แชร์

บทที่ 21

ผู้เขียน: เฉียวเหมย
โอวจินตกตะลึงอยู่นาน แม้ว่าทักษะของเฉินมู่จะเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่ก็ยังเป็นคนที่ฮั่วหยุนเซียวชื่นชอบอยู่ดี แต่เธอก็ไม่ควรถูกคนที่นี่กลั่นแกล้งหรือเปล่าล่ะ?

ก่อนที่เขาจะมีเวลาคิดหาทางแก้ไข ก็มีเสียงโห่ร้องมากมายบนฟลอร์เต้นรำดังขึ้นแทรก พร้อมคำพูดเย๊าะเย้ยของหญิงสาวในอ้อมกอดที่ดังเข้าหู “ลู่ซีเจ๋อและเฉินชิงเสวี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากนะคะ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ต้องจูบให้ดูแล้วแหละ”

กลุ่มคนผลักเฉินชิงเสวี่ยกับลู่ซีเจ๋อไปให้เขยิบไปใกล้กัน แถมยังตะโกนโห่ร้อง “แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย!”

เฉินชิงเสวี่ยกอดแขนของลู่ซีเจ๋อด้วยท่าทางเขินอาย แล้วตอบกลับ “พวกเธออย่าพูดซี้ซั้วสิ เสียงดังน่ารำคาญจะตาย…”

ลู่ซีเจ๋อมองดูท่าทางเขินอายของเฉินชิงเสวี่ยโดยไม่ตา จากนั้นก็จูบหล่อนที่บนใบหน้า ก่อนที่จะตะโกนตอบ “พอแล้ว พอแล้ว! เดี๋ยวจะประกาศให้รู้อย่างเป็นทางการเอง!”

ในห้องจัดเลี้ยง ซู่หรูหลานก้าวขึ้นไปบนเวที หล่อนกระแอมเป็นเชิงขอพูดเปิดงาน “วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของชิงเสวี่ย ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้แบ่งปันความสุขให้กับทุกคนค่ะ! เราทั้งสองตระกูลได้ตัดสินใจกันแล้ว ชิงเสวี่ยและลู่ซีเจ๋อลูกชายคนเดียวของตระกูลลู่ได้เลือกวันหมั้นกันไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนการ์ดเชิญก็จะถูกส่งถึงมือของทุกท่านในเร็ว ๆ นี้นะคะ!”

มีเสียงปรบมือดังสนั่นจากผู้คนในงานเลี้ยง เฉินชิงเสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างลู่ซีเจ๋ออย่างเขินอายมองไปยังเฉินมู่ที่ไม่สนใจอะไร พลันนัยน์ตาของเธอก็ส่องประกายด้วยชัยชนะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่ว่าเฉินมู่จะมีเล่ห์กลอะไร ลึก ๆ แล้วยัยนั่นคงไม่อยากเห็นพวกเขาแต่งงานกันหรอกใช่ไหม?

เฉินชิงเสวี่ยขยิบตาให้เพื่อนสนิทในฝูงชน มีคนคนหนึ่งเปล่งเสียงเอ่ยถามดังลั่น “ฉันได้ยินมาว่าคุณหนูเฉินคือคนได้สัญญาการแต่งงานกับคุณชายลู่ไม่ใช่เหรอ?!”

สีหน้าของเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนไปทันที เธอทำทีเหลือบมองลู่ซีเจ๋ออย่างไม่พอใจ จากนั้นค่อยมองไปที่เฉินมู่ เธอเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา “พี่สาว…”

เฉินชิงเสวี่ยคิดว่า การที่พวกเขาประกาศหมั้นในที่สาธารณะจะทำให้เฉินมู่คนงี่เง่าคนนี้ไม่สามารถรบกวนลู่ซีเจ๋อได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน

และในเวลานั้น เธอคิดจะแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับความสกปรกของเฉินมู่! อีกทั้งยังต้องการทำให้เฉินมู่อับอาย เพื่อผลักไสไล่ส่งออกจากบ้าน!

“ใช่ ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน พวกเขาสองคนรักกันไม่ใช่เหรอ?”

“แม่ของเฉินมู่ที่ล่วงลับไปแล้วเป็นคนตัดสินใจไว้ แต่แล้วทำไมตอนนี้คนที่หมั้นถึงกลายเป็นเฉินชิงเสวี่ยได้ล่ะ?”

“เฉินชิงเสวี่ยเป็นเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย! อีกทั้งยังสวยมาก แต่งงานกับหล่อนต้องดีกว่าเฉินมู่แน่นอน!”

“ถูกต้อง เฉินมู่หล่อนเองก็ไม่พูดอะไร พอมองดูชัด ๆ แล้วรอยแผลเป็นบนใบหน้าของหล่อนก็ดูน่ากลัวนะ”

โอวจินมองไปทางฝั่งเฉินมู่ที่กำลังนั่งอยู่นอกฝูงชน มีสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนมองมาที่เฉินมู่ราวกับดาบคม

เขาทนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความถึงฮั่วหยุนเซียว “ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินกับตระกูลลู่จะบังคับให้เฉินมู่ถอนหมั้นต่อหน้าสาธารณชนกลางงานเลี้ยงวันเกิดของเฉินชิงเสวี่ย”

“พี่...” เฉินชิงเสวี่ยดูเศร้าโศก และทำอะไรไม่ถูก

เฉินมู่เอนตัวลงบนโซฟาดูเฉินชิงเสวี่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า จากนั้นก็ถามเสียงเบา “ยังรู้สำนึกอยู่เหรอว่าฉันเป็นพี่สาวของเธอ?”

เฉินชิงเสวี่ยย่อตัวเข้าไปในอ้อมแขนของลู่ซีเจ๋อ พร้อมแสร้งว่ากลัวเล็กน้อย “พี่ ฉันกับซีเจ๋อ…”

“ที่นี่มีแต่เธอกับซีเจ๋อตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?” เฉินมู่กัดฟันพูดคำว่า “กับ” และพูดต่อว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด ลู่ซีเจ๋อกับฉันเรามีสัญญาการแต่งงานกัน ตอนนี้เรายังไม่ได้ถอนหมั้นกันเลย เธอจะหมั้นกับลู่ซีเจ๋อแล้วงั้นเหรอ? นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้วเนี่ย? เธอถึงได้กล้าขโมยกันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้?”

“เฉินมู่! หุบปาก!” ลู่ซีเจ๋อตะคอก “คนที่ผมรักคือเสวี่ยเอ๋อ ไม่ใช่คุณ! อีกอย่างผมจะไม่แต่งงานกับคุณด้วย! หยุดสร้างปัญหาซะเถอะ!”

มีการถกเถียงกันมากมายในหมู่ผู้คน เดิมทีได้ยินเพียงว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินไม่มีความรู้สึกอะไรเหลืออยู่แล้ว แต่วันนี้เธอกลับตบหน้าแม่เลี้ยงของตัวเองอย่าง ซู่หรูหลาน ต่อหน้าสาธารณชน ทำให้เกิดการขุ่นเคืองกันแม้กระทั่งตระกูลลู่เองด้วย คนพวกนี้จะมาแสดงละครอะไรกันเนี่ย? พี่น้องสองคนจับผู้ชายคนเดียวกันเหรอ?

เสียงดังเอะอะโวยวายเริ่มดังขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เฉินลี้ซานมาถึงที่นี่พอดี เมื่อเห็นฉากนี้เข้า เขาก็รู้สึกถึงความอับอายอย่างมาก จนต้องดุด่าเฉินมู่เสียงดัง “เฉินมู่ เลิกทำตัวน่าขายหน้าได้แล้ว! ไป กลับบ้านกับพ่อ!”

เฉินมู่เยาะเย้ยในใจ นี่คือพ่อของเด็กสาวแสนโง่เขลาที่พยายามเอาอกเอาใจหล่อนตลอดเวลา!

เห็นได้ชัดว่าเธอถูกแย่งชิงผู้คนอันเป็นที่รักของตัวเองไป อีกทั้งยังถูกทำร้าย แต่ผู้อาวุโสของตระกูลเฉินกลับต้องการให้เธอกลืนความโกรธที่มีต่อพวกเขาไว้เนี่ยนะ....

เพื่อนสนิทของเฉินชิงเสวี่ยที่ยืนข้างกันก็ช่วยพูดสนับสนุน “ชิงเสวี่ยกับคุณชายลู่อยู่ด้วยกัน คนวงในก็รู้กันหมด เธอไม่สามารถผูกใครไว้กับตัวได้เหมือนกับทารกหรอก ใช่ไหม? นอกซะจาก ตัวเธอเองไม่ได้มองกระจกเลยว่าควรหรือไม่คู่ควรกับคุณชายลู่ เป็นอย่างนั้นใช่ไหม?”

ในที่สุดเฉินมู่ก็วางน้ำมะนาวในมือลง แล้วเดินไปหาหล่อนพร้อมตอกกลับเสียงเย็น “คุณเป็นใครเหรอ?”

“ฉันคือจ้าวหรงเอ๋อ! ฉันเป็นสนิทของชิงเสวี่ย!” จ้าวหรงเอ๋อแสดงสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามออกมา เธอเป็นคนใหญ่คนโตที่รู้จักกันดีในแวดวงไฮโซ และเธอก็อยู่บนเส้นทางเดียวกันกับเฉินชิงเสวี่ย

เฉินมู่พยักหน้าถาม “คุณชอบลู่ซีเจ๋อเหรอ?”

“พูดอะไรไร้สาระ!” จ้าวหรงเอ๋อตะโกน “นั่นคือแฟนของชิงเสวี่ยนะ! ฉันจะโลภไปเอาแฟนเพื่อนได้ยังไงล่ะ! อย่าถ่มน้ำลายใส่คนอื่นได้ไหม!”

เฉินมู่ยิ้มเล็กน้อย แล้วถามกลับ “แล้วทำไมคุณถึงกังวลใจมากกว่าเฉินชิงเสวี่ยล่ะ? ฉันต่างหากที่โดนแย่งคนของฉันไป!”

“คุณ…”

“ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของคุณก็หุบปากซะ!” ดวงตาของเฉินมู่เย็นชา “คุณหนูจ้าว สัญญาเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของครอบครัว แม้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นต่อหน้าผู้คนสาธารณะ แต่ก็ยังเป็นเรื่องของครอบครัวอยู่ดี คนภายนอกไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยว!”

จ้าวหรงเอ๋อตกใจกับคำพูดของเฉินมู่จนทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรต่อ

จากนั้น เฉินมู่ก็หันไปถามลู่ซีเจ๋อ “เป็นเพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้าของฉันงั้นเหรอที่ทำให้คุณถอนหมั้น? แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนตัดสินใจที่จะถอนหมั้นเอง?”

ลู่ซีเจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เสี่ยวมู่ เราสองตระกูลได้ตัดสินใจถอนหมั้นแล้ว วันนี้พ่อของผมจะมาที่นี่ด้วย และตกลงเรื่องนี้ร่วมกัน ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร การแต่งงานจะต้องถูกยกเลิกแน่นอน! คุณไม่ต้องมาโวยวายแล้ว อย่างน้อยคุณก็ยังเหลือพื้นที่ให้กับใบหน้าตัวเองอยู่”

เฉินมู่เยาะเย้ย “ทั้งสองตระกูลตัดสินใจแล้วงั้นเหรอ? สัญญาการแต่งงานคือเรื่องระหว่างคุณกับฉัน คุณและทุกคนตัดสินใจแล้ว แต่กลับไม่ได้แจ้งให้ฉันทราบเลย สรุปแล้วว่าคนที่มีสัญญาการแต่งงานคือฉัน แม่เลี้ยงของฉัน? หรือพ่อของคุณกันแน่เหรอ?”

“เฉินมู่!” เฉินลี้ซานดุเธอ “หุบปากเดี๋ยวนี้!”

เฉินชิงเสวี่ยดีใจมากที่พ่อของเธอดุเฉินมู่ถึงสองครั้ง เรื่องนี้ตัดสินใจไปแล้ว แต่เฉินมู่ก็ยังคงคลั่งไคล้ในตัวของลู่ซีเจ๋อ ถึงแม้ว่าจะถอนหมั้นไปแล้วก็ตาม!

เฉินชิงเสวี่ยทำหน้าเศร้าขอโทษทันที “พี่คะ ฉันขอโทษสำหรับเรื่องนี้ ถ้าพี่ไม่พอใจอะไรก็บอกฉันมา อย่าไปตำหนิซีเจ๋อเลย…”

“เสวี่ยเอ๋อ คุณไม่ต้องขอโทษหรอก เรื่องนี้คุณไม่ผิด” ลู่ซีเจ๋อกอดเฉินชิงเสวี่ยอย่างเห็นใจ

โอวจินรีบส่งข้อความทางวีแชท “หยุนเซียว เฉินมู่จะเป็นเป้าหมายของสาธารณชนแล้ว นายจะสนหรือไม่สนห๊ะ!”

ทางฝั่งฮั่วหยุนเซียวนั้นใช้มือพิมพ์หาคำในโทรศัพท์ เขาไม่ได้ฟังรายงานของสถานการณ์ที่ตัวแทนสำนักงานรายงานเลย คำสักคำก็ไม่ได้ยิน ในหัวสมองตอนนี้มีแต่คำพูดของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้น

ในตอนนี้ เธอน่าจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างโดดเดี่ยว และไร้หนทางใช่ไหม?

เฉินมู่ยิ้มเหยียดพร้อมพูดเยาะเย้ย “แกรู้สึกเสียใจกับฉันงั้นสินะ แม้แต่คุณหนูจ้าวยังบอกเลยว่าฉันไม่ควรอยากได้สิ่งของของเพื่อนหล่อน แต่นี่เราเป็นพี่น้องกัน แกก็ยังกล้าคบหากับคู่หมั้นในอนาคตของฉัน ไหนพูดมาสิ ว่าแกรู้จักคำว่าไร้ยางอายบ้างไหม!”

เฉินชิงเสวี่ยกำลังจะร้องไห้ออกมา “แต่... แต่เธอก็เห็นชัดเจนแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับซีเจ๋อ และเธอเองต่างหากที่เป็นคนคุยกับผู้ชายคนอื่นก่อน…”

คำพูดที่ลังเลเหล่านี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนให้ตื่นขึ้นในพริบตา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status