Share

บทที่ 5

Author: มู่มู่
ทันทีที่เสิ่นหรูโจวปิดกล่องยาบนโต๊ะเครื่องแป้ง มันก็หายไปเอง แต่มันติดอยู่ในสมองของนางอย่างน่าอัศจรรย์

นางมองมู่หว่านหรงพาสาวใช้คนสนิทหลิงเฟิงก้าวผ่านคานประตูเข้ามาด้วยสายตาเย็นชา

วันนี้มู่หว่านหรงสวมกระโปรงยาวสีเขียวชอุ่มเรียบ ๆ ศีรษะปักด้วยปิ่นมุกดอกยี่หุบ แม้แต่น้ำมันหอมที่ใช้ก็ยังเป็นกลิ่นหอมพรรณพืชจาง ๆ ที่มู่หว่านชิงใช้เป็นประจำ

นางเป็นแบบจำลองของมู่หว่านชิงในทุก ๆ ด้าน แต่นางรูปงามน้อยกว่ามู่หว่านชิงเล็กน้อย หน้าตาไม่มีความละมุนละไมเช่นนาง

มู่หว่านหรงเหมือนได้กลิ่นฉุนของยาสมุนไพรภายในห้อง จึงขมวดคิ้วมุ่นอย่างรังเกียจพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นปิดจมูกกับปาก

“พระชายา รบกวนกลางดึก ท่านคงไม่รังเกียจหว่านหรงใช่หรือไม่เจ้าคะ”

มู่หว่านหรงเพิ่งเข้ามาใกล้ สายตาของนางก็จับจ้องไปที่คอของเสิ่นหรูโจว จากนั้นก็ส่งเสียงดังขึ้นด้วยความไม่เชื่อทันที “ท่านกับพี่เฉินเหยี่ยนร่วมหอกันแล้วหรือเจ้าคะ!!”

เสิ่นหรูโจวกวาดสายตามองนางด้วยความเย็นชา “ถ้าใช่แล้วจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่แล้วจะเป็นอย่างไร!”

ชาติที่แล้ว นางได้ร่วมหอกับเซียวเฉินเหยี่ยนจนสำเร็จและมู่หว่านหรงก็มาหาเรื่องเหมือนกัน ตอนนั้นนางรู้สึกไม่สบายทั้งตัวแต่ไม่กล้าล่วงเกินมู่หว่านหรง เพราะนางเป็นผู้มีพระคุณของเซียวเฉินเหยี่ยน ที่สำคัญยังเป็นคนที่แต่งเข้ามาเหมือนกับนางด้วย นางจึงได้แต่ปล่อยให้นางรังแกและทนทุกข์ทรมานอยู่ไม่น้อย

“ท่าน…” เมื่อเห็นนางพูดอย่างมั่นใจ มู่หว่านหรงก็มั่นใจความคิดของตนเองทันที ในแววตานางเต็มไปด้วยไฟแห่งความอิจฉาริษยา “ท่านไร้ยางอายสิ้นดี! กล้าดีอย่างไรปีนขึ้นเตียงของพี่เฉินเหยี่ยน!”

“ข้าไร้ยางอาย!” เสิ่นหรูโจวลุกขึ้นและเดินเข้าไปหามู่หว่านหรงทันที “ก่อนที่เจ้าจะออกเรือน เจ้าก็แบกหน้าที่ไร้ยางอายเข้ามาอยู่ในจวนของสามีของคนอื่น นั่นต่างหากคือไร้ยางอาย คุณธรรมส่วนตัวเสื่อมเสีย คนชั้นต่ำ!”

“ต่อให้วันนี้ขึ้นเป็นพระชายารองแล้ว แต่สันดานก็ไม่เคยเปลี่ยน”

เมี่ยวตงชะงักอึ้ง เมื่อก่อนคุณหนูมีแต่จะหลีกทางให้มู่หว่านหรง เหตุใดวันนี้ถึงด่านางก่อน!!

แถมยังด่าได้รุนแรงขนาดนี้อีก!

มู่หว่านหรงอึ้งตะลึงไม่ต่าง วันนี้เสิ่นหรูโจวเป็นอะไรไป เมื่อก่อนนางไม่มีวันแย้งกลับนางอย่างแน่นอน!

ใบหน้าของนางแดงก่ำ นางทั้งโกรธทั้งอิจฉา “ท่านเป็นถึงพระชายา แต่กลับพูดจาหยาบคายเหลือทนเช่นนี้ ไม่คู่ควรกับพี่เฉินเหยี่ยนเลยสักนิด! จริงสิ หากไม่ใช่เพราะท่านทูลขอพระราชทานงานแต่งกับไท่ซั่งหวง พี่เฉินเหยี่ยนก็คงไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”

เสิ่นหรูโจวหัวเราะเย็นชา “แล้วเจ้าคู่ควรรึ! จริงสิ เซียวเฉินเหยี่ยนอนุญาตให้เจ้าเข้ามาพักในจวนอย่างไม่รู้สึกอับอาย ส่วนเจ้าไม่สนใจเสียงพูดนินทาใด ๆ ดึงดันจะเข้ามาอยู่ให้ได้ เดินเข้าออกจวนพร้อมกับเซียวเฉินเหยี่ยน ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสูญเสียความบริสุทธิ์และตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน”

“ตอนนี้เซียวเฉินเหยี่ยนให้หนังสือเทียบหมั้นกับเจ้าแล้ว และยังยกเกี้ยวไปรับเจ้าแต่งเข้ามาก็นับว่าเป็นการยินยอมพร้อมใจโดยทั้งสองฝ่ายจนสมดั่งปรารถนาหญิงโฉดชายชั่วอย่างพวกเจ้า สมกับเป็นคู่ที่ฟ้าประทานจริง ๆ!”

เมี่ยวตงกับหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างแสดงสีหน้าตะลึงทั้งคู่!

คนหนึ่งไม่เคยเห็นคุณหนูของตนเองวาจาคมคายเช่นนี้มาก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งไม่เคยเห็นคุณหนูของตนเองถูกเหยียดย่ำเช่นนี้มาก่อน ทั้งคู่มองตาค้างและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

“ท่าน!” มู่หว่านหรงงงเป็นไก่ตาแตกยิ่งกว่า นางถูกเสิ่นหรูโจวด่าจนพูดไม่ออก เพราะว่าสิ่งที่เสิ่นหรูโจวพูดออกมาเป็นสิ่งที่นางคิดทุกอย่าง

นางมีฐานะต่ำต้อย อาศัยอยู่ในจวนด้วยสถานะผู้มีพระคุณช่วยชีวิตมานานหลายปี นางต้องการใช้โอกาสนี้เข้าใกล้เซียวเฉินเหยี่ยน หวังไว้ว่าจะได้ร่วมชมฤดูใบไม้ผลิบานและตั้งครรภ์กับเขา จนกลายเป็นพระชายาของเขาจากการมีลูก

แต่น่าเสียดายที่เซียวเฉินเหยี่ยนเป็นสุภาพบุรุษ ปฏิบัติตามกฎระเบียบธรรมเนียม เขาจะแตะต้องนางก็ต่อเมื่อแต่งเข้ามาแล้วเท่านั้น ปรากฏว่าถูกเสิ่นหรูโจวชิงย่างเท้าเข้ามาก่อน นางถึงได้เป็นเพียงพระชายารอง

แต่ความคิดไร้ยางอายเช่นนี้ จะถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคนได้อย่างไร!

นางอับอายขายหน้าและโมโหในทันใดพลางยกแขนขึ้นเตรียมตบหน้าเสิ่นหรูโจว “เสิ่นหรูโจว เจ้าใส่ร้ายข้า ใส่ร้ายท่านอ๋อง เจ้าทำเกินไปแล้ว!”

ฝ่ามือที่ง้างขึ้นยังไม่ทันฟาดลงที่หน้าเสิ่นหรูโจว นางก็ถูกเสิ่นหรูโจวคว้าเอาไว้และยกมือขึ้นตบซ้ายและขวาอย่างรุนแรงทันที นางตบอยู่หลายทีกว่าจะหยุดมือ!

“โอ้ยยย!” มู่หว่านหรงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อหลิงเฟิงได้สติ นางจึงรีบเข้าไปพยุงมู่หว่านหรง “พระชายารอง!”

สองแก้มของมู่หว่านหรงแดงก่ำในทันใด นางทั้งรู้สึกเจ็บและชา ปิ่นปักผมยุ่งเหยิงไปหมด ต้องให้หลิงเฟิงพยุงตัวถึงจะยืนไหว

ตั้งแต่เด็กนางไม่เคยถูกใครตบตีเช่นนี้!

สิ่งที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือ คนที่ตบหน้านางคือเสิ่นหรูโจวที่ยอมถอยให้นางเสมอและไม่เคยกล้าหาเรื่องนาง!

มู่หว่านหรงสูดหายใจฮึดฮัดอย่างโมโห นางชี้หน้าเสิ่นหรูโจวอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้ากล้าตบหน้าข้า!!”

เสิ่นหรูโจวมองสภาพไม่เชื่อสายตาของมู่หว่านหรงแล้วหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา

ชาติที่แล้ว แม้ว่ามู่หว่านหรงจะกระโดดโลดเต้นต่อหน้านางอย่างสนุกสนาน แต่ด้วยความกลัวจะทำให้เซียวเฉินเหยี่ยนโกรธ นางก็ไม่เคยลงมือทำอะไรนางเลย จนทำให้มู่หว่านหรงเข้าใจผิดคิดว่านางรังแกได้ง่าย ๆ

และไม่เคยคิดว่านางเองก็เป็นบุตรสาวที่เกิดในครอบครัวนักรบ!

“ใช่ ข้าตบเจ้าเอง ยัยคนหน้าไม่อาย”

“เจ้า!” สีหน้าของมู่หว่านหรงทั้งแดงทั้งดำ นางจ้องหน้าเสิ่นหรูโจวด้วยแววตาแปลกใจและไม่มั่นใจ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกท่ามกลางสายตาอันเย็นเยือกของเสิ่นหรูโจว

ความเจ็บแปลบบนใบหน้ายังคงตักเตือนนางว่า เสิ่นหรูโจวในวันนี้แตกต่างจากวันปกติ หรือว่านางเสียสติไปแล้ว…

แต่มู่หว่านหรงสู้ไม่ไหว เนื้อตัวพลันเอนเอียงเหมือนจะล้ม นางยกมือขึ้นจับที่หัวใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“หลิงเฟิง รีบไปบอกท่านอ๋อง จู่ ๆ พระชายาก็ลงมือตบตีข้า ตีจนหัวใจข้าเจ็บไปหมด ให้ท่านอ๋องรีบมาช่วยข้า…”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Meaw Tewika
ลองอ่านก่อน ถ้านางเอกโง่ ไม่อ่านต่อนะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 270

    เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 269

    เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 268

    เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 267

    เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 266

    สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้

  • เกิดใหม่ครานี้ หย่าท่านอ๋องมาเป็นหญิงร่ำรวยที่สุดในใต้หล้า   บทที่ 265

    ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status