แชร์

พระชายาท่านอ๋อง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 12:43:42

3

พระชายาท่านอ๋อง

“จะตื่นเช้าขนาดนี้เพื่อ” ร่างเล็กขยับไปมาหลังรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแม้แต่ฟ้ายังไม่สว่าง ไม่รู้เพราะความเคยชินหรือไม่นางจึงรีบตื่นขึ้นมาเช่นนี้ สามีนางยังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ ดวงตาคู่โตไล่มองใบหน้าผู้เป็นสามีที่นอนนิ่งอยู่ กระทั่งถึงดวงตาสองข้างนางจึงเอื้อมมือไปกดจุดชีพจรของเขา อาศัยช่วงเขายังไม่ตื่นตรวจดูว่ามีอาการเป็นอย่างไร

แม้นางจะมีความรู้ด้านการแพทย์ แต่การแพทย์นั้นล้วนเป็นการแพทย์ที่ใช้ที่นี่ได้ยากยิ่ง จำต้องอาศัยความรู้จากความทรงจำของร่างนี้ โชคดีนางเป็นคนฉลาดขบคิดไม่นานก็เข้าใจจนแจ่มแจ้ง

“ไม่ได้บอดถาวร แปลว่ายังมีโอกาสหาย ไม่ต้องห่วงในฐานะที่ฉันเป็นหมอ จะรักษาคุณให้หายเอง” มิใช่ว่าเขาไม่ได้ยินที่นางพูด เพียงแต่ไม่อยากแสดงตัวว่าตื่นแล้ว และยังอยากรู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อไป

ท่อนแขนแข็งแรงถูกจับไว้ที่เดิม ก่อนที่ผู้จับจะลุกขึ้นไปสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ในเมื่อตื่นแล้วก็คงหลับไม่ลงอีกนางจึงคิดว่าหาสิ่งใดทำคงดีกว่า

“ถวายบังคมพระชายา” ชายหนุ่มที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าห้องหอทักขึ้น เมื่อเห็นนายหญิงของจวนเดินออกมาจากห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาเป็นทหารคนสนิทของอ๋องอันที่ร่วมสู้รบด้วยกันมานาน หลังจากอ๋องอันมองไม่เห็นเขากับทหารคนสนิทอีกคน คอยผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าหน้าห้องนอนเช่นนี้เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ผู้เป็นนาย

ภายในจวนอ๋องมีสาวใช้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากรวมสาวใช้คนสนิทของนายหญิงอีกคนก็เป็นเก้าคน ทุกคนล้วนมีหน้าอื่นที่ไม่ใช่การปรนนิบัติอ๋องอัน การดูแลปรนนิบัติท่านอ๋องล้วนเป็นของทหารคนสนิท

“เหตุใดจึงยืนอยู่ที่นี่”

“ข้าน้อยจื่ออี้ พระชายามีสิ่งใดให้รับใช้หรือไม่”

“ห้องเครื่องอยู่ที่ไหน”

“พระชายาต้องการสิ่งใด้ให้ข้าไปนำมาให้ดีหรือไม่”

“ไม่เป็นไร แค่อยากไปดูน่ะ” ถึงจะรับรู้ว่าควรพูดเช่นใดแต่นางก็ไม่ชินเสียที คิดว่าอีกไม่นานนางคงไม่หลุดพูดจาราวคนประหลาดเช่นนี้แล้ว อย่างไรที่นี่ก็ใช้ชีวิตได้ไม่สบายเท่าที่ ๆ นางจากมา ลองดูให้รอบจวนก่อนดีกว่า องครักษ์หนุ่มผู้นั้นชี้ทางให้นางก็พยักหน้าแล้วจากไปทันที

“ไม่รู้ว่าจริง ๆ เป็นโรคอะไรกันแน่ แต่ดูแลเรื่องอาหารการกิน การใช้ชีวิตสักหน่อยก็แล้วกัน” นางบ่นพึมพำขณะเดินไปทางห้องเครื่องเล็กในจวนอ๋อง โชคดีจริง ๆ ที่ภายในห้องเครื่องเริ่มมีสาวใช้มาคอยเตรียมมื้อเช้า นางเลยไม่ต้องยุ่งยากหาแสงสว่าง

“ถวายบังคมพระชายา”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจข้า ข้าแค่มาดู”

“พระชายาต้องการสิ่งใดหรือเพคะ”

“เหตุใดมีเจ้าคนเดียว คนอื่นไปไหนหมด” นางถามขณะชะโงกหน้ามองวัตถุดิบที่สาวใช้เตรียมไว้ ยามนี้สาวใช้ต้องเตรียมทำอาหารมื้อเช้าไว้ให้ผู้เป็นนาย

อ้ายฉิงคิดว่าอย่างไรก็แต่งกับเขาแล้ว หากปล่อยให้เขาเป็นเช่นนี้ไปตลอด ผู้ที่ลำบากก็เห็นจะเป็นนางเองจึงคิดจะหาวิธีรักษาเขาให้หาย จากนี้ไปนางจะดูแลข้าวปลาอาหาร ร่างกาย การใช้ชีวิต รวมถึงยาที่เขาต้องกิน สัญญาด้วยเกียรติผู้เป็นหมอนางจะช่วยเขาให้หายให้ได้

“วันนี้เป็นหน้าที่ของบ่าวเพคะ อีกหนึ่งเค่อพ่อครัวจึงจะมาทำอาหาร”

“เช่นนั้นเจ้าไปบอกพ่อครัวว่าวันนี้ข้าจะทำอาหารให้ท่านอ๋องเอง”

“แต่ว่า”

“ข้าคือพระชายา” เจ้าของใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไม่มีเครื่องประทินผิวแต่งแต้มตรงหน้ามีสีหน้าอึดอัดใจขึ้นมา นางคิดไว้แล้วว่าคงยังไม่ถูกตามใจเร็วถึงเพียงนี้ แต่ในเมื่อมีอำนาจให้ข่มย่อมต้องใช้ให้คุ้มค่า

สาวใช้จำใจทำตามที่นางบอก ค้อมกายย่อตัวจากนั้นปลีกตัวออกไปหาพ่อครัว ส่วนนางใช้เวลาในยามนี้ทำอาหารให้เขากิน เรื่องนี้มันง่ายสำหรับนางไม่ต่างจากการรักษาผู้คนเลย ก่อนนี้นางอยู่คนเดียวจนเคยชิน ทำอาหารเองดูแลตนเองมาเสมอ

อยู่ในที่ที่การแพทย์เก่าแก่เช่นนี้ สิ่งใดพอช่วยได้ก็คงต้องลอง อาหารก็เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญในการดูแลตนเอง การกินอาหารให้ครบถ้วนก็ถือเป็นการฟื้นฟูร่างกายอย่างหนึ่ง

“โจ๊กผักก็แล้วกัน ครบห้าหมู่ที่สุดแล้ว” เลือกเมนูที่จะทำได้แล้วจึงเริ่มลงมือทำ เนื้อหมูในตะกร้าถูกสับละเอียดวางพักไว้ จากนั้นเริ่มสับหยาบขิง กระเทียม ต้นหอม พอเสร็จก็ใช้ใบมีดทุบวัตถุดิบที่เพิ่งสับไป

พอเตรียมทุกอย่างเสร็จนางจึงเริ่มลงมือทำโจ๊กผัก วัตถุดิบที่ถูกสับเมื่อครู่ถูกนำไปผัดในกระทะร้อน ๆ จนมีกลิ่นหอม โยนเนื้อหมูสับลงไป โรยเกลือ หมูเริ่มสุกก็เทข้าวสารลงไปผัดไปมาครู่หนึ่ง พอได้กลิ่นหอมค่อยเทน้ำแกงกระดูกหมูลงไปจนท่วมข้าว ปิดฝา รออีกพักใหญ่ให้ข้าวเริ่มแตกเม็ดจึงโรยผักลงไปต้มด้วยกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   สตรีใดที่ท่านหลงรัก [จบ]

    28สตรีใดที่ท่านหลงรัก“เห็นอยู่กับตาว่าเจ้าคือฉีอ้ายฉิง เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย ไม่รู้เหตุใดชายาตนเองจึงพูดจาแบบนี้ ถามผู้ที่เคยพบล้วนต้องบอกว่านางคือฉีอ้ายฉิงบุตรตระกูลฉีเป็นแน่“เดิมทีฉีอ้ายฉิงถูกฉีอ้ายเหม่ยบุตรสาวคนโตทำร้ายจนสิ้นใจภายในจวน และหม่อมฉันตายจากที่อื่นก็เลยเข้ามาอยู่ในร่างนางแทน เช่นนั้นข้าจึงจำไม่ได้ว่าเคยช่วยท่านเอาไว้ เพราะผู้ที่ช่วยพระองค์ไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นนาง”“...”“หม่อมฉันฟื้นขึ้นมาวันที่ต้องเข้าพิธีสมรส จนได้เจอกับพระองค์ คราแรกกังวลใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ ต้องเข้าพิธีกับผู้ที่มีชื่อเสียงโหดร้ายเช่นท่าน แต่เมื่อแต่งแล้วจึงรู้ว่าท่านไม่ได้เป็นดั่งที่ชาวบ้านร่ำลือ”“...”“ที่หม่อมฉันช่วยพระองค์ก็เพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างไม่ลำบาก จนไม่นานมานี้ได้รับรู้ว่าที่พระองค์ดีกับหม่อมฉันเพราะทรงจำได้ว่าฉีอ้ายฉิงเคยช่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องเหลือเชื่อนี้

    27เรื่องเหลือเชื่อนี้“โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมอุปสรรคเยอะแยะเหมือนในละคร ไม่งั้นตายแน่เลย เนาะไอ้จิ๋วของแม่” หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ ขณะนั่งหน้าคันฉ่องบานใหญ่ เรื่องนี้ยังไม่มีผู้ใดรู้นางไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่องเหลือเชื่อนี้เสียงเรียกแผ่วเบาหน้าประตูทำให้นางลุกไปดู หยินซูหยางหรือมารดาแท้ ๆ ของฉีอ้ายฉิงคนเก่า นางมาอยู่ที่จวนอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเพราะตระกูลฉีถูกเนรเทศจากเมืองหลวงหลังถูกโบย“ท่านแม่มีอันใดหรือเจ้าคะ”“แม่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้ามานานจึงอยากมาพูดคุยด้วยสักหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่”“ท่านแม่เชิญเข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ” หยินซูหยางเดินตามบุตรสาวเข้าไปนั่งเก้าอี้ในห้อง อ๋องอันยามนี้คงอยู่ในวังเพื่อวางเรื่องการป้องกันเมืองกับไท่จื่อ นางรินชาให้มารดาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แม้ไม่ใช่บุตรแท้ ๆ แต่อย่างไรยามนี้นางก็เป็นฉีอ้

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   โอกาสสุดท้ายของการกลับตัว

    26โอกาสสุดท้ายของการกลับตัวไท่จื่อเบิกตาโตมองผู้คนที่เดินเข้ามาภายในโถงร้านค้าเก่าแห่งนี้ ภายนอกมีคนของเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกหลายคนรวมถึงองครักษ์ประจำตัว แต่เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายจึงรู้ว่าเพราะเหตุใดองค์จักรพรรดิทรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดปะปนอยู่เลย ร่างกายเย็นวูบชาไปทั่วทั้งร่างไม่นึกเลยว่าองค์จักรพรรดิจะเสด็จเองเช่นนี้ แต่เขากลับไม่รู้เลย“อ้ายฉิงเป็นอย่างไรบ้าง”“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงรู้สึกอับชื้นจึงหายใจไม่สะดวกเท่านั้น” น้ำเสียงหวานใสบอกกับผู้เป็นสามี ใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้โกรธเคืองหรือตื่นกลัวอันใด“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อจึงเสด็จมาเองเช่นนี้” องค์ไท่จื่อหันไปพูดกับฮ่องเต้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด คงกังวลว่าจะถูกกล่าวโทษที่ทำเรื่องเช่นนี้ หรืออาจกังวลว่าฮ่องเต้ทรงรู้สิ่งใดมาบ้าง“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

    25ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง“เช่นนั้นก่อนตายข้าจะสงเคราะห์ให้” เขาพูดจบก็แหวกม่านหมวกออกทั้งสองฝั่ง เผยให้เห็นใบหน้าโหดเหี้ยม นางไม่คุ้นเคยใบหน้านี้แม้แต่น้อย ไม่เคยเห็นสักครั้งเดียว“แม้จะเห็นหน้าท่านเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าท่านเป็นผู้ใด อยากจะพูดก็พูดเถอะ หากไม่แล้วก็เชิญทำตามใจ” สิ่งที่เอ่ยออกไปนางไม่ได้จงใจยั่วยุแต่นางคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างไรนางก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้ไม่ได้อยากตายก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อฟ้าลิขิตให้ตายผู้ใดเล่าจะรอดนางพูดจบก็เงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยแววตานิ่งไม่หวั่นไหว ถามว่ากลัวหรือไม่นางย่อมต้องกลัว แต่จะให้อ้อนวอนขอชีวิตก็คงไม่มีประโยชน์อันใด“ยิ่งเห็นสายตาราวกับไม่กลัวสิ่งใดของเจ้า ทำให้ข้ายิ่งนึกถึงคนผู้นั้นยิ่งนัก ข้าเคยให้โอกาสเจ้าเลือกแล้วที่จะไม่รักษาอ๋องอัน แต่เจ้าดื้อรั้นและดื้อดึง”“อย่างที่ท่านกล่าวมา ข้าทั้งดื้อรั้นและดื้อดึงต่อให้ท่านจะฆ่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   มีเวลาให้พักมากพอ

    24มีเวลาให้พักมากพอ“ขอแสดงความยินดีกับพระชายา พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” นางยกมือกุมขมับตนเองทันที เป็นหมอแท้ ๆ แต่กลับไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย มัวแต่ใช้เวลาดูแลผู้อื่นจนลืมสังเกตตนเอง“ขอบคุณท่านหมอ เชิญท่านหมอเถอะ ข้าขอพักเสียหน่อย”“กระหม่อมทูลลา” รายงานเสร็จหมอก็ออกไปจากรถม้าให้นางได้อยู่ตามลำพัง ไม่ได้สั่งยาหรือมอบเทียบยาใดให้เพราะเห็นว่านางอ่อนเพลียจึงปลีกตัวออกมาให้ได้พักผ่อน“ตัวจิ๋วเดียวก็สร้างเรื่องเลยนะ ถ้าอยากมาเกิดจริง ๆ อย่าให้แม่ทรมานนักสิ” นางพึมพำกับตนเองพร้อมกับลูบหน้าท้องแบนราบแผ่วเบาแล้วผล็อยหลับไป“ท่านหมอพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง พระชายาทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาคมเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่น้อย ริมฝีปากยกยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ป่วยแล้วหรือไม่

    23ป่วยแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เช่นนั้นผู้บงการนี้”“แม้จะไม่อยากคิด แต่ข้าคิดว่าคงเป็นคนผู้เดียวกับที่เจ้าคิด บัดนี้มีหลักฐานแต่ยังขาดพยาน อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องหาคนผู้นั้นให้เจอเราจึงจะได้คำตอบ” น้ำเสียงราบเรียบ เขาให้จื่ออี้ตามหาผู้ที่จับตัวฉีอ้ายฉิงในวันนั้น แม้จะยังไม่พบแต่ไม่นานต้องพบแน่ คนผู้นั้นเองก็คงไม่อยากตาย“หากมีสิ่งใดที่ข้าพอช่วยได้”“ย่อมต้องมีเรื่องรบกวนเจ้าในภายหน้าเป็นแน่” คนเจ็บยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายบอกว่าต้องมีโอกาสใช้งานเขาแน่นอน เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยกันองค์ชายสามจึงมีแบบอย่างเป็นองค์ชายรองมาโดยตลอด ไม่ว่าองค์ชายรองจะทำอย่างไรจะเป็นอย่างไร เขาล้วนพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่ในสักวันจะได้คอยช่วยพี่ชายออกรบในสนามรบได้หลังได้ยินว่าเขาจะต้องไปช่วยอ๋องอันบรรเทาทุกข์ที่เซียงโจวก็ดีใจมาก คิดตลอดคืนว่าจะพูดคุยกับพี่ชายอย่างไรดีแต่จน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status