Share

บทที่ 20

last update Последнее обновление: 2025-02-15 08:00:44

“พวกท่านทั้งหลาย นี่คือฮูหยินฉือฟางอิน และคุณชายน้อยฉือเฟิ่งเฉียน”

เมื่อจินซีจ่าวแนะนำให้ชาวบ้าน ที่ยืนเรียงรายกันอยู่ด้านหน้า ได้ทราบว่าสตรีแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งเข้ามาในหมู่บ้านหั้วห่าวของพวกเขา คือฮูหยินและคุณชายน้อย ภรรยาเอกและบุตรชายของท่านแม่ทัพฉือหย่งหลิง เหล่าชาวบ้านที่ตั้งตารอการมาถึงของบุคคลสำคัญทั้งสอง ต่างกล่าวต้อนรับฉือฟางอินและเฉียนเอ๋อร์ด้วยท่าทางยินดี

 ฉือฟางอินรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที ที่เห็นท่าทางของพวกเขาเกือบทุกคน ต่างยินดีที่นางจะต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว เว้นก็แต่หญิงสาววัยแรกรุ่นนางหนึ่ง ที่กำลังยืนทำหน้าตาบอกบุญไม่รับ อยู่ด้านหลังหญิงวัยกลางคน ที่ยืนอยู่ข้างบิดาของจินซีจ่าวท่าทางเช่นนั้น ทำให้ลางสังหรณ์บางอย่างของสตรีที่รู้กริยาท่าทางของสตรีด้วยกันเป็นอย่าดี บอกกับฉือฟางอินว่าในอนาคตอันใกล้นี้ คงจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ ฉะนั้น สิ่งที่นางอินควรจะทำ ระหว่างที่ต้องพักอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ก็คือจะต้องอยู่ให้ห่างจากหญิงสาวนางที่ดูจะไม่ยินดี กับการมีอยู่ของนางเข้าไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

“ข้ากับเฉียนเอ๋อร์คงต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”

“พูดอะไรอย่างนั้นเจ้าคะฮูหยิน ท่านไม่ได้มารบกวนพวกเราเลยแม้แต่น้อยเจ้าค่ะ เป็นพวกเราเสียอีกที่อยากพบท่านกับคุณชายน้อยมานานแล้ว”

“เอาล่ะๆ ซีหลัน อย่างไรเสียฮูหยินและคุณชายน้อย ยังต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน ตอนนี้เจ้ากับสตรีอีกสองสามคน ช่วยพาฮูหยินกับคุณชายน้อยไปพัก ที่เรือนของท่านแม่ทัพฉือหย่งหลิงเสียก่อนเถอะ ทั้งสองคนคงจะเหน็ดเหนื่อย จากการเดินทางไกลมามากแล้ว การพูดคุยถามไถ่เรื่องอื่นๆ เอาไว้ทำกันวันหลังเถิดนะ”

“เจ้าค่ะท่านพี่ เดี๋ยวพวกเจ้าสองคนไปกับข้า”

          “ฝากเป็นธุระด้วยนะขอรับท่านแม่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”

“ซีจ่าวเจ้าไม่ต้องห่วง แม่กับพวกนางจะดูแลฮูหยินกับคุณชายน้อยเป็นอย่างดี ฮูหยิน เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”

ฉือฟางอินพยักหน้าตอบรับ แล้วเดินตามซีหลันไปยังที่เรือนของฉือหย่งหลิง พวกเขาคงจะเตรียมการที่นั่นเอาไว้ เป็นที่พักชั่วคราวของนางกับเฉียนเอ๋อร์

“ท่านป้า ท่านคือมารดาของจินซีจ่าวใช่หรือไม่”

“ฮูหยิน! ท่านเทิ่นอะไรกันเจ้าคะ เรียกข้าว่าซีหลันเฉยๆ เถิดเจ้าค่ะ สถานะของข้าต่ำต้อยกว่าท่านหลายเท่านัก”

“ใช่เจ้าค่ะๆ” หญิงวัยกลางคนอีกสองคน ที่ถูกซีหลันเรียกตัวมากล่าวเสริม

“ท่านป้า น้าสาว เหตุใดพวกท่านถึงกล่าวเช่นนั้น นี่พวกท่าน มิได้เป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปอย่างนั้นหรือ”

“พวกข้าก็เป็นชาวบ้านธรรมดานี่แหละเจ้าค่ะ แต่หากเทียบฐานะกับฮูหยิน ที่เกิดและโตในจวนขุนนางใหญ่ และตอนนี้ยังเป็นถึงฮูหยินของแม่ทัพใหญ่ฉือหย่งหลิง ส่วนพวกข้าก็เป็นคนของเขาอีกที สมควรแล้วที่จะให้ท่าน เรียกชื่อพวกเราเพียงอย่างเดียวเจ้าค่ะ”

อย่างนี้เองสินะ แต่ถึงอั้นย่างฉือฟางอิน กลับรู้สึกไม่เห็นด้วยกับพวกนาง เหตุเพราะฉือฟางอินต้องการที่จะตีสนิท กับสตรีเหล่านี้เอาไว้ เพื่อความอุ่นใจในยามที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ฉะนั้นแล้ว นางจึงไม่อยากที่จะถือตัวว่าตนเอง เป็นพวกชนชั้นสูงที่พวกเขาต้องก้มหัวให้ทุกครั้งที่พบกัน อีกอย่างฉือฟางอินเอง ก็ไม่เคยคิดด้อยค่าผู้ใด เพียงเพราะคนผู้นั้นมีฐานะต่ำกว่านางเลยสักนิด

“ท่านป้า ท่านน้า ท่านอย่าด้อยค่าตนเองเช่นนั้นเลย ถึงแม้ข้าจะเป็นบุตรสาวแม่ทัพใหญ่ และเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพ แต่ทางฝั่งมารดาของข้า ท่านตาของข้าก็เป็นเพียงช่างตีดาบธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมีฐานะไม่ต่างไปจากพวกท่าน อีกอย่าง ที่นี่ก็มิใช่จวนสกุลฉือสักหน่อย ให้ข้าได้เรียกพวกท่านว่า ท่านป้า ท่านน้าเถิดนะ พวกเราจะได้คุ้นเคยกัน พวกท่านว่าดีหรือไม่”

จินซีหลันที่ได้ยินฉือฟาอินกล่าวเช่นนั้น ก็รู้สึกซาบซึ้งในคำพูดของฉือฟางอิน จนทำให้หวนคิดไปถึงเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ยามที่คนจากหมู่บ้านหั้วห่าว ต้องเดินทางไปรับใช้ท่านแม่ทัพที่จวนสกุลฉือ เมื่อพวกเขากลับมายังหมู่บ้าน จินซีหลันก็มักจะได้ยินพวกเขาพูดถึงเรื่องฮูหยินฉือฟางอินอยู่บ่อยครั้ง

และแต่ละครั้งก็มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเสียส่วนใหญ่ ทุกครั้งที่ได้ยินคนอื่นพูดถึงเรื่องไม่มีดีของฮูหยินเช่นนั้น นางจะรีบคอยห้ามปรามพวกเขา ไม่ให้ตัดสินฮูหยินฉือฟางอิน จากขี้ปากชาวบ้านร้านตลาดพวกนั้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะเห็นว่าตัวของท่านแม่ทัพ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามียังไม่เคยกล่าวสิ่งใดเกี่ยวกับฮูหยิน ให้พวกชาวบ้านในหมู่บ้านหั้วห่าวได้ยินเลยสักครั้ง

 แล้วคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนนอกอย่างพวกนาง ถือสิทธิ์อะไรถึงได้ไปตัดสินฮูหยินฉือฟางอินเช่นนั้นกัน และในตอนนี้ไม่ว่าที่แล้วมา ใครจะพูดถึงฮูหยินว่าอย่างไร จินซีหลันจะไม่นำคำพูดเหล่านั้น มาตัดสินคนตรงหน้านี้เด็ดขาด เพราะนางจะขอพิสูจน์นิสัยใจคอของฮูหยินฉือฟางอินด้วยตัวของนางเอง

“แต่ถ้าเกิด ท่านแม่ทัพรู้เรื่องเข้า พวกข้าจะมิแย่เอาหรือเจ้าคะ”

แม้ในใจจะหวาดหวั่นอยู่บ้างยามที่ได้คิดไปตามคำกล่าวนั้นของหญิงวัยกลางคนผู้นี้ ที่ติดตามท่านป้าซีหลันมาด้วย หากว่าฉือหย่งหลิงรู้เข้าเขาจะมีท่าทีเช่นไร แต่กระนั้นฉือฟางอิน ก็ยังยืนยันที่จะทำตามที่ตนเองอยากจะทำ คนผู้นั้นจะทราบไม่ทราบแล้วอย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเกี่ยวกับนางอยู่แล้ว ที่ดั้นด้นจากชายแดนทางเหนือมาถึงที่นี่ ก็คงเพราะเป็นห่วงเฉียนเอ๋อร์มิใช่นาง ในเมื่อคนผู้นั่นไม่ได้อยากข้องเกี่ยวกับนาง แล้วนางจะไปสนใจทำไมว่าเขา จะมีความคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งที่นางทำ

“พวกท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ยอมให้เขาทำอะไรพวกท่านด้วยเรื่องแค่นี้หรอก”

“เช่นนั้น ก็แล้วแต่ฮูหยินจะเห็นสมควรเจ้าค่ะ เอ่อ ที่ท่านถามข้าเมื่อครู่นี้ ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้าเป็นแม่ของซีจ่าว บิดาของเขาที่มากับท่านมีนามว่า จินซือโจวเป็นผู้นำหมู่บ้านหั้วห่าวแห่งนี้เจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นเองหรือ แล้วท่านน้าทั้งสองเล่ามีนามว่าอะไร”

“นามของข้าคือลู่ซือ”

“ส่วนข้าจือลั่วเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็ ท่านป้าซีหลัน ท่านน้าลู่ซือและท่านน้าจือลั่ว นับจากนี้จนกว่าสถานการณ์ที่เมืองอี้ จะกลับมาเป็นปกติ ข้าและเฉียนเอ๋อร์คงต้องรบกวนพวกท่านแล้ว”

“อื้อ!..แอ้!”

เมื่อกล่าวจบก็อุ้มเฉียนเอ๋อร์ขึ้นมาให้พวกนางได้เห็นหน้า เจ้าตัวน้อยก็เหมือนจะรู้ความ ส่งเสียงร้องดังออกมาพร้อมกับยิ้มอวดเหงือกแดงแจ๋ ให้เหล่าหญิงวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ซีหลัน ลู่ซือและจือลั่วเห็นเข้าดังนั้น ก็ราวกับว่าพวกนาง ได้โดนเด็กทารกตัวขาวอวบตรงหน้าขโมยเอาหัวใจไปเสียแล้ว คุณชายน้อยช่างน่าเกลียดน่าชังเสียนี่กระไร

“เช่นกันเจ้าค่ะ พวกข้าก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับฮูหยินด้วยเข่นกัน”

“ดี โอ๊ะ!”

“ฮูหยิน! เกิดสิ่งใดขึ้นเจ้าคะ”

“เปล่าหรอก ฮ่าๆๆ ข้าโดนเจ้าก้อนหมั่นโถวนี่ เล่นงานเข้าให้อีกแล้ว”

เมื่อกล่าวจบก็ยกตัวของเฉียนเอ๋อร์ให้กับพวกนางได้เห็น ว่าตอนนี้มือของฉือฟางอิน ที่ประคองส่วนล่างของเขาอยู่ กำลังเปียกชุ่มไปด้วยฉี่ของเจ้าตัวน้อย ส่วนเจ้าตัวน้อยที่เป็นคนก่อเรื่อง เมื่อปลดทุกข์ใส่มารดาเสร็จ ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนกับตอนอยู่ในป่าไม่มีผิด

“ตายแล้วคุณชายน้อย สงสัยจะแสบใช่เล่นเลยนะเจ้าคะ”

“ไม่หรอก เขาแค่กำลังทำโทษข้าอยู่น่ะ”

“ทำโทษ เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ”

“อืมมม เป็นความลับของเราสองคนน่ะ ใช่หรือแม้ไม่เฉียนเอ๋อร์ของแม่”

‘เอาเถิด จะฉี่ใส่แม้วันละสิบรอบแม่ก็ไม่ว่าเจ้าหรอก เจ้าหมั่นโถวยักษ์’

“ท่านป้า ท่านน้า พวกเรารีบไปให้ถึงที่พักกันเถิด”

“อ เอ่อ จ เจ้าค่ะฮูหยิน”

แม้จะงุนงงกับสิ่งที่ฉือฟางอินกล่าวกับเฉียนเอ๋อร์ แต่จินซีหลัน ลู่ซือและจือลั่วต่างก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดว่านั่นคงจะเป็นคำกล่าวหยอกล้อระหว่างแม่ลูกกระมัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทส่งท้าย

    “นี่พวกเราไม่ได้จะกลับบ้านกันหรอกหรือเจ้าคะ”ฉือฟางอินเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเห็นว่าที่ที่ฉือหย่งหลิงพาตัวนางกับเฉียนเอ๋อร์มานั้น คือท่าเรือแคว้นหลูแทนที่มุ่งหน้า เดินกลับจวนสกุลฉือตามกำหนดการ ฉือหย่งหลิงไม่ได้อธิบายในทันที แต่กลับเดินนำหน้านางไปที่เรือลำหนึ่ง ที่ตกแต่งไปด้วยผ้าสีแดงสวยงาม ราวกับมีงานมงคลอยู่บนเรือลำนั้น แล้วหันมายื่นมือรอให้นางเดินเข้าไป เพื่อที่ได้พยุงนางกับลูกขึ้นเรือ“นี่อย่างไร จะพากำลังจะพาเจ้ากลับบ้าน”ความแปลกใจของฉือฟางอินยิ่งทวีขึ้น เมื่อเดินเข้ามาด้านในเรือแล้วพบว่า ด้านในของเรือลำนี้ได้ถูกจำลอง ให้เหมือนกับงานพิธีสมรสอย่างไรอย่างนั้น“นี่มันอะไรกันเจ้าคะ ทำในนี้ถึงได้...”“ฮูหยิน เมื่อสามปีก่อนที่เราแต่งงานกัน เป็นข้าที่ปฏิบัติกับเจ้าไม่ดี ไม่ให้เกียรติ์เจ้าในฐานะภรรยา แม้แต่เกี้ยวเจ้าสาวดีดี ก็ไม่ได้หาให้เจ้า ในวันนี้ที่ข้าสำนึกผิดแล้ว จึงอยากจะขอแก้ตัวกับเจ้าใหม่ ฮูหยิน ได้โปรดแต่งงานกับข้าอีกครั้งได้หรือไม่ ครั้งนี้ข้าสัญญาด้วยชีวิต ว่าเจ้าจะไม่เสียใจที่ได้แต่งงานกับคนอย่างข้าอีก เหมือนเมื่อสามปีที่แล้วอย่างแน่นอน

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทที่ 63

    “ด้วยนิสัยเดิมของบุตรชายข้าคนนี้ ที่นอกจะไม่เอาไหนแล้ว เขามักจะชอบลักเล็กขโมยน้อย สิ่งของคนที่เขาเคยได้สนทนาด้วยเสมอพะย่ะค่ะ”พรึ่บชวี่ซุนเหลียนขาอ่อนล้มพับลงไปนั่งกับทันที เมื่อนางเห็นพู่ตราสัญลักษณ์สกุลรุ่ย ประจำตัวของนางอยู่ในมือของฮ่องเต้ พู่ตราสัญลักษณ์นี้ เป็นสิ่งที่ติดตัวนางมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความผูกพันกับของสิ่งนี้ ทำให้แม้จะเข้ามาเป็นอนุภรรยาในสกุลชวี่แล้ว นางก็ยังคงห้อยพู่ตราสัญลักษณ์สกุลรุ่ย ไว้กับตัวอยู่ตลอดเวลา ชวี่ซุนเหลียนไม่รู้ว่าตัวเองทำมันหล่นหายไปตอนไหนจนเข้าใจไปว่านางอาจจะทำพู่นั่น ตอนที่ไปอารามหวั่งสุ่ยกับจินหู่อดีตสาวใช้ ที่ถูกนางผลักตกเขาไปเมื่อสามปีก่อน เพราะจินหู่เป็นคนเดียวที่อยู่กับนาง ทั้งตอนวางแผนและตอนที่นางไปพบกับหลี่หมิงด้วยตัวเอง ชวี่ซุนเหลียนจึงจำต้องกำจัดนาง ตามคำสั่งของกู้ชินอ๋อง เพราะไม่อยากเกิดปัญหาตามมาในอนาคต หลังจากผ่านคืนนั้นไปไม่นาน ขณะที่ชวี่เจียงโหลวนำทัพไปทำสงคราม ชวี่ซุนเหลียนจึงออกอุบายกับจินหู่ ว่าตัวนางนั้นอยากจะไปสงบจิตใจ จากเรื่องที่พึ่งผ่านพ้นไป ด้วยการไปไหว้พระที่อารามหวั่งสุ่ยและต้องการไ

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทที่ 62

    เกิดเสียงฮือฮาไปทั่วทุกสารทิศ ว่าเหตุใดชวี่เจียงโหลวถึงได้มาขออย่าขาดกับชวี่ซุนเหลียน ต่อหน้าธารกำนัลในวันสำคัญเช่นนี้ แม้แต่กู้ชินอ๋องเองก็ต้องถึงกับลุกขึ้นจากที่นั่ง เพราะไม่ได้คาดคิดถึงการกระทำเช่นนี้ ของชวี่เจียงโหลวมาก่อน“ท่านพี่ นี่มันอะไรกันเจ้าคะ”“นั่นสิแม่ทัพชวี่ วันดีๆ แบบนี้ เหตุใดเจ้าถึงขออย่ากับนางต่อหน้าข้าและคนอื่นๆ”“นั่นก็เพราะว่าข้า มิอาจอยู่ร่วมชายคา กับสตรีชั่วช้าคนนี้ได้อีกต่อไปแล้วพะย่ะค่ะ”“เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน”“พระองค์คงจะไม่รู้ว่าเมื่อสามปีที่แล้ว มีสิ่งใดเกิดขึ้นในจวนของกระหม่อมบ้าง”ทันทีที่ได้ยินชวี่เจียงโหลวกล่าวเช่นนั้น กู้ชินอ๋องและชวี่ซุนเหลียนต่างก็ตาเบิกกว้าง พร้อมกับหันหน้ามาสบตากัน เรื่องเมื่อสามปีที่แล้วจะเป็นเรื่องใดได้อีก หากไม่ใช่เรื่องที่ชวี่ซุนเหลียนวางแผน แย่งคู่หมั้นของฉือฟางอินมาให้บุตรสาว และหมายจะให้คนงานหอนางโลม เข้ามาทำมิดีร้ายกับฉือฟางอินถึงในเรือนของนาง“กระหม่อมสู้อดทน สืบหาเบาะแสผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาตลอด จนได

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทที่ 61

    “แล้วเขาให้ความร่วมมือหรือไม่ขอรับ”“ย่อมต้องเป็นอย่างนั้น”หลังจากที่รู้ให้คนพาตัวหลี่เฉินมาที่ค่ายทหาร ชวี่เจียงโหลวแสดงตนต่อหน้าเขา พร้อมทั้งบอกให้เขาได้รู้ว่า คุณหนูที่สตรีชนชั้นสูงนิรนามคนนั้น จ้างวานให้เขามาทำมิดีมิร้ายคือบุตรสาวของตน เท่านั้นก็ทำให้ลี่เฉินตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า เพราะความโง่เขลา“ท่านแม่ทัพชวี่ เรื่องนี้ ข ข้าไม่เกี่ยวนะขอรับ ป เป็น เป็นบุตรชายของข้า ที่แอบรับงานนั้นด้วยตัวเอง ข้าไม่เกี่ยวนะขอรับ”“คนตายไปแล้วจะพูดอะไรได้ หากเจ้าบอกว่าเจ้าไม่เกี่ยวกับข้องเรื่องนี้ แต่ทันทีที่พบของพวกนี้ เจ้ากลับจะนำไปทำลาย นี่หรือที่เจ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง”“ม ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นขอรับท่านแม่ทัพ ที่ข้าคิดจะเอาของพวกนี้ไปทิ้ง ก็เพราะว่าข้ากลัวข้า กับคนในครอบครัวที่เหลือที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องโดนหางเลขไปด้วยขอรับ”“งั้นก็แสดงว่าเจ้ารู้แล้วอย่านั้นหรือ ว่าของสองอย่างนี้เป็นของใคร”“ยังไม่ทราบแน่ชัดขอรับ แต่คนผู้นั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับสกุล

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทที่ 60

    “อื้อ แอ้! คิกๆ”“ฮ่าๆ เฉียนเอ๋อร์ ขาเจ้าเล็กแค่นี้ แต่พละกำลังมากเหลือเกิน แม่เจ้าคงเลี้ยงเจ้ามาอย่างดีเลยสินะ”ชวี่เจียงโหลวกล่าวอย่างอารมณ์ดี ขณะที่กำลังให้หลานชาย ใช้ขาอวบทั้งสองข้าง ยันหน้าขากระโดดเด้งขึ้นเด้งลง ส่งเสียหัวเราะคิกคักด้วยความสนุกสนาน โดยมีฉือฟางอินและฉือหย่งหลิง นั่งอยู่ใกล้ๆ คอยมองสองตาหลาน เล่นด้วยกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากทานมื้อค่ำด้วยกันแล้ว ชวี่เจียงโหลวได้ชักชวนบุตรสาวและบุตรเขย มานั่งพูดคุยถามสารทุกข์ตลอดหลายปีที่ไม่ได้พบหน้ากัน ซึ่งแน่นอนว่าการพูดคุยในครั้งนี้นั้น ไม่มีอนุเหลียนตามมาด้วย“เฉียนเอ๋อร์ เจ้าเล่นเบาๆ หน่อยเถิด เดี๋ยวท่านตาของเจ้าจะเจ็บเอาได้”“ไม่เป็นไรๆ ปล่อยให้เขาได้เล่นตามใจเถิด แรงเพียงเท่านี้ จะทำข้ากับได้อย่างไร เฉียนเอ๋อร์เจ้าเหนื่อยหรือยัง ให้ตาจับเจ้าโยนเล่นบนอากาศดีหรือไม่”“อื้อ แอ๊!”แม้จะพบหน้ากันเป็นวันแรก แต่สองตาหลานก็ดูจะเข้ากันดีจนคนเป็นแม่อย่างฉือฟางอินอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา เฉียนเอ๋อร์ไม่ค่อยได้พบเจอคนอื่

  • เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องเป็นแม่ที่ดีกว่าเดิมให้ได้   บทที่ 59

    “เชิญพวกเจ้าพักผ่อนกันให้หายเหนื่อยเถิด ขาดเหลืออะไรก็บอกคนรับใช้ เดี๋ยวสักครู่ข้าจะต้องเข้าวังไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้คงไม่ได้อยู่ถามสารทุกข์สุขดิบของพวกเจ้า เอาไว้พบกันตอนค่ำก็แล้วกัน”“เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านไปเตรียมตัวเถิดเจ้าค่ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้”หลังจากที่พาบุตรสาวและบุตรเขย มาส่งยังเรือนเก่าของฉือฟางอิน ที่ชวี่เจียงโหลวยังคงให้คนรับใช้เข้ามาทำความสะอาดทุกวัน เหมือนเมื่อครั้งที่บุตรสาวอาศัยอยู่ที่นี่ เจ้าตัวก็ต้องรีบเดินทางไปยังวังหลวงเพื่อส่งรายงาน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการทำศึกรวบรวมดินแดน ที่ชวี่เจียงโหลวเป็นผู้นำทัพ และสามารถคว้าชัยชนะมาได้เมื่อหลายเดือนก่อนด้านฉือฟางอินที่พึ่งจะตกปากรับคำที่บิดาไป แต่นางกลับมีความคิดจะออกไปข้างนอก แทนที่จะพักผ่อนตามที่บิดาบอก เหตุเห็นว่าไหนๆ ตนเองก็เดินทางมาถึงจวนสกุลชวี่ เร็วกว่าเวลาที่คำนวณเอาไว้มาก ประกอบกับที่นางไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้า จากการเดินทางที่ผ่านมาเลยสักนิด นางจึงอยากจะเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการเลี้ยงหม่อน ที่เคยวางแผนว่าจะไปที่นั่นใน หลังจากผ่านไปแล้วสองถึงสามวัน หลังจากที่ถึงจวนสกุลชวี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status