Share

บทที่ 13

ถึงตอนนั้น ทั้งเมืองหลวงยังต้องหวั่นกลัว

“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” คนหนุ่มส่ายหัวและไม่มีการหายใจถี่กับกระตุกอีก ลมหายใจกลับคืนปกติช้า ๆ จากนั้นมองหน้าเสิ่นหรูโจว “โชคดีที่พี่สาวท่านนี้ช่วยข้าไว้ทัน”

ทุกคนรอบตัวไม่มีใครเชื่อ แม้แต่มู่หว่านหรงก็ยังตะลึงตาค้าง

อย่าบอกนะว่า เสิ่นหรูโจวรู้วิชาแพทย์จริง ๆ ! ที่นางทำลงไปเมื่อครู่นี้ นางกำลังช่วยคนจริง ๆ!

ฉินอวี่มองเสิ่นหรูโจด้วยความรู้สึกผิดและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจ เขายกมือขึ้นประสานและกล่าวอย่างเคารพ: “ข้าขอขอบใจแม่นางมากที่ช่วยนายน้อยของข้า เมื่อครู่นี้ข้าเสียมารยาทกับท่าน ได้โปรดแม่หญิงให้อภัยข้าด้วย”

เสิ่นหรูโจวไม่โกรธเขา ญาติของผู้ป่วยเกิดอาการใจร้อน กังวลใจย่อมเป็นเรื่องสมเหตุผล เมื่อนึกย้อนไปชาติที่แล้วที่นางอดทนอดกลั้นนานนับหลายปี ทุกครั้งที่อาการของนางกำเริบ เมี่ยวตงก็ใจร้อนจนสามารถดึงหนวดหมอหลวงได้จนเกลี้ยง

นางกำลังจะตอบกลับ แต่มู่หว่านหรงกลับพูดแทรกขึ้นมา

“นางเพียงโชคดีก็เท่านั้นที่ช่วยนายน้อยของท่านไว้ได้โดยบังเอิญ ท่านไม่ต้องเก็บใส่ใจ”

มู่หว่านหรงไม่ชอบท่าของคนอื่นที่แสดงความนอบน้อมต่อเสิ่นหรูโจว ที่สำคัญ นางจะไม่ยอมให้เสิ่นหรูโจวได้สร้างสัมพันธ์กับลูกศิษย์ของท่านอุปราชเป็นแน่!

ถึงแม้เสิ่นหรูโจวรู้วิชาการแพทย์ นางก็จะพูดว่านางไม่รู้วิชา

เสิ่นหรูโจวเหลือบมองนางหนึ่งที “ข้าช่วยชีวิตคนไว้ได้ แต่เจ้ายังจะปลุกปั่นอีก เจ้าตาบอดหรือโง่กันแน่ กล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่น! โง่แล้วยังคิดว่าตนฉลาดอีก!”

“เจ้า!” มู่หว่านหรงถูกด่าทอจนโมโห แต่นางไม่อยากสูญเสียภาพพจน์ต่อหน้าคนสำคัญจึงทำได้เพียงเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ “ท่านพี่ ข้ารู้ดีว่าท่านมีความสามารถอะไร ท่านควรสุขุมหนักแน่น ไม่ควรพูดยอตนเอง หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบหรือเจ้าคะ!”

เวลานี้ศิษย์รักของท่านอุปราชอยู่ที่นี่ นางควรทำให้เขาพึงพอใจก่อน เช่นนั้นแล้วท่านอ๋องถึงจะมองนางในมุมที่ต่างออกไปและจะชอบนางมากกว่าเดิม

บัญชีของเสิ่นหรูโจว ไว้กลับมาคิดใหม่

พูดจบ นางจึงหันไปทางคนหนุ่ม เขาเป็นหนุ่มรูปงาม มีบุคลิกโดดเด่น ต่อให้อาการป่วยกำเริบเมื่อครู่นี้ก็ยังมิอาจปกปิดสง่าราศีของเขาได้เลย ช่างสมกับเป็นศิษย์รักที่ได้รับการบ่มเพาะจากท่านอุปราชจริง ๆ

“คุณชายน้อย ข้าเป็นพระชายารองของอ๋องอู่เฉิง แม้ว่าอาการป่วยของท่านจะดีขึ้นแล้ว แต่สีหน้ายังคงซีดเผือด ควรพักผ่อนให้มาก ๆ นะเจ้าคะ”

“จวนอ๋องอู่เฉิงห่างจากตรงนี้ไม่ไกลนัก ใกล้กว่าจวนอุปราชมากพอสมควร คุณชายน้อยไปพักผ่อนที่จวนก่อนดีหรือไม่”

คนหนุ่มยืนขึ้นจากการช่วยพยุงของฉินอวี่ ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นท่าทีประจบสอพลอบนหน้ามู่หว่านหรง

อาจารย์เคยสอนว่าคนที่ยิ้มซ่อนเงื่อนเช่นนี้ ล้วนแต่มีจุดประสงค์อื่น

“พูดจบหรือยัง!”

มู่หว่านหรงชะงัก คนหนุ่มกำลังมองหน้านางด้วยแววตาเย็นชา: “ท่านคือพระชายารองของอ๋องอู่เฉิงใช่หรือไม่ เมื่อครู่นี้ท่านกล่าวหาผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของข้า ท่านควรกล่าวขอโทษนางซะ!”

มู่หว่านหรงสะดุ้งอย่างแรงและตาค้างทันที

เขาสั่งให้นางขอโทษเสิ่นหรูโจว! ไอ้คนหนุ่มนี่บ้าไปแล้วกระมัง ท่านอ๋องยังไม่เคยสั่งให้นางทำเช่นนี้มาก่อนเลย!

เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง นางไม่ได้แปลกใจในคำพูดของคนหนุ่ม แต่แปลกใจกับท่าทีที่มู่หว่านหรงปฏิบัติต่อคนหนุ่มและจวนอุปราชที่มู่หว่านหรงเอ่ยถึง จากนั้นก็เป็นองครักษ์ชุดดำที่ปกป้องเจ้านายถึงเพียงนั้น

หรือว่า คนหนุ่มนี่ก็คือศิษย์ของท่านอุปราชผู้เลื่องชื่อ…ลู่หวายหนิง!

ชาติที่แล้วนางรู้จักชื่อนี้แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน วันนี้ได้พบหน้าแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนหนุ่มรูปร่างผอมบางเช่นนี้

มู่หว่านหรงกัดริมฝีปาก ใบหน้าเผยไว้ด้วยรอยยิ้มที่เอาอกเอาใจ

“คุณชายน้อย ท่านฟังข้าก่อน นาง…”

“นายน้อยพูดว่า” ฉินอวี่ขยับดาบในมือ “ให้ท่านกล่าวขอโทษแม่หญิงท่านนั้น…”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status