ตอนที่ 5 แคสติ้ง

งานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของพงศกร ผ่านไปอย่างมีความสุข ถึงแม้จะขาดบุตรสาวคนเล็กมานานถึงหกปีแล้วก็ตาม หากแต่ก็ยังมีหลานสาวตัวน้อย มาคอยสร้างความสุขให้กับเขาและภรรยา ราวกับมาเป็นตัวแทนของบุตรสาวอย่างจิราภรอย่างไรอย่างนั้น

ยิ่งได้เห็นความสามารถของหลานสาว ที่มีทำให้ท่านทั้งสองอยากที่จะสนับสนุน ให้หลานสาวตัวน้อยได้ทำในสิ่งที่เธอชอบ และคลิปไลฟ์สดในคืนนั้น ก็ถูกแชร์ไปมากมาย จนหนูน้อยกลายเป็นเนตไอดอลตัวน้อยเพียงข้ามคืน

“คุณแม่คะ วันนี้เพื่อนที่โรงเรียนบอกว่าน้องเข็มเก่งเกินวัยค่ะ” เขมิกาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้กับมารดาฟัง

“ทำไมล่ะคะลูก” กาญจนาลูบศีรษะบุตรสาวเบาๆ ก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป

“ก็น้องเข็มตอบที่คุณครูถามถูกหมดเลย” เด็กหญิงตัวน้อยเงยหน้าตอบมารดา ฃ

‘หนูไม่ได้อยากเก่งนะคะพี่กาญแต่เรื่องพวกนี้หนูรู้หมดแล้วอ่ะ’ เขมิกาคิดในใจ ท่านพญายมคงแถมสติปัญญามาให้แน่ๆ เลย มองอะไรแว๊บเดียวเธอก็จำได้ขึ้นใจ

“ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอคะ เพราะว่าน้องเข็มมีไอคิวสูงกว่าเพื่อนๆ ไงลูก ไม่ต้องกังวลนะ เอหรือว่าแม่จะให้หนูสอบเทียบไปเรียนป.1เทอมหน้าเลย ขอแม่ปรึกษากับคุณพ่อก่อนนะคะ”

เพราะไอคิวของเด็กหญิงสูงเกินวัย ทำให้เธอจดจำอะไรได้ภายในเวลาไม่นาน เรื่องนี้เธอก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ภูมิใจที่บุตรสาวเกิดมาพร้อมกับความฉลาดและความสามารถพิเศษ

เขมิกาพยักใบหน้าน้อยๆ ขึ้นลง ‘ขึ้นป.1เลยก็ดี เธอเบื่อชั้นอนุบาลเต็มที อีกอย่างเธอจะได้เรียนจบเร็วขึ้น และได้มีเวลาทำในสิ่งที่รักเพิ่มขึ้นอีกด้วย’ เธอคิดในใจก่อนที่จะส่งยิ้มให้กับมารดา

วันแคสติ้ง ณ สตูดิโอ เอสมีเดีย

กาญจนาพร้อมด้วยเรวัต พาเขมิกามาร่วมแคสติ้งเป็นนักแสดงเด็กที่สตูดิโอของเจ๊เอกตามเวลานัด สองวันก่อนกาญจนาได้โทรคุยกับนักปั้นมือทอง

เขาดีใจมากที่กาญจนาตัดสินใจให้น้องเข็มได้เข้ามาร่วมแคสติ้งนักแสดงในครั้งนี้ด้วย เพราะเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ปลุกปั้นเด็กน้อยที่มีใบหน้าสวย แถมความสามารถมากล้นอย่างเด็กหญิงเขมิกา โชติกุล หลานสาวของอดีตซุปตาร์ชื่อดังของเมืองไทย ที่แม้จะลาลับจากโลกใบนี้ไปถึงหกปีแล้วก็ตาม

หากแต่ยังมีกระแสแฟนคลับ ที่ยังคงมีกลุ่มคอยระลึกถึงเธออยู่ และเขาเชื่อว่าเด็กน้อยหน้าสวยผู้นี้ จะเป็นฝ่ายเข้ามาครองใจของแฟนคลับเหล่านั้นได้สบาย

“สวัสดีค่ะคุณแม่ สวัสดีค่ะเด็กๆ” เจ๊เอกรีบมาต้อนรับสามคนแม่ลูกทันที

“สวัสดีค่ะคุณเอก เด็กๆ สวัสดีพี่เอกสิลูก” กาญจนายกมือไหว้ทักทาย ก่อนที่จะบอกให้เด็กๆ ยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่าเช่นกัน

“สวัสดีครับ/ค่ะ พี่เอก” สองเด็กน้อยส่งยิ้มให้

“น้องเข็ม พร้อมหรือยังคะ” เจ๊เอกนั่งลงยองๆ ตรงหน้าเขมิกา ก่อนที่เอ่ยถาม

“ไม่แน่ใจค่ะ แต่หนูจะพยายามนะคะ” เด็กหญิงตอบยิ้มๆ คำว่าจะพยายามเรียกรอยยิ้มจากนักปั้นมือทองได้เป็นอย่างดี ‘เหมือนคนเป็นอาไม่มีผิด ปังแน่นอน’ เจ๊เอกคิดในใจ

“ดีค่ะ ผ่อนคลายนะคะลูก แล้วแสดงออกมาให้เป็นธรรมชาติที่สุด” เจ๊เอกบอกเทคนิคให้กับเด็กหญิงตัวน้อย

เขมิกาพยักใบหน้าน้อยๆ ขึ้นลง ก่อนที่เจ๊เอกจะขอตัวและเดินจากไป เขมิกาก็เตรียมตัวแล้วเช๊คเครื่องดนตรีของตน เด็กหลายๆ คนต่างมองมาที่เด็กหญิงด้วยความสนใจ พวกผู้ใหญ่ที่ติดตามมาก็มองเธอด้วยเช่นกัน และมองออกว่าเด็กหญิงคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

พอเริ่มเข้าสู่ช่วงแคสติ้ง เด็กหญิงเขมิกา โชติกุลก็ทำเอาบรรดาเหล่าคณะกรรมการ ที่มาเป็นฝ่ายคัดเลือกนักแสดงเด็กหน้าใหม่ของละครเรื่องนี้ ต่างอึ้งและทึ่งในฝีมือการร้องเพลง เล่นดนตรี และการแสดงของเด็กหญิงตัวน้อย

เรียกได้ว่าเห็นเงาของจิราภร ในตัวของเด็กหญิงแบบไม่ต้องคิดเป็นอื่นเลย หากไม่ติดว่าจิราภรเสียไปก่อนที่หนูน้อยจะคลอดได้หนึ่งปี หลายๆ คนคงเข้าใจว่าเด็กหญิงเขมิกา จะต้องเป็นจิราภรกลับชาติมาเกิดอย่างแน่นอน

“เจ๊เอก ไปเจอน้องเข็มที่ไหนมาเนี่ย เสียดายอยากได้น้องไปเข้าสังกัดจัง” ผู้จัดการของค่ายหนึ่งเอ่ยขึ้นกับเจ๊เอก นักปั้นมือทองของวงการ

“คนนี้เห็นทีจะไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพราะเอกจองน้องมาตั้งแต่น้องยังไม่ได้มาแคสติ้งแล้ว หลานสาวแท้ๆ ของน้องจิราภรไงคะ พี่เพชรจำได้ไหม”

เท่านั้นแหละเหล่าผู้จัดการของแต่ละค่ายถึงกับร้องอ๋อออกมา ถึงว่าการแสดงออก สีหน้า แววตา ราวกับหนูน้อยเป็นเงาของจิราภรอย่างไรอย่างนั้น

“เสียดายจังค่ะ พี่เอกโชคดีจัง แล้วพวกเราจะดูน้องเข็มโลดแล่นในวงการในอนาคตนะคะ” ผู้จัดการของอีกค่ายหนึ่งพูดขึ้น

วันนี้เหล่าบรรดาแมวมองต่างมาที่สตูดิโอแห่งนี้ เผื่อเจอเด็กที่มีแววพวกเขาจะได้นำไปปั้นเพื่อดันเข้าวงการต่อไป หลายๆ คนต่างเสียดาย ที่ได้พบกับเด็กหญิงเขมิกาช้าไป เพราะเท่าที่ดูแววแล้ว เด็กคนนี้น่าจะเดินตามรอยของจิราภรได้อย่างแน่นอน

เจ๊เอกได้แต่ส่งยิ้มให้กับทุกคน ก่อนที่จะมองไปยังสามคนแม่ลูก ที่กำลังนั่งพักผ่อนอยู่ ผู้ปกครองหลายๆ ท่านที่พาบุตรหลานมาแคสติ้ง ต่างพากันเข้ามาขอถ่ายรูปเด็กหญิงเขมิกา สาวน้อยวัยห้าขวบที่มีเค้าโครงหน้าสวยราวกับพระเจ้าเสกสรรปั้นแต่งมาให้อย่างไรอย่างนั้น

ดูอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องอนาคตไกลแน่นอน ถ้าในอนาคตเด็กหญิงกลายเป็นดารา พวกเธอก็จะได้มีรูปไว้อวดคนอื่นๆ กาญจนาอนุญาตเพราะต้องเตรียมพร้อมรับมือหากบุตรสาวของเธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียง เธอต้องฝึกเอาไว้ก่อนและเป็นการฝึกบุตรสาวของตนไปด้วย

“ผมดีใจจังครับ ที่มีคนชอบน้องเข็มมากขนาดนี้”

เด็กชายเรวัต หรือน้องเรียวเอ่ยขึ้น สายตาทอดมองไปยังร่างเล็กของน้องสาวที่กำลังยืนแจกยิ้มถ่ายรูปคู่กับเด็กๆ คนอื่นที่มาแคสติ้งบทละครเช่นกัน

“แม่ก็ดีใจและภูมิใจในตัวน้องเหมือนกันลูก ถ้าคุณอาจิ๋วมองอยู่ แม่คิดว่าเธอก็คงจะมีความสุขไม่น้อยที่ยังมีคนที่สืบทอดความฝันของเธอ” กาญจนาคุยกับบุตรชาย หากแต่ยังนึกไปถึงน้องสาวของสามีผู้ล่วงลับ

ทางด้านเขมิกาหลังจากถ่ายรูปไปสักครู่คนที่มาขอถ่ายก็เริ่มบางลง และถ่ายจนครบ หากแต่ไม่ได้ครบอย่างที่เธอคิด

“เดี๋ยวเธอ ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหม” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงที่มีผมหยิกและมีใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตาเอ่ยถามขึ้น ดูๆ แล้วน่าจะแก่กว่าเธอหนึ่งปี

“ได้สิจ๊ะ” เขมิกาตอบพร้อมรอยยิ้ม

น้องมิ้น ลลิตา สุวรรณวาสผู้ที่มาแคสติ้งบทพี่สาวของนางเอกตอนเด็กยิ้มหวานขึ้นมาด้วยความดีใจ เธอรู้สึกชอบในความสวยและอัธยาศัยดีของน้องสาวคนนี้

เด็กหญิงสองคนที่ส่วนสูงไม่ได้ห่างกันนักยืนจับมือกันถ่ายรูป เรียกสายตาเอ็นดูจากคนที่มองมา อีกคนก็น่ารักราวกับตุ๊กตา อีกคนก็ดูสวยเกินกว่าจะเป็นเด็ก เขมิกาหันไปกล่าวขอบคุณก่อนที่จะขอตัวเดินไปหามารดากับพี่ชาย หากมือเล็กของน้องมิ้นกลับรั้งน้องสาวตัวน้อยเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวสิ เธอชื่ออะไรน่ะ เราชื่อ ลลิตา สุวรรณวาส ชื่อเล่นชื่อมิ้น อายุหกขวบ เรามาแคสบทเพื่อนของลูกสาวนางเอกน่ะ เธอมาแคสบทอะไรหรอ” ลลิตาแนะนำตัวก่อนพร้อมรอยยิ้ม

“เราชื่อ เขมิกา โชติกุล ชื่อเล่นเข็ม อายุห้าขวบ หกเดือน เรามาแคสบทลูกสาวของพระนางน่ะจ้ะ” เขมิกาเอ่ยแนะนำตัวเองบ้าง

“อ้าว เด็กกว่าเราหรอกหรอเนี่ย” น้องมิ้นเอ่ยถามยิ้มๆ ก่อนจะพูดต่อ

“เด็กกว่าแค่ไม่กี่เดือน เป็นเพื่อนกันก็ได้นะ”

“ได้สิจ๊ะ” เขมิกาตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้

เธอได้กัลยาณมิตรมาใหม่อีกหนึ่งคนแล้ว แถมดูท่าเด็กคนนี้น่าจะได้เข้าวงการเหมือนกันกับเธออย่างแน่นอน สองเด็กน้อยเป็นมิตรกันอย่างง่ายดาย ด้วยอายุไม่ห่างกันมากนัก

ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดเพื่อนรักในวงการเข้าแล้ว ทั้งสองแลกเบอร์โทรติดต่อกันไว้โดยเบอร์ที่แลกเป็นเบอร์มารดาของทั้งสองนั่นเอง

มารดาของลลิตานั้นเป็นคุณหมออยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ใจกลางกรุงแถมยังเคยเป็นลูกค้าที่ร้านสปาของกาญจนา มารดาของเขมิกาอีกด้วย

“ถ้าน้องมิ้นอยากคุยกับน้องเข็ม คุณศศิก็โทรเข้าเบอร์ของกาญได้ตลอดเลยนะคะ ส่วนมากเวลาที่กาญจะอยู่กับน้องเข็มจะเป็นช่วงเลิกเรียน หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์เราสามคนแม่ลูกจะอยู่ด้วยกันตลอดค่ะ” กาญจนาคุยกับมารดาของเพื่อนใหม่ลูกสาวอย่างยิ้มแย้ม

“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวไว้ค่อยเจอกันใหม่วันเปิดกล้องนะคะคุณกาญ” ศศิภาบอกก่อนที่จะพามิ้น ลาลิตากลับบ้านเพราะตนต้องไปเข้าเวรในช่วงเย็น

ด้านสามคนแม่ลูกก็พากันลาผู้ใหญ่และกลับบ้านทันที ผลการแคสติ้งจะประกาศอีกสามวันข้างหน้าก่อนวันเปิดกล้องละคร ซึ่งเจ๊เอกก็มั่นใจว่ายังไงน้องเข็ม เขมิกาก็ต้องได้รับเลือกให้มารับบทบาทนี้

และเธอก็ได้ขออนุญาตคุณแม่ เข้ามาดูแลน้องเข็มหากการคัดเลือกเป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งกาญจนาก็ไม่ขัดอะไร ด้วยเคยเห็นว่าเจ๊เอกนั้น เคยปลุกปั้นน้องสาวผู้ล่วงลับของสามี จนโด่งดังมาแล้ว เธอจึงไว้ใจและเชื่อมั่นในฝีมือของเขาระดับหนึ่ง