Share

บทที่ 9

last update Last Updated: 2025-10-13 11:35:47

ทุกคนมาถึงศาลต้าเว่ยเจ้าหน้าที่ของศาลก็พาทั้งสี่คนไปที่ห้องเก็บศพทันที พอไปถึงก็พบร่างผู้เสียชีวิตทั้งห้าร่างมีร่างผู้ชายสามร่างเป็นผู้หญิงอีกสองร่าง เจ้าหน้าที่ศาลได้รายงานจวินอ๋องบอกว่าทั้งสามเป็นคนจากหมู่บ้านเดียวกันหมด ถูกพบร่างพร้อมกันเมื่อวานยามไฮ่ คนที่พบเป็นชายชาวบ้านที่ออกมาหาปลาตอนกลางคืน นอกจากจะพบศพแล้วเขายังพบเห็นผีน้ำอีกด้วย อยู่ใกล้กับบริเวณที่พบศพทั้งห้าร่าง ชายคนนั้นกลัวมากจึงรีบหนีกลับบ้านก่อน ตอนเช้าเขาจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ไปดูศพ ก็พบว่าศพก็ยังอยู่ที่ท่าน้ำเหมือนเดิมจึงได้รีบพากันแจ้งศาลต้าเว่ย

ไป๋หลินกับเหลียนฉีรีบตรวจดูตามร่างกายของศพทันที หากดูผิวเผินจะเห็นว่าศพไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายใด ๆ แต่ถ้าตรวจอย่างละเอียดจะพบว่าที่ซอกคอของศพนั้นมีรอยเข็มอยู่ประมาณสองถึงสามจุด บางศพก็มีเข็มปักคาไว้อยู่ การตายจึงไม่ได้เกิดจากการจมน้ำแต่ถูกพิษอะไรสักอย่าง ไป๋หลินกับเหลียนฉีลงความเห็นกันว่าผู้ตายน่าจะได้ยาพิษก่อนตาย โดยการถูกฝังเข็มที่อาบยาพิษปักเข้าที่คอ พอเหยื่อหยุดหายใจจึงนำร่างไปทิ้งที่แม่น้ำทำให้ดูเหมือนว่าตายเพราะจมน้ำ เพื่อความแน่จึงอนุญาตจวินอ๋องเจาะเอาเลือดของคนตายไปพิสูจน์ก่อน

"เจาะเลือดของศพเหรอได้สิข้าอนุญาต ว่าแต่สาเหตุการณ์คืออะไรเหรอไป๋หลิน เหลียนฉี" จวินอ๋อง

"ตายเพราะถูกพิษ ดูที่คอสิมีรอยเข็มอยู่ แต่แปลกตรงที่รอยที่ถูกเข็มปักแผลกลับไม่มีสีคล้ำม่วงเหมือนว่าถูกพิษ" เหลียนฉี

"ใช่ขอรับ คาดว่าน่าจะเป็นพิษที่ไร้กลิ่นไร้สีไม่ทิ้งร่องรอย ข้าคิดว่ายาพิษตัวนี้น่าจะกำลังทดลองอยู่เหมือนกัน เพราะดูจากศพที่ถูกเข็มปักมากกว่าหนึ่งจุด ครั้งแรกที่เหยื่อโดนอาจจะยังไม่ตาย แต่จะมาตายตอนถูกพิษครั้งที่สองหรือครั้งที่สามก็เป็นไปได้ ถึงจะตายมาได้หนึ่งหรือสองวันแต่อย่างไรพิษมันต้องตกค้างอยู่ในเลือดของผู้ตาย ข้าจึงต้องเจาะเลือดไปตรวจและแยกพิษออกมาก่อนขอรับ" ไป๋หลิน

"ดีมาก ต้องการให้ช่วยอะไรบอกพี่ได้เลย" จวินอ๋อง

"นั้นสิ ถึงข้าจะไม่เก่ง แต่ถ้าเรื่องสมุนไพรข้าก็พอช่วยได้" เหลียนฉี

"พวกท่านได้ช่วยข้าแน่นอนขอรับ ส่วนด้านสมุนไพรไม่ต้องห่วงข้ากับสามีจัดการได้ ข้าอยากให้ท่านสองคนไปจับผีน้ำมากกว่าขอรับ เพราะถ้าจับผีน้ำได้ทุกอย่างจะคลี่คลายและสามารถรู้ตัวคนบงการได้ด้วย ส่วนยาพิษข้าคิดว่าคนปรุงมันน่าจะปรุงได้สำเร็จแล้วละ ดูจากที่มันนำเหยื่อมาทิ้งพร้อมกันทั้งหมด ข้าจะปรุงยาถอนมาแก้มันอีกทีขอรับ ก่อนอื่นข้าขอไปใช้โรงหมอลับเป็นที่ปรุงยาและตรวจเลือดนะขอรับ" ไป๋หลิน

"ได้ไม่มีปัญหา" จวินอ๋อง

"ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง" หลัวฟาง

"ขอบคุณขอรับ ท่านพี่" ไป๋หลิน

จากนั้นทั้งสี่คนก็เดินทางไปที่โรงหมอตระกูลหวงทันที ระหว่างทางไป๋หลินให้จวินอ๋องกับเหลียนฉีส่งสายลับไปเฝ้าตรงที่จุดพบเห็นผีน้ำ และให้คอยไปคุ้มกันชายชาวบ้านผู้ที่พบศพและเห็นผีน้ำคนนั้นไว้เพราะอาจจะมีผีน้ำไปทำร้ายหรือฆ่าปิดปากเขาอีกราย ไป๋หลินอธิบายว่าผีน้ำมันอาจจะเป็นคนที่มาตรวจดูผลการทดสอบยาพิษมากกว่าว่าเหยื่อตายสนิทหรือไม่ ไม่ก็อาจมาคอยเก็บกวาดหลักฐานภายหลัง เพื่อจะไม่ให้มีอะไรหลงเหลือเป็นสิ่งที่สามารถสาวไปถึงตัวคนบงการก็ได้ ถ้าถูกผีน้ำทำร้ายผู้ตายทั้งห้าต้องจมน้ำตาย ไม่ก็ขาดอากาศหายใจตายจะไม่มีรอยใด ๆ บนร่างกาย ส่วนข่าวลือน่าจะจงใจปล่อยข่าวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านออกไปหาปลาตอนกลางคืน เพราะจะได้ขนย้ายศพมาทิ้งได้ง่าย แถมชาวบ้านยังเชื่ออีกว่าคนที่ตายถูกผีน้ำทำร้ายจริง ๆ

"พวกเจ้าคิดว่าใครน่าสงสัยที่สุด" จวินอ๋อง

"ข้าคิดว่าหมอหลวงใหญ่ขอรับ เพราะเขามีอำนาจในสำนักหมอหลวงสามารถสั่งลูกน้องที่เชี่ยวชาญด้านพิษคิดค้นยาพิษได้ แล้วหากทำสำเร็จราชสำนักก็จะตกอยู่ในมือของเขา เนื่องจากมียาพิษที่ไร้กลิ่นไร้สีไร้ร่องรอยสามารถที่จะวางยาลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้กับฮองเฮาตอนไหนก็ได้ หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์เหล่าขุนนางที่เป็นศัตรูของเขา หรือคนที่เป็นศัตรูกับตระกูลสุ่ยก็สามารถตายได้หมดด้วยยาพิษชนิดนี้ คราวนี้เมื่อทุกอย่างตกอยู่ใต้อำนาจของตระกูลสุ่ย คิดจะเอาบัลลังก์ตอนไหนก็ได้ จะสั่งฆ่าใครด้วยยาพิษตัวนี้ก็ยังได้ โดยที่ไม่มีใครรับรู้" ไป๋หลิน

"พี่ก็คิดเหมือนเจ้า เพราะเท่าที่รู้มาตรงจุดที่ชาวบ้านเห็นผีน้ำบ่อย ๆ ตรงนั้นอีกฝั่งของแม่น้ำเป็นที่ดินเปล่ามีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด แล้วยังเป็นที่ดินสินเดิมของภรรยาหมอหลวงใหญ่สุ่ย" เหลียนฉี

"แบบนี้เท่ากับว่าถ้ายาพิษสำเร็จแล้ว ฮ่องเต้ ฮองเฮา พระสนมเอกรวมไปถึงองค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายก็ตกอยู่ในอันตรายแล้วน่ะสิ" หลัวฟาง

"ไม่ต้องห่วงข้าสั่งให้องครักษ์เฝ้าพระตำหนักของทั้งสามพระองค์ไว้แล้ว ส่วนอาหารทุกอย่างจะเป็นคนจากจวนจวินอ๋องเข้าไปทำให้เสวยโดยที่มีเหนียนฉีเป็นคนควบคุมดูแลทุกขั้น อีกอย่างมีมือสังหารประจำพระองค์ถึงสองคนอยู่ใกล้ชิด ไม่มีใครสามารถทำอันตรายได้แน่" จวินอ๋อง

"ดีเลยขอรับ คราวนี้เราเบาใจได้แล้ว ข้าจะได้ใช้เวลาทุ่มเทคิดยาถอนพิษโดยที่ไม่ต้องห่วงอะไร ส่วนเด็ก ๆ อยู่ในวังคงปลอดภัยมากกว่าเช่นกัน เพราะมีท่านป้าสะใภ้ทั้งสองคอยดูแลอยู่" ไป๋หลิน

"ไม่ต้องห่วงเด็ก ๆ ไป๋หลิน เซียวจ้านกับเซียนหลานถึงจะเป็นเกอแต่ก็มีวรยุทธ์ฝึกวิชามาตั้งแต่เด็ก ส่วนรัชทายาทและองค์ชายก็ล้วนแล้วแต่มีวรยุทธ์กันทั้งนั้น ดูแลสี่แฝดได้แน่นอน" จวินอ๋อง

"ได้ยินแบบนี้ข้าก็เบาใจขึ้นมาหน่อยขอรับ" หลัวฟาง

เมื่อทั้งสี่ถึงโรงหมอตระกูลหวง ไป๋หลินก็ได้ทำการนำเลือดจากศพผู้ตายที่เตรียมมาเข้าขบวนการแยกพิษทันที พอแยกออกมาแล้วผลปรากฏว่าในเลือดมีพิษของสัตว์เลื้อยคลานอย่างงูผสมอยู่ ซึ่งมีงูอยู่สามชนิดคือ งูเขียวหางไหม้ งูเห่า และงูจงอาง พิษงูทั้งสามชนิดนี้ทำให้เกิดอาการเลือดแข็งตัวช้า หรือไม่แข็งตัวทำให้เกิดภาวะเลือดออกตามมาได้ เป็นพิษที่ทำลายประสาทสามารถถูกดูดซึมได้รวดเร็วไปตามกระแสเลือดทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยเกิดหนังตาตกพูดไม่ชัดหายใจไม่สะดวก ยิ่งพอพิษทั้งสามชนิดมารวมตัวกันยิ่งทำให้มีฤทธิ์ร้ายแรงขึ้น หากถามว่าไป๋หลินรู้ได้อย่างไรเพราะอุปกรณ์ในการแยกพิษไม่มีเหมือนกับในยุคสมัยที่จากมา ที่รู้ได้เพราะความสามารถที่พึ่งค้นพบได้อีกครั้ง ความสามารถนี้หากไป๋หลินอยากรู้ว่าอาหารหรือตัวยานั้นมีกรรมวิธีหรือมีส่วนผสมอะไรบ้างเพียงแค่เพ่งสายตาเพ่งจิตไปที่สิ่งที่ต้องการรู้เท่านั้น ภาพในขั้นตอนการทำของสิ่งนั้นก็จะฉายขึ้นมาในความทรงจำเอง อย่างการแยกพิษในเลือดกับวิธีการปรุงพิษนี้เช่นกันยังรู้อีกว่าใครเป็นคนปรุงด้วย แต่ข้อจำกัดของความสามารถนี้จะใช้ได้เพียงวันละห้าครั้งเท่านั้น เมื่อใช้ครบไป๋หลินจะรู้สึกหมดแรงขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้นต้องใช้อย่างระมัดระวังแล้วควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น หากไม่มีวิธีหรือหนทางที่จะคิดได้ด้วยตัวเองถึงตอนนั้นค่อยใช้แล้วกัน

"เป็นอย่างไรบ้างไป๋หลิน รู้หรือยังว่าเป็นพิษชนิดใด" จวินอ๋อง

"รู้แล้วขอรับ เป็นพิษที่มีส่วนผสมสามอย่างด้วยกัน ทั้งสามอย่างล้วนแต่มาจากงูทั้งสามชนิด คือ งูเขียวหางไหม้ งูเห่า และงูจงอาง งูทั้งสามชนิดนี้ต่างมีพิษร้ายแรง แต่คนที่โดนพิษอาจจะใช้เวลาพอสมควรก่อนจะหมดลมหายใจ อีกทั้งร่างกายของแต่ละคนที่ถูวางยาไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไม่ตายทันที บางคนก็ใช้เวลานานหน่อย จึงจะเห็นได้ว่าในศพที่พวกเราเห็นที่ลำคอมีรอยตรงจุดเข็มปักลงมากว่าหนึ่งจุด แต่ผลที่ออกมาคือตายแน่นอนพวกมันจึงคิดว่าพิษสำเร็จแล้ว แต่ที่จริงมันมียาถอนพิษนะขอรับ ยาถอนพิษที่ข้าจะปรุงสามารถทานก่อนโดนพิษเพื่อเป็นยาต้านพิษได้ หรือโดนพิษแล้วค่อยมาดื่มยาถอนพิษทีหลังก็ได้เช่นกัน แต่หากโดนพิษแล้วต้องรีบดื่มยาถอนพิษทันที ห้ามทิ้งระยะเวลาเกินหนึ่งชั่วยามหลังจากโดนพิษเด็ดขาด และข้าคิดว่าตัวคนที่ปรุงยานี้ยังคงไม่ได้คิดยาถอนพิษขึ้นมาแน่นอน เพราะสมุนไพรที่ใช้แก้พิษงูทั้งสามชนิดนี้ได้นั้นหาง่าย แต่หากคนส่วนใหญ่ไม่รู้สรรพคุณของมัน และหลายคนอาจไม่รู้จักว่ามันถอนพิษงูหรือสัตว์ที่มีพิษได้ทุกชนิดขอรับ" ไป๋หลิน

"แล้วต้องใช้อะไรบ้างในการปรุงยาถอนพิษบอกมาได้เลยข้าจะไปหาให้" หลัวฟาง

"สูตรแรกจะใช้เสลดพังพอนทั้งใบและก้าน รางจืดใช้เฉพาะใบ ตำพอแหลกนำมาผสมเหล้าแล้วดื่มได้เลยขอรับ พวกท่านคงยังไม่เคยเห็นต้นของสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ หรือถ้าเคยพบก็คงคิดว่ามันเป็นวัชพืชหรือหญ้าเท่านั้น แต่ข้าพบมันโดยบังเอิญที่ด้านหลังจวนจวินอ๋อง เดี๋ยวข้าจะเขียนรูปลักษณ์ของสมุนไพรทั้งสองชนิดให้รบกวนพี่เหลียนฉีไปเก็บมาให้ข้าหน่อยนะขอรับ" ไป๋หลิน

"ได้ ๆ ข้ายินดี" เหลียนฉี

"ข้าจะไปช่วยเจ้าเก็บด้วยเหลียนฉี เพราะข้ารู้ว่าด้านหลังของจวนตรงไหนมีหญ้าขึ้นบ้าง ข้าจะพาเจ้าไปดูเอง" จวินอ๋อง

"ส่วนสูตรที่สองจะยุ่งยากหน่อยแต่ใช้สำหรับดื่มล้างพิษ ไม่ให้พิษตกค้างในร่างกายจะเป็นสูตรยาต้ม จะใช้รากหญ้าคา รากของต้าฮวาจื่อเว่ย (อินทนิล) ผักหวาน และหญ้าแพรก สูตรนี้เป็นสมุนไพรทั่วไปน่าจะหาได้ในโรงหมอ เดี๋ยวข้ากับท่านพี่จะไปหาเองขอรับ" ไป๋หลิน

"ได้ ถ้าอย่างนั้นแยกย้ายกันเถอะ เดี๋ยวข้าจะขอไปเข้าเฝ้ารายงานฮ่องเต้ก่อน ส่วนเจ้าก็ไปรอข้าที่จวนแล้วกัน" จวินอ๋อง

"ได้" เหลียนฉี

"เราไปหาสมุนไพรกันเถอะไป๋หลิน" หลัวฟาง

"ขอรับ ท่านพี่" ไป๋หลิน

ไป๋หลินรู้ว่าคนปรุงยาพิษคือใครแต่ที่ไม่ได้บอกจวินอ๋อง เพราะกลัวว่าจวินอ๋องจะใจร้อนไปจับตัวมาซะก่อนเดี๋ยวจะเสียแผนหมดให้กลับมาจากจวนก่อนค่อยจะเล่า ที่จริงเขาได้เล่าความสามารถพิเศษให้ทุกคนฟังแล้วว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง มีอะไรที่พิเศษไม่เหมือนใครเป็นอย่างไรแล้วความสามารถทั้งหมดนั้นจากไหน ไป๋หลินก็เล่าเหมือนที่เคยเล่าให้กับครอบครัวฟังทุกอย่าง หากถามว่ากลัวความลับรั่วไหลหรือไม่ บอกได้เลยว่าข้าไม่กลัว

เนื่องจากไป๋หลินมีอีกความสามารถหนึ่งคือเขาจะรู้ได้เองว่าใครไว้ใจได้และไม่หักหลังหรือคิดร้าย ที่สำคัญไป๋หลินมักจะดึงดูดคนดีที่จริงใจมาอยู่ใกล้ตัวเสมอ หากบอกความลับอะไรไปไม่มีทางรั่วไหลแน่นอน อีกทั้งเขายังรู้สึกได้ว่าคนที่ได้รับรู้ความลับของเขาจะช่วยปกป้องไป๋หลินจากอันตรายได้อีกด้วย ส่วนความสามารถพิเศษที่พึ่งค้นพบเขาบอกหลัวฟางไปแล้วแต่ยังไม่ได้บอกคนอื่นไป๋หลินกะจะบอกทุกคนอีกทีตอนเย็น ดูเหมือนคงจะต้องพักในวังอีกหลายคืนกว่าเรื่องจะคลี่คลาย

หลัวฟางกับไป๋หลินหาสมุนไพรได้จนครบก็รีบนำมาจัดเทียบยาทันที จัดไว้สำหรับต้มดื่มยามเกิดเหตุฉุกเฉิน พอถึงยามอู่จวินอ๋องกับหมอใหญ่เหลียนฉีก็กลับมาถึงโรงหมอพร้อมกับเสลดพังพอนและรางจืด สมุนไพรสองชนิดที่ทั้งสองคนนำกลับมาก็ถูกต้องตามที่ไป๋หลินต้องการทุกอย่าง ไป๋หลินลงมือนำเสลดพังพอนทั้งใบและก้าน รางจืดก็นำเฉพาะส่วนใบมาใส่ครกหินตำพอแหลก นำมาผสมเหล้าแล้วคั้นเอาแต่น้ำสำหรับไว้ดื่ม ใส่ไว้ในขวดยาเล็ก ๆ สามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ ไป๋หลินได้เตรียมไว้แจกจ่ายให้กับทุกคนที่คิดว่าคนร้ายจะต้องมุ่งเป้าไปหาแน่นอน

"จวินอ๋องขอรับ" ไป๋หลิน

"นี่เจ้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าข้าให้เจ้าสองคนเรียกว่าอะไร" จวินอ๋อง

"ขออภัยด้วยขอรับพี่เซียวเห่อ พอดีมันติดปาก คือว่าข้ามีอะไรจะบอกขอรับ" ไป๋หลิน

"มีเรื่องอะไรเหรอ" จวินอ๋อง

"คือว่าข้าได้ความสามารถพิเศษใหม่ขอรับ พึ่งคนพบเมื่อเช้านี้เองแต่ข้ายังไม่ได้บอกใคร ความสามารถที่ค้นพบก็คือหากข้าต้องการทราบว่าตัวยาหรืออาหารที่เห็นว่ามีส่วนผสมอะไรมีขั้นตอนทำอย่างไร เพียงแค่เพียงเพ่งจิตดูก็จะรู้ได้ทั้งหมดรู้ถึงตัวคนทำด้วย ข้าก็เลยลองเอามาลองใช้ตอนที่ข้าแยกพิษออกจากเลือด ข้าจึงได้รู้ว่าส่วนผสมของพิษมีอะไรและได้รู้ตัวคนทำด้วยขอรับ" ไป๋หลิน

"จริงเหรอ เช่นนั้นรู้ได้หรือไหมว่าใครทำ" เหลียนฉี

"รู้ขอรับ คนที่ทำก็คือคนของหมอหลวงใหญ่ขอรับ มีชื่อว่าเจียงเวินซู ฉายาเซียนร้อยพิษ ตอนนี้น่าจะยังคงอยู่ในเมืองหลวงนี้แหละ หรืออาจจะซ่อนตัวอยู่ในสำนักหมอหลวงก็เป็นไปได้ขอรับ" ไป๋หลิน

"ดี ข้าจะให้คนไปค้นที่สำนักหมอหลวงเดี๋ยวนี้แหละ" จวินอ๋อง

"ช้าก่อนดีกว่าขอรับ หากไปตอนนี้คนร้ายน่าจะแตกตื่นหนีไปก่อน อีกทั้งหลักฐานก็ยังไม่แน่นหนาพอ ไม่ก็อาจจะมีการฆ่าปิดปากก่อนที่จะจับตัวได้ ข้าว่าพี่เซียวเห่อน่าจะมีสายลับในสำนักหมอหลวงใช่ไหมขอรับ ท่านส่งข่าวให้คนของท่านจับตาดูไว้ก่อน รอให้ทั้งสองนัดเจอกันอีกครั้งก่อนดีกว่า เมื่อถึงตอนนั้นเราค่อยรวบจับทั้งคู่เลยทีเดียวคราวนี้หมอหลวงใหญ่ก็ดิ้นไม่หลุด ส่วนคนปรุงยาก็ยังไม่ถูกฆ่าปิดปากสามารถรีดเค้นความจริงได้ด้วย หากผู้สั่งการถูกจับแล้วคนที่เป็นลูกน้องก็จะปฏิเสธความผิดไม่ได้ คราวนั้นมันจะคลายความจริงของมาเอง ส่วนเรื่องผีน้ำหากได้ตัวมาก็ยิ่งดี จะได้ความจริงอีกส่วนนำมามัดตัวผู้บงการอย่างหมอหลวงใหญ่ได้แน่นขึ้นไปอีก" หลัวฟาง

"จริงด้วยขอรับ แล้วคนของท่านไปว่างกับดักเสร็จหรือยังพี่เซียวเห่อ" ไป๋หลิน

"พี่ใหญ่เจ้ารายงานมาแล้วว่ากับดักทุกอย่างเตรียมพร้อม รอแค่พวกมันปรากฏตัวเท่านั้น" จวินอ๋อง

"ข้าว่าไม่นานเกินรอหรอก เพราะเรื่องถึงศาลต้าเว่ยแล้ว พวกมันอยู่ไม่เป็นสุขแน่" เหลียนฉี

พระตำหนักลิ่วกง

สองพี่น้องตระกูลสุ่ย พระสนมสุ่ยกุ้ยเฟยกับหมอหลวงใหญ่สุ่ย ทั้งคู่กำลังหารือกันอย่างเคร่งเครียด เพราะศพทั้งห้าคนที่ใช้เป็นเหยื่อในการทดสอบยาพิษตัวใหม่ ดันมีคนไปพบศพแล้วนำไปแจ้งกับศาลต้าเว่ย ถือว่าเป็นความสะเพร่าอันใหญ่หลวง ไม่ว่าเรื่องจะยากเพียงใดหากได้ถึงมือศาลต้าเว่ยแล้วทุกอย่างก็คลี่คลายได้โดยง่าย ควรนี้ตระกูลสุ่ยของพวกเขาถึงคราวเคราะห์แล้วแน่ ๆ

"เราจะทำยังไงกันดี เรื่องถึงศาลต้าเว่ยแล้วนะพี่ใหญ่" สุ่ยกุ้ยเฟย

"ไม่ต้องกังวลไปพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ให้คนไปจัดการกับคนที่ทำงานพลาดแล้ว อีกทั้งส่งคนไปปิดปากชาวบ้านคนที่เห็นผีน้ำแล้ว ไม่มีอะไรสาวมาถึงเราสองคนได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงใหญ่สุ่ย

"จริงหรือ ได้ยินแบบนี้ข้าก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย แล้วยาพิษตัวใหม่พร้อมใช้งานได้หรือยัง ข้าอยากกำจัดฮองเฮากับพระสนมเอกให้พ้นทางสักที" สุ่ยกุ้ยเฟย

"อีกไม่นานเกินรอทุกอย่างต้องเป็นของตระกูลสุ่ยแน่นอน เพราะอีกสามวันแผนการจะเริ่มต้นขึ้นพ่ะย่ะค่ะ"

ทั้งสองพี่น้องมั่นใจว่าอำนาจและแคว้นต้าเว่ยจะต้องตกอยู่ในกำมือของตระกูลสุ่ยอย่างแน่นอน เหลืออีกแค่สามวันเท่านั้นแผนการจะเริ่มต้นขึ้นเป้าหมายแรกก็คือการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งฮองเฮา

แต่ดูเหมือนว่าความมั่นใจของสองพี่น้องตระกูลสุ่ยจะผิดแผนไปมาก เพราะนักฆ่าที่ส่งไปปิดปากลูกน้องที่ทำผิดแผนนั้นถูกจับได้เรียบร้อยแล้ว ถูกจับได้แถวที่มีชาวบ้านพบเห็นผีน้ำเพราะวิ่งไล่กันไปติดกับดักที่พี่ใหญ่ไป๋อันกับลูกน้องในหน่วยวางไว้พอดี จึงจับมารีดเอาความจริงก็พบว่าคนที่ถูกตามล่านั้นคือผีน้ำที่ออกมาหลอกชาวบ้านและคอยนำศพมาทิ้ง ปกติจะขุดหลุมอำพรางศพ แต่วันนั้นดันมีศพเยอะมากกว่าทุกครั้ง จึงตัดสินใจทิ้งลงแม่น้ำทำให้ดูเหมือนว่าจมน้ำตาย แต่ดันลืมตรวจว่าศพตายสนิทหรือยังและลืมเอาเข็มออกจากศพ จึงย้อนกลับมาตรวจดูศพอีกครั้ง แต่ก็เจอชาวบ้านมาหาปลาพอดีก็รีบหนีซะก่อน ส่วนคนที่ตามล่าก็ยอมรับสารภาพว่าหมอหลวงใหญ่สุ่ยเป็นคนสั่งการให้ตามฆ่าปิดปากคนที่ทำงานพลาด ยังเผยอีกว่าในที่ดินสินเดิมของภรรยาท่านหมอหลวงใหญ่นั้น ลึกเข้าไปตรงกลางมีกระท่อมไว้สำหรับปรุงยาพิษอยู่ คนที่ใช้ที่นั่นบ่อย ๆ มีหมอหลวงใหญ่กับเจียงเวินซูเท่านั้น มันยังบอกอีกว่าศพของเหยื่อที่ถูกจับมาทดสอบยาพิษนั้นฝังเต็มไปหมดทั่วที่ดินผืนนั้น

ส่วนผีน้ำอีกตนที่ตามไปทำร้ายหวังจะปิดปากชาวบ้านคนที่พบศพ เป็นคนสนิทของหมอหลวงใหญ่ก็ถูกจับได้พร้อมกับสารภาพทุกอย่างเช่นกัน ทั้งยังรู้อีกว่าอีกสามวันแผนการร้ายที่จะลอบวางยาฮองเฮาจะเริ่มขึ้น โดยที่อีกสองวันหมอหลวงใหญ่กับเจียงเวินซูจะนัดพบกันที่ห้องสมุดในสำนักหมอหลวง ไป๋อันไม่รอช้ารีบไปรายงานจวินอ๋องที่โรงหมอทันที เพื่อที่จะได้หารือเตรียมแผนรับมือได้ทันการ

พระตำหนักคุนหนิง

หลังจากสืบคดีผีน้ำเสร็จทุกคนต่างก็มารวมตัวที่พระตำหนักคุนหนิง เพื่อเล่ารายละเอียดและสรุปผลการสืบคดี ทั้งพร้อมเตรียมรับมือกับแผนร้ายของสองพี่น้องตระกูลสุ่ย ที่เลือกพระตำหนักคุนหนิงเป็นที่ประชุมเพราะต้องการหาหนอนบ่อนไส้ของฝ่ายตรงข้ามด้วยและก็เจอหลายคนเลยทีเดียว แต่พระสนมเอกจัดการไปเรียบร้อยแล้วลงโทษด้วยการให้ดื่มยาพิษปลิดชีพตัวเอง ถือว่าเป็นการล่วงเกินเบื้องสูงและคนที่ถูกส่งมาล้วนแต่เป็นคนของตระกูลสุ่ยทั้งนั้น

"อีกสามวันแผนการจะเริ่มเราต้องเตรียมแผนรับมือกันหน่อยแล้ว พวกเจ้ามีแผนอะไรดี ๆ บ้างหรือไม่" ฮ่องเต้หลงเห่อ

"ท่านพี่ไม่ต้องห่วงเรื่องยาถอนพิษไป๋หลินกับหลัวฟางเตรียมไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" จวินอ๋อง

"ดีมาก แล้วมีแผนอะไรอีกหรือไม่" ฮ่องเต้หลงเห่อ

"กระหม่อมคิดว่าวันที่หมอหลวงใหญ่สุ่ยกับเจียงเวินซูนัดพบกันเราก็จับกุมทั้งสองวันนั้นเลย แต่ยังไม่ต้องส่งไปสอบสวนจับตัวกักขังไว้ก่อน ส่วนวันที่เริ่มแผนการเราก็ปล่อยข่าวว่าฮองเฮาโดนพิษจนถึงแก่ชีวิตเพื่อให้พระสนมสุ่ยกุ้ยเฟยกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวานั้นเผยตัวออกมา ข้าคิดว่าหากจับหมอหลวงใหญ่สุ่ยกับเจียงเวินซูแล้วสอบสวนเลยพระสนมสุ่ยกุ้ยเฟยกับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาก็สามารถปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาได้ หมอหลวงใหญ่ก็จะอ้างว่าตนลงมือทำคนเดียว แต่หากให้เผยตัวออกมาเองแบบนี้ดิ้นไม่หลุดแน่ขอรับ " ไป๋หลิน

"ดี ข้าเห็นด้วย เอาตามที่ไป๋หลินบอกนี้แหละ" ฮ่องเต้หลงเห่อ

"ทูลฝ่าบาท ก่อนหน้าที่กระหม่อมจะไปสมทบกับจวินอ๋องที่โรงหมอ ข้าได้ข่าวรายงานจากจวนรุ่ยอ๋อง ว่ามีนางกำนัลตายอย่างปริศนาเช่นกัน แถมศพก็พบเจอในน้ำเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ" ไป๋อัน

"เป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่จวนของรุ่ยอ๋องมีหนอนบ่อนไส้ของตระกูลสุ่ยอยู่ แล้วนำยาพิษตัวใหม่ไปทดสอบกับนางกำนัลในจวนของรุ่ยอ๋องเช่นกัน" หลัวฟาง

"นั้นสิ ที่น้องเขยพูดมาก็น่าคิด" ไป๋อัน

"เช่นนั้นพรุ่งนี้ เราไปสืบกันเถอะมันอาจจะเกี่ยวข้องกันแน่ ๆ " เหลียนฉี

"ดี ถ้าเช่นนั้นไป๋อันไปแจ้งเฟิงเห่อบอกว่า พรุ่งนี้ข้าจะส่งชุดสืบเฉพาะกิจไป" ฮ่องเต้หลงเห่อ

"พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" ไป๋อัน

"แสดงว่าพรุ่งนี้ข้าสี่คนต้องไปจวนน้องสามใช่ไหมท่านพี่" จวินอ๋อง

"แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าสี่คน ลำบากหน่อยนะ หากงานนี้เสร็จสิ้นกวาดล้างคนชั่วได้หมดข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม แถมวันหยุดให้ด้วย ฮ่า ฮ่า" ฮ่องเต้หลงเห่อ

ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อรอเวลาทานข้าวเย็น วันนี้พี่สะใภ้ทั้งสองเห็นไป๋หลินทำงานหนักและวิ่งวุ่นไปหลายที่จึงได้อาสาทำอาหารเย็นเอง เวลาที่เหลือให้ไป๋หลินได้พักผ่อนกับลูก ๆ และสามีดีกว่า ตั้งแต่มาเมืองหลวงก็เห็นว่าน้องสามีแทบไม่ได้ว่างเลย นอกจากศึกษาดูงานโครงสร้างโรงหมอแล้วยังต้องมาเป็นเจ้าหน้าที่สืบคดีเฉพาะกิจอีกนึกแล้วก็สงสาร ถึงเมื่อก่อนจะร้ายกาจเพียงใดแต่ก็ไม่เคยนึกเกลียดชัง พอเปลี่ยนแปลงตัวเองนิสัยดีเหมือนตอนเด็กก็ยิ่งน่าเอ็นดู มีใครบ้างที่จะไม่โดนไป๋หลินน้อยในตอนนั้นอ้อนบ้าง อ้อนจนพี่สะใภ้อย่างพวกเขานั้นหลงมาก แต่พอโตขึ้นมาหน่อยน้องก็ตีตัวออกห่างเพราะคนบ้านตระกูลลี่ พูดมาแล้วก็แค้นอย่าให้ได้เจอหรือกลับมาวุ่นวายกับไป๋หลินอีกก็แล้วกัน พี่สะใภ้ทั้งสองคนนี้แหละจะไล่ตะเพิดให้จำทางกลับบ้านไม่ได้เลยคอยดู

ไป๋หลินได้ไปรับสี่แฝดที่ตำหนักขององค์รัชทายาท เพราะเด็กบ้านถานรองกับพี่บ้านเดิมต่างก็ไปรวมตัวกันอยู่ที่ตำหนักขององค์รัชทายาททั้งหมด ลูก ๆ ก็ถามว่าท่านพ่อท่านแม่หายไปไหนมานานจังพวกเขาสี่คนคิดถึงมาก

"ข้ากับน้องคิดถึงท่านแม่ท่านพ่อมากขอรับ" ลู่เซียน

"ใช่ ข้าคิดถึงขนมฝีมือท่านแม่มาก" ลู่ตง

"แต่แม่เห็นเจ้ากินขนมที่พี่ ๆ แบ่งให้เต็มปากเลยนะ" ไป๋หลิน

"ท่านแม่อ่ะ" ลู่ตง

ลู่ตงเขินที่ท่านแม่จับได้จึงรีบเข้าไปกอดแม่แล้วเอาหน้าถูไถที่ท้องด้วยความอายราวกับลูกแมวมุดหาความอุ่นในตัวแม่

"ถึงขนมจะมีมากมายและอร่อย แต่ก็สู้ขนมที่ท่านแม่ทำไม่ได้ขอรับ" ลู่ฉิน

ลู่ฉินนอกจะเฉลียวฉลาดหัวไวแล้วยังปากหวานอีกด้วย เอ่ยหยอดคำหวานใส่ท่านแม่บ่อยมาก โตไปสาวน้อยเกอน้อยต้องหลงคารมมากแน่ สงสัยต้องเตรียมสินสอดไว้เยอะ ๆ แล้วละ

"จริงอย่างที่พี่สามพูด ขนมที่ท่านแม่ทำอร่อยที่สุดขอรับ" ลู่ถิง

เจ้าลูกคนเล็กก็ไม่น้อยหน้าในเรื่องความฉลาดและปากหวาน เอ่ยปากชมทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ลูกทั้งสี่ของข้าน่ารักน่าเอ็นดูจริง ๆ นึกแล้วก็ไม่อยากให้โตเลย พอโตแล้วกลัวไม่อ้อนแม่แต่อ้อนภรรยาแทน พูดถึงเรื่องมีลูกสะใภ้เขาจะไม่บังคับลูกหรอก ลูกรักใครเขาก็รักด้วยเพียงแต่อยากให้ลูกเลือกคนดี ๆ มาเป็นคู่ชีวิตก็พอ ส่วนเขาทำได้แค่เพียงให้คำปรึกษาลูกเท่านั้น

"พวกเจ้าอย่าอ้อนแม่มากสิ เก็บไว้อ้อนภรรยา โตขึ้นพอมีภรรยาต้องดูแลให้ดีเข้าใจไหม ฮ่า ฮ่า" ไป๋หลิน

"โตขึ้นจะมีใครดูแลพ่อกับแม่ไหมนะ" หลัวฟาง

"ข้าสัญญาโตขึ้นข้าจะดูแลท่านพ่อท่านแม่เองขอรับ" ลู่เซียน

"ข้าด้วย ข้าก็สัญญาลูกผู้ชายขอรับ" ลู่ตง

"ข้าด้วยขอรับ"ลู่ถิง

"ข้าเองก็สัญญาขอรับ" ลู่ฉิน

"ดี โตขึ้นเจ้าทั้งสี่ต้องดูแลแม่ น้องสาวกับน้องเกอ ช่วยพ่อนะ ห้ามคืนคำเข้าใจหรือ" หลัวฟาง

"เข้าใจขอรับ/เข้าใจขอรับ/เข้าใจขอรับ/เข้าใจขอรับ"

สี่พี่น้องบ้านถานรองเอ่ยปากรับคำของท่านพ่อพร้อมกันด้วยท่าทางจริงจังทำให้น่ารักจน ท่านพ่อท่านแม่อดใจไม่ไหวหอมแก้มลูกชายทีละคนด้วยความเอ็นดู

พอถึงเวลาอาหารเย็นทุกคนก็ทานข้าวร่วมกันที่พระตำหนักคุนหนิงเช่นเคย พร้อมกับหารือนัดเวลากันไปสืบคดีที่จวนรุ่ยอ๋องในวันพรุ่งนี้ ไป๋หลินก็ได้เล่าถึงความสามารถที่ค้นพบได้ใหม่ให้ทุกคนฟัง ต่างก็ตื่นเต้นในความสามารถพิเศษของไป๋หลิน แต่ก็เป็นห่วงมากด้วยในเวลาเดียวกัน ได้แต่คอยเตือนว่าให้ระวังตัวเวลาใช้ความสามารถใด ๆ ก็ตาม เมื่อทานเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนที่ห้องนอนรับแขกของวังเพื่อพักเอาแรงลุยต่อพรุ่งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนรุ่ยอ๋องไป๋หลินคิดว่าคนร้ายน่าจะยังไม่ไปไหนหรอก หรือไม่พวกมันอาจจะทำงานแยกกันกับพวกผีน้ำ เพราะคำสารภาพในวันนี้ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับจวนรุ่ยอ๋องออกมาจากปากของคนร้ายที่จับได้วันนี้เลย แต่ไป๋หลินเชื่อว่าคนสั่งการคือคนเดียวกันแน่นอน นึกว่ามาอยู่โลกใหม่แล้วจะไม่พบเรื่องเสี่ยงอันตรายแต่กลับอันตรายยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมสกิลการเอาตัวรอดมากขึ้นไปอีก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 129

    "ข้าขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน ขอให้ครอบครัวและสหายทั้งหลาย อยู่เย็นเป็นสุขดุจดอกเหมยบานไม่ร่วงโรย" หลัวฟางเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดังก้องพร้อมกัน งานเลี้ยงดำเนินไปถึงยามค่ำ ไฟโคมแดงถูกจุดเรียงรายทั่วจวน แสงโคมสะท้อนยิ้มและเสียงหัวเราะ ทำให้คืนวันนั้นกลายเป็นความทรงจำที่อบอุ่นที่สุดของทุกคนค่ำค

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 128

    แปดเดือนต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ลมอ่อนพัดกลีบดอกเหมยปลิวว่อนทั่วจวนตระกูลถาน เสียงร้องทารกสองคนดังประสานกันในห้องคลอด ไป๋หลินเหน็ดเหนื่อยเหงื่อชุ่มแต่รอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้ายังคงงดงามยิ่งนักหมอตำแยยกห่อผ้าขาวสองห่อส่งให้หลัวฟาง เด็กคนหนึ่งมีแก้มแดงระเรื่อร้องเสียงใส อีกคนตาปรือเงียบสงบแต่กำมือแน่นราว

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 127

    โรงหมอกังอันในยามเช้าอาบด้วยแสงแดดอุ่นอ่อน กลิ่นดอกเหมยที่หลัวฟางเด็ดมาจากสวนยังอบอวลอยู่ในแจกันไม้ไผ่ ไป๋หลินที่เพิ่งตรวจชีพจรให้คนไข้รายสุดท้ายในห้องรักษา เขารู้สึกผิดแปลกในร่างกายตนเองมาตลอดหลายวันอ่อนเพลียง่าย ใจเต้นแรงและบางครั้งมีคลื่นไส้ยามเช้าจึงขอมาพักที่เรือนรับรองก่อนไป๋หลินจึงนั่งลงที่โ

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 126

    ตอนนี้องค์ชายรองเฟยซินก็มาศึกษาเล่าเรียนวิชาแพทย์ได้ห้าเดือนกว่าแล้ว แต่กลับเข้าใจทุกอย่างและจดจำขั้นการรักษาของแต่ละโรคได้อย่างแม่นยำ สมุนไพรรักษาโรคทุกชนิดก็จำสรรพคุณได้อย่างขึ้นใจ ด้วยความเก่งและฉลาดจนตอนนี้องค์ชายเฟยซินสามารถรักษาผู้ป่วยแทนท่านอาจารย์อย่างไป๋หลินได้แล้ววันนี้มื้อเย็นไป๋หลินได้ท

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 125

    ไป๋หลินลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะสมุนไพร เปิดลิ้นชักแล้วหยิบรากโสมแห้งขึ้นมา เฟยซินรับสมุนไพรนั้นมาพิจารณาอย่างตั้งใจ พระเนตรเต็มไปด้วยประกายสงสัย"เช่นนั้น ท่านอาหมายความว่าของที่ดี หากใช้ผิดวิธีก็อาจฆ่าคนได้ ใช่ไหมขอรับ" เฟยซิน"ใช่แล้ว นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เป็นแพทย์ต้องเรียนรู้ทั้ง คุณและโทษ ของทุกสิ่

  • เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย   บทที่ 124

    "ขอรับท่านกงกง ข้าจะดูแลองค์ชายเฟยซินเป็นอย่างดี" ไป๋หลินไป๋หลินคุกเข่าลงรับพระราชโองการ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงบในหัวก็พึ่งนึกได้ว่าเคยสัญญากับองค์ชายไว้ ว่าจะรับองค์ชายเฟยซินเป็นศิษย์คนแรกของตน นี้คงถึงเวลาที่ต้องรับองค์ชายเป็นศิษย์จริง ๆ แล้วสินะ หลัวฟางที่ยืนข้างกายมองนางด้วยรอยยิ้มภูมิใจพร้อมกล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status