แชร์

คืนสมรส

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 12:43:08

2

คืนสมรส

พิธีสมรสมิได้ใหญ่โตเลยทั้งที่เป็นพิธีสมรสของอ๋อง ยามนี้อ๋องอันมองไม่เห็นคงไม่อยากพบผู้ใดพิธีต่าง ๆ จึงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงการกราบไหว้ฟ้าดิน หลังกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จนางก็ถูกพาเข้าห้องหอ

“ท่านจะนอนเลยหรือเปล่า” เมื่อเข้าหอนางก็เปิดผ้าคลุมหน้าออกโดยไม่ต้องรอให้สามีเปิดให้ สุรามงคลก็มิได้ร่วมดื่มด้วยกัน หญิงสาวเดินไปหาสวามีที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง ในเมื่อเขาไม่เห็นนางจึงจำต้องเป็นผู้คอยดูแลปรนนิบัติถึงอย่างไรก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้ว

“เจ้าไม่ต้องปรนนิบัติข้า อยากทำสิ่งใดก็ทำเถิดอย่างไรก็มิได้เต็มใจแต่ง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจแต่งแต่เพราะเป็นโองการของบิดาไหนเลยจะปฏิเสธได้ ด้วยกลัวว่าเขาจะมีอำนาจมากขึ้นจึงได้ประทานสมรสให้กับบุตรสาวคนโตของหัวหน้าหอดูดาว ที่ไม่มีอำนาจแต่ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่บ้าง

นางเองก็คงไม่เต็มใจ จะมีสตรีใดเล่าจะเต็มใจแต่งกับบุรุษพิการเช่นเขา

“ไม่เต็มใจแต่งคือเรื่องจริง แต่ไหว้ฟ้าดินก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เป็นสามีภรรยากันแล้วจะหมางเมินไม่สนใจกันได้อย่างไร” เสียงคุ้นหูดังอยู่ไม่ไกล เขาพยายามใช้ความคิดอยู่นานว่าเหตุใดน้ำเสียงของนางจึงคุ้นเคยนัก แต่เมื่อนางเข้ามาประคองเขาก็นึกขึ้นมาได้กลิ่นหอมสมุนไพรอ่อน ๆ เจือปนกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้เช่นนี้ ช่างเหมือนที่เขาได้กลิ่นจากสตรีผู้นั้นเสียจริง

“เช่นนั้นก็อยู่ให้สบาย ข้าไม่บังคับให้เจ้าร่วมหอ สบายใจเถิด”

“หากท่านอยากเข้าหอจริงก็คงข้าเป็นที่ต้องทำเอง มาเถอะข้าจะพาไปนอน” ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งที่นางบ่นพึมพำ เหตุใดจึงมีสตรีกล่าวเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่อายได้ แต่เอาเถอะที่นางกล่าวก็ไม่ผิดนัก ยามนี้เขาจะทำสิ่งใดได้ นางพูดจบก็เดินเข้ามาประคองเขาให้ลุกขึ้น

“เจ้าทำสิ่งใด” อ๋องอันเลิกเสียงสูงปนตกใจเอ่ยถามนาง อยู่ ๆ มือคู่เล็กก็เอื้อมมาปลดผ้ารัดเอวของเขาออก ไม่ถามเขาสักคำก็ปลดอาภรณ์เขาเสียแล้ว

“ท่านจะใส่ชุดแต่งงานนอนหรือไง ข้าก็แค่ช่วยท่านปลดชุดเข้าพิธีออก คิดว่าสตรีอย่างข้าจะทำอะไรท่านหรือ” เหตุใดบุรุษเช่นเขาจึงกลัวแม้แต่การถูกจับเปลือย หากให้สู้กันแม้เขาจะมองไม่เห็นนางก็ไม่เห็นแววจะชนะเขาเลย กลัวสิ่งใดกัน

“เอ่อ ข้าเพียงตกใจที่เจ้าไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้”

“ได้ ต่อไปจะส่งสัญญาณก่อน ไปเถอะ” นางปลดชุดเข้าพิธีของเขาออกแล้ววางไว้บนเก้าอี้ จากนั้นจึงจับมือเขามากุมเอาไว้ พาเขาเดินไปที่เตียงอย่างเชื่องชาและใจเย็น

ไม่รู้โชคดีของเขาหรือโชคดีของนางที่แต่เดิมเป็นหมอจึงคุ้นชินกับการดูแลผู้บาดเจ็บเช่นนี้ เข้าใจดีว่าผู้ที่เจ็บป่วยล้วนมีความลำบากใจกันทุกคน

อีกทั้งหากนางเข้ามาในร่างนี้เพียงชั่วคราวก็ควรทำให้เจ้าของร่างได้อยู่อย่างสุขสบายใจจวนอ๋องนี้ วันหน้าจะได้ไม่ต้องถูกรังแกจากผู้อื่นอีก หากท่านอ๋องผู้นี้มีเมตตตาต่อนางก็เป็นบุญของนางเช่นกัน อยู่ต่างยุคต่างสมัย ต่างบ้านต่างเมืองหากไม่มีที่พึ่งเกรงว่านางคงอยู่ได้ยาก

นางส่งเขาที่เตียงแล้วตนเองเดินออกมายืนอยู่ข้างเตียง จะให้นอนเลยก็ยังรู้สึกแปลกนัก แปลกเกินกว่าจะพาตนเองขึ้นไปนอนข้างเขาได้ในยามนี้

“ท่านนอนพักเถอะ ต้องการสิ่งใดก็เรียกข้า”

“เจ้าไม่นอนหรือ”

“ข้ายังมีสิ่งอื่นให้ทำอีก คงนอนตอนนี้ไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าท่านจะอยากเข้าหอ”

“ข้าแค่เพียงถามดูเท่านั้น ไม่นอนก็ช่างเถอะ” เขาไม่ควรต่อล้อต่อเถียงกับนางจริง ๆ ว่าจบก็เอนหลังนอนราบลงไปบนเตียง พยายามขยับเข้าไปให้ชิดด้านในของเตียง เผื่อนางอยากนอนจะได้ไม่ต้องเบียด

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใดอ้ายฉิงจึงขยับตัวไปนั่งตรงที่วางบนเตียงข้างตัวเขา นั่งมองลมหายใจสม่ำเสมอนั่นครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าเขาหลับสนิทแล้วจึงค่อยเอนตัวลงนอน ทั้งที่แม้เขาจะไม่หลับเขาก็มองไม่เห็นแท้ ๆ เห็นใดต้องระแวงถึงเพียงนี้

“ถ้าฉันหลับไปแล้วตื่นมาอีกทีที่นี่กลายเป็นห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาลก็ดีสิ” เจ้าของใบหน้าหวานหยดพึมพำเพียงลำพังขณะกำลังนับลูกแกะในใจ นอนกับบุรุษเช่นนี้จะข่มตาหลับลงได้อย่างไรกัน เมื่อนางล้มตัวนอนคนข้าง ๆ ก็รู้สึกตัวทันที จะอย่างไรเขาก็ฝึกยุทธ์มาย่อมจับความรู้สึกได้รวดเร็ว

ทั้งที่คิดว่านางจะหลับได้ยากแต่แค่ครู่เดียวก็หลับสนิทไปแล้ว พอได้นอนข้างกันเช่นนี้ถึงได้รู้สึกว่ากลิ่นหอมสือช่างผู่อ่อน ๆ นี้ยิ่งชัดเจน เขาเองก็บอกได้ไม่ชัดเจนว่ากลิ่นนี้แตกต่างจากผู้อื่นอย่างไร เพราะสตรีส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่ใช้สือช่างผู่ในการทำถุงหอม

แต่เขามั่นใจว่านางคือสตรีผู้นั้นที่เขาให้คนสนิทตามหามาร่วมสิบวันแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายามต้องเจอก็จะเจอนางง่ายเช่นนี้

หมอหลวงกล่าวเอาไว้หากไม่ได้ผู้มีพระคุณช่วยสกัดพิษเอาไว้ยามนั้น เกรงว่ายามนี้คงเป็นงานศพไม่ใช่งานแต่ง เขาจำได้เพียงกลิ่นหอมอ่อนนี้ นางไม่เพียงสกัดพิษเอาไว้ทำให้เขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่หากนางไม่ช่วยเอาไว้เขาก็ไม่มีความหวังจะมองเห็นอีกแล้ว

พิษสิ้นทิวานี้หากไม่ถอนพิษภายในหนึ่งชั่วยาม ดวงตาจะไม่เห็นตลอดกาลดังชื่อพิษ โชคดีได้สตรีนางนั้นช่วยเอาไว้ทำให้เขามีโอกาสได้มองเห็นอีกครั้ง แม้แต่หมอหลวงก็ไม่กล้าพูด และไม่รู้ว่านานเพียงใด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   สตรีใดที่ท่านหลงรัก [จบ]

    28สตรีใดที่ท่านหลงรัก“เห็นอยู่กับตาว่าเจ้าคือฉีอ้ายฉิง เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย ไม่รู้เหตุใดชายาตนเองจึงพูดจาแบบนี้ ถามผู้ที่เคยพบล้วนต้องบอกว่านางคือฉีอ้ายฉิงบุตรตระกูลฉีเป็นแน่“เดิมทีฉีอ้ายฉิงถูกฉีอ้ายเหม่ยบุตรสาวคนโตทำร้ายจนสิ้นใจภายในจวน และหม่อมฉันตายจากที่อื่นก็เลยเข้ามาอยู่ในร่างนางแทน เช่นนั้นข้าจึงจำไม่ได้ว่าเคยช่วยท่านเอาไว้ เพราะผู้ที่ช่วยพระองค์ไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นนาง”“...”“หม่อมฉันฟื้นขึ้นมาวันที่ต้องเข้าพิธีสมรส จนได้เจอกับพระองค์ คราแรกกังวลใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ ต้องเข้าพิธีกับผู้ที่มีชื่อเสียงโหดร้ายเช่นท่าน แต่เมื่อแต่งแล้วจึงรู้ว่าท่านไม่ได้เป็นดั่งที่ชาวบ้านร่ำลือ”“...”“ที่หม่อมฉันช่วยพระองค์ก็เพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างไม่ลำบาก จนไม่นานมานี้ได้รับรู้ว่าที่พระองค์ดีกับหม่อมฉันเพราะทรงจำได้ว่าฉีอ้ายฉิงเคยช่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องเหลือเชื่อนี้

    27เรื่องเหลือเชื่อนี้“โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมอุปสรรคเยอะแยะเหมือนในละคร ไม่งั้นตายแน่เลย เนาะไอ้จิ๋วของแม่” หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ ขณะนั่งหน้าคันฉ่องบานใหญ่ เรื่องนี้ยังไม่มีผู้ใดรู้นางไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่องเหลือเชื่อนี้เสียงเรียกแผ่วเบาหน้าประตูทำให้นางลุกไปดู หยินซูหยางหรือมารดาแท้ ๆ ของฉีอ้ายฉิงคนเก่า นางมาอยู่ที่จวนอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเพราะตระกูลฉีถูกเนรเทศจากเมืองหลวงหลังถูกโบย“ท่านแม่มีอันใดหรือเจ้าคะ”“แม่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้ามานานจึงอยากมาพูดคุยด้วยสักหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่”“ท่านแม่เชิญเข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ” หยินซูหยางเดินตามบุตรสาวเข้าไปนั่งเก้าอี้ในห้อง อ๋องอันยามนี้คงอยู่ในวังเพื่อวางเรื่องการป้องกันเมืองกับไท่จื่อ นางรินชาให้มารดาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แม้ไม่ใช่บุตรแท้ ๆ แต่อย่างไรยามนี้นางก็เป็นฉีอ้

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   โอกาสสุดท้ายของการกลับตัว

    26โอกาสสุดท้ายของการกลับตัวไท่จื่อเบิกตาโตมองผู้คนที่เดินเข้ามาภายในโถงร้านค้าเก่าแห่งนี้ ภายนอกมีคนของเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกหลายคนรวมถึงองครักษ์ประจำตัว แต่เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายจึงรู้ว่าเพราะเหตุใดองค์จักรพรรดิทรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดปะปนอยู่เลย ร่างกายเย็นวูบชาไปทั่วทั้งร่างไม่นึกเลยว่าองค์จักรพรรดิจะเสด็จเองเช่นนี้ แต่เขากลับไม่รู้เลย“อ้ายฉิงเป็นอย่างไรบ้าง”“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงรู้สึกอับชื้นจึงหายใจไม่สะดวกเท่านั้น” น้ำเสียงหวานใสบอกกับผู้เป็นสามี ใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้โกรธเคืองหรือตื่นกลัวอันใด“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อจึงเสด็จมาเองเช่นนี้” องค์ไท่จื่อหันไปพูดกับฮ่องเต้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด คงกังวลว่าจะถูกกล่าวโทษที่ทำเรื่องเช่นนี้ หรืออาจกังวลว่าฮ่องเต้ทรงรู้สิ่งใดมาบ้าง“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

    25ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง“เช่นนั้นก่อนตายข้าจะสงเคราะห์ให้” เขาพูดจบก็แหวกม่านหมวกออกทั้งสองฝั่ง เผยให้เห็นใบหน้าโหดเหี้ยม นางไม่คุ้นเคยใบหน้านี้แม้แต่น้อย ไม่เคยเห็นสักครั้งเดียว“แม้จะเห็นหน้าท่านเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าท่านเป็นผู้ใด อยากจะพูดก็พูดเถอะ หากไม่แล้วก็เชิญทำตามใจ” สิ่งที่เอ่ยออกไปนางไม่ได้จงใจยั่วยุแต่นางคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างไรนางก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้ไม่ได้อยากตายก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อฟ้าลิขิตให้ตายผู้ใดเล่าจะรอดนางพูดจบก็เงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยแววตานิ่งไม่หวั่นไหว ถามว่ากลัวหรือไม่นางย่อมต้องกลัว แต่จะให้อ้อนวอนขอชีวิตก็คงไม่มีประโยชน์อันใด“ยิ่งเห็นสายตาราวกับไม่กลัวสิ่งใดของเจ้า ทำให้ข้ายิ่งนึกถึงคนผู้นั้นยิ่งนัก ข้าเคยให้โอกาสเจ้าเลือกแล้วที่จะไม่รักษาอ๋องอัน แต่เจ้าดื้อรั้นและดื้อดึง”“อย่างที่ท่านกล่าวมา ข้าทั้งดื้อรั้นและดื้อดึงต่อให้ท่านจะฆ่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   มีเวลาให้พักมากพอ

    24มีเวลาให้พักมากพอ“ขอแสดงความยินดีกับพระชายา พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” นางยกมือกุมขมับตนเองทันที เป็นหมอแท้ ๆ แต่กลับไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย มัวแต่ใช้เวลาดูแลผู้อื่นจนลืมสังเกตตนเอง“ขอบคุณท่านหมอ เชิญท่านหมอเถอะ ข้าขอพักเสียหน่อย”“กระหม่อมทูลลา” รายงานเสร็จหมอก็ออกไปจากรถม้าให้นางได้อยู่ตามลำพัง ไม่ได้สั่งยาหรือมอบเทียบยาใดให้เพราะเห็นว่านางอ่อนเพลียจึงปลีกตัวออกมาให้ได้พักผ่อน“ตัวจิ๋วเดียวก็สร้างเรื่องเลยนะ ถ้าอยากมาเกิดจริง ๆ อย่าให้แม่ทรมานนักสิ” นางพึมพำกับตนเองพร้อมกับลูบหน้าท้องแบนราบแผ่วเบาแล้วผล็อยหลับไป“ท่านหมอพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง พระชายาทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาคมเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่น้อย ริมฝีปากยกยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ป่วยแล้วหรือไม่

    23ป่วยแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เช่นนั้นผู้บงการนี้”“แม้จะไม่อยากคิด แต่ข้าคิดว่าคงเป็นคนผู้เดียวกับที่เจ้าคิด บัดนี้มีหลักฐานแต่ยังขาดพยาน อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องหาคนผู้นั้นให้เจอเราจึงจะได้คำตอบ” น้ำเสียงราบเรียบ เขาให้จื่ออี้ตามหาผู้ที่จับตัวฉีอ้ายฉิงในวันนั้น แม้จะยังไม่พบแต่ไม่นานต้องพบแน่ คนผู้นั้นเองก็คงไม่อยากตาย“หากมีสิ่งใดที่ข้าพอช่วยได้”“ย่อมต้องมีเรื่องรบกวนเจ้าในภายหน้าเป็นแน่” คนเจ็บยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายบอกว่าต้องมีโอกาสใช้งานเขาแน่นอน เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยกันองค์ชายสามจึงมีแบบอย่างเป็นองค์ชายรองมาโดยตลอด ไม่ว่าองค์ชายรองจะทำอย่างไรจะเป็นอย่างไร เขาล้วนพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่ในสักวันจะได้คอยช่วยพี่ชายออกรบในสนามรบได้หลังได้ยินว่าเขาจะต้องไปช่วยอ๋องอันบรรเทาทุกข์ที่เซียงโจวก็ดีใจมาก คิดตลอดคืนว่าจะพูดคุยกับพี่ชายอย่างไรดีแต่จน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status