉันสิ” เธอพูดย้ำอีกครั้ง เสียงยังคงนุ่มนวล “เดินลงไปอีกสองขั้นก่อน จะได้ดูสมจริง” เทย์เลอร์เสนอ หลังจากเดินลงไปอีกสองขั้น เทย์เลอร์ก็ดึงชาร์ลีเข้ามาใกล้แบบสบาย ๆ เขาหยุดเดินและหันมาเผชิญหน้ากับเธอ เพื่อนร่วมทีมของเขาสังเกตเห็น แต่ก็เข้าใจว่าทั้งคู่ต้องการเวลา จึงเดินนำหน้าไปก่อน “เราทำทีว่าเราคุยกันนะ จะได้ดูเป็นธรรมชาติ” เทย์เลอร์พูดขณะปัดผมปอยหนึ่งของชาร์ลี “เธอไหวนะ?”
เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไป ลุคไม่ได้ไปที่อะพาร์ตเมนต์ของเรจิน่าอีกเลย และหลบหน้าเธอมาหลายวันแล้ว เขาแอบดูชาร์ลีอยู่ห่าง ๆ รวมถึงแอบดูพฤติกรรมของเธอ รวมถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเทย์เลอร์ด้วย จบเหตุการณ์ย้อนหลังกลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากเฝ้าดูชาร์ลีมาหลายวัน ลุคก็เชื่ออย่างสุดใจว่าความสัมพันธ์ของชาร์ลีกับเทย์เลอร์เป็นเพียงแผนเพื่อทำให้เขาหึง ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะชาร์ลียังวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาเสมอ แต่พอเขาพยายามจะคุยกับชาร์ลีหลังจบเกม เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นว่าชาร์ลีกับเทย์เลอร์สนิทกันมากขนาดนั้น เทย์เลอร์ เวสต์ยังพูดเป็นนัยว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันแล้ว โดยยื่นกางเกงในสีแดงของชาร์ลีมาให้ ซึ่งโซเฟียก็จำได้เหมือนกัน ภาพของชาร์ลีที่มีอะไรกับเทย์เลอร์ผุดขึ้นมาในหัวลุค และเขาก็ทนไม่ไหว เขาง้างหมัดแล้วตะโกนว่า “ชาร์ลีเป็นของฉัน!” ลุคพยายามจะชกเทย์เลอร์ แต่เทย์เลอร์จับหมัดของเขาไว้ได้ เทย์เลอร์พูดว่า “ช้าไปว่ะ ซัลลิแวน เดี๋ยวฉันจะสอนให้นายรู้ว่า หมัดจริง ๆ เป็นยังไง” ก่อนที่ลุคจะรู้ตัว หมัดของเทย์เลอร์ก็ชกเข้าที่จมูกเขาจนเลือดไหลออกมา ลุคสบถ ก่อนที่เพื่อน
- ย้อนเหตุการณ์กลับไป โดยมองจากมุมมองของลุค ในเย็นวันศุกร์ ลุคอยู่ที่ห้องของเรจิน่า ห้องเดียวกับที่ชาร์ลีเคยอยู่ เขานอนหงายอยู่ ขณะที่เรจิน่าเป็นคนควบคุมสถานการณ์เรจิน่าสวมชุดชั้นในแบบมีสายรัดขณะกำลังมอบความสุขให้เขา“ลุค ชอบรึเปล่า?” เรจิน่าถาม เธอขยับร่างกาย โอบหน้าอกของตัวเอง และครางออกมาเสียงดัง “อื้อ! ฉันชอบไอ้นั่นของนายมากเลย”จากนั้นเรจิน่าก็โน้มตัวลงมาจูบเขา เธอจงใจถูตัวเองกับหน้าอกเปลือยของเขาแล้วพูดว่า “อย่ามัวคิดถึงชาร์ลีเลยนะ ฉันจะดูแลนายเอง ยายนั่นเทียบฉันไม่ได้หรอก”คำพูดนั้นกระแทกใจลุค ใช่ มันคือความจริง ชาร์ลีไม่มีวันเป็นเหมือนเรจิน่าได้เรจิน่าเก่งเรื่องเซ็กซ์อย่างมาก แต่นั่นก็ทำให้ลุคเริ่มสงสัยว่าเธอมีประสบการณ์มากแค่ไหนกันถึงได้เก่งขนาดนี้ลุคหลับตา พยายามตั้งสมาธิ เขาจำเป็นต้องเสร็จให้ได้เขานึกถึงตอนที่ได้เจอกับเรจิน่าครั้งที่สองที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวเขา ตอนนั้นพ่อของเขามอบหมายให้เขาพาเรจิน่าทัวร์บ้าน หลังจากพาเธอชมพื้นที่ส่วนกลาง เธอก็หันมาหาเขาแล้วพูดว่า “พาฉันไปดูห้องนายหน่อยสิ”พ่อของลุคก็เคยพูดเป็นนัยว่าเขากับเรจิน่าน่าจะเข้ากันได้ดี และเรจิน
ชาร์ลีไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะได้จีสตริงคืน ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าเทย์เลอร์จะยอมคืนมันที่มหาวิทยาลัยล่ะ?ระหว่างที่ชาร์ลีกำลังเข้าเรียนอยู่ในสองวันต่อมา เทย์เลอร์ก็ส่งข้อความหาเธอเทย์เลอร์พิมพ์มาว่า [ยังโกรธเรื่องที่มัดผมอยู่อีกเหรอ? วันก่อนฉันไม่ได้เจอเธอเลย อย่างน้อยเธอก็ได้กินข้าวใช่ไหม?]ชาร์ลี [ฉันจะไม่คุยกับนายจนกว่านายจะคืนจีสตริงให้ฉัน]เทย์เลอร์ [โอเค คืนนี้เรามีแข่งกับทีมไบโอ ดังเกอร์ส เธอควรมาดูนะ พวกเพื่อนฉันถามหาเธอแน่ะ]เทย์เลอร์ [คิดดูสิ เธอควรจะแสดงบทแฟนฉันให้สมบทบาทหน่อยะ เธอยังไม่เคยมาดูฉันซ้อมเลยด้วยซ้ำ]เทย์เลอร์ [ฉันจะคืนจีสตริงให้ ถ้าเธอมาดูแข่ง ตกลงไหม?]ชาร์ลีทำหน้าบึ้งในห้องเรียน เธอบ่นพึมพำขณะพิมพ์ตอบไป “ก็ได้”คืนนั้นชาร์ลีไปถึงสนามช้า เธอเผลอหลับที่คอนโด และเพิ่งตื่นขึ้นมาตอนหกโมงครึ่ง ซึ่งเกมเริ่มไปแล้วตอนหกโมงเย็น!เธอมาทันเห็นเทย์เลอร์ชู้ตสามแต้มพอดีเสียงเฮดังสนั่น โดยเฉพาะฝั่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทุกคนกระโดดดีใจและเริ่มโวยวาย ทำให้ชาร์ลีหาที่นั่งได้ลำบาก สุดท้ายเธอก็หาที่นั่งได้ เธอจึงนั่งลงและรอ เธอไม่รู้เลยว่ามีคนที่เธอคุ้นเคยนั่งอยู่ข้างหลังและกำลังจ
“นี่ ชาร์ลี” เทย์เลอร์เรียก พลางเปิดประตูห้องนอนของชาร์ลีโดยไม่เคาะก่อน“ฉันกำลังอ่านหนังสือ พรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนน” ชาร์ลีพูดโดยไม่มองเขา เธอยังคงนั่งอยู่หน้าโต๊ะอ่านหนังสือของเธอ “ฉันหั่นกระเทียมกับหัวหอมตามที่นายสั่งไว้แล้ว แล้วก็เอาเนื้อบดออกมาละลายเรียบร้อยแล้วด้วย”“ใช่ ฉันเห็นแล้ว หัวหอมกับกระเทียมของเธอ ขนาดไม่เท่ากันเลยสักชิ้น” เทย์เลอร์ตอบนั่นแหละที่ทำให้ชาร์ลีหันมาสนใจได้ เธอหันมาหาเขาแล้วพูดว่า “แล้วมันสำคัญตรงไหน?”“มันสำคัญสิ” เทย์เลอร์ตอบ “อัตราการสุกกับการปล่อยรสชาติจะไม่สม่ำเสมอกันไงล่ะ”“ฉันจะจำไว้แล้วกัน” ชาร์ลียิ้มให้เขาแล้วกลับไปอ่านหนังสือต่อเทย์เลอร์ได้แต่ส่ายหัว เขากำลังจะปิดประตูขณะที่พูดออกมาว่า “เธอลืมที่มัดผมไว้ในห้องน้ำ ฉันขอใช้ได้ไหม?”‘ที่มัดผมเหรอ?’ ชาร์ลีนึกไม่ออกว่าเธอลืมมันไว้ แต่เธอก็ตอบโดยไม่หันไปมองว่า “ได้เลย เอาไปใช้ได้เลย นายจะเอาที่มัดผมก็เอาไปเถอะ”ชั่วโมงครึ่งผ่านไป ชาร์ลีก็ได้กลิ่นซอสสปาเก็ตตี้หอมหวานลอยมา ท้องเธอร้องทันที เธอเดินไปห้องครัวอย่างมีความสุขและอาสาจัดโต๊ะอาหารเพราะชาร์ลีหิวมาก เธอจึงเริ่มกินทันที เธอกินไปครึ่งจานแล้ว
“เพื่อนเหรอ?” ทริสตันพูดทวน“จริง ๆ แล้ว ผมก็แอบหวังว่าคุณจะเดตกับผมนะ นักบำบัดของผมกับผมตั้งเป้าหมายไว้สำหรับปีนี้ แล้วการมีแฟนก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายนั้น”ชาร์ลี “...”“พรวด! ฮ่า ๆ!” เทย์เลอร์หัวเราะลั่น เขาชี้ไปที่ทริสตันแล้วพูดว่า “ไม่ได้หรอก เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นหรอก เธอเป็นแฟนฉัน”ชาร์ลี “???”“อะไรนะ?” ทริสตันตอบสนอง เขาส่ายหัวและหยิบโทรศัพท์กับปากกาสไตลัสออกมา ดูเหมือนจะขีดฆ่าอะไรบางอย่างออกจากบันทึก “น่าเสียดาย คุณอยู่อันดับต้น ๆ ในลิสต์ผมเลยนะ”ชาร์ลี “...”“โอเค มากินข้าวกันก่อน แล้วก็ไม่ต้องรีบเรื่องเดตนักหรอก” เทย์เลอร์พูด “เดี๋ยวฉันจะคุยกับนักบำบัดนายเรื่องเลื่อนเป้าหมายนั้นออกไปก่อน”พวกเขาคุยกันระหว่างทานอาหารเช้า ส่วนใหญ่เทย์เลอร์จะถามน้องชายเกี่ยวกับเรื่องที่บ้าน ชาร์ลีถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้วทริสตันเคยอยู่กับเทย์เลอร์ที่คอนโด แต่หลังจากเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทครั้งล่าสุด พ่อแม่ของพวกเขาก็ตัดสินใจพาทริสตันกลับไปอยู่บ้านพ่อของพวกเขาเป็นคนขับรถพาทริสตันไปมหาวิทยาลัยทุกวันเทย์เลอร์ขับรถพาทริสตันกลับบ้านประมาณสิบโมงเช้า เขากลับมาช่วงเย็น และชาร์ลีก็ได้ม
“อรุณสวัสดิ์ ชาร์ลี!” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูด เขายิ้มกว้างมากขณะจ้องมองชาร์ลีชาร์ลีขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าเธอมองเห็นถูกต้อง เช้าวันอาทิตย์แบบนี้เธอยังง่วงงุนอยู่ แต่กลิ่นของอาหารปลุกให้เธอตื่น“อรุณสวัสดิ์ ชาร์ลี” เทย์เลอร์พูดจากด้านหลังของชายหนุ่ม พร้อมกับวางจานที่เต็มไปด้วยเนื้อลงบนโต๊ะด้วยรอยยิ้ม “นี่คือน้องชายของฉัน ทริสตัน เวสต์”น่าแปลกใจที่ทริสตันคือนักศึกษารุ่นน้องที่ชาร์ลีเคยเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนที่เธอเจอกับเทย์เลอร์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ อีกฝ่ายเหมือนกับเทย์เลอร์ เขามีผมสีบลอนด์ แต่รูปร่างของเขาเล็กกว่าและตัวเตี้ยกว่า แต่ดูต่างจากครั้งก่อนเพราะวันนั้นเขาใส่แว่น“นายคือทริสตันงั้นเหรอ?” ชาร์ลีถามก่อนจะหัวเราะเบา ๆเมื่อทริสตันพยักหน้า ชาร์ลีก็ถามว่า “งั้นที่เทย์เลอร์บอกว่าเราเคยเจอกันมาก่อน เขาหมายถึงตอนเราเจอกันที่คณะวิศวะเมื่อไม่กี่วันก่อนสินะ”“ไม่ใช่ครับ” ทริสตันพูด “ครั้งแรกที่เราเจอกันคือเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นผมยังไม่ได้เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยลักซ์ฟอร์ด แต่ผมมาดูพี่ชายของผมแข่งบาส เป็นเกมรอบชิงระหว่างทีมเดอะวอลสตรีท วอริเออร์สกับอะตอมมิกฮีท”“เราเคยเจอกันเหรอ?” ช