Share

บทที่ 20

Penulis: เฉียวเหมย
“ฉึก” เฉินมู่ฉีกกระดาษหลายแผ่นในมือออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมใช้สายตาแข็งกระด้างดุจเหล็กเหลือบมองคนเป็นพ่อ “เชื่อเถอะค่ะ ของของหนู ใครก็คว้ามันไปไม่ได้!”

พูดจบก็หมุนตัวออกจากห้องทำงาน ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

สามสิบล้าน!

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอต้องหาเงินสามสิบล้านให้ได้ภายในสามวัน ถึงจะสามารถเอาสมบัติที่แม่ทิ้งไว้ให้กลับมาได้!

“เสี่ยวมู่!” ซู่หรูหลานตามออกมาแล้วปิดประตูห้องทำงานอย่างเบามือ

เฉินมู่หันหน้ามองไปที่เธอ

ซู่หรูหลานไม่ได้ดูอ่อนโยนอีกต่อไป สีหน้าท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความสะใจ เธอยิ้มจนตาหยี “ได้ยินพ่อของเธอพูดแล้วนะ? บ้านหลังนี้ เขาเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง!”

“พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนเป็นของชิงเสวี่ย รวมทั้งสมบัติที่แม่แกทิ้งไว้ด้วย! แต่จู่ ๆ แกก็อยากจะเรียกร้องขึ้นมา? เพ้อเจ้อ!”

ดวงตาที่สุกใสคู่นั้นของเฉินมู่สบเข้ากับสายตาเหยียดหยามของหล่อน ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้น “จริงเหรอ? ฉันจะคอยดูก็แล้วกัน!”

ตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะกินมื้อดึกอีกต่อไปแล้ว ขาเรียวจึงตรงกลับไปที่ห้องนอนทันควัน

การเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า อีกทั้งครอบครัวที่ไม่แยแส ทำให้จู่ ๆ ก็คิดถึงผู้ชายคนนั้นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ เขามักจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสมอ

ร่างเล็กขมวดคิ้ว ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ดูเหมือนวันนี้ฮั่วหยุนเซียวจะเงียบหายไปเลยทั้งวัน

ตั้งแต่ได้พบกับผู้ชายคนนี้ ฮั่วหยุนเซียวมักจะมาแวะเวียนรอบตัวเธอทุกวัน แต่ว่าวันนี้ พอเธอวางสายจากฮั่วหยุนเซียว เขาก็ไม่ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกเลย

บางครั้ง เธอก็ไม่สามารถปฏิบัติต่อฮั่วหยุนเซียวอย่างตรงไปตรงมาได้ แต่ถ้าจะให้ทำ เธอจะแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาได้อย่างไรล่ะ?

จะให้บอกเขาว่า ฉันไม่ใช่เฉินมู่นะ และไม่ได้เป็นคนเมืองปินไห่ แต่ฉันเป็นเพียงนักฆ่าที่ตายไปแล้วได้ชีวิตใหม่มาแบบนี้เหรอ?

เฉินมู่ลูบหน้าลูบตาตัวเอง ตอนนี้เรื่องที่เธอต้องเครียดคือการเก็บกวาดตระกูลเฉิน แล้วเปิดโปงคนทรยศตัวจริงของเคโจวต่างหาก!

ณ ปัจจุบัน บนเที่ยวบินที่กำลังบินไปเมืองซี

ฮั่วหยุนเซียวหลับตาพักผ่อนพลางฟังรายงานจากฮานเฉิง

“เฉินมู่ เกิดที่โรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเมืองปินไห่ ปีนี้อายุยี่สิบสองปี ส่วนสูงร้อยหกสิบแปด น้ำหนักสี่สิบแปดกิโลกรัม เลือดกรุ๊ปเอ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สาม ภาควิชาเขียนบทและกำกับการแสดง ผู้ชายคนเดียวที่เคยคบด้วยคือลู่ซีเจ๋อ...”

“ฉันไม่อยากรู้ประวัติความรักของเธอ” ฮั่วหยุนเซียวขมวดคิ้ว

ฮานเฉิงจึงพลิกหน้ากระดาษอย่างเงียบ ๆ แล้วรายงานต่อ

“ภายใต้ชื่อของคุณหนูเฉิน มีบริษัทนายหน้าซิงหยูอยู่ในครอบครอง เป็นสมบัติของคุณนายเฉินที่เสียไปแล้วทิ้งไว้ให้เป็นสินสอด แต่ช่วงนี้มีข่าวลือออกมาว่าเฉินลี้ซานต้องการที่จะขายบริษัทนี่ทิ้งเพื่อช่วยให้เฉินกรุ๊ปผ่านวิกฤตการทางเศรษฐกิจครับ”

ฮั่วหยุนเซียวหันหน้าไปมองท้องฟ้าสีครามที่ด้านนอกหน้าต่าง คิดถึงหญิงสาวที่วางสายใส่เขาอย่างเย็นชา นี่อาจเป็นหญิงสาวไร้เดียงสาเพียงคนเดียวในชีวิตที่กล้าตัดสายเขา

บังเอิญว่าตอนนี้เขายังไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เพราะตามข้อมูลที่ฮานเฉิงพบนั้น เฉินมู่...มีชีวิตที่โหดร้ายจริง ๆ แม้แต่เพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เยาว์วัยก็ถูกน้องสาวแย่งเอาไป

“ซื้อมาซะ” ฮั่วหยุนเซียวพูดนิ่ง ๆ

ฮานเฉินตกตะลึง “ซิงหยูหรอครับ? ซื้อ? บอสครับ บริษัทเล็ก ๆ นั่นมีการบริหารการจัดการที่แย่มาก ปัจจุบันสัญญาที่เหลืออยู่ก็มีแค่ดารานักแสดงตัวเล็ก ๆ สี่ห้าคน แล้วยังเป็นหนี้นอกระบบอยู่บางส่วน ไม่มีอะไรคุ้มที่จะให้ลงทุนเลยนะครับ”

ฮั่วหยุนเซียวชำเลืองมองแวบหนึ่ง “นายนี่พูดมากจริง ฉันบอกให้ซื้อมา”

เพียงครู่เดียวฮานเฉิงก็เข้าใจความหมายที่บอสตัวเองจะสื่อ บริษัทเล็ก ๆ แค่บริษัทเดียว มันคุ้มที่จะให้ฮั่วหยุนเซียวไปสนใจที่ไหน มันก็แค่เป็นการทำเพื่อเฉินมู่!

เขากระแอมไอออกมาเบา ๆ รู้สึกว่าตัวเองกำลังนินทาคนอื่นอยู่

“บอสครับ หลังจากที่ซื้อมาแล้ว...ชื่อเจ้าของบริษัทจะให้เขียนเป็นชื่อคุณ หรือว่าเขียนเป็นชื่อของคุณหนูเฉินครับ?”

ฮั่วหยุนเซียวมองไปยังฮานเฉิงแล้วถาม “ฮั่วกรุ๊ปวางแผนที่จะเปิดเหมืองที่แอฟริกา นายอยากไปเป็นคนคุมงานไหม?”

ฮานเฉิงส่ายหน้าทันที “ผมจะทำเรื่องจัดการซื้อ!”

สองวันถัดมา ในที่สุดวันเกิดของเฉินชิงเสวี่ยก็มาถึง

ตระกูลเฉินรักและเอ็นดูเฉินชิงเสวี่ยที่เป็นบุตรสาวคนเล็กมาโดยตลอด ปีนี้เป็นปีที่เธออายุครบยี่สิบปีเต็ม งานเลี้ยงวันเกิดถูดจัดขึ้นอย่างใหญ่โต แค่ชุดที่ใส่ในงานเลี้ยงของเฉินชิงเสวี่ยก็สั่งมาแล้วตั้งสามชุด

งานเลี้ยงวันเกิดถูกเลือกให้จัดที่โรงแรมในเคลือของลู่กรุ๊ปแบบเหมาห้องจัดเลี้ยงทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าลู่ซีเจ๋อรักเฉินชิงเสวี่ยมากเพียงใด

ที่ห้องของซู่หรูหลาน เฉินชิงเสวี่ยกำลังลองเครื่องประดับที่แม่เตรียมไว้เพื่อเธอ

เธอมองตัวเองในกระจกพร้อมชื่นชมงดงามบริสุทธิ์ของตน เธอยิ้มกว้าง “แม่คะ ซีเจ๋อตอบตกลงกับหนูแล้วด้วย งานเลี้ยงวันเกิดในครั้งนี้ เขาจะประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่าหนูเป็นคู่หมั้นของเขา!”

ซู่หรูหลานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ลูกวางใจเถอะ ฝั่งของแม่ได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว งานเลี้ยงวันเกิดในครั้งนี้ มันไม่ได้เป็นแค่การทำให้ลูกได้ตำแหน่งลูกสะใภ้ตระกูลลู่มาอย่างมั่นคงเท่านั้นหรอกนะ ยังเป็นการเก็บกวาดนังเฉินมู่ออกไปจากตระกูลอีกด้วย!”

ของพวกนี้น่ะ เพียงพอที่จะทำให้ชื่อเสียงของมันป่นปี้!

แค่เฉินชิงเสวี่ยนึกถึงตอนที่เฉินมู่ทำท่าทางน่าสมเพชแบบนั้นก็มีความสุขแล้ว!

ตั้งแต่เด็กจนโต ในสายตาของเธอ เฉินมู่ยังเทียบกับสุนัขไม่ได้ด้วยซ้ำไป

เดิมทีเธอรู้สึกว่าการแบ่งข้าวให้เฉินมู่กินมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เฉินมู่ดันคิดฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะแข่งกับเธอ งั้นเธอก็จะกำจัดมันออกไป! ดูสิว่ามันจะกำเริบเสิบสานอะไรได้อีก!

ตอนเย็น เฉินมู่เปลี่ยนชุดตามใจชอบแล้วปกปิดรอยแผลเป็นบนใบหน้า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้วจึงหามุมหนึ่งนั่งลง

วันนี้เฉินชิงเสวี่ยเป็นตัวละครหลัก เธอแค่คอยดูละครอย่างเงียบ ๆ ก็พอ

เฉินชิงเสวี่ยยืนอยู่กับซู่หรูหลาน ทั้งคู่ต้อนรับแขกที่ประตูทางเข้าราวกับราชินีและเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่คอยรับคำชมจากทุกคน

“คุณหนูเฉินสวยจริง ๆ คุณนายเฉินนี่โชคดีมากเลย!”

“คุณนายเฉินดูแลตัวเองแบบนี้ ดูไม่เหมือนคนที่มีลูกสาวโตขนาดนี้เลยนะคะเนี่ย?”

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณนายเฉินสวยขนาดนี้ จะคลอดลูกสาวสวย ๆ แบบนี้ออกมาได้อย่างไร”

“ชิงเสวี่ยสวยออกปานนี้ ใครจะไปคิด ว่าชิงโหรวลูกสาวคุณโตของคุณนายเฉินจะเป็นดาราดังในวงการบันเทิง!”

เสียงชมเชยดังไม่ขาดสาย ทว่าเฉินชิงเสวี่ยกลับตะโกนเสียงดังขึ้นหนึ่งประโยค “พี่คะ มานี่สิ!”

ประโยคนี้ทำให้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เฉินมู่

เฉินชิงเสวี่ยเดินเข้าไปหา เธอยกมือขึ้นรวบผมยาวที่คลุมใบหน้าด้านข้างของเฉินมู่ออก พลางกระซิบ “พี่คะ เดี๋ยวฉันช่วยใช้คอลซีลเลอร์กลบให้ พี่อย่าขี้อายนักเลย...”

สิ่งที่เรียกว่าการอำพราง กลับถูกเปิดเผยคุณหญิงคุณนายสูงศักดิ์หลายคนเห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเฉินมู่ พวกหล่อนทำตาโต อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “นี่...คนนี้ คือ?”

ซู่หรูหลานยิ้มแล้วพูดตอบอย่างเหมาะเจาะ “นี่คือลูกสาวคนโตของตระกูลเรา น่าอายจริง ทำให้ทุกท่านต้องหัวเราะเลยนะคะเนี่ย”

แขกเหรื่อต่างเผยรอยยิ้มที่เข้าอกเข้าใจ แต่กลับไม่ชายตามองเฉินมู่สักนิด ถึงอย่างไรรอยแผลเป็นที่ถูกเปิดเผยออกก็ทำให้ผู้คนตื่นตกใจจริง ๆ

เฉินชิงเสวี่ยคล้องแขนเฉินมู่และพูดยิ้ม ๆ “เฉินมู่ เห็นสถานะของตัวเองชัดพอหรือยัง? แกมันอัปลักษณ์จริง ๆ!”

เฉินมู่ชักแขนออกมาพลันยิ้มตอบ “เฉินชิงเสวี่ย เธอยังรนหาที่ตายอย่างต่อเนื่องจริง ๆ แต่ฉันไม่ถือสาเธอหรอกนะ”

ถูกเยาะเย้ยมาจนถึงจุดนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่าเฉินมู่จะโกรธเคืองเลยสักนิด เจ้าตัวหมุนกายไปนั่งอยู่ที่มุมห้องแล้วตีสีหน้าเรียบเฉย

เฉินชิงเสวี่ยขบฟันไปมา เธอไม่เชื่อหรอก! รออีกเดี๋ยวให้เฉินมู่เห็นรูปของตัวเองก่อนเถอะ ยังจะสามารถสงบสติอารมณ์แบบนี้ได้อยู่อีกไหม!

งานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการโดยมีเฉินชิงเสวี่ยและลู่ซีเจ๋อเต้นรำเป็นการเปิดงาน ชายรูปงามและสาวสวยไถลตัวเข้าไปในฟลอร์เต้นรำและวาดลวดลายได้อย่างปราดเปรียวราวกับอยู่ในเทพนิยาย

ทว่าเฉินมู่กลับควบคุมหัวใจดวงน้อยที่อยู่ในร่างนี้ได้นานแล้ว เธอแทนชื่อของตัวเองเข้าไปเพื่อควบคุมการทำงานของร่างกาย แค่นี้ก็สามารถจัดการหัวใจได้แล้ว อย่าได้อะไรนิดอะไรหน่อยก็เจ็บปวดขึ้นมาอีกล่ะ

“คุณหนูเฉิน” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นเหนือศีรษะ เฉินมู่เงยหน้าขึ้นมอง ที่แท้ก็คือโอวจิน!

ร่างบางพยักหน้าทักทายเล็กน้อย “คุณหมอโอว เชิญนั่งค่ะ”

โอวจินถือแก้วไวน์พลางนั่งลงข้างเธอ “เธอยั่วยุคุณแบบนั้น คุณทนไหวเหรอ?”

เฉินมู่ยิ้ม “ฉันคงไม่ใจแข็งพอที่จะฆ่าเธอต่อหน้าสารธารณชนหรอกมั้งคะ?”

โอวจินขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วลดเสียงถาม “คุณไม่ได้ฆ่าหมาล่าเนื้อของประธานจางจนตายด้วยมือเปล่าใช่ไหม?”

เฉินมู่ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับไป “คุณหมอโอวคะ ความสามารถในการป้องกันตัวเองไม่ใช่เหตุผลที่พวกคุณควรจะสงสัยนะคะ”

เธอเคยให้ความไว้ใจในสนามรบ แต่ก็ตายเพราะความไว้วางใจนั่น จนวันนี้ได้มาเกิดใหม่ เธอก็ไม่อยากทนกับสายตาขี้สงสัยแบบนั้นอีกแล้ว

มือเรียวหยิบแก้วน้ำมะนาวขึ้นมาแล้วเดินออกมาจากที่นั่ง

ไม่นาน หญิงสาวคู่ขาของโอวจินก็รีบเดินบิดเอวส่ายสะโพกเข้ามาหาเขา หล่อนซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดของชายหนุ่มแล้วพูดอย่างออดอ้อน “คุณชายโอวคะ คุณคงไม่ได้สนใจผู้หญิงตระกูลเฉินคนนั้นหรอกใช่ไหม? เธอถูกตระกูลลู่ถอนหมั้น พูดไปแล้วก็ มันจะดูไม่ดีเอานะคะ!”

โอวจินชะงักไป “ถอนหมั้น? ถอนหมั้นอะไร?”

หญิงสาวคู่ขาม้วนผมไปมา ทำทีมุ่ยปากไปทางเฉินชิงเสวี่ย “นู่น เฉินชิงเสวี่ยน่ะเป็นดั่งดวงใจของลู่ซีเจ๋อ คนวงในเขาก็รู้กันทั้งนั้น เห็นว่าคืนนี้จะขอแต่งงานด้วยล่ะ! คืนนี้คุณหนูคนโตของตระกูลที่หน้าเสียโฉมจะต้องร้องไห้หนักมากแน่ ๆ!”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status