Share

บทที่ 10

Penulis: มู่มู่
เสิ่นหรูโจวเข้าไปในหออวี้เหอ ห่อขนมแป้งกรอบและไก่ย่างดอกกุ้ยอวี่สองส่วน

ทว่าของในมือยังไม่ได้ส่งต่อก็ได้ยินเสียงที่ทั้งคุ้นหูทั้งน่ารำคาญดังขึ้นมา...

“จิ๊จิ๊ บังเอิญจังเลยนะ ท่านกับข้าพบกันทุกที่เลย”

เสิ่นหรูโจวกวาดมองคนที่เดินเข้ามาในปราดเดียว ครั้นเห็นหลิงเฟิงเดินประคองมู่หว่านหรงเข้ามา ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ส่งเสียงจิ๊ด้วยความเดียดฉันท์

“สามารถกระโดดโลดเต้นได้เร็วเช่นนี้ ดูแล้วข้าคงลงมือเบาเกินไป”

สีหน้าของมู่หว่านหรงแข็งค้าง แท้จริงแล้วหัวใจของนางยังคงเจ็บอยู่ เพียงแต่บรรเทาลงบ้างแล้ว

แต่หลิงเฟิงบอกว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวอย่างฉุนเฉียว อีกทั้งยังได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวลอบออกจวน นางจึงยิ่งรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวคงถูกท่านอ๋องตำหนิเป็นแน่ เช่นนั้นถึงได้ออกจวนมาผ่อนคลายอารมณ์!

ก่อนนี้เสิ่นหรูโจวมักจะแอบเศร้าโศกอยู่ตลอดหลังจากถูกท่านอ๋องตำหนิ นางย่อมไม่สามารถพลาดโอกาสได้ทีขี่แพะไล่เช่นนี้ ดังนั้นจึงตามมา

มู่หว่านหรงบิดผ้าเช็ดหน้าด้วยท่าทีอวดดีพลางส่งเสียงหัวเราะ ท่าทางแสนเย่อหยิ่ง

“เสิ่นหรูโจว เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หรือท่านยังจะกล้าเอาเข็มมาแทงข้าอีก เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่ท่านอ๋องสั่งสอนท่านยังไม่เพียงพอ”

หลิงเฟิงเองก็มองเสิ่นหรูโจวอย่างโอหัง

เสิ่นหรูโจวเหลือบมองสองนายบ่าวแล้วเผยรอยยิ้มจาง ๆ “บ่าวอาศัยบารมีของผู้เป็นนายกดขี่ผู้อื่นช่างอวดดีอะไรเช่นนี้ หากทำให้ข้าไม่พอใจ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนำเข็มแทงเลย แม้แต่นำไม้มาทุบตีก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน”

“ท่าน!” ทันใดนั้นมู่หว่านหรงโกรธขึ้นมา นางเองก็ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าท่านอ๋องสั่งสอนเสิ่นหรูโจวไปแล้ว นางยังจะกล้าบังอาจขนาดนี้!

ชั่วครู่กลับไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับนางดี!

หลิงเฟิงก็ตกอยู่ในอาการงงงันเช่นกัน เหตุใดนี่ถึงแตกต่างจากที่คิดไว้

ในเวลานี้เถ้าแก่ถือของเข้ามา กล่าวกับเสิ่นหรูโจว: “คุณหนู ห่อเรียบร้อยแล้ว! รวมเป็นเงินยี่สิบอีแปะ”

“ได้” เสิ่นหรูโจวเตรียมจะจ่ายเงินและออกไป แต่ทันใดนั้นมู่หว่านหรงก็ก้าวขึ้นไปสองก้าว คว้าไก่ย่างและขนมแป้งกรอบที่ห่ออย่างดีในมือของเถ้าแก่ไป!

“นางไม่มีเงิน! พวกท่านระวังถูกหลอก!”

หลิงเฟิงเห็นสถานการณ์ก็เข้าสมทบทันที

“ใช่แล้ว! ตอนที่นางแต่งเข้า แม้แต่สินเดิมก็ไม่มีด้วยซ้ำ! ครอบครัวสามียิ่งไม่ได้ให้เงินนางเป็นสินสอดเลยสักอีแปะ นางจะมีเงินมาซื้อของในสถานที่เช่นหออวี้เหอได้อย่างไร! ข้าเห็นว่านางเพียงสั่งอาหารและจงใจไม่จ่ายเงิน! เถ้าแก่ ท่านอย่าหลงกลนางเชียว!”

ครั้นเถ้าแก่ได้ยินก็เห็นว่ามู่หว่านหรงสวมชุดผ้าไหมปักราคาแพงทั้งตัว ปิ่นปักผมบนศีรษะก็แลดูมีราคามาก ทั้งยังมีสาวใช้ด้วย ต้องเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยเป็นแน่

กลับกัน แม้เสิ่นหรูโจวจะรูปโฉมงดงามมาก ทว่าแต่งตัวธรรมดา หรือจะไม่จ่ายเงินจริง ๆ!

มีคนกำลังทานอาหารอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้จึงผสมโรงพลอยขบขันเรื่องของเสิ่นหรูโจวทันที

“ดูงดงามอยู่นะ คาดไม่ถึงเลยว่าจะจับเสือมือเปล่า!”

“ใช่ ถ้าไม่มีเงินจริง ๆ หน้าตาเช่นนี้ หากเดินเล่นรอบหอนางโลม มีหลายคนเชียวที่จะใช้เงินก้อนโตไปกับนาง แล้วยังจะกินอาหารไม่จ่ายเงินได้ที่ใดกัน!"

ทันใดนั้นมู่หว่านหรงก็ถือดีอีกครั้ง มองเสิ่นหรูโจวอย่างค่อนขอด

นางไม่ได้โป้ปด เมื่อเสิ่นหรูโจวแต่งเข้าจวนท่านอ๋อง นางไม่ได้นำสินเดิมมาเลยแม้สักนิด ท่านอ๋องเองก็ไม่ได้ให้ นางมิอาจจะนำเงินออกมามากเพียงนี้เช่นกัน!

แม้แต่เถ้าแก่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “คุณหนู...”

ก่อนที่จะพูดจบ มีเสียง “ปัง” ดังขึ้นกะทันหัน เงินก้อนใหญ่หนึ่งก้อนถูกเสิ่นหรูโจวตบลงบนโต๊ะ

“แค่นี้พอหรือไม่”

นางเจรจาการค้ากับเถ้าแก่ขายยา กระนั้นนางได้รับเงินมัดจำครึ่งหนึ่งมาก่อน บัดนี้เงินนี้ทั้งหมดยังร้อนอยู่เลย

เถ้าแก่รับเงินทันทีพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า: “พอ ๆๆๆ !”

จากนั้นเขาก็คว้าห่อบรรจุของจากมือของมู่หว่านหรงกลับคืนมา “จริง ๆ เลย ทำให้การค้าของข้าล่าช้า!”

ผู้คนที่เฝ้าดูเรื่องสนุกก็ตกใจเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าเสิ่นหรูโจวซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบง่ายจะสามารถควักเงินออกมาได้มากมายเช่นนี้ ทันใดนั้นก็มองมู่หว่านหรงด้วยแววเหยียดหยาม
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status