Share

บทที่ 9 อยากรู้ไหมใครร้ายกว่ากัน

last update Dernière mise à jour: 2024-11-28 12:09:46

           “หนูจะไปฟ้องพี่เลี้ยง!! พี่เป็นเด็กไม่ดีต้องถูกลงโทษ!!!”

            เด็กสาวผมเปียโมโหจัด เธอตัวสั่นเทาแต่ยังต่อต้าน พูดเสียงดังใส่เด็กกร่างอย่างไม่เกรงกลัว

            “เหอะ เด็กไม่มีพ่อแม่อย่างเธอกับลูกตำรวจแบบฉันคิดว่าพวกนั้นจะเข้าข้างใครมากกว่า เผลอ ๆ เธอเองนั่นแหละที่จะโดนหาว่ามารยา ใส่ร้ายคนอื่นไปทั่ว!!”

            เด็กสาวตัวน้อยดวงตาแดงก่ำ คำพูดของคนตัวโตกว่าเสียดแทงเข้ามาในใจเธอยังจัง ถูกต้องแล้ว เธอเป็นแค่เด็กกำพร้าตัวเล็กซึ่งถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง จะไปสู้อะไรกับลูกคนใหญ่คนโตได้

            “ไม่มีพ่อแม่แล้วไง ถ้าต้องเกิดมาเป็นเด็กสถุลอย่างนายฉันขอไม่เกิดมาแต่แรกเลยดีกว่า ถ้าจะเลี้ยงออกมาได้สันดานเสียขนาดนี้”

            อีเลนกัดฟันกรอดพูดอย่างขบเคี้ยว เขารู้สึกอยากวิ่งเข้าไปซัดเด็กตรงหน้าปรับนิสัยสักสองสามที ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายยังเป็นเด็กปานนี้คงโดนกระทืบจมดินไปแล้ว  

            เด็กชายพยายามเว้นระยะห่างออกจากเด็กหัวโจกพอสมควร กลัวใจจะเผลออารมณ์ชั่ววูบ ต่อยหน้าเต็มแรงฟันหลุดสองซี่เหมือนเด็กอ้วนอีก

            เด็กบ้าอำนาจพอเห็นหน้าอีเลนเข้าดวงตาพลันแข็งค้าง ถลึงตาใส่อีกฝ่ายปานจะกลืนกิน ยกนิ้วชี้ใส่หน้าอย่างอุกอาจ

            “แก!! เป็นแกอีกแล้ว!! ชอบเล่นบทฮีโร่มากนักรึไง! อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่าย ๆ เหมือนวันนั้นนะ!!”

            อีเลนหัวเราะเย้ยหยันกับคำพูดของเด็กเมื่อวานซืน วันก่อนเจ้าตัวยังนอนร้องไห้ตัวคลุกฝุ่นอยู่เลย มาวันนี้ตัวคนเดียวอีกจะทำอะไรเขาได้

            เด็กหัวโจกเห็นศัตรูไม่สะทกสะท้านแถมยังหัวเราะใส่ ไฟโทสะบันดาลพุ่งสูงปรี๊ด วันนี้เขาจะไม่ยอมโดนหยามเหมือนแบบวันนั้นอีกแน่!!

            “จอน ถ้ามึงจับมันให้กูได้ กูจะบอกป๊าเพิ่มเงินเดือนให้”

             คนเกเรพูดลอย ๆ พลันสีหน้าแสยะยิ้มคล้ายผู้ชนะ บอดี้การ์ดร่างสูงสวมชุดสูทสีดำคนหนึ่งเดินออกมาจากที่ซ่อนตัวแสดงสีหน้าลำบากใจก่อนจะมายืนอยู่ข้างหลังผู้เป็นนาย

            ‘หึ ก็ว่าทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงใจกล้านัก ที่แท้มีคนคอยหนุนหลังนี่เอง’ อีเลนคิดพลางมองพวกเศษขยะอย่างเอือมระอาปนขยาด

            “ไปสิ ไปจับมันให้อยู่นิ่ง ๆ กูจะได้อัดมันจนเละคามือได้สบาย ๆ”

            “แต่คุณท่านไม่ได้จ้างผมมาทำเรื่องแบบนี้นะครับ”

            “แล้วไง ทียัยเด็กนั่นมึงยังไม่ห้ามกูเลย แล้วแบบนี้จะมาห้ามกันเนี่ยนะ ถ้ามึงไม่ช่วยกู กูจะไปฟ้องป๊าว่ามึงปล่อยให้มันเข้ามาทำร้ายกู!!”

            บอดี้การ์ดถึงขั้นลอบถอนหายใจ ตั้งแต่ลูกชายของผู้เป็นนายร้องไห้หน้าเปื้อนฝุ่นกลับบ้านมาฟ้องพ่อ

            เขาก็ได้รับมอบหมายให้คอยดูแลปกป้องเจ้าเด็กเอาแต่ใจชอบหาเรื่องไปทั่ว พร้อมทั้งยังกำชับให้ดูแลเด็กนี่ให้ดีอย่าปล่อยให้ไปก่อเรื่องที่ไหนอีก แต่ถ้าห้ามไม่อยู่แล้วเผลอสร้างเรื่องใหญ่โตจริงๆ ก็เอาเงินยัดปากคู่กรณีทำให้เรื่องมันจบ ๆ ไป

            มาคราวเด็กผู้หญิงที่นายตัวน้อยจะเข้าไปลวนลาม ใจจริงอยากฝืนไปห้ามแต่จะขัดอะไรได้ ถ้าทำให้นายน้อยรู้สึกรำคาญใจ เจ้าตัวได้กลับไปฟ้องพ่อแจ้งตกงานกันพอดี แถมลูกเจ้านายก็แค่จับนิดหน่อย คงไม่เสียหายหรอกมั้ง

            “เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่า แค่ดูแลเด็กสักคนยังไม่ได้เรื่อง โตแต่ตัวจริง ๆ!!”  อีเลนสบถใส่คนสวมชุดสูทสีดำที่ยืนลังเลอยู่อย่างรู้สึกสมเพช

            “เฮ้ย!! มัวทำไร รีบไปจับมันให้กูดิ จะปล่อยให้มันยืนด่ามึงเฉย ๆ งี้รึไง” เด็กหัวร้อนเริ่มอารมณ์เสีย

            ‘เอาก็เอาวะ อย่างน้อยที่นี่ก็มีแต่พวกตัวน้อย รีบทำให้จบก่อนจะมีคนมาดีกว่า’ ชายร่างสูงเดินตรงปรี่เข้าไปหาอีเลน เด็กชายไม่หวั่นเกรง เขากำหมัดแน่นเตรียมชกอีกฝ่ายถ้าจะเข้ามาจับตัวจริง ๆ

            ตั้งแต่อยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาก็มีเรื่องชกต่อยกับพวกอันธพาลขี้แกล้งมาหลายปีแล้ว พึ่งจะได้พักไม่มีเรื่องต่อยตีจริง ๆ ก็ตอนออกจากสถานรับเลี้ยงมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง

             บอกเลยแม้ร่างกายจะเล็กแต่ตัวเขายังจำเทคนิคการต่อสู้ที่เอาชนะศัตรูได้ในหัวไม่เสียท่าให้ง่าย ๆ หรอก

            “พี่คะ พี่ไม่ต้องห่วงหนู พี่วิ่งหนีไปเลยค่ะหนูจะถ่วงเวลาให้พี่เอง!!”เด็กหญิงอาการตัวสั่น หน้าซีดเผือด แม้เธอจะกลัวมากแค่ไหนแต่ก็ยังเอาตัวเองเข้ามาขวางทางผู้ใหญ่ใจโฉดไว้

             เด็กนิสัยไม่ดีหัวเสียรีบเดินไปกระชากแขนเด็กน้อยออกมาจนตัวปลิว อีเลนมองการกระทำแสนหยาบช้าพลันเลือดขึ้นหน้า กะจะพุ่งตัวเข้าไปชกสักหมัดให้รู้แล้วรู้รอด!! คนนิสัยแบบนี้เด็กก็เด็กเถอะเขาจะทำให้มันจำฝังใจไปตลอดชีวิต!!!

            *แชะ*

            เสียงชัตเตอร์ถ่ายรูปสะกดทุกอย่าง อีเลนยืนนิ่งงันก่อนจะหันตัวไปทางต้นเสียง ดวงตาสีแซฟไฟร์ถูกเงาหลังตึกพาดผ่านในความมืด ยืนถือโทรศัพท์อยู่ทางด้านหลังตน มุมปากกดรอยยิ้มหวานแฝงอาบพิษร้ายกาจ

            “มึง!!! มึงมันคนที่เหยียบหน้ากู กูจะทำให้มึงไม่ได้ผุดได้เกิด!!”

            “ไหน ใครจะไม่ได้ผุดได้เกิดกันนะ”

            เคียร์นเดินมาหยุดอยู่ข้างอีเลน น้ำเสียงยียวนเปล่งยั่วโมโหเด็กเหลือขออย่างเย็นชา

            เขาโชว์ภาพมือถือที่ตนถ่ายไว้ให้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมดู ในภาพเป็นหัวโจกกำลังกระชากร่างเด็กสาวให้พ้นทางบอดี้การ์ดซึ่งกำลังมุ่งหน้ามาหาเรื่องเด็กตัวน้อย ดูยังไงในรูปพวกนั้นก็เป็นฝ่ายผิดชัด ๆ

            “เหอะ กับอีแค่ภาพถ่ายรูปเดียวมันจะไปทำอะไรได้”

            “หึ”

             เคียร์นหัวเราะเสียงเยือกเย็นจนอีเลนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับรู้สึกขนลุกซู่ น้ำเสียงไม่แยแสพูดเชิงทีเล่นทีจริงออกจากปากอย่างเชื่องช้า

            “ทำไงดีน่า~ ถ้ารูปลูกคนใหญ่คนโตหลุดออกไปได้มีผลกระทบเป็นวงกว้างแน่เลย ข่าวลือเรื่องผู้มีอำนาจในทางไม่ชอบ ปล่อยให้ลูกตัวเองมาทำร้ายเด็กอายุไม่ถึงสิบสองขวบในสถานรับเลี้ยงแบบนี้ คงได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแน่เลย”

            “จอน!!! มึงวิ่งไปเอามันมาดิ จะปล่อยให้พ่อกูเห็นภาพนั้นว่อนเน็ตรึไง!!”  คนสวมชุดดำโดนเด็กอวดดีตวาดลั่น

             ผู้ใหญ่ร่างโตรีบพุ่งเข้าไปหาเคียร์นเพื่อแย่งโทรศัพท์ แต่เจ้าตัวดันหลบได้แล้วสกัดขาอีกฝ่ายล้มลงในทันที 

            “วิ่งไม่ระวังทั้งนายทั้งบ่าวเลย เฮ้อ”

            ดวงตาสีแซฟไฟร์จ้องมองเด็กแก่แดดอย่างเยือกเย็น จนทำให้อีกฝ่ายหวาดผวาก่อนจะยกเท้าเหยียบมือเน้นหนักคนที่นอนล้มอยู่เบื้องล่าง

            อีเลนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสับสน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเกินจนสมองเขาประมวลผลตามไม่ทัน

            "ว้ายตายแล้ว!! เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็วิ่งหนีกันออกมาป้าตกใจหมด!! แล้วให้ป้าไปตามคนมาทำไมคะเนี่ย"

            หลังจากเคียร์นเห็นอีเลนรีบวิ่งออกไปตามเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้น เขาหันไปบอกกับป้าเมย์ให้ไปตามผู้ดูแลมาที่นี่เพราะได้ยินเสียงร้องอาจเกิดเรื่องใหญ่ได้ เคียร์นรีบวิ่งไล่ตามหลังอีเลนไป

             เขาแอบยืนลอบสังเกตสถานการณ์อยู่ห่างๆ ก่อนจะหาจังหวะดี ๆ ออกมาถ่ายรูปพวกสารเลว

            “เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมรีบวิ่งแตกตื่นออกมากันแบบนี้”

             คุณผู้ดูแลสถานที่เป็นชายแก่หน้าตาอ่อนโยนวัยกลางคนวิ่งหอบ มาพร้อมกับพี่เลี้ยงเด็กชายหญิงสองสามคน

            “ผมได้ยินเสียงร้องเลยรีบวิ่งมาดู ไม่คิดว่าเพื่อนคนนั้นจะทำร้ายน้องคนนี้ได้ลงคอเลยครับ”

            อีเลนมองการแสดงตีสองหน้าใสซื่อของเพื่อนตนเอง เคียร์นพูดพลางทำหน้าหวาดกลัวพลางชี้นิ้วไปด้านหน้า

             เด็กหัวโจกสีหน้าพลันไร้เลือดฝาดเขาเหงื่อแตกพลั่ก รีบปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างว่องไว

            “ผมไม่ได้ทำครับ หมอนั่นน่าจะเข้าใจผิด!!”เด็กไม่สิ้นฤทธิ์เกิดอาการเลิ่กลั่กแสดงความหวาดระแวงอย่างหยุดไม่อยู่

            เคียร์นเห็นปฏิกิริยาอีกฝ่ายมุมปากกดลึกลอบยิ้มเย็นชาก่อนจะทำเสียงสั่นเครือชี้นิ้วไปทางบอดี้การ์ดที่พึ่งลุกขึ้นนั่งจากพื้นด้วยอีกคน

            “แล้วเขาก็สั่งให้พี่ชายคนนั้นมาทำร้ายพวกเราด้วยครับ"

            นี่เป็นครั้งเเรกที่อีเลนไม่รู้สึกตงิดใจกับการแสดงเสแสร้งของเด็กข้างกาย กลับกันเขารู้สึกดีเสียด้วยซ้ำ

            อีเลนค่อย ๆ เดินย้ำเท้าไปทางเด็กหญิงตัวน้อยซึ่งตอนนี้ยืนสั่นเทาอยู่ไม่ไกล เขาปล่อยให้เพื่อนรับหน้าที่คุยกับพวกผู้ใหญ่ไปส่วนตนจะไปปลอบใจหญิงตัวเล็กเอง

            พอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กตัวนิดเดียว เขาทำการอุ้มเธอขึ้นมาโดยไม่ลืมที่จะกระทุ้งศอกแรงๆ ใส่สีข้างเด็กหัวโจกที่ยืนตัวสั่นหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่ไม่ไกลสักที!!

            “โอ๊ย!!”

            คนโดนกระทุ้งถึงกับสำลักกระอักจุกในลำคอ เขาแผดเสียงร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวดจนพวกผู้ใหญ่หันมามองกันเป็นตาเดียว

             อีเลนอุ้มตัวเด็กหญิงไว้ในอ้อมแขนอย่างเบามือ ฝ่ามือคอยลูบหลังเด็กอายุประมาณแปดขวบได้พร้อมเดินจากไปอย่างไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเมื่อกี้เลยสักนิด

            เคียร์นเปิดภาพในโทรศัพท์ที่ตนถ่ายไว้ให้พวกผู้ใหญ่ดู ไม่นานผู้ดูแลก็เรียกผู้ปกครองของเด็กต้นเรื่องรวมถึงแม่อีเลนเข้ามาคุยด้วย

             ผู้ใหญ่ทั้งหลายต่างหารือกันอยู่ภายในห้องประชุมขนาดพอนั่งห้าถึงหกคน พ่อของเด็กหัวโจกพอได้เห็นรูปก็เสนอเงินล้านเป็นค่าปิดปากเหยื่อและสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แม้แม่อีเลนจะไม่ยอมเห็นด้วยแต่ถ้าคู่กรณีไม่เอาเรื่องก็คงทำอะไรไม่ได้

            ผู้ดูแลใจจริงก็อยากฟ้องให้รู้แล้วรู้รอดแต่เขาเป็นห่วงว่าสถานรับเลี้ยงเด็กจะถูกเพ่งเล็งยัดข้อหามั่ว ๆ ปิดสถานที่นี้มากกว่าแล้วพวกเด็กเขาจะไปอยู่ที่ไหน อีกฝ่ายเป็นถึงหัวหน้ากรมตำรวจ จึงจำใจยอมรับเงินแล้วปิดปากเงียบไปพอคุยข้อตกลงกันเสร็จผู้ดูแลเดินออกมาจากห้องประชุม

            เขาตรงมาหาอีเลนที่นั่งรออยู่ข้างนอกพร้อมเด็กสาวตัวน้อยเพื่อมาขอโทรศัพท์ให้ทางนั้นนำไปลบรูปทิ้ง

            อีเลนรู้สึกโมโหมาก คิดว่าคนพวกนี้ขี้ขลาดสิ้นดียอมปิดปากเงียบไม่เห็นใจเด็กตัวน้อย ๆ เลย ส่วนเคียร์นยังใจเย็นพยักหน้าส่งมือถือให้โดยง่าย

            เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว อีเลนจึงพาเด็กสาวมานั่งปลอบใจอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ที่กิ่งก้านถูกผูกเป็นชิงช้าล้อรถ สนามเด็กเล่นตอนนี้ไร้ผู้คน ที่แห่งนี้จึงมีแค่พวกเขาเพียงสามเท่านั้น

             อีเลนจับตัวเด็กหญิงที่มีสีหน้าเศร้าสร้อยขึ้นไปนั่งบนชิงช้าพลางพูดปลอบอย่างอ่อนโยน “น้องไม่เป็นไรแล้วนะ”

             ดวงตาสีส้มอมเหลืองยกมือขึ้นลูบหัวเด็กหญิง ในใจเขายังรู้สึกโกรธเคืองไม่หาย คนพวกนั้นต้องโดนมากกว่านี้!!

             เคียร์นซึ่งยืนพิงต้นไม้มองอีเลนกับเด็กน้อยนิ่ง ๆ อยู่ไม่ไกล ดวงตาสีแซฟไฟร์หลุบต่ำลงคล้ายคิดอะไรอยู่

            “พี่คะ หนูเป็นลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการเหรอคะ ทำไมพวกเขาถึงทิ้งหนูไป” อีเลนเม้มริมฝีปากแน่น เบ้าตาแดงก่ำ ก่อนฉีกยิ้มอ่อนให้คนตัวเล็ก เขาเข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยคนนี้ดี

            ตอนเด็ก ๆ เขาก็เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงทิ้งเขาไป เขาเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการจริงเหรอ ถึงจะนั่งคิดไปทั้งวันก็ยังคงไม่ได้คำตอบ ในเมื่อพ่อแม่ทิ้งไปเขาก็ไม่ต้องการอีกฝ่ายเหมือนกัน

            ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น……..อีเลนครุ่นคิดสักพักก่อนกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่เต็มเปี่ยมด้วยความจริงใจ

            “ไม่มีใครไม่เป็นที่ต้องการหรอกนะ ต้องมีสักคนบนโลกแน่นอนที่รักและต้องการหนู” พูดพลางจับเชือกสีน้ำตาลเข้ม ค่อย ๆ แกว่งชิงช้าไปทีละน้อย สายลมเย็นบางเบาพัดผ่านใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลม

             น้ำเสียงอ่อนโยนแสนอบอุ่นเอ่ย

             “อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังมีหนึ่งคน คือน้องไงที่รักตัวเอง”

            หลังจากนั้นอีเลนเอ่ยชมเด็กหญิงว่าเป็นคนกล้าหาญมาก ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายตัวเองง่าย ๆ เขากล่าวว่าเธอจะต้องโตมาเป็นคนดีคนเก่งคนหนึ่งและจะมีคนเข้ามารักจากใจจริงแน่นอน

            อีเลนพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้เด็กน้อยจนเธอรู้สึกดีขึ้น ดวงตาสีแซฟไฟร์มีประกายเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลง มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้มบางเมื่อได้ฟังคำพูดของคนที่ทำตัวดั่งฮีโร่

            “เดี๋ยวมานะ”

            เคียร์นบอกอีเลนก่อนจะเดินออกไป เด็กชายแม้สงสัยแต่ก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เคียร์นเดินมาแอบในมุมหลังตึกหนึ่งซึ่งไร้ผู้คน ฝ่ามือเล็กล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนคุ้นเคย

            ‘ R r r r r r r r…….’

            [สวัสดีครับมีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ]

            น้ำเสียงทุ้มของชายมีอายุลอดผ่านมาตามสาย ดวงตาสีแซฟไฟร์แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาเหยียบเย็นถึงขั้วหัวใจ เอ่ยคำสั่งกับปลายเสียงด้วยความเคร่งขรึม

            “ลงคลิปพวกนั้นให้หมดทุกช่องทาง อย่าให้ใครลบมันได้”

            [ครับ]

            ชายวัยกลางคนเพียงตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะวางสายไป เคียร์นมองภาพวิดีโอที่เด็กหัวโจกฉุดกระชากเด็กหญิงตั้งแต่ต้นจนจบในแชท เขาแสยะยิ้มเย็น ในมือพิมพ์ส่งข้อความ

            'ให้เบลอภาพทุกคนให้หมดยกเว้นคนก่อเรื่อง'

            ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วเดินตรงกลับไปหาอีเลนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            เกมเริ่มแล้ว’ ไม่กี่นาทีต่อมาในโลกอินเทอร์เน็ต แหล่งข่าวจากสำนักต่าง ๆ รีบทำข่าวหัวข้อ ลูกชายกรมตำรวจชื่อดังใช้กำลังทำร้ายเด็กในสถานรับเลี้ยงกำพร้า ดังว่อนไปทั่วประเทศ

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 20 เนื้อเรื่องไม่คงเดิม

    “จะ จ๊างงงง!! เอาป้ายมาสิเชส” โจลี่สั่งให้เพื่อนซี้แน่นปึกยืนหันหลังพร้อมยกป้ายกระดาษหนาเท่าฟิวเจอร์บอร์ดขึ้นสูงเหนือหัว “ดูและฟังให้ดีนะคะน้อง ๆ นิทานที่พวกเราห้อง F ได้ก็คืออออ คือออออ” เด็กสาวลากเสียงยาวให้น้องมอหนึ่งทั้งหลายรู้สึกลุ้นระทึกกันอย่างสนุกสนาน น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น “นิทานที่พวกเราได้คือ….. สโนว์ ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดค่ะ!! รีบตบมือกันเร็วเข้า!!” สิ้นสุดเสียงโจลี่ เชสทำการกลับป้ายเฉลยชื่อ ทีมซัพพอร์ตมอหกห้อง F ต่างช่วยกันส่งเสียงร้องเชียร์อย่างไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศของรุ่นพี่ห้อง F ทำให้เหล่ารุ่นน้องที่น

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 19 บทละครจากนิทาน

    เมื่อทำการจับฉลากเป็นคู่ในกล่องสุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูอันให้นักเรียนที่อาสาตัวช่วยละครจบของรุ่นพี่เข้าไปรวมตัวกันที่หอประชุม แถวในหอประชุมจะถูกแบ่งแยกไปตามห้องที่แต่ละคู่จับสุ่มได้ โดยมีตัวแทนของพวกรุ่นพี่ห้อง S-F ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเว้นระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ให้พวกน้อง ๆ ที่จับฉลากได้ห้องไหนเข้ามายืนต่อแถวตอนห้องนั้น ใช้เวลาไม่นานนักเรียนอาสาของทุกห้องก็เดินเข้ามาเรียงแถวในหอประชุมกันจนครบ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยประธานนักเรียนชั้นมอห้าเดินขึ้นไปบนเวทียืนตรงแท่นโพเดียมก่อนจะทำการเทสเสียงไมค์แล้วเริ่มพูดเปิด “ฮัลโหล ๆ สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งหลาย ผมมีชื่อว่า อเล็กซ์ เป็นประธานนักเรียนที่จะเข้ามาช่วยประสานงานให้พวกรุ่นพี่มอหกและน้องมอหนึ่งร่วมใจทำงานกันเป็นหนึ่งเดียวนะครับ อย่างที่ทุกคนรู้กันดีโรงเรียน………” ครั้งอเล็กซ์เริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานส่งจบ นักเรียนบางส่วนล้วนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง อีเลนซึ่งยืนต่อแถวอยู่ห้อง F รู้สึกลำบากใจกับสายตาของเฮนรี่ ซึ่งมองมาจากแถวข้างหน้าตน “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ เคียร์น”

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 18 ละครจบของโรงเรียน

    “ไปไหนมา เย็นปานนี้ทำไมไม่รีบกลับบ้าน!!” ผู้เป็นพ่อยืนเท้าเอวใบหน้าเคร่งขรึมน้ำเสียงจริงจังเปี่ยมอำนาจ เอ่ยถามลูกชายของตนที่นาน ๆ ทีจะเจอครั้งหนึ่ง พ่อของอีเลนเป็นทนายความชื่อดังวัน ๆ มีแต่งานสารพัดปัญหาเข้ามารุมล้อมไม่หยุด ทั้งต้องออกไปทำเรื่องว่าการให้พรรคการเมืองชื่อดัง ทั้งต้องขึ้นศาลให้ครอบครัวมหาเศรษฐี วันหนึ่งแทบไม่ได้หยุดพักอยู่บ้านดี ๆ เลยสักหน “พ่อกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เด็กชายเอ่ยถามคนได้ชื่อว่าเป็นพ่อตนตอนนี้ เขารู้สึกเกร็งนิดหน่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับคนตรงหน้ามาก่อน แถมอีกฝ่ายยังมีท่าทางน่ากลัวทำให้รู้สึกชวนคุยด้วยลำบาก เขาเผลอบีบมือที่กุมเคียร์นไว้แน่นอย

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 17 จงเป็นคนแปลกที่เก่งกาจ

    “เข้ามาสิ ฉันให้ขยะที่ยังไม่ถูกรีไซเคิลอย่างพวกนายเปิดก่อนเลย” เด็กแว่นพูดกวนโมโห ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ชายหน้าโหดฉุนจัดหอบหายใจกระฟัดกระเฟียด โกรธจนหน้าแดงกำหมัดแน่น “เอาเลยลูกพี่ มันท้าทายอำนาจลูกพี่ครับ” “อัดไอ้เด็กไม่เจียมกะลาหัวมันเลยครับลูกพี่!!” “เป็นแค่ไอ้จ้อยอย่าปากดีนักนะไอ้ลูกหมานี่ เดี๋ยวโดนลูกพี่กูอัดยับอย่ากลับบ้านไปร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว เชาว์ยืนถือแว่นตาเพิร์ซ มองสถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ใจเต้นระทึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ระแวงว่าเด็กตี๋ของตนจะถูกซ้อมยับ&n

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   (ตอนพิเศษ) พี่ชายที่แสนดี

    คำเตือน เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นเพียงส่วนเสริมอดีตของเพิร์ซ ให้รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเท่านั้น มีฉากล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์ ความรุงแรง ดราม่า ใครรับไม่ได้โปรดข้ามไปอ่านตอนต่อไป เด็กน้อยวัยใสอายุเพียงหกขวบ เขาถูกเลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ถูกประคบประหงมดั่งไข่ในหิน ชีวิตของเด็กชายไม่เคยขาดอะไรเลย ได้ทานอาหารที่ชอบทุกมื้อ มีพ่อแม่ที่รักมากสุดหัวใจและมีพี่ชายแสนดียืนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างดูแลแทบตลอดเวลา ด้วยความขาวตี๋ตัวเล็ก ผมสีดำขลับเรียบตรง ดวงตากลมวาวสดใส แก้มขาวอมชมพูป่องนิด ๆ ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าชังรวมกับนิสัยเป็นมิตรของเพิร์ซวัยเด็กแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะมีคนคอยเอ็นดูอยู่เสมอ “เพิร์ซ วันนี้ตอนเย็นอยากแวะที่ไหนไหมครับ” พี่ชายอายุวัยเพียงสิบห้าปีฉีกยิ้มหวาน เดินถือรองเท้านักเรียนสีดำเตรียมใส่ออกไปข้างนอกอยู่หน้าประตูบ้าน ผู้เป็นน้องชายสะพายกระเป๋ารูปกันดั้มสีน้ำเงินซึ่งพี่ชายเป็นคนเลือกให้วิ่งตามหลังมา เด็กชายอมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ครับ! ผมอยากไปเล่นที่สนามกับเพื่อ

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 16 ยืนอยู่เฉย ๆ ปัญหาก็เข้ามา

    นักเรียนห้อง S ของโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัด ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่ห้องนี้ล้วนไม่ใช่เด็กธรรมดา บางคนสอบเข้ามาได้ด้วยคะแนนสูงสุดเกือบเต็มร้อยนับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ บางคนพ่อแม่มีอำนาจทางการเมือง ใช้เงินยัดใต้โต๊ะหวังให้ลูกหลานมีภาพลักษณ์เด็กเก่งเรียนดีมีหน้าตาทางสังคม เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เกินครึ่งในห้อง S จึงล้วนเป็นเด็กที่สอบเข้ามาได้ด้วยเงิน มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบเข้ามาได้ด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ เด็กจิ้มลิ้มเขามีชื่อว่า เฮนรี่ เป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวด้วยหน้าตาสุดน่ารักน่าชัง ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์อ่อนต่อโลก ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมหลงใหลไปกับความน่ารักไร้เดียงสา

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status