ในเวลานี้จางเหยียนอี้เสียหลัก คุณชายและคุณนายลู่เสียหลัก ฉินเสิ่นและลู่หยวนก็เสียหลักด้วยเช่นกัน
จางเหยียนอี้คิดว่าตัวเองวางแผนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งสามารถแต่งงานกับตระกูลฉินเพื่อเป็นสะใภ้ และสามารถทำลายหลินซินได้ แต่ทำไม... ทางด้านฉินเสิ่นคิดว่าที่แผนการเป็นไปตามปกติทุกอย่าง แต่ทำไมผู้หญิงของตัวเองถึงได้ถูกพี่ชายร่วมสาบานหลับนอนด้วย
ส่วนลู่หยวนหมายมั่นปั้นมือว่าจะได้นอนกับสาวงาม แต่ทำไมตอนนี้ถึงต้องกลายเป็นผู้ชายที่หลับนอนกับว่าที่ภรรยาของฉินเสิ่นซึ่งเปรียบได้กับน้องสะใภ้ ผู้ใหญ่ทั้งสองคนของตระกูลลู่ แค่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ลูกชายไม่เพียงก่อเรื่อง ยังลากพวกเขามาขายหน้าท่ามกลางตระกูลใหญ่ที่มาร่วมงาน
ภายในงานเลี้ยง คนที่น่าจะดีใจที่สุดคงมีเพียงคุณนายฉิน
เมื่อตระกูลลู่ปูพรมให้เดินเช่นนี้ เหยียนอี้จะปฏิเสธได้อย่างไร เพราะเธอไม่มีทางไปแล้ว คุณนายฉินคงไม่ยอมรับเข้าตระกูลแน่ หลังจากที่ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายปรึกษากันแล้ว ก็ตัดสินใจว่าตระกูลจางและตระกูลฉิน จะยกเลิกพิธีแต่งงานแต่จะต้องจ่ายค่าสินสอด
คุณนายลู่รู้สึกเกลียดจางเหยียนอี้จนอยากจะหั่นเป็นชิ้นๆ ผู้หญิงคนนี้วางแผนจับลูกชายของหล่อน แต่ไม่คาดคิดว่าจะลากผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวด้วย ทำให้ตระกูลลู่ต้องประสบเคราะห์กรรม หลังจากที่จัดการเรื่องราวทั้งหมดเสร็จแล้ว คนของตระกูลลู่และตระกูลฉินก็ออกจากห้องรับแขกไป จางเหยียนอี้เมื่อเห็นว่าฉินเสิ่นไม่แม้แต่จะมองหน้า เธอก็รีบออกไปทันที
จางเย่าหยางเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปขวางแล้วด่าทอ "จะไปไหนอีก! ยังไม่สำนึกอีกเหรอ ว่าทำให้คนอื่นอับอายขายหน้ามากแค่ไหน?!"
จางเหยียนอี้หยุดเดิน ตอนนี้อารมณ์ของเธอเดือดพล่านเหมือนน้ำร้อน "เป็นความผิดของพ่อนั่นแหละ!"
"แกว่าฉันทำให้คนอื่นอับอายขายหน้า?"
"แล้วพ่อทำอะไรบ้างล่ะ ฉันวิ่งเต้นอยู่คนเดียว ถีบตัวเองเพื่อเป็นสะใภ้ตระกูลฉิน แล้วพ่อทำอะไร? เหอะ เอาเพื่อนพี่มาเป็นเมีย ไม่สนใจลูกไม่สนใจใคร"
"แก! แกมันไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่รอบคอบเอง แล้วจะมาโทษฉันได้ยังไง"
หลินซินที่อยู่ข้างๆ หมุนนิ้วเล่นผม พิงอยู่ที่เก้าอี้ตัวหลัก ฟังอย่างสนุกสนาน ไม่คาดคิดว่าจางเหยียนอี้จะโง่ขนาดนี้ แต่สิ่งที่พูดกับจางเย่าหยางนั้นมีเหตุผลมาก
ในวินาทีถัดมาจางเหยียนอี้ย้ายเป้าหมายการโจมตีไปที่หลินซิน ซึ่งกำลังดูละครฉากใหญ่อยู่เงียบๆ เธอจ้องเขม็งไปที่พี่สาวแววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับจะฉีกคนบนโซฟาออกเป็นชิ้นๆ
แต่หลินซินก็ไม่กลัว จ้องตากันแบบนี้ อยากมีเรื่องอีกก็จัดให้
"แล้วเธอก็ด้วย ทำไมโชคถึงได้ดีขนาดนี้! ฉันวางแผนไว้รอบคอบมาแล้ว แต่พี่ก็ยังรอดไปได้ ทำไม ทำไม?!" จางเหยียนอี้คลุ้มคลั่ง
"ไม่ได้พึ่งโชค แต่พึ่งความสามารถ" หลินซินมองไปที่คนตรงหน้า ที่กำลังโกรธจัดแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
"ฉันตกอับ แต่เธอทำให้ตระกูลลู่ต้องก้มหัวขอแต่งงานกับฉัน แล้วเธอก็ยังมาเสแสร้งอยู่ตรงหน้าฉันอีก เธอไม่ใช่คน! หลินซิน!"
"โอ้? จางเหยียนอี้ เธอต้องรู้ไว้ว่าฉันเสแสร้ง แต่คนที่ได้รับผลกรรมคือเธอ"
"อ๊ากกก!"
อีกด้านหนึ่ง บ้านตระกูลจาง
ในเวลานี้บ้านตระกูลจางกลายเป็นโจ๊กที่คนรุมกิน หลี่หลิงเจินที่นั่งอยู่ด้านล่าง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอก็คิดจะแอบหนีไป
"ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วเหรอ?" หลินซินพูดเสียงดัง ทำให้หลี่หลิงเจินหยุดชะงัก
ผู้คนถึงได้สังเกตเห็นผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องคนนี้ เกือบลืมไปว่าผู้หญิงคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อเรื่อง แววตาของเฉินจือหานเปลี่ยนไปทันที ขมวดคิ้วมองไปที่ความวุ่นวาย คิดในใจว่าตระกูลจางไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง คนแล้วคนเล่า กล้าทำร้ายภรรยาสุดที่รักของเขาขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะภรรยาบอกว่าเธอสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้น ตระกูลจางคงไม่เหลืออยู่ในเมืองหลวงแล้ว
จู่ๆ ทุกคนก็รู้สึกเย็นวาบที่หลัง เมื่อเห็นว่าเฉินจือหานเริ่มโกรธหลินซินก็จับมือใหญ่ของเขาไว้ สามีรู้สึกถึงการปลอบโยนของภรรยาก็สงบสติอารมณ์ลง ในเวลานี้หลินซินเดินลงมาจากเก้าอี้ แล้วหยุดอยู่ข้างๆ หลี่หลิงเจิน
หล่อนร้องออกมาด้วยความรนราน "คุณจะทำอะไร?"
"ไม่ได้จะทำอะไร" หลินซินยิ้ม แต่แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา เธอกล่าวต่อ "ฉันไม่เคยจดจำความแค้น แต่เมื่อมีแค้นฉันก็จะแก้แค้นทันที"
หลินซินยกมือขึ้นแล้วตบหน้าหลี่หลิงเจินอย่างแรง หล่อนรู้สึกมึนงง ปากมีเลือดไหลออกมา จากนั้นหลินซินก็เตะหล่อนล้มลงกลิ้งไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
หลี่หลิงเจินไม่รู้เลยว่าหลินซินเป็นคนในแวดวงมาเฟีย ทุกแรงที่กระทำล้วนใช้พลังทั้งหมด ในสายตาของคนอื่น ดูเหมือนว่าหลินซินแค่แสดงอารมณ์ ไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย แต่สิ่งที่มองไม่เห็นคือความเจ็บปวดแสนสาหัส มีเพียงหลี่หลิงเจินเท่านั้นที่รู้ว่าเจ็บปวดขนาดไหน
"หลินซิน ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไป..." หลี่หลิงเจินคุกเข่าอ้วนวอน หวังว่าหลินซินจะเมตตาปล่อยเธอไป
"ทำไมล่ะ หืม? ตอนที่เธอวางแผนกับน้องสาวของฉัน ไม่เห็นเธอคิดจะปล่อยฉันไป?"
หลี่หลิงเจินจำเป็นต้องหันไปมองจางเย่าหยาง หวังว่าเขาจะนึกถึงความสัมพันธ์สามีภรรยาแล้วช่วยเธอ "เย่าหยาง! คุณไม่สามารถมองดูฉันตายได้ ฉันเคย...เคยตั้งท้องลูกของคุณ."
จางเย่าหยางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องโถงอย่างเฉียบขาด หลี่หลิงเจินตกใจไม่คาดคิดว่าเขาจะใจร้ายขนาดนี้ ไม่พูดไม่จาแล้วก็เดินจากไป
"หลี่หลิงเจิน เธอต้องรู้ไว้ว่าสู้ฉันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นครั้งนี้ ครั้งหน้า หรือครั้งต่อๆ ไป เธอก็จะแพ้" หลินซิก้มลงมองอดีตแม่เลี้ยงที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาสมเพช
เธอย่อตัวลงใช้มือข้างหนึ่งจับคางของหลี่หลิงเจินแล้วพูดอย่างโหดเหี้ยม "การพบกันระหว่างเธอกับคนรักเก่า การเปิดโปงในโรงพยาบาล รวมถึงแผนการสมรู้ร่วมคิดในครั้งนี้ ฉันเป็นคนจัดการทั้งหมด ฮึ คาดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ?"
หลินซินเป็นคนใจแข็งก็จริง แต่พูดจาตรงไปตรงมา
"เป็นไปไม่ได้... เธอจะรู้เรื่องของฉันกับเขาได้ยังไง ทั้งที่มีแค่ฉันกับเขาเท่านั้นที่รู้" หลี่หลิงเจินต่อต้าน ราวกับไม่เต็มใจที่จะเชื่อว่าทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของหลินซิน
แต่เธอประเมินเครือข่ายข่าวกรองใต้ดินของหลินซินต่ำเกินไป ตราบใดที่หลินซินต้องการ แม้แต่หนูในท่อระบายน้ำของเมืองหลวง เครือข่ายข่าวกรองของฐานลับก็สามารถจับตัวมาได้ทันที ยิ่งกว่านั้นเรื่องอื้อฉาวของหลี่หลิงเจินในครั้งนั้น ทำให้หล่อนไม่มีอะไรเหลือแล้ว หลิงเจินแข็งไปครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้นจากพื้นด้วยความสั่นเทา ใช้แรงสุดท้ายยืนให้มั่นคง
"หลินซิน...ฉัน หลี่หลิงเจิน จะไม่แพ้..."
เฉินจือหานรู้สึกว่าไม่ดีแล้ว ในเสี้ยววินาทีนั้น หลี่หลิงเจินก็ล้วงมีดผลไม้แบบพับได้ออกมาจากกระเป๋า แล้วพุ่งเข้าหาหลินซิน
"ตายซะ!!!"
"คุณนาย!"
"ภรรยา!"
จือหานและเฉินอวี้ร้องออกมาด้วยความตกใจ
เป็นคืนที่วุ่นวายที่สุดในเมืองหลวง ถนนหลายสายถูกปิดกั้น รถติดเป็นทางยาว และท้องฟ้ายามค่ำคืนมีเครื่องบินส่วนตัวหลายลำบินผ่านไปมา ชาวเมืองคิดว่าเป็นการซ้อมรบทางทหาร จึงพากันซุบซิบหลินซินกับทีมที่เจ็ดที่อยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ถูกโจมตีจากหน่วยคอมมาโดต่างชาติอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเริ่มเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่กระนั้นก็ยังคงยิงได้แม่นยำ แต่การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง ลูกกระสุนที่บรรจุก็ไม่ราบรื่นเหมือนตอนแรก ดูเหมือนว่าศัตรูจะไม่มีวันหมดสิ้น ฆ่าหนึ่งคนก็มีคนใหม่เข้ามาแทนหลินซินเหงื่อแตกพลั่ก ทั้งเหนื่อยและหงุดหงิด"ใช้ยุทธวิธีฝูงชน น่ารำคาญจริงๆ" เธอยิงศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามา ยิงได้แม่นยำและฆ่ามันได้ทันที"หัวหน้า ศัตรูเยอะเกินไป เราไม่มีทางชนะ พวกเราจะถูกพวกมันฆ่าหมดถ้ายังสู้แบบนี้" 001 เปลี่ยนกระสุนซุ่มยิง"ฉันรู้!" หลินซินขมวดคิ้ว ในขณะที่เธอกำลังคิดหาวิธีแก้ไข ทีมที่เจ็ดที่อยู่ในห้องฉุกเฉินก็มาวิ่งมาหา ในแววตาแสดงถึงความหวัง"หัวหน้า! ทีมฉุกเฉินย้ายผู้ป่วยสำเร็จแล้ว พวกเขาให้เรามาแจ้งข่าว"ขอบคุณพระเจ้า!หากการผ่าตัดล้มเหลวหรือยืดเยื้อไปกว่านี้ พวกเขาทั้งหมดอาจต้องสังเวยชีวิต เธอไม
เงียบเกินไป เงียบจนหน้ากลัว ในขณะนี้ เธอได้ยินเพียงเสียงคลื่นทะเลตึก...ตึก...ตึก...บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอามือกุมบาดแผลที่หน้าอก เดินขากะเผลกเข้ามาหาหลินซิน ด้วยความเจ็บปวดเขาคุกเข่าลงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "นายหญิงหนีไปเถอะ...คุณชายมีอาการกำเริบ ครั้งนี้น่ากลัวมากไม่สามารถระงับได้ ผู้ช่วยเฉินให้ผมมาบอก คุณรีบออกจากเกาะตอนนี้เลย"หลินซินตัวเย็นเหงื่อท่วม เธอโยนของทุกอย่างในมือทิ้ง จับเสื้อของบอดี้การ์ดถามอย่างเร่งรีบ "ว่าอะไรนะ?! จือหานมีอาการกำเริบงั้นเหรอ ทำไมไม่แจ้งฉันเร็วกว่านี้!""นายหญิง เกาะที่คุณไปไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ข้อความจึงส่งไปไม่ถึง" บอดี้การ์ดไอเป็นเลือดในขณะนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของหลินซินส่งเสียงเตือน เธอดึงออกมาดูพบว่ามีสายเรียกเข้าและข้อความแจ้งเตือนมากมาย"แย่แล้ว!"หลินซินทิ้งโทรศัพท์วิ่งตรงไปยังบ้านพัก ศพของสาวใช้และบอดี้การ์ดนอนเกลื่อนกลาด เลือดท่วมเต็มห้องนั่งเล่น มีโทรศัพท์ตกอยู่ข้างโซฟา เฉินอวี้พยายามยื่นมือไปหยิบเพื่อเรียกความช่วยเหลือ แต่ในวินาทีต่อมา เฉินจือหานเห็นการกระทำของเขา ยิงปืนจนโทรศัพท์แตกเป็นเสี่ยงๆจือหานเดินมาหาเฉินอวี้ใช้ปืนจ่อที่หัวเขา ริมฝีป
หลินซินตื่นเพราะเสียงคลื่นทะเล และถูกปลุกด้วยการถูกใบไม้เกามือ เมื่อเธอลืมตาใบหน้าหล่อเหลาของเฉินจือหานก็ปรากฏตรงหน้า เขาหนุนศีรษะด้วยมือข้างหนึ่งและใช้ใบไม้ด้วยมืออีกข้างเกาเธอเล่น"ถ้าเธอไม่ตื่น ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ""…"เป็นเพราะถูกเกาจนตื่นต่างหาก! เฉินจือหานถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่ก็ไม่สนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน หลินซินนั่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงที่มากไป ผ้าห่มที่คลุมอกเธอก็เลื่อนลงมา เผยให้เห็นเรือนร่างเธอรีบคลุมผ้าห่มขึ้นกลิ่นของทะเลโชยเข้ามาในลำคอทำให้เธอรู้สึกแห้งผาก เมื่อมองไปรอบๆ ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้ ปล่อยให้มีพื้นที่ร่มรื่น ที่นั่งของพวกเขามีผ้าพื้นเมืองสีสันสดใสรองไว้กันทราย"พวกเราเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านเหรอ" สายลมทะเลพัดผมที่ต้นคอของหลินซินเบาๆ"ใช่ เห็นเธอนอนหลับสบายเกินไป ฉันไม่อยากปลุก เลยสั่งให้เฉินอวี้เอาผ้าห่มมาให้ เรานอนที่นี่ทั้งคืน""อย่างนี้ก็แปลว่า..."เฉินอวี้เห็นพวกเราหมดแล้วสิ! หลินซินหน้าแดงจัด เฉินจือหานหัวเราะในลำคอ ความอบอุ่นซ่านในใจ เขาคิดว่าเธอน่ารักเหลือเกิน"ยังจะหัวเราะอีก!" หลินซินขว้างหมอนอิงใส่สามีด้วยความโกรธ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าหาชายหาดราวกับจิตใจที่ปั่นป่วนของหลินซิน ดวงตาเธอแดงขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ ใจเกิดความรู้สึกหวั่นไหวจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา"ฉันก็รักคุณค่ะ จือหาน ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ฉันก็จะรักคุณ"เฉินจือหานสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางของหลินซิน และจูบที่หลังมือเธอราวกับเป็นการสาบาน ทั้งสองนั่งที่โต๊ะ เขารินไวน์แดงให้เธอ"นี่คือ นี่คือน้ำแห่งความรักของเรา ดื่มเพื่อฉลอง""ดื่มเพื่อฉลอง"แก้วไวน์ชนกัน หลังจากดื่มไวน์แดงไปหลายแก้ว แก้มของหลินซินเริ่มแดง ตาเธอพร่ามัว และมีอาการเมา เฉินจือหานเข้ามาใกล้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนของเขาพ่นลงบนลำคอ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ประคองใบหน้าของสามีและจูบเขา ทั้งสองแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม"ที่รัก เธอทำแบบนี้ ฉันก็แย่สิ…" เฉินจือหานพูดเสียงแหบมีนัยยั่วยวนหลินซินยกมือขึ้นไปแตะเป้ากางเกงของเขา ทำให้ชายหนุ่มมีปฏิกิริยาตื่นตัว เธออายจนก้มหน้าลง เฉินจือหานอุ้มภรรยามาที่ใต้ต้นมะพร้าว เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก วางรองหลังเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ทรายบาดผิว"จะทำที่นี่เหรอ..." หลินซินกัดริมฝีปาก มองไปรอบๆ สถานที่นี้ดีมาก มีป่ามะพร้าวใหญ่บังสายตาได้อย่างดี เป
หลังสถานการณ์สงบลงมีเสียงปิดประตูดังขึ้น เฉินอวี้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเฉินจือหานนั่งดื่มเหล้าอยู่ในห้องทำงาน หนึ่งแก้ว…แล้วอีกแก้ว ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นเตรียมจะไปที่ระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ หลินซินก็รีบกลับไปที่ระเบียงของห้องนอนเมื่อกลับมาถึงห้อง หลินซินรู้สึกไม่สบายใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ใจร้อน แต่เรื่องที่เฉินจือหานถูกพิษ ทำให้เธอรู้สึกตื่นตระหนก ตราบใดที่มาดามหมิงยังอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน การที่จือหานต้องอยู่ภายใต้การข่มขู่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งวัน ทำให้มาดามหมิงเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นจุดอ่อนของลูกชาย การฆ่าคนง่าย แต่การฆ่าคนที่สามารถจับจุดอ่อนของตนได้มันยากมากหลินซินหยิบโทรศัพท์พิเศษออกมา และโทรหาหมายเลข 001“ไปตรวจสอบบุคคลที่ชื่อว่า หมิงฉวน ฉันต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของหล่อนอย่างละเอียด ใช่, มันสำคัญมาก”สั่งเสร็จก็วางโทรศัพท์ลง เธอกลับไปนอนบนเตียงและห่มผ้าห่ม…แต่ลืมตาตื่นตลอดทั้งคืนเช้าวันถัดมาหลินซินตื่นขึ้นและพบว่า ฉินจือหานไม่ได้กลับมาที่ห้องนอน เขาอยู่ที่ห้องทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยขวดเหล้า จึงสั่งให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาด หลายวันผ่านไปหลินซินไม
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงชายหนุ่มที่เย็นเยียบดังขึ้นมาดามหมิงหยุดมือ ซ่อนเจตนาฆ่าที่เพิ่งแสดงออกเมื่อสักครู่ กลับมามีท่าทางใจดีอีกครั้งเมื่อมองลูกชาย เขาเดินมาจากสวนไกลๆ เห็นหลินซินถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่บนสนามหญ้า ลมหนาวพัดผ่านผมของเธอ เขาโกรธสุดขีด ผู้หญิงของเขาไม่เคยต้องทนความอับอายแบบนี้!ปัง!เฉินจือหานหยิบปืนออกมา ยิงบอดี้การ์ดชาวต่างชาติสองคนที่กักขังหลินซินทันที ทั้งสองมีรูเลือดดำทมึนที่หัวล้มลงกับพื้นทันที หลินซินไม่มีที่พึ่งก็ล้มลงบนสนามหญ้า เฉินจือหานเดินมาอย่างรวดเร็วแล้วกอดภรรยาไว้ ใส่เสื้อคลุมให้เธอเมื่อเห็นเศษแก้วบนขาของหลินซินแ ละมือที่แดงจากการถูกน้ำร้อนลวก เฉินจือหานก็แทบเป็นบ้า ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรงพุ่งเป้ามองไปที่คุณนายหมิง “คุณกล้าแอบทำร้ายผู้หญิงของผม! หมิงฉวน!” ปลายกระบอกปืนจ่อที่หน้าผากมาดามหมิง หล่อนไม่หลบไม่หนี ยังคงมีท่าทางใจดีเหมือนเดิม“อาจือ ทำแบบนี้แม่จะเสียใจนะ” แกล้งร้องไห้และปล่อยน้ำตาหยดสองหยด“มันสมควรแล้วไหม แต่เดิมคุณซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศ อยู่ไปจนตายก็ไม่มีใครสน แต่เมื่อกลับมาผมจะส่งคุณลงนรก ผลของการทำร้ายผู้หญิงของผมคือความตาย