Share

บทที่ 18

Penulis: เฉียวเหมย
“คุณชายฮั่ว ฉันต้องการคลิปในห้องด้วย” น้ำเสียงของเฉินมู่นั้นเรียบเฉยและสงบนิ่ง

พลันมีเสียงถอนหายใจแผ่วดังออกมาจากโทรศัพท์ ฮั่วหยุนเซียวเอ่ยถาม “คุณเคยเรียนกังฟูมาก่อนหรือเปล่า?”

เฉินมู่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าตอบ “เคยเรียนค่ะ”

“เรียนกับใคร?” เสียงเข้มถามขึ้นอีกครั้ง

เฉินมู่ขมวดคิ้ว เรียนกับใครอย่างนั้นเหรอ?

เธอฝึกซ้อมอยู่ในค่ายที่แข็งแกร่งที่สุดของเคโจว ทั้งล้มลุกคลุกคลานมาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และพัฒนามาเรื่อย ๆ จนได้มายืนอยู่บนจุดสูงสุด

“เฉินมู่ คุณ...”

“ไม่มีใครหรอกค่ะ ฉันเรียนด้วยตัวเองจนชำนาญ” เฉินมู่บอกตัดบทเขา “คุณชายฮั่ว นี่คุณกำลังตรวจสอบฉันอยู่เหรอคะ?”

ฮั่วหยุนเซียวเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมกำลังทดลองทำความเข้าใจคุณอยู่”

ครั้งนี้ ฮั่วหยุนเซียวไม่ได้รอให้เฉินมู่ตอบกลับมา มือหนากดวางสายเสียงดัง “ตู้ด” ทันที

ทัศนคติของเธอมันชัดเจนมาก เฉินมู่แสดงให้เขารู้อย่างแจ่มแจ้งว่าไม่อยากโดนสืบข้อมูล

ใบหน้าหล่อบึ้งตึงพลางวางโทรศัพท์ลง

ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา เขาดูแลปกป้องเธอทุกอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันกลายเป็นว่า เฉินมู่ไม่ยอมบอกอะไรสักเลยคำ

กระทั่งถึงตอนนี้ คำที่เฉินมู่ใช้เรียกขานเขาล้วนเป็นคำพูดที่สุภาพและเป็นประโยคที่ห่างเหิน เช่น คุณชายฮั่ว

“ฮานเฉิง” ฮั่วหยุนเซียวเรียกผู้ช่วย “เลื่อนเวลาการตรวจสอบบริษัทขึ้นมา แล้วจองตั๋วเครื่องบินในคืนนี้เลย”

ฮานเฉิงชะงักไป ก่อนจะรีบพยักหน้าตอบ “ครับ บอส”

ฮั่วหยุนเซียวมองโทรศัพท์ที่หน้าจอดำสนิทบนโต๊ะ พร้อมปิดตาลงใช้มือนวดตรงหว่างคิ้ว

ชีวิตของเขาไม่ได้หมุนรอบแค่สาวน้อยคนนี้เพียงคนเดียว เขาต้องออกไปเคลื่อนไหว ทำให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่าเสียหน่อย

ยามที่เฉินมู่กลับมาถึงตระกูลเฉิน ทุกคนในบ้านล้วนหลับกันหมดแล้ว เธอกลับไปที่ห้องของตัวเอง ขาเรียวปีนขึ้นไปบนที่นอน ส่วนเรื่องใหญ่ที่คิดจะจัดการก็ค่อยว่ากันพรุ่งนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น พอเฉินมู่จัดเก็บของเข้าที่แล้ว ร่างบางก็ลงมาด้านล่าง เพียงครู่เดียว เฉินชิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ในห้องอาหารก็มองเห็นเธอ อีกฝ่ายตกใจสุดขีด พลันเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกักว่า “แก...ทำไมแก...”

เฉินมู่เบนสายตาขึ้นมองเธอ นัยตาฉายแววเย็นชา รูปแบบในการมองนี้...เหมือนกับว่ากำลังมองดูถูกเหยียดหยามคนตายอย่างใรอย่างนั้น ไม่นาน เฉินมู่ก็ตอบกลับเสียงเบา “น้ำผลไม้ของเธอมันล้นแล้ว”

เฉินชิงเสวี่ยก้มศีรษะมองน้ำผลไม้ของตัวเองที่ล้นออกจากปากแก้ว มันล้นไปทั่วบริเวณโต๊ะอาหารจนคนรับใช้ต้องรีบมาทำความสะอาดให้เธอ

เฉินชิงเสวี่ยหวีดร้องเสียงแหลม “แกกลับมาได้ยังไงกันเนี่ย!”

เฉินมู่ยิ้มออกมาจาง ๆ “นี่มันบ้านของฉัน ทำไมฉันจะกลับมาไม่ได้?”

“แต่ว่าแก...ไม่ใช่ว่าแก...” เฉินชิงเสวี่ยสับสนจนถึงขั้นพูดจาสลับไปมาไม่เป็นขั้นเป็นตอน

เธอเห็นเต็มสองตาว่าประธานจางให้คนเอายัยพี่สาวคนนี้เข้าไปในคฤหาสน์แล้วนี่ มันเป็นไปไม่ได้ที่ชายคนนั้นจะยอมเลิกรา แถมยังไม่จับหล่อนไปทรมานแล้วลอกผิวหนังชั้นนอกของหล่อนออกอีก เธอคาดไม่ถึงว่าเฉินมู่จะกลับมาแบบไร้รอยขีดข่วนอย่างนี้!

“เฉินมู่! แกยังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ? แต่ถึงแกจะกลับมา ซีเจ๋อก็ไม่ต้องการแกอยู่ดี!” เฉินชิงเสวี่ยถลึงตาพูด

เธอมั่นใจ เฉินมู่ที่โดนประธานจางเอาตัวไปแบบนั้น ไม่มีทางที่จะกลับมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บหรอก

ทว่าทั้งหมดนี่ ในสายตาของเฉินมู่มันก็เป็นแค่การใช้ชื่อของผู้อื่นเพื่อข่มขู่เธอเท่านั้น

เฉินมู่เลิกคิ้วมองตอบโต้ด้วยแววตาเชือดเฉือนดั่งกระบี่เล่มคม ริมฝีปากยกยิ้มเหยียด “ชิงเสวี่ย เราทั้งคู่ต่างเป็นคนตรง ๆ ที่จะไม่พูดลับหลังกัน ในเมื่อเธอประกาศศึกออกมาแบบนี้ ฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ”

“แก...แกหมายความว่าอะไร” เฉินชิงเสวี่ยเริ่มพูดจาติดขัด

พลันเฉินมู่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วสาดน้ำในแก้วทั้งหมดใส่หน้าของเฉินชิงเสวี่ย พลางแย้มยิ้ม “ก็หมายความว่า เธอตายแน่”

“ทุก ๆ อย่างของตระกูลเฉิน ฉันไม่ยอมยกมันให้เธอหรอก บริษัท ทรัพย์สิน รวมทั้งฐานะและอำนาจ อย่าคิดว่าจะเอามันไปได้ง่าย ๆ!”

“เฉินมู่! แก...” เฉินชิงเสวี่ยร้องเสียงแหลม

เฉินมู่โบกมือ พร้อมใช้นิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของตัวเอง ร่างบางส่งเสียง “ชู่” ออกมาเบา ๆ ก่อนเอ่ย “อย่าเพิ่งรีบโหวกเหวกไปสิ วางใจเถอะ ฉันจะยังไม่ฆ่าเธอตายในวันนี้หรอก ฉันยังมีเวลาอีกมาก พวกเรา ค่อย เป็น ค่อย ไป ก็แล้วกัน!”

พูดจบเฉินมู่ก็หมุนตัวออกไปจากห้องอาหารทันที ทว่าเฉินชิงเสวี่ยกลับยังตกใจในท่าทางของเฉินมู่จนยื่นอึ้งอยู่กับที่ คนที่น่าเกรงขามเมื่อสักครู่นี้คือเฉินมู่อย่างนั้นเหรอ? นั่นมันนางมารร้ายชัด ๆ!

เฉินชิงเสวี่ยนั่งไม่ติดอีกต่อไป เธอรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าไปในห้องนอนของซู่หรูหลานอย่างว่องไว

ซู่หรูหลานที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้งชะงักไป เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเฉินชิงเสวี่ย คนเป็นแม่จึงถามด้วยความเป็นห่วง “อะไรกันเนี่ยชิงเสวี่ย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

“แม่คะ แม่ช่วยหนูด้วย! เฉินมู่มันจะฆ่าหนู!” เฉินชิงเสวี่ยตะโกนออกมา

ซู่หรูหลานรีบดึงตัวเฉินชิงเสวี่ยมาปลอบขวัญ “ชิงเสวี่ย ลูกพูดเรื่องอะไรอยู่? นังเฉินมู่คนใสซื่อคนนั้นจะไปฆ่าลูกได้ยังไง?”

“มันกลับมาแล้ว!” เฉินชิงเสวี่ยพูดอย่างอกสั่นขวัญหาย “ถึงแม้ว่าบนตัวมันจะมีบาดแผลอยู่บ้าง แต่ว่ามันกลับมาแล้วค่ะ! แถมยังขู่จะฆ่าหนูอีกด้วย!”

พอได้ยินว่าเฉินมู่กลับมาแล้ว ซู่หรูหลานก็เบิกตากว้างตกใจ ก่อนจะตั้งสติแล้วผู้เป็นลูก “ลูกพูดว่ามันได้รับบาดเจ็บกลับมาเหรอ?”

เฉินชิงเสวี่ยพยักหน้า “บาดแผลเต็มตัวมันไปหมดเลยค่ะ หนูเห็นมาแล้ว บนมือ บนหน้า แล้วก็บนแขนก็มีแต่รอยแผล บางจุดยังพันผ้าพันแผลไว้อีกด้วย มองแล้วน่าตกใจเอามาก ๆ เลยค่ะ!”

“แม่คะ แม่พูดเองไม่ใช่เหรอว่าคุณประธานจางนั่นเป็นพวกซาดิสม์ แล้วทำไมมันถึงได้กลับมาเร็วนักล่ะ? แถมยังดุดันกว่าเดิมด้วย!”

หรูหลานดึงลูกสาวเข้ามาในอ้อมกอดพลางเอ่ยปลอบ “ลูกวางใจเถอะ ในเมื่อมันตกอยู่ในกำมือของประธานจางเรียบร้อยแล้ว แม้มันจะกลับมาได้ มันก็ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป!”

เฉินชิงเสวี่ยยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น “แม่คะ แม่ต้องช่วยหนูนะ คราวนี้อย่าให้ยัยเฉินมู่มันรอดไปได้อีกนะคะ!”

“ตั้งแต่หลอกมันไปที่โรงแรมในคราวก่อน มันก็ยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้นทุกวัน สองวันก่อนมันก็สมคบคิดกับบอสฮั่วอย่างออกหน้าออกตา ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ยังจะมีพื้นที่ตรงไหนในตระกูลเฉินเหลือให้พวกเรายืนหยัดได้อีกล่ะคะ?”

ซู่หรูหลานพยักหน้าพร้อมวางแผนในใจ สมควรที่จะกำจัดยัยเด็กใสซื่อนั่นทิ้งจริง ๆ มิฉะนั้นสมบัติของตระกูลเฉินก็จะต้องมีส่วนของเฉินมู่เข้ามาแทรกระหว่างเราสองแม่ลูกไปตลอด!

หญิงวัยกลางคนหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วยัดใส่มือของเฉินชิงเสวี่ย

“ลูกลองไปสอบถามประธานจางว่าลูกต้องการคลิปวิดีโอดูสิ ความน่าขยะแขยงของผู้ชายคนนี้เป็นที่รู้กันดีในวงการ ทุกครั้งที่ทำเรื่องสกปรกโสมมจะต้องอัดวิดีโอเอาไว้แน่!”

เฉินชิงเสวี่ยรีบส่งข้อความไปยังวีแชทส่วนตัวของประธานจางจนนิ้วแทบพันกัน รอไม่นานก็มีการตอบกลับ มันเป็นแค่วีดิโอเพียงเจ็ดวินาที

ในคลิป เฉินมู่หมดสติอยู่ในกรงขังสัตว์ ไม่นานประธานจางที่ท่อนบนเปลือยเปล่าก็เดินเข้ามาในห้อง

พอเฉินชิงเสวี่ยได้เห็นคลิปก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น “แม่คะ! อันนี้ได้ไหม?”

ซู่หรูหลานพยักหน้าอย่างลังเล “ก็ได้อยู่ แต่ที่จริงแล้วจะให้ประธานจางส่งมาให้ดูทุกขั้นตอนก็คงไม่ได้ ไม่งั้นตัวเขาเองก็จะขายหน้า อย่างน้อย นี่ก็เป็นการพิสูจน์ว่านังเฉินมู่มันสกปรกแล้วจริง ๆ!”

เฉินชิงเสวี่ยได้หลักฐานที่ตัวเองต้องการแล้ว พอตั้งสติได้และนึกถึงท่าทางของเฉินมู่ที่เหมือนกับเทพสังหารเมื่อครู่นี้ ร่างกายก็ค่อย ๆ ตัวสั่นระริกอีกครั้ง “แม่คะ ในเมื่อเรื่องนี้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว อย่างนั้นเรามาลองทำให้มันดูสมจริงขึ้นอีกหน่อยดีไหมคะ!”

“เมื่อเวลานั้นมาถึง ทุกคนในสังคมชั้นสูงของเมืองปินไห่ก็จะรู้ว่าเฉินมู่น่ะเป็นนางแพศยาที่ไม่ระมัดระวังตัว! แล้วเสียงวิจารณ์พวกนั้นก็จะทำให้มันจบเห่!”

เฉินชิงเสวี่ยคิดว่า แค่รอให้เรื่องนี้กระจายออกไป ชีวิตของเฉินมู่ก็จบแล้ว เธอก็แค่ใส่ไฟไปตอนกระจายข่าวไม่กี่ครั้ง ตระกูลลู่จะต้องเขี่ยเฉินมู่ทิ้งอย่างแน่นอน!

และจะดีที่สุดถ้าคุณปู่กับคุณพ่อไล่มันออกจากบ้านด้วย ทำให้มันไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไป!

เธอจะต้องเอาคืนฝ่ามือที่ตบลงมาบนใบหน้านี่อย่างสาสม!

ตัดภาพมาที่ชั้นบนของบ้าน เฉินมู่ยังอยู่ในห้อง

เธอมองไปยังโทรศัพท์ที่ขึ้นเตือนว่าส่งวิดีโอสำเร็จแล้วยกยิ้มที่มุมปาก แม้แต่รอยแผลเป็นที่น่ากลัวก็ไม่สามารถบดบังรอยยิ้มอันแสนงดงามทว่าร้ายกาจของเธอได้

เธอไม่เคยกลัวการท้าทาย สองแม่ลูกคู่นี้อยากจะเล่นกับเธอจนกว่าจะพ่ายแพ้ให้ชื่อเสียงพังยับเยินไปเลยใช่ไหม อย่างนั้นเธอจะเล่นด้วยจนจบเอง!
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status