แชร์

บทที่ 19

ผู้เขียน: เฉียวเหมย
เมื่อวานเธอทั้งต่อสู้ทั้งหลีกเลี่ยงจนเหนื่อยล้าเกินไป ทั้งวันเฉินมู่จึงไม่ได้ออกไปไหนเลย

กระทั่งฟ้ามืด ร่างบางจึงเก็บของอย่างลวก ๆ แล้วลงบันไดไปเพื่อหามื้อดึกทาน

ทว่าตอนที่เดินผ่านห้องของเฉินชิงเสวี่ย เธอกลับได้ยินเสียงหัวเราะของชายหญิงดังมาจากข้างใน…

บังเอิญว่าประตูห้องปิดไม่สนิท คำพูดทุกประโยคจึงดังเข้าไปในหูของเฉินมู่อย่างชัดเจน

“เสวี่ยเอ๋อ ผมได้ยินว่ามีบริษัทนายหน้าอยู่ในนามของเฉินมู่ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”

“มันเป็นเรื่องจริง แต่ว่าพี่เขาไม่เข้าใจการดำเนินการของบริษัท พ่อเลยบอกว่าจะขายบริษัททิ้งแล้วล่ะ!”

เฉินมู่ขมวดคิ้ว มีเพียงแค่บริษัทนั่นที่เป็นมรดกชิ้นเดียวของคุณแม่ที่ทิ้งเอาไว้ให้เธอ มันเป็นสินสอดที่เตรียมไว้ให้เฉินมู่ตอนหมั้นกับตระกูลลู่ เฉินลี้ซานยังไม่ทันจะถามความเห็นเธอ ก็จะขายบริษัทเสียแล้ว?

“ซีเจ๋อ ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว คนที่ต้องหมั้นกับคุณเป็นพี่เขานะ ถ้าพวกเราสองคนพูดเรื่องพวกนี้ออกไปก็คงดูไม่ดีนักหรอก...”

“เสวี่ยเอ๋อ ห้ามพูดแบบนี้นะ! คนที่ผมรักมีแค่คุณคนเดียว!”

“คุณวางใจเถอะ การลงทุนที่คุณแลกเปลี่ยนกับประธานจางในครั้งนี้ มันได้ช่วยแก้ไขปัญหาของผมแล้ว อีกนิดเดียวผมก็จะสามารถยกเลิกการหมั้นได้แล้ว! พอถึงตอนนั้นก็จะจัดงานแต่งให้คุณเข้าตระกูลอย่างใหญ่โต!”

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันต้องไปทานข้าวกับประธานจางเลยนะ! คุณไม่รู้หรอกว่าเขาพยายามจะลวนลามฉันตลอดเวลา ฉันเกือบจะเสียท่าแล้วด้วยซ้ำ!”

“ลำบากแย่เลยนะ เสวี่ยเอ๋อ....”

ไม่นานก็มีเสียงบางอย่างดังแว่วออกมาจากภายในห้อง เป็นเสียงน่าอายที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้คนฟังอยู่หน้าแดงและหัวใจเต้นรัว

เยี่ยมจริง ๆ เฉินชิงเสวี่ยขายเธอให้กับประธานจางเพื่อแลกเปลี่ยนการลงทุน ในที่สุดเฉินมู่ก็เข้าใจแล้ว

ทว่าพอเธอกำลังจะก้าวขาเดินออกไป คนรับใช้ที่เดินผ่านมาก็ตะโกนทักเสียงดัง “คุณหนูใหญ่ คุณมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ?”

เฉินมู่ใจเต้นแรง และเป็นไปตามที่คาดไว้ วินาทีถัดมาประตูห้องก็เปิดออก เฉินชิงเสวี่ยเดินออกมาโดยที่มือกำลังจัดชุดนอน ใบหน้าของอีกฝ่ายแดงระเรื่อ เส้นผมยุ่งเหยิงกระจายอยู่บนหัวไหล่

เธอกวาดตามองครู่หนึ่ง คนใช้จึงรีบเดินออกไป จากนั้นก็ตะโกนถามอย่างเขินอาย “พี่คะ ทำไมพี่ถึงได้มายืนฟังคนอื่นคุยกันได้ล่ะคะเนี่ย...”

หัวใจขอบเฉินมู่มันบีบรัดจนเจ็บปวด เธอคิดว่า เฉินมู่คนก่อนจะต้องชอบลู่ซีเจ๋อมากแน่ ๆ ชอบจนถึงขั้นทำตามทุกอย่างดั่งคนว่านอนสอนง่าย เพียงเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาเขาแค่ครู่หนึ่งก็ยอม

เฉินมู่ระงับอาการใจหวิวแล้วถามเรื่องเมื่อสักครู่ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบริษัทนายหน้า?”

เฉินชิงเสวี่ยปิดปากหัวเราะเบา ๆ “พี่พูดถึงบริษัทเล็ก ๆ ใกล้เจ๊งที่แม่ของพี่ทิ้งไว้ให้งั้นเหรอ? จะเกิดอะไรขึ้นได้อีกล่ะคะ? นอกจากบริษัทเฉินกรุ๊ปมีเงินทุนไม่พอเลยต้องเอาไปขายน่ะสิ!”

เฉินมู่ขมวดคิ้ว เฉินชิงเสวี่ยจึงพูดต่อ “พี่ตัดใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ที่จริงแม่ของพี่ที่ตายไปก็ไม่ได้ทิ้งของดี ๆ ไว้ให้เลยนี่ ถ้าหากพี่คุกเข่าขอร้องฉัน ฉันจะไปพูดกับคุณพ่อให้ก็ได้นะ ว่าให้คืนบริษัทนี้ให้กับพี่ เอาไหมล่ะ?”

เฉินมู่เอื้อมมือไปดึงชุดนอนของเฉินชิงเสวี่ยพลางยิ้มเยาะ “ขอร้องเธอ? เธอมีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เฉินชิงเสวี่ยที่มีลู่ซีเจ๋ออยู่ด้วยกันที่นี่ ก็ชูคอเชิงกล้าหาญขึ้นมามากกว่าเดิม เธอคว้ามือของเฉินมู่ไว้แล้วกดลงไปที่แผลด้วยสีหน้าแววตาที่เต็มไปด้วยความสาแก่ใจ!

“พี่คะ นี่มันเป็นความผิดของพี่นะ ฉันปรารถนาดีอยากจะช่วยแท้ ๆ ทำไมพี่ถึงไม่ยอมรับน้ำใจไปล่ะ? ไม่ใช่ทุกคนที่จะใจดียินยอมมอบความเมตตาให้กับพี่เหมือนฉันหรอกนะ!”

“พี่ดูสภาพตัวเองสิ แม่ก็ตายไปก่อนวัยอันควร พ่อก็ไม่รัก คู่หมั้นก็กลายมาเป็นของฉัน แค่ของที่แม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายก็ยังรักษาเอาไว้ไม่ได้ น่าเวทนาจริง ๆ!”

เฉินมู่ตีสีหน้าเย็นชาทันควัน “ปล่อยมือ”

เฉินชิงเสวี่ยกลับพูดอย่างลำพองใจ “ฉันไม่ปล่อย! แกจะทำไม? รสชาติของการที่โดนแย่งผู้ชายที่รักไปมันเป็นยังไงเหรอ? เฉินมู่ แกทำให้ฉันเห็นอย่างชัดเจน! ว่าฉันน่ะเป็นถึงคุณหนูตระกูลเฉินผู้ร่ำรวย ส่วนแกน่ะ แค่สุนัขข้างทางตัวเดียวยังเทียบไม่ติด!”

“เพี๊ยะ!” เฉินมู่ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นแล้วฟาดลงไปที่ใบหน้าอีกคนอย่างแรง!

“อ๊ะ!” เฉินชิงเสวี่ยร้องเสียงแหลมวิ่งกลับเข้าไปในห้อง พลันรีบซุกเข้าไปในอ้อมกอดของลู่ซีเจ๋อแล้วทำหน้าซื่อเหมือนดอกบัวขาวที่บริสุทธิ์ เธอหดตัวพูดเชิงหวาดกลัว “ซีเจ๋อช่วยฉันด้วย!”

ลู่ซีเจ๋อกอดเฉินชิงเสวี่ยอย่างเจ็บปวดใจ ชายหนุ่มมองไปยังเฉินมู่ที่เดิมตามหลังเข้ามาพร้อมพูดด้วยความโกรธว่า “เฉินมู่! เธอทำอะไรลงไป? บ้าไปแล้วใช่ไหม?!”

เฉินมู่หยิบโทรศัพท์ออกมา ถ่ายรูปทั้งคู่เสียงดังแชะอยู่หลายรูป พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เดี๋ยวจะเขียนเรื่องจริงของพวกเธอสองคน และกระจายข่าวให้คนทั้งเมืองปินไห่ได้เห็นว่าพวกเธอทั้งสองรักกันมากแค่ไหน”

“เฉินมู่! คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?” ลู่ซีเจ๋อรีบดึงผ้าห่มมาขึ้นมาปิดร่างของทั้งคู่พลันด่าทอ “นี่คุณเป็นพวกชอบเปิดโปงหรือไง? มีใครที่ไหนเขาถ่ายเรื่องแบบนี้เก็บไว้บ้าง!”

เฉินมู่เลิกคิ้วมองเฉินชิงเสวี่ย “ฉันเป็นพวกเปิดโปงหรือเปล่า ชิงเสวี่ยรู้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นฉันคงจะไม่ถูกส่งไปอยู่ในกรงหรอก!”

“กรง? กรงอะไร?” ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้วถาม

เฉินมู่ยังไม่ทันได้ตอบกลับ เฉินชิงเสวี่ยก็รีบพูดตัดบททันที “พี่คะ ฉันผิดไปแล้ว! ฉันไม่สมควรที่จะอยู่กับลู่ซีเจ๋อ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ!”

พูดไปก็ปาดน้ำตาไป เธอทำทีลุกจากเตียงไปสวมรองเท้า ทว่าลู่ซีเจ๋อกลับดึงรั้งเธอไว้ด้วยความเจ็บปวด ร่างสูงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “เฉินมู่! มีเรื่องอะไรก็มาลงกับผม! หยุดทรมานเสวี่ยเอ๋อได้แล้ว เป็นผมเองที่ยืนกรานจะอยู่กับเธอ เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย!”

เฉินมู่ไม่ได้โต้แย้ง เธออมยิ้มน้อย ๆ ก่อนเอ่ย “ฉันเคยพูดไปแล้ว เรื่องที่พวกเธอจะอยู่ด้วยกัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน เพียงแต่ครั้งต่อไปช่วยปิดประตูให้มันดี ๆ ก่อนแล้วค่อยขึ้นเตียง ไม่อย่างนั้นคนทั้งตระกูลเฉินคงได้ยินเสียงครางของพวกเธอทั้งคู่ พวกเธอไม่อายเหรอ ฉันละวุ่นวายใจจริง ๆ”

หลังจากนั้น เฉินมู่ก็หมุนกายสามเท้าออกไปจากห้องแล้วปิดประตูดัง “ปัง”

ลู่ซีเจ๋อชะงักไปนานมาก เสียงทุ้มถามเบา ๆ “เมื่อกี้ไม่ได้ปิดประตูเหรอ?”

เฉินชิงเสวี่ยเริ่มรู้สึกน้อยใจขึ้นมา “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ! ซีเจ๋อ นี่คุณไม่เชื่อฉันเหรอ? เธอจงใจเปิดประตูเข้ามาหาเรื่องชัด ๆ!”

พอเฉินชิงเสวี่ยร้องไห้ ลู่ซีเจ๋อก็หายโกรธแล้วปลอบคนในอ้อมกอดอยู่นานกว่าจะสงบลง เขาไม่ติดใจอะไรอีก ได้แต่รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อออกจากตระกูลเฉินในเวลาต่อมา

เฉินมู่เดินตรงไปยังห้องทำงานของเฉินลี้ซาน สมบัติของแม่ จะให้ขายไปไม่ได้เด็ดขาด!

ภายในห้องทำงาน เฉินลี้ซานกำลังมองรายงานบนโต๊ะ ซู่หรูหลานยืนอยู่ที่ด้านหลังพร้อมบีบนวดไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “บริษัทนั่นขายไปจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอคะ? เสี่ยวมู่อาจจะเสียใจได้นะคะ?”

เฉินลี้ซานขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ “เธอมีสิทธ์อะไรมาต้องเสียใจ? นี่ไม่ใช่บริษัทของแม่เธอคนเดียวสักหน่อย! หากไม่มีฉันคอยลำบากประคับประคองมาหลายปี บริษัทนี่ก็ล้มละลายไปตั้งนานแล้ว!”

“จะว่าไปมันก็ใช่ เสี่ยวมู่เป็นลูกสาวคนโตตระกูลเฉิน ควรจะตอบแทนตระกูลเฉินให้มันมาก ๆหน่อย!”

ทันใดนั้น เฉินมู่ก็เปิดประตูเข้าไปพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอบแทนอะไร? ชีวิตของแม่ มรดกทั้งหมด แล้วก็ยังชีวิตของหนู พวกคุณต้องการจะเอามันไปทั้งหมดเลยใช่ไหม?”

เฉินลี้ซานเอนหลังพิงเก้าอี้ เขามองเธออย่างรำคาญแวบหนึ่ง “เรื่องของผู้ใหญ่เกี่ยวอะไรกับลูกด้วย! ออกไปซะ!”

เฉินมู่หยิบรายงานหลายใบบนโต๊ะขึ้นมากวาดตามอง พลันยิ้มเยาะ “สามสิบล้าน...แม้แต่การประเมินมูลค่าตลาดก็ทำเรียบร้อยแล้ว? สินสอดที่แม่ทิ้งเอาไว้ให้ พ่อก็จะแอบเอาไปขายแบบนี้น่ะเหรอ?”

ซู่หรูหลานรีบพูดเสียงอ่อนออกมา “เสี่ยวมู่ ทำไมลูกถึงพูดกับคุณพ่อถึงแบบนี้ล่ะลูก...”

“ฉันกำลังคุยกับพ่อของฉัน ดังนั้น ช่วยหุบปากด้วย!” เฉินมู่มองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบ “คุณหญิงซู่ เก็บความคิดของคุณไปเถอะ! ฉันไม่อยากเห็นคุณแสดงบทแม่ศรีเรือนตอนนี้หรอกนะ!”

ซู่หรูหลานแทบจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา “เด็กคนนี้นี่...ยังจะทำเหมือนฉันเป็นคนนอกอีก!”

“เฉินมู่!” เฉินลี้ซานตบโต๊ะหนึ่งครั้งแล้วพูดด้วยความโกรธ “ขอโทษแม่แกเดี๋ยวนี้!”

เฉินมู่หัวเราะอย่างเย็นชา “แม่ของหนูตายไปตั้งสิบเก้าปีที่แล้ว จะไปขอโทษได้ยังไงกันคะ?”

ซู่หรูหลานดึงแขนของเฉินลี้ซานเอาไว้ ก่อนเอ่ยเสียงเบา “ที่รัก ช่างมันเถอะค่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต่อต้านฉัน ฉันเป็นผู้ใหญ่นะคะ จะไปถือสาอะไรเธอ...”

พอเฉินลี้ซานเห็นท่าทางน้อยอกน้อยใจของภรรยาก็ยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น “เฉินมู่! ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันเป็นคนที่ตัดสินใจทุกเรื่องในบ้านหลังนี้! แค่บริษัทพัง ๆ นี่ ฉันพูดแล้วว่าจะขายทิ้งก็คือต้องขายทิ้ง! อีกสามวันให้หลังจะเป็นวันทำการซื้อขาย! แม้ว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมามันก็ไร้ประโยชน์!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status