แชร์

บทที่ 12

ผู้เขียน: มู่มู่
เสิ่นหรูโจวไม่เอาชีวิต แต่นางเอา!

มู่หว่านหรงเรียกเถ้าแก่ร้านอีกครั้ง “ท่านยังไม่รีบห้ามนางอีก ถ้าคนคนนี้ถูกนางรักษาจนตายขึ้นมา ร้านของท่านยังเปิดได้อีกหรือไม่!”

เถ้าแก่ร้านฟังแล้ววิ่งไปหยิบไม้ปัดฝุ่นด้านข้างและขับไล่เสิ่นหรูโจวออกไปทันที

“เจ้าไม่รู้วิชาแพทย์แล้วจะหาเรื่องอีกทำไม หากเกิดคนตายขึ้นมา นายท่านขุนนางจะปรับเงินข้านะ!”

เสิ่นหรูโจวไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเถ้าแก่ร้าน: “หากท่านยังห้ามข้าอีก ถึงจะมีคนตายเกิดขึ้นจริง ๆ!”

เพิ่งพูดเสร็จ คนหนุ่มตรงพื้นกระตุกรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ลมหายใจก็ถี่ขึ้นกว่าเดิมราวกับจะหยุดหายใจวินาทีถัดไปทันที!

เสิ่นหรูโจวไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับคนเหล่านี้อีก เข็มหลายด้ามถูกหยิบออกจากชุดแดงสดของนางและอยู่บนนิ้วที่สวยงามของนาง

“หลีกไปให้หมด ข้ารู้วิชาแพทย์ หากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ข้าจะรับผิดชอบเอง!”

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยน เมื่อเห็นนางเผยความสามารถของตนเองและถูกนางบังคับจนถอยออกไปหนึ่งก้าว

เสิ่นหรูโจววิ่งเข้าไปทันที สีหน้าของคนหนุ่มเริ่มกลายเป็นสีม่วง เขามีเหงื่อออกทั่วร่างกายและหายใจเสียงหวีดไม่ขาดสาย

ไม่ได้การล่ะ คนหนุ่มใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!

นางคุกเข่าลงทันทีและฝังเข็มสองเข็มที่แขนกับศีรษะของเขา นางใช้แขนเสื้อที่มีขนาดกว้างเป็นตัวบัง จากนั้นหยิบยาเม็ดที่สอดคล้องกับอาการจากกลางอากาศและป้อนให้คนหนุ่มกิน

“เสิ่นหรูโจว!” มู่หว่านหรงเห็นคนหนุ่มถูกเสิ่นหรูโจวทำร้ายเช่นนี้ นางตกใจจนตัวสั่น

“เจ้า เจ้าทำเกินไปแล้ว เจ้าไม่มีความรู้วิชาแพทย์ด้วยซ้ำ แต่กล้าฝังเข็มให้เขาได้อย่างไร! แล้วยังเอายาให้เขากินอีก นี่เจ้ากำลังทำร้ายคนและทำร้ายท่านอ๋องอยู่นะ!”

เถ้าแก่ร้านหน้าดำคล้ำเครียดยิ่งกว่า หากเกิดเหตุคนตายขึ้นมาจริง ๆ เขาเองก็เอาตัวไม่รอด

เขาจึงโยนความผิดทุกอย่างให้กับเสิ่นหรูโจวทันที

“ทุกคนเห็นกับตาแล้วนะ ข้าเข้าขัดขวางแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ดึงดันจะทำร้ายคนในร้านของข้า ทุกคนเป็นพยานให้กับข้าด้วยว่าข้าและร้านของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย!”

ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์เสิ่นหรูโจวเสียงดัง แต่ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปขัดขวาง

ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มสวมชุดดำแนบกายเดินเข้ามาพร้อมกับมือถือไก่ย่างบรรจุหีบห่อไว้อย่างดี

ชายหนุ่มมองเข้ามาก็พบคนหนุ่มที่นอนราบกับพื้นแล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาเดินผ่านฝูงชนด้วยความรีบร้อนพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงร้อนใจ “นายน้อย! นายน้อยเป็นอะไร!”

มู่หว่านหรงมองเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ก็เดาออกทันทีว่าเขาคงเป็นองครักษ์ข้างกายของท่านอุปราช นางกลัวจะเกิดเรื่องกับตนจึงรีบชี้ไปยังเสิ่นหรูโจวและกล่าว

“นางเป็นคนทำ เป็นความผิดของนางทั้งหมด นางฝังเข็มและเอายาให้นายของเจ้ากิน ทีแรกไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้กลับถูกนางทำร้ายจนใกล้ตายแล้ว! พวกเราห้ามเท่าไหร่นางก็ไม่ฟัง แต่นางพูดแล้วว่า หากเกิดสิ่งใดขึ้นนางจะรับผิดชอบเอง!”

หากนายน้อยเกิดเรื่อง ใครจะรับผิดชอบไหว!

องครักษ์ชุดดำตะลึงตกใจมาก เพียงครู่เดียวก็มีแรงอาฆาตผุดขึ้นโดยรอบ เขาหันกลับไปจ้องเขม่นเสิ่นหรูโจว จากนั้นดาบยาวก็จี้ที่คอของนางในวินาทีถัดมาทันที

“เจ้ากล้ามากที่ทำกับนายน้อยของข้าเช่นนี้ ข้าจะฆ่าเจ้า!”

“ช้าก่อน!” เสิ่นหรูโจวแสดงสีหน้านิ่งเฉย แววตาสุกใสมองเขาอย่างมีสติ “ท่านจงดูก่อน”

ชายหนุ่มชะงัก เมื่อหันกลับไปก็พบว่าคนหนุ่มที่ใกล้หมดสติเมื่อครู่นี้ลืมตามองหน้าเขาพร้อมกล่าวตำหนิ “หยุดนะ ฉินอวี่”

ฉินอวี่ดีใจขึ้นมาทันที “นายน้อย!”

เขาดึงดาบกลับมาทันทีทันใด จากนั้นเริ่มตรวจดูอาการของนายน้อยอย่างรีบร้อนจนเกือบร้องไห้ออกมา “นายน้อย ท่านยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”

โชคดีที่นายน้อยไม่เป็นอะไร ไม่เช่นนั้นนายท่านคงโมโหเป็นแน่!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status