Share

บทที่ 6

Penulis: มู่มู่
หลิงเฟิงที่อยู่ด้านหลังคว้าตัวกอดนางอย่างชำนาญ จ้องเสิ่นหรูโจวเขม็งด้วยความขุ่นเคือง: “พระชายา! แม้สถานะของพระชายารองจะไม่ดีเท่าท่าน แต่นางก็หาใช่คนที่ท่านจะรังแกได้ไม่! ข้าจะไปเชิญท่านอ๋องมาเดี๋ยวนี้ ให้ท่านอ๋องลงความเห็นเสียหน่อย!”

ตบหน้ากลับเจ็บไปถึงหัวใจ ช่างเป็นเรื่องประหลาดในใต้หล้าเสียจริง!

เสิ่นหรูโจวส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน เร่งนำเข็มเงินสองเข็มในช่องสุญญากาศออกมาอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้สังเกตว่านางเคลื่อนไหวเช่นไรก็เข้าใกล้มู่หว่านหรงเสียแล้ว เพียงออกแรงหนักสองครั้งจึงได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมบาดหู…

“กรี๊ด!”

ใบหน้าของมู่หว่านหรงซีดเผือดกะทันหัน หัวใจเจ็บแปลบ เจ็บปวดจนเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผาก นางมองเสิ่นหรูโจวอย่างเหลือเชื่อ “ท่าน ท่านทำอะไรข้า!”

หลิงเฟิงคิดว่านางกำลังแสดงละครอีกรอบ ครั้นพบว่านางตัวสั่นเทาจากเจ็บปวดจึงมองเสิ่นหรูโจวด้วยความหวาดกลัวจนหน้าถอดสี

“พระชายา ท่านทำอะไรกับพระชายารอง!”

เสิ่นหรูโจวยังคงยิ้มเล็กน้อย หยิบเข็มเงินกลับมาโดยไม่หลบซ่อน

“เจ้าไม่ได้มองหาเซียวเฉินเหยี่ยนเพราะเจ็บหัวใจหรอกหรือ หากหัวใจของเจ้าไม่ได้เจ็บแล้วจะตามหาเขาได้อย่างไร”

นางอยากแสดงละคร นางไม่ได้อยากเจ็บจริง!

ใบหน้าของมู่หว่านหรงบิดเบี้ยวไปตามความเจ็บปวด ดวงตาเปี่ยมโทสะขณะที่ขึงตาใส่เสิ่นหรูโจว

“ท่านรู้จักวิธีรักษาหรือไร เมื่อใดกันที่ท่านมีความสามารถทางการแพทย์!”

ที่เสิ่นหรูโจวลงมือไปถึงสองครั้งเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทำส่งเดช! เข้าใจทักษะแพทย์เป็นแน่แท้!

เมี่ยวตงเองก็อยากถามเรื่องนี้เช่นกัน เพียงแต่รู้ว่านี่มิใช่เวลาที่เหมาะที่ควร เช่นนั้นจึงทำเพียงหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นหรูโจวอย่างระมัดระวังเท่านั้น

มากกว่าความแปลกใจ นางกลับยิ่งรู้สึกโล่งใจ!

ยามก่อนคุณหนูยอมทุกอย่างมาเสมอจึงถูกคนกลุ่มนี้ข่มเหง ยามนี้คุณหนูไม่เสียประโยชน์ นางเห็นแล้วก็โล่งใจ!

“ท่านถือสิทธิ์อะไรมาไถ่ถามเรื่องของพระชายา อีกอย่างท่านควรเรียกคุณหนูของข้าว่า 'พระชายา' ด้วยความเคารพ! พระชายารองเป็นเพียงอนุ ไม่มีสิทธิ์สร้างปัญหาให้ผู้เป็นนายหญิง!”

“นางสาวใช้ กล้าดีเช่นไรมาพูดแบบนี้กับข้า!”

หัวใจของมู่หว่านหรงเจ็บยิ่งกว่าเมื่อถูกด่าทอ เหงื่อเย็นก่อตัวบนหน้าผาก ทว่าขยับตัวก็ขยับไม่ได้ นางจ้องเขม็งสองนายบ่าว

“เสิ่นหรูโจว ท่านเชื่อหรือไม่ หากข้าบอกว่าท่านข่มเหงข้า ท่านพี่เฉินเหยี่ยนจะลงโทษท่านเป็นแน่!”

“ข้าเชื่อ” เสิ่นหรูโจวยิ้มเหน็บแนม “แต่แล้วอย่างไรเล่า แม้เขาจะปกป้องเจ้า คนที่เขารักมากที่สุดก็หาใช่เจ้าอยู่ดี”

“ท่าน!” มู่หว่านหรงมองเสิ่นหรูโจวอย่างยากจะเชื่อ ใบหน้าซีดขาวลงฉับพลัน

นางรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เซียวเฉินเหยี่ยนรักมากที่สุดมิใช่นาง!

ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้ยกเว้นท่านพี่เฉินเหยี่ยนและมู่หว่านชิงพี่สาวของนาง!

เสิ่นหรูโจวยกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา

“มู่หว่านหรง ท้ายที่สุดแล้วพวกเราทุกคนต่างเป็นผู้แพ้ มิว่าใครจะมีคุณธรรมสูงส่งมากกว่าใคร แต่อย่างน้อยข้าก็เป็นพระชายา เจ้าเล่า ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น”

มู่หว่านหรงโกรธมากจนหัวใจเจ็บราวถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ในฉับพลัน ดวงตาของนางเบิกกว้าง จากนั้นก็หมดสติเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส

ก่อนจะหมดสติ นางได้ยินเพียงน้ำเสียงเย็นชาของเสิ่นหรูโจว “มู่หว่านหรง ถ้าเจ้ามาวุ่นวายกับข้าอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”

“พระชายารองเจ้าคะ พระชายารอง!” หลิงเฟิงทำอะไรไม่ถูกขณะที่กอดมู่หว่านหรงซึ่งหมดสติไว้

ก่อนหน้านี้เป็นการเสแสร้งแกล้งทำทั้งสิ้น ไยครั้งนี้ถึงได้เป็นลมไปจริง ๆ เล่า

นางหวาดกลัวขึ้นมาทันทีอีกทั้งไม่กล้ารับความผิด รีบแบกมู่หว่านหรงวิ่งไปราวกับกำลังหนีบางอย่าง

เสิ่นหรูโจวไม่ได้ขัดขวางเพียงมองเย็นชา กระทั่งเมี่ยวตงเอ่ยขึ้นอย่างกังวล: “คุณหนู ท่านทำเช่นนี้ หากท่านอ๋องลงโทษท่านจะทำเช่นไรเจ้าคะ ท่านเพิ่งสมรสกัน หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป...”

“ความเห็นของคนอื่นไม่สำคัญ” เสิ่นหรูโจวขัดคำพูดนาง นางอดทนกับทุกสิ่งในชาติที่แล้ว แสร้งทำเป็นว่าประพฤติดีมีศีลธรรม แล้วเป็นเช่นไรต่อ

ยามตาย แม้แต่ร่างกายก็ไม่เหลือ!

ส่วนเซียวเฉินเหยี่ยน...

เสิ่นหรูโจวยิ้มหยัน: “ถ้าเขากล้ามาเอาคืนแทนมู่หว่านหรง ข้าก็จะตอบโต้เขาเช่นเดิม!”

เมี่ยวตงมองเสิ่นหรูโจวด้วยความประหลาดใจ “คุณหนู เหตุใดท่านถึงเปลี่ยนไปจากเดิมเล่าเจ้าคะ”

ก่อนนี้คุณหนูแทบจะโยนตัวเองใส่ท่านอ๋อง ทว่าตอนนี้นางพูดคำจำพวกนี้ออกมา ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้มากในชั่วข้ามคืน

เมี่ยวตงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นทาบทับหน้าผากของเสิ่นหรูโจว ก็ไม่มีไข้นี่...

“ข้าสบายดี” เสิ่นหรูโจวยกมือนางออกอย่างขบขันพลางเอ่ยด้วยสายตาสงบ “ก่อนนี้ล้วนเป็นคุณหนูของเจ้าที่เลอะเลือน นับจากวันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป พวกเราต้องตั้งใจใช้ชีวิตอย่างจริงจังและใช้ชีวิตให้ดี!”

“ท่านอ๋อง ข้ามาช้าแล้ว!”

จวินอู่ยิ้มยิงฟัน เดินกะโผลกกะเผลกจนมาถึงที่ ก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเซียวเฉินเหยี่ยน ยื่นหนังสือสัญญาด้วยสองมือ

เซียวเฉินเหยี่ยนเพิ่งอาบน้ำเสร็จและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากถูกพิษยาทรมาน เขานั่งหลับตาอยู่ที่โต๊ะ ผมยาวยังไม่แห้ง เศษถ้วยกระเบื้องแตกกองอยู่แทบเท้าดูซึ่งเหมือนเขาขยี้มันด้วยมือเปล่า

เขารับหนังสือสัญญามาแล้วเหลือบมองแวบหนึ่ง: “ขาของเจ้าเป็นอะไรไป”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จวินอู่อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ต้องนอนตัวตรงบนพื้นหินแข็งทื่อเย็นเยียบนั้นเป็นเวลานานต่างก็ต้องรู้สึกเช่นนี้!

“เป็นพระชายาที่ฝังเข็มข้าน้อย ด้วยเหตุนี้ข้าน้อยจึงเพิ่งมาพบท่านในเวลานี้ ขาก็เป็นเช่นนี้เพราะสาเหตุเดียวกัน”

คิ้วคมของเซียวเฉินเหยี่ยนมุ่นเล็กน้อย: “นางรู้วิธีฝังเข็มหรือ”

“ขอรับ และข้าน้อยเชื่อว่าพระชายาไม่น่าจะรู้ศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นที่นางน่าจะรู้คือทักษะแพทย์!”

“รู้ทักษะแพทย์เช่นนั้นหรือ” เซียวเฉินเหยี่ยนรู้สึกประหลาดใจในทันใด แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยได้ยินว่าเสิ่นหรูโจวเป็นทักษะทางการแพทย์เลย

เขาคิดเสมอว่าเสิ่นหรูโจวเป็นหญิงโง่เขลาไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไร้ทักษะอื่นใด

กลิ่นธูปหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องลอยเข้าปลายจมูกเซียวเฉินเหยี่ยน หยาดน้ำกลิ้งลงบนหน้าผากเนียน มันเตือนเขาว่าสรรพคุณทางยาที่ถูกระงับไว้เพียงชั่วครู่นั้นก็มาจากน้ำมือของตัวเสิ่นหรูโจวเอง

เขามองหนังสือสัญญาที่จวินอู่มอบให้ มีคำสามคำว่า ‘เสิ่นหรูโจว’ เขียนไว้อย่างหนักแน่น ไม่ได้อ่อนช้อยเฉกเช่นหญิงสาวทั่วไป มีความงามในแบบที่เย่อหยิ่งและใจกว้าง

ลายมือเช่นนี้เสิ่นหรูโจวสามารถเขียนออกมาได้ในอายุยังน้อยหรือ

ยิ่งกว่านั้น แต่ก่อนนางเคยเคารพเชื่อฟังเขา ทั้งยังสุภาพต่อจวินอู่ด้วยซ้ำ เหตุใดตอนนี้ถึงลงโทษจวินอู่โดยไม่พูดอะไรสักคำ

สิ่งสำคัญที่สุดคือยามก่อนเสิ่นหรูโจวเอาแต่เคล้าคลอเขาไม่ห่าง หมกมุ่นอยู่แต่กับเขา ไม่เคยต่อต้านอย่างดุดันเช่นเมื่อคืน นับประสาอะไรกับคำที่พูดออกมาเช่นการหย่าร้าง

ตอนนั้นเขาคิดว่านางใช้แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับ แต่หนังสือสัญญาที่ลงนามแล้วในมือทำให้เขาสับสนอีกครั้ง

คนคนหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงในชั่วข้ามคืนได้อย่างไร

เซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วคม ด้วยการออกแรงนิ้วเล็กน้อยเลยทำให้กระดาษบางเสียรูปไปบ้าง

ในเวลานี้จู่ ๆ ก็มีคนด้านนอกเข้ามารายงานอย่างรีบร้อน “ท่านอ๋อง! แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ พระชายาทุบตีพระชายารองจนโรคหัวใจกำเริบ หมดสติไปแล้ว——”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status