“พี่วิน..............” เสียงหวานของเด็กน้อยดังขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนพี่ชายทรุดลง
“เฮ้ย!!!!! ไอ้วิน เป็นไงบ้างวะ พวกมึงเตะฟุตบอลประสาอะไรวะ เกือบโดนน้องสาวกูแล้วเนี่ย” เรวัตรีบวิ่งเข้ามาดูน้องสาวและเพื่อนรัก ก่อนที่จะหันไปด่าเพื่อนๆที่มายืนรุมดูพวกเขาอยู่ “ขอโทษทีไอ้วิน กูไม่ได้ตั้งใจ น้องเข็มพี่ขอโทษนะครับ” เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “กูไม่เป็นไร แค่จุกๆ ไปเล่นกันต่อเถอะไป” ธาวินเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยน้องสาวของเพื่อนสนิท “น้องเข็มไม่เป็นไรนะครับ” น้ำเสียงน่าฟังดังมาจากเพื่อนของพี่ชาย เขมิการู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ หากไม่ได้เขามาบังลูกฟุตบอลให้เธอ เธอคงเจ็บตัวไปแล้ว “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ ธาวินได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะวิ่งเหยาะๆกลับเข้าสนามไป “เฮ้ย!!! มึงไหวหรอวะ” เพื่อนคนหนึ่งในทีมเอ่ยถามขึ้น “ไหวๆ ไม่ต้องห่วง แค่จุก” ธาวินตอบก่อนที่จะมองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยที่มองมาที่เขาเช่นกัน เขาส่งยิ้มบางๆให้เธอ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เขมิกาส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนพี่ชายเช่นกัน “พี่วินเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวในละครเลย คอยช่วยนางเอกไม่ให้เจ็บตัว” มิ้น ลลิตาเอ่ยขึ้นอย่างไร้เดียงสา เธอมองเหมือนเป็นการแสดงละครฉากหนึ่ง “แต่นี่มันเรื่องจริงค่ะคุณหนู ไม่ใช่ละคร” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรแน่นะเข็ม ดูสิหน้าซีดเลย” มิ้น ลลิตาเอ่ยถามเพื่อนที่สนิทกันมากในตอนนี้ “ไม่เป็นไรจ้ะ ขอบใจนะ” เขมิกาตอบก่อนที่จะสอดสายตามองหาพี่ธาวิน พระเอกขี่ม้าขาวของเธอ ชาติก่อนเธอไม่เคยมีความรัก เกิดมาชาตินี้เธอก็อยากลองใช้ชีวิตที่มีรักดูบ้าง เด็กน้อยคิดในใจก่อนที่จะยิ้มบางๆออกมา เวลาผ่านไปไม่นาน มารดาของทั้งสองก็มารับบุตรของตน ทั้งเรวัตและเขมิกาไหว้ลาศศิภามารดาของลลิตา ส่วนลลิตาก็ไหว้ลามารดาของเพื่อนสนิทอย่างเขมิกาเช่นกัน “คุณแม่ขา วันนี้เพื่อนพี่เรียวช่วยเข็มไม่ให้เจ็บตัวด้วยค่ะ” เขมิกาเล่าให้มารดาฟังด้วยน้ำเสียงสดใส “หืม... ใครล่ะลูก แล้วใครจะทำให้เข็มเจ็บตัว เรียวบอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลย” น้ำเสียงหวานที่ถามบุตรสาวในตอนแรกเข้มขึ้นเมื่อเอ่ยถามบุตรชาย “คือพวกเรียวเล่นฟุตบอลกันอยู่ที่สนาม แล้วน้องเข็ม น้องมิ้นกับเพื่อนๆก็ไปนั่งดูพวกเราอยู่ข้างสนาม ทีนี้ไอ้ห้องสองมันเตะฟุตบอลลอยไปหาน้องเข็ม เกือบโดนหน้า ดีที่ไอ้วินเพื่อนสนิทของเรียวไปช่วยน้องไว้ทัน ตอนนั้นเรียวยังไม่ทันมองเลย เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ” เรวัตหรือเรียวเล่าเรื่องราวให้มารดาฟัง กาญจนาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ที่บุตรสาวของตนไม่เป็นอะไร ต้องขอบคุณเพื่อนสนิทของบุตรชายที่ช่วยน้องเข็มไว้ได้ทันเวลา “น้องเข็มได้ขอบคุณเพื่อนพี่เรียวไหมคะลูก” กาญจนาเอ่ยถามบุตรสาว “ค่ะ พี่วินเป็นพระเอกขี่ม้าขาวของเข็มเลยค่ะ ถ้าไม่ได้พี่วินเซฟเข็มไว้ เข็มคงต้องเจ็บตัวแน่ๆ” คำตอบที่ดูเหมือนจะไร้เดียงสาสำหรับมารดาและพี่ชาย กลับเป็นคำตอบที่มาจากความรู้สึกนึกคิดของเด็กหญิงเขมิกาจริงๆ “ดีแล้วล่ะค่ะ เวลาที่พวกพี่ๆหรือเพื่อนๆ หรือไม่ว่าใครก็ตามที่เขาทำอะไรให้กับเรา เราต้องขอบคุณเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ฐานะเป็นแบบไหน เราไม่ควรเลือกปฏิบัติกับใครนะลูก” กาญจนาเอ่ยชมบุตรสาว ก่อนที่จะสั่งสอนเพิ่มเติมไปอีกนิดหน่อย เธอรู้ว่าบุตรสาวและบุตรชายนั้นเข้าใจอะไรง่ายๆ โดยที่เธอไม่ต้องอธิบายมาก “ครับ/ค่ะ” สองเสียงของพี่น้องขานรับคำสั่งสอนของมารดา รถคันหรูเคลื่อนเข้าสู่บ้านโชติกุล ก่อนที่รถจะจอดอยู่ที่หน้าบ้าน สามคนแม่ลูกต่างพากันงุนงงกับการที่บิดากลับบ้านเร็ว “พี่ภูมิ ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วล่ะคะ” เสียงหวานเอ่ยถามสามี “เพื่อนพี่จะมาทานข้าวเย็นที่บ้านของเราค่ะ พ่อของเพื่อนเจ้าเรียวน่ะ เจ้าของโรงพยาบาลแถวรังสิตน่ะ” เสียงทุ้มของเผ่าภูมิเอ่ยบอกภรรยาก่อนที่เขาจะกดจมูกลงบนแก้มนุ่มของเธอ “ฟอด...............หืม ชื่นใจ หายเหนื่อยเลย” เผ่าภูมิถอนจมูกออกจากแก้มนุ่มก่อนที่จะเอ่ยออกมายิ้มๆ “เพี๊ยะ!!........พี่ภูมิ ทำอะไรไม่รู้จักอายลูกๆบ้าง” มือบางฟาดลงบนแขนล่ำ ก่อนที่เสียงหวานแว้ดใส่สามีอย่างไม่จริงจังนัก “ตามสบายครับคุณพ่อ เราสองคนพี่น้องชินแล้วฮ่าๆๆ คิกๆๆๆ” เรวัตเอ่ยบอกบิดาก่อนที่สองเสียงใสๆของสองพี่น้องจะขำออกมาจนมารดาอดที่จะค้อนให้ทั้งลูกๆและสามีไม่ได้ “ลูกรักของพ่อทั้งสองรู้ใจพ่อที่สุด ไปครับไปอาบน้ำ เดี๋ยวพ่อจะแนะนำให้รู้จักคุณลุงกรกับคุณป้าจิน รู้สึกว่าลูกชายเขาก็รุ่นเดียวกับเจ้าเรียวนะ เอ จะเป็นเพื่อนกันหรือเปล่าเรียนโรงเรียนเดียวกันซะด้วยสิ” เผ่าภูมิชูนิ้วโป้งให้บุตรทั้งสองก่อนที่จะบอกให้ไปเตรียมตัวต้อนรับแขกของเขาที่จะมาในเย็นนี้ “เดี๋ยวมาก็รู้เองแหละค่ะ ไปเด็กๆไปอาบน้ำเตรียมตัวกันนะคะ เดี๋ยวคุณแม่ขอไปดูในครัวก่อน” กาญจนาบอก เด็กน้อยทั้งสองจึงเดินจูงมือกันขึ้นห้องไปทันที ส่วนตัวเธอก็เข้าครัวไปโดยที่มีเผ่าภูมิเดินตามหลังภรรยาไปติดๆปัจจุบัน.....สวัสดีครับ นี่น้องเข็มใช่ไหม....พี่ชื่อวิน ธาวิน วัฒนมงคลพัฒน์ น้องเข็มจำพี่วินได้ไหมคะ....พี่เป็นเพื่อนของไอ้เรียว พี่ชายเข็มไง....น้องเข็มสบายดีไหมคะ ไปมหาวิทยาลัยวันนี้วันแรกมีปัญหาอะไรไหมเอ่ยสายตากลมไล่อ่านข้อความตั้งแต่แรกจนไปถึงข้อความล่าสุด ภาพในอดีตย้อนกลับมาในวันที่เธอและเขาได้พบกันอย่างเป็นทางการ เจอกันในฐานะลูกสาวและลูกชายที่พ่อแม่เป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากวันนั้นเขาก็คอยดูแลเธอตลอดตอนที่อยู่ในโรงเรียน จนใครๆ ก็เข้าใจว่าเขาเป็นแฟนกับเธอ หากแต่ความจริงเขาดูแลเธอในฐานะพี่ชายเท่านั้น เธอจำได้ว่าพี่วินเพื่อนพี่เรียวนั้นพอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่เมืองนอก จากนั้นเธอก็ไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย แม้แต่พี่ชายของเธอก็ไม่เคยพูดถึง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ‘นี่ทำไมเขามีเบอร์เธอ แล้วทำไมโทรศัพท์ของเธอถึงได้มีเบอร์เขา ต้องเป็นพี่เรียวอย่างแน่นอน’ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนที่จะได้ยินพี่ยิ้ม ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยถามขึ้น“ใครส่งข้อความมาคะน้องเข็ม”“อ้อ... พี่วินน่ะค่ะ พี่วินที่เป็นลูกชายเพื่อนสนิทของคุณพ่อ และตัวพี่เขาก็เป็นเพื่อนสนิทของพี่เรียวด้วย
หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วยิ้ม ญานิตาก็พาดาราสาวในสังกัดกลับมาส่งที่บ้าน เพราะได้เวลาที่เขมิกาต้องใช้พักผ่อน การทำงานของเขมิกานั้นไม่เคยมีข้อบกพร่อง เธอตั้งใจทำงานทุกชิ้นให้ออกมาอย่างดีและสมราคาที่คนจ้างใช้เงินจ้างเธอไปทำงานให้ จนได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ออกมาให้ได้ยินอยู่ตลอด เธอจึงขอให้ตนเองมีเวลาพักผ่อนส่วนตัวหลังจากเลิกงานในทุกๆ วัน และเธอจะไม่รับงานซ้อนกันติ๊ง....ติ๊ง.....ติ๊ง...........เสียงข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเข็ม เขมิกาดังขึ้นไม่ขาดสายจนหญิงสาวต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ‘ธาวิน’ เธอกำลังงงกับชื่อของคนที่ส่งข้อความมาหาเธอ ‘ใครเมมชื่อนี้กัน ทำไม เอ๊ะ คุ้นๆ ’ ขณะที่กำลังคิดในใจภาพอดีตก็ย้อนกลับมาเป็นฉากๆ5 ปีก่อนวันที่บิดาบอกว่าจะมีแขกมาแนะนำให้บุตรชายและบุตรสาวได้รู้จัก ทั้งเรวัตและเขมิกานั้นต่างไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นคนที่พวกเขารู้จัก“ไงไอ้กร สวัสดีจิน สบายดีนะ” เผ่าภูมิเอ่ยทักทายเพื่อนรักและภรรยา“สบายดี สวัสดีครับน้องกาญ” ฐนกรตอบเพื่อนรักก่อนที่จะหันไปทักทายภรรยาของเพื่อนสนิท“สวัสดีค่ะพี่กร สวัสดีค่ะพี่จิน” กาญจนายกมือไหว้ก่อนที่จะกล่าวทักทายสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเ
จิ๋ว จิราภรในการมีชีวิตใหม่มาเป็นเข็ม เขมิกา เติบโตมาอย่างดีบนเส้นทางสายการแสดงที่เธอวาดหวังก่อนที่จะมาเกิดใหม่ก็ประสบความสำเร็จ ชาติก่อนเธอไม่มีแม้แต่เพื่อนสนิทหากแต่ชาตินี้เธอได้พบกับมิ้น ลลิตาเพื่อนแท้ที่มองไปข้างๆทีไรก็มักจะเห็นเธออยู่ตลอด ทุกครั้งที่ทั้งคู่ไปทำงานด้วยกันนั้นจะมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่สดใส จริงใจให้แก่กันเสมอ หากแต่เมื่อทั้งคู่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่6 มิ้น ลลิตาได้ขอพักงานในวงการบันเทิงก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่เกาหลีเนื่องจากมารดาของเธอถูกส่งตัวไปช่วยงานที่โรงพยาบาลของที่โน่น ทำให้มิ้น ลลิตาต้องพักความฝันของตนไว้ชั่วคราว และต้องห่างเพื่อนสนิทที่คบกันมานานถึง6ปี“มิ้น เมื่อไหร่จะกลับจากเกาหลีสักที” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวด้วยความคิดถึง“ปิดเทอมจะกลับไปหานะเข็ม” ทั้งสองพยายามกลั้นสะอื้นเอาไว้ ทั้งคู่ไม่เคยต้องห่างกันไกลขนาดนี้มาก่อนและการจากกันไกลครั้งนี้ มันก็กินเวลานานจนเขมิกาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ร่างบางสูงโปร่งในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกำลังก้าวลงจากรถตู้คันหรูที่ใช้เป็นยานพาหนะในการดูแลศิลปินนักแสดงในสังกัด ทั้งนักศึกษาและอาจา
5ปีผ่านไป เด็กหญิงเขมิกาและเด็กหญิงลลิตาในวัย10ขวบกำลังนั่งให้พี่ๆ ช่างแต่งหน้า แต่งหน้าอยู่ภายในห้องกว้างๆ ที่มีโต๊ะกระจกเป็นทางยาว นางแบบนายแบบตัวน้อยหลายคนกำลังถูกปรับเปลี่ยนโฉมของตนโดยฝีมือของพี่ๆ ช่างแต่งหน้าที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานเพื่อให้เข้ากับชุดที่ต้องเดินแบบ 5 ปีที่ผ่านมา เด็กน้อยทั้งสองจับมือกันเดินบนเส้นทางสายบันเทิง ดนตรี และนางแบบ มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ทุกคนต่างรอคอยในวันที่เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อรับบทบาทที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นไป “น้องเข็มนี่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยนะคะเนี่ย สวยแบบหาตัวจับยากเลยล่ะค่ะ” ช่างแต่งหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับใบหน้าสวยหวานของนักแสดง นางแบบเด็กเอ่ยชมออกมา “จริงค่ะ เท่าที่ยิ้มดูพัฒนาการความสวยของน้องเข็มมา ตามที่พี่ว่าก็ไม่ผิดเลยค่ะ เบ้าหน้าดีมาก ราวกับฟ้าประทานมาให้อย่างไรอย่างนั้น” ยิ้ม ญานิตาเอ่ยขึ้นขณะมองไปที่ใบหน้าหวานของเด็กน้อยวัย10ขวบ เธอดูแลเด็กทั้งสองมา5ปีแล้ว เห็นพัฒนาการความสวยของเด็กๆ ทั้งสองเป็นอย่างดี “น้องมิ้นก็สวยนะคะ ไม่ต้องแต่งอะไรมากเลย ใบหน้าคม คิ้วนี่ด๊กดกค่ะ” ช่างแต่งหน้าฝั่งมิ้น ลลิตาเอ่ยชมเด็กหญิงที่ตนกำลังบรรจงแต่งหน้าใ
“พี่วิน..............” เสียงหวานของเด็กน้อยดังขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนพี่ชายทรุดลง“เฮ้ย!!!!! ไอ้วิน เป็นไงบ้างวะ พวกมึงเตะฟุตบอลประสาอะไรวะ เกือบโดนน้องสาวกูแล้วเนี่ย” เรวัตรีบวิ่งเข้ามาดูน้องสาวและเพื่อนรัก ก่อนที่จะหันไปด่าเพื่อนๆที่มายืนรุมดูพวกเขาอยู่ “ขอโทษทีไอ้วิน กูไม่ได้ตั้งใจ น้องเข็มพี่ขอโทษนะครับ” เด็กชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “กูไม่เป็นไร แค่จุกๆ ไปเล่นกันต่อเถอะไป” ธาวินเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะหันไปมองเด็กหญิงตัวน้อยน้องสาวของเพื่อนสนิท“น้องเข็มไม่เป็นไรนะครับ” น้ำเสียงน่าฟังดังมาจากเพื่อนของพี่ชาย เขมิการู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ หากไม่ได้เขามาบังลูกฟุตบอลให้เธอ เธอคงเจ็บตัวไปแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยคำขอบคุณ ธาวินได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เขาจะวิ่งเหยาะๆกลับเข้าสนามไป“เฮ้ย!!! มึงไหวหรอวะ” เพื่อนคนหนึ่งในทีมเอ่ยถามขึ้น“ไหวๆ ไม่ต้องห่วง แค่จุก” ธาวินตอบก่อนที่จะมองไปยังเด็กหญิงตัวน้อยที่มองมาที่เขาเช่นกัน เขาส่งยิ้มบางๆให้เธอ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิด เขมิกาส่งยิ้มน้อยๆให้เพื่อนพี่ชายเช่นกัน “พี่วินเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวในละครเลย
ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเด็กหญิงเขมิกา โชติกุลเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้ชมแล้วว่าเธอนั้นมีความสามารถในการแสดงมากถึงเพียงใด สมแล้วที่เป็นหลานสาวของซุปตาร์สาวผู้ล่วงลับ โดยไม่มีใครรู้เลยว่า เด็กน้อยเขมิกาคนนี้นั้นก็คือจิราภรที่กลับชาติมาเกิดใหม่นั่นเอง “น้องเข็มแสดงละครเก่งจังเลยค่ะ ครูยังอินกับบทของหนูไม่หายเลย” คุณครูประจำชั้นเอ่ยชื่นชมเด็กหญิงวัยอนุบาลที่มากความสามารถเกินเด็กวัยเดียวกัน “ใช่ๆเข็มเก่งจัง” เพื่อนๆต่างมารุมล้อมเธอ เพราะตอนนี้ละครที่เธอแสดงกำลังออนแอร์ ทางด้านมิ้น ลลิตาเองก็เช่นกัน “แต่เทอมหน้าน้องเข็มจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพวกเราแล้วนะ” เสียงครูประจำชั้นสร้างความงุนงงให้กับเด็กๆในห้องได้เป็นอย่างดี“ทำไมคะคุณครู” เด็กๆต่างกรูกันเข้ามาถามคุณครูด้วยความสงสัย“เพราะน้องเข็มจะย้ายไปเป็นพี่ป.1เทอมหน้าแล้วยังไงล่ะจ๊ะ”คุณครูสาวเฉลยให้เพื่อนร่วมห้องของเด็กหญิงเขมิกาฟัง ทุกคนจึงเข้าใจเพราะว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้นั้นพิเศษกว่าใคร ไม่ว่าครูจะสอนอะไร เขมิกาตอบได้แทบจะทั้งหมด “ใช่ๆ เข็มเก่ง เข็มรู้หมดเวลาที่ครูสอน” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น “จริงด้วย เข็มไปเป็นพี่น่ะถูกแล้ว” เ