เมื่อซุปตาร์อัลฟ่าผู้เย่อหยิ่งอย่าง อิสรา ต้องมาร่วมงานกับ คีรินทร์ โอเมก้าหน้าหวานที่เขารังเกียจตั้งแต่แรกเห็น อคติที่มีต่อกันกลับค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูดที่ไม่อาจหลีกหนี ฟีโรโมนที่ไม่เข้ากันกลับพันธนาการหัวใจของทั้งคู่ไว้โดยไม่รู้ตัว นี่คือเรื่องราวของศัตรูที่ถูกโชคชะตาบังคับให้ใกล้ชิด และอาจลงเอยด้วยความรักที่ไม่มีใครคาดคิด
View Moreตอนที่ 1 โอเมก้าหน้าหวาน
“คีรินทร์ บทซีรีส์ฉบับแก้ไขมาแล้ว”
เสียงของเอก ผู้จัดการส่วนตัวของคีรินทร์ดังขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องซ้อมเต้นของสตูดิโอเล็กๆ ที่บริษัทเช่าไว้ มือยังคงกำบทซีรีส์เล่มใหม่เอาไว้แน่นด้วยความดีใจจนคีรินทร์ต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ
คีรินทร์หยุดการเคลื่อนไหวที่กำลังซ้อมอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ เขามีเหงื่อซึมตามไรผมที่ปรกหน้าผาก ใบหน้าสวยหวานที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘โอเมก้าสายซอฟต์’ ซึ่งเป็นที่นิยมของแฟนคลับนั้นดูเหนื่อยล้าจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทว่าแววตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
คีรินทร์รับบทซีรีส์จากมือของเอกมาอย่างตั้งใจ เขาพลิกดูหน้าปกแล้วไล่อ่านชื่อของนักแสดงนำที่ถูกเพิ่มเข้ามาด้วยแววตาที่เป็นประกาย
คีรินทร์ เป็นโอเมก้าหนุ่มที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการได้ไม่นาน แต่ด้วยใบหน้าที่สวยหวานราวกับผู้หญิง ประกอบกับรูปร่างที่บอบบางน่าทะนุถนอม ทำให้เขากลายเป็นที่สนใจของผู้จัดซีรีส์และแฟนคลับในเวลาอันรวดเร็ว
ทว่าภายใต้เปลือกนอกที่ดูบอบบางนั้น กลับซ่อนความมุ่งมั่นเอาไว้ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา ใบหน้าสวยหวานและสถานะโอเมก้าของเขาเองที่เป็นสาเหตุให้ถูกอัลฟ่าหลายคนรังแกและดูถูก ทำให้เขารังเกียจและพยายามห่างอัลฟ่าอย่างฝังใจ
แต่แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็พลันจางหายไปในพริบตาเมื่อสายตาของคีรินทร์สะดุดเข้ากับรายชื่อหนึ่งที่อยู่ภายในบท
“...นักแสดงนำชาย...อิสรา...”
ชื่อของซุปตาร์หนุ่มที่กำลังโด่งดังราวกับพลุแตก ทำให้คีรินทร์ชะงักงันในทันที สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจอย่างชัดเจน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนเป็นปมแน่น ความรู้สึกอึดอัดพรั่งพรูขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ทำไมถึงต้องเป็นไอ้หมอนี่ด้วย วงการนี้ไม่มีใครให้เลือกแล้วหรือไง”
คีรินทร์แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเปิดเผยจนเอกต้องยิ้มแห้งออกมาอย่างระอาใจ เพราะเขารู้ดีว่าคีรินทร์มีอคติกับอัลฟ่ามากขนาดไหน
“โธ่...คีรินทร์ นายก็รู้ว่าในเวลานี้ไม่มีใครร้อนแรงเท่าคุณอิสราอีกแล้ว เขาคือเบอร์หนึ่งของวงการ ถ้านายได้ร่วมงานกับเขา งานของเราก็จะยิ่งปังขึ้นไปอีก แล้วนายก็จะดังขึ้นมาในชั่วพริบตาแน่...คิดดูสิ...ชื่อของนายจะถูกพูดถึงคู่กับชื่อของอิสรา ซุปตาร์ชื่อดังเชียวนะ”
เอกพยายามโน้มน้าวด้วยเหตุผลที่เขาเชื่อว่าคีรินทร์จะปฏิเสธไม่ได้ เพราะโอกาสทองแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ยิ่งสำหรับนักแสดงหน้าใหม่อย่างคีรินทร์แล้ว การได้รับบทแสดงคู่กับอิสราคือความฝันสูงสุดของใครหลายคนเลยทีเดียว
คีรินทร์ทำท่าชั่งใจอย่างหนัก บทซีรีส์เล่มนั้นยังคงอยู่ในมือแต่เขาไม่คิดที่จะอ่านมันต่อ
“พี่เอก...ผมต้องการปฏิเสธงานนี้” ในที่สุดคีรินทร์ก็ตัดสินใจแล้วหันไปมองเอกอย่างจริงจัง “ผมไม่อยากร่วมงานกับอัลฟ่า และยิ่งเป็นไอ้หมอนี่ด้วยแล้ว...ผมยิ่งไม่อยากร่วมงานกับเขา”
เอกถึงกับทำหน้าตกใจขึ้นมาในทันที เขาเดินเข้าไปจับไหล่ของคีรินทร์อย่างแรง “คีรินทร์ นายเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย กว่าฉันจะพยายามผลักดันให้นายได้รับบทนี้ นายรู้ไหมว่าฉันเลือดตาแทบกระเด็น แล้วนายจะมาปฏิเสธเอาดื้อๆ แบบนี้ได้ยังไง”
“พี่เอก...เรื่องหน้าก็ยังมีครับ” คีรินทร์โอดครวญออกมา “ผมไม่อยากเล่นจริงๆ”
“คีรินทร์...นี่นายคิดว่าตัวเองดังมากนักหรือไง ถึงนึกอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธได้ นายก็เป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ ชื่อเสียงที่นายมีก็มาจากพวกแฟนคลับไม่กี่คน แล้วนายยังจะมาเรื่องมากอีก”
เอกโวยวายออกมาทันทีที่เริ่มเห็นว่าคีรินทร์เริ่มแข็งข้อขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะสายตาอันเฉียบคมของเขา และใบหน้าหวานที่มีเสน่ห์อย่างมากของคีรินทร์ เขาจะทุ่มเทตัวเองเพื่อให้ได้งานนี้ และเพื่อชื่อเสียงของชายหนุ่มขนาดนี้ได้ยังไงกัน เขาคาดหวังให้คีรินทร์ดังระเบิดให้เร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการ
“แต่หมอนั่น มัน...น่าหงุดหงิดใจนี่นา” คีรินทร์บ่นพึมพำ “ผมไม่อยากร่วมงานกับอัลฟ่าที่นิสัยแย่ๆ แบบนั้น”
“นายอคติมากเกิดไปหรือเปล่า คุณอิสราเป็นดาราที่มีชื่อเสียงที่สุด การแสดงของเขาได้รับการยอมรับในวงกว้าง หากนายได้ร่วมงานกับเขาก็จะเป็นการพัฒนาฝีมือของตัวเองด้วย”
เอกที่รู้ดีว่าคีรินทร์นั้นมีปมในใจเกี่ยวกับอัลฟ่าเป็นอย่างมาก เขาพยายามโน้มน้าวชายหนุ่มด้วยเหตุผลมากมาย
“แต่พี่เอกก็รู้นี่ ว่าหมอนั่นได้ชื่อเรื่องความหยิ่งและเอาแต่ใจมากขนาดไหน” คีรินทร์ยังยืนกรานเช่นเคย “ผมได้ยินมาว่านักแสดงร่วมเรื่องก่อนหน้านี้ถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์เลยนะ”
คีรินทร์กล่าวถึงข่าวลือก่อนหน้า เรื่องความเอาแต่ใจและโมโหร้ายของอิสรา ถึงขั้นมีข่าวออกมาว่านักแสดงร่วมคนดังกล่าวต้องเข้าพบจิตแพทย์หลังจากร่วมงานของเขาเลยทีเดียว
“นั่นก็แค่ข่าวลือ นายอย่าไปคิดมากเลย แค่นายทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ก็ไม่มีปัญหากับคุณอิสราแล้ว” เอกพยายามแก้ต่างให้กับอิสราอีกครั้ง
“แต่...ผม...” คีรินทร์เริ่มโอดครวญอีกครั้ง ความทรงจำเมื่อครั้งถูกกลุ่มอัลฟ่าพยายามรังแกเขาผุดขึ้นในใจ จนเข้ารู้สึกใจหายวาบขึ้นมา
“ไม่รู้แหละ งานนี้นายต้องรับ ฉันรับประกันได้ว่าหากนายแสดงเรื่องนี้คู่กับคุณอิสรา นายจะโด่งดังเป็นพลุแตก ถึงตอนนั้นนายอยากจะรับอะไร ฉันจะไม่บังคับนายอีก”
เอกยื่นคำขาดออกมาในที่สุด เขารู้ดีว่าคีรินทร์ต้องการอะไร และนี่คือข้อต่อรองที่เขาไม่มีวันปฏิเสธได้
คีรินทร์ได้ยินคำต่อรองดังกล่าวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง หากเขายอมรับงานนี้ เขาจะได้โอกาสที่เลือกบทบาทที่เขาสามารถแสดงความเป็นนักแสดงให้ทุกคนได้เห็น และเขาจะแสดงฝีมือให้เป็นที่ยอมรับจากทุกคนอย่างแท้จริง และเมื่อถึงตอนนั้น เขาจะไม่ใช่แค่การเป็นโอเมก้าหน้าหวานที่ขายได้เพียงเพราะรูปลักษณ์เท่านั้น
“จริงเหรอ...พี่เอกสัญญาแล้วนะ ถ้าผมรับงานนี้ ต่อไปผมสามารถเลือกงานที่ผมอยากทำได้จริงๆ ใช่ไหม”
เอกพยักหน้าอย่างนึกระอาขึ้นมา “ตกลง ฉันรับปาก ขอแค่นายยอมรับบทนี้และแสดงให้ดีที่สุดก็พอ”
คีรินทร์ยิ้มกว้างออกมาในที่สุด ความรู้สึกไม่พอใจอิสราถูกผลักไปไว้ในส่วนลึกของจิตใจชั่วขณะเพื่อแลกกับโอกาสในชีวิตการแสดงที่เขาใฝ่ฝัน
“ถ้างั้น...ผมตกลง”
บทที่ 42 คำขอ หนึ่งปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝันที่แสนหวาน ความรักของอิสราและคีรินทร์ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ วัน พวกเขายังคงเป็นคู่รักที่ถูกจับตามองมากที่สุดในวงการบันเทิง อิสราได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขารักคีรินทร์อย่างจริงใจและพร้อมที่จะปกป้องคีรินทร์จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต คีรินทร์เองก็เรียนรู้ที่จะเชื่อใจอิสราอย่างไม่มีเงื่อนไขและเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต ในวันครบรอบหนึ่งปีที่คบกัน อิสราพาคีรินทร์ไปที่วิลล่าส่วนตัวที่ภูเก็ต วิลล่าแห่งนี้เป็นที่ที่พวกเขามีความทรงจำดีๆ ร่วมกันมากมาย และอิสราก็ตั้งใจที่จะทำให้วันครบรอบหนึ่งปีนี้เป็นวันที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของคีรินทร์ ทันทีที่พวกเขามาถึง วิลล่าก็เต็มไปด้วยแสงไฟอุ่นจากโคมไฟที่อิสราจัดเตรียมไว้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่โชยมากับลม คีรินทร์ก้าวลงจากรถแล้วสูดหายใจลึก สายตาเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ “สวยเหมือนเดิมเลย” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ อิสราเดินเข้ามาข้าง ๆ ก่อนจะสอดมือเข้ากับมือของคีรินทร์ “แต่ฉันว่าครั้งนี้สวยกว่าเดิม…เพราะฉันได้
บทที่ 41 เยียวยา ภายในห้องพักโรงแรมหรู แสงไฟสลัวอบอุ่นสาดกระทบผ้าม่านสีครีมที่ปลิวไหวเบาๆ จากลมแอร์ ความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วห้อง ต่างจากเสียงอึกทึกที่เพิ่งผ่านมา คีรินทร์นั่งอยู่บนโซฟา แผ่นหลังยังสั่นไหวเล็กน้อยจากความกดดันที่ต้องเผชิญมา เขาก้มหน้าลงหลบสายตา ราวกับไม่อยากให้อิสราเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความเจ็บปวด แต่ในช่วงเวลานั้น อิสรากลับคุกเข่าลงตรงหน้าของคีรินทร์ มือหนาของเขาเอื้อมไปประคองแก้มคนรักอย่างแผ่วเบาและปลอบโยน “นายไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้…ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” อิสราพูดเสียงนุ่ม ดวงตาทอประกายอบอุ่น คีรินทร์เงยหน้าขึ้น แววตาสั่นระริกก่อนจะไหลทะลักออกมาเป็นน้ำตา “แต่ผม…ผมกลัวเหลือเกิน ผมกลัวว่าจะทำให้คุณต้องผิดหวังและเจ็บปวดอีก” อิสราส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะกดริมฝีปากจูบลงที่หยดน้ำตานั้นทีละหยาด “ไม่มีทาง…ต่อให้ทั้งโลกหันหลังให้นาย ฉันก็จะไม่ไปไหน” คำพูดนั้นเหมือนทำลายกำแพงในใจของคีรินทร์ เขาพุ่งเข้ากอดอิสราแน่น แขนทั้งสองโอบรัดเหมือนกลัวว่าถ้าปล่อยมืออีกฝ่ายจะหายไป ความอบอุ่นจากอกที่แนบชิดทำให้หัวใจของ
บทที่ 40 เจ็บปวด เสียงดนตรีค่อยๆ แผ่วลง แขกที่มาร่วมงานต่างมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความงุนงงและไม่เชื่อสายตาตัวเอง กลางเวที คีรินทร์ยืนนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับพื้น สายตาของเขาสั่นไหว เขามองทิวาที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหา สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด ทิวายังคงพร่ำเพ้อออกมา เขาพยายามเดินเข้าไปหาคีรินทร์อีกครั้ง แต่คีรินทร์กลับเดินถอยหลังห่างเขาไปอีกหลายก้าว สายตาที่เคยมองอย่างไว้ใจ บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวและผิดหวังในตัวเขาอย่างมาก ทิวาไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ เขาแค่ต้องการเข้าไปปกป้องคีรินทร์ในยามที่ชายหนุ่มถูกทำร้าย และเขาก็ต้องการเป็นคนแรกที่ปลอบประโลมและดูแลคีรินทร์ “คีรินทร์…” เสียงของทิวาแหบพร่า เขายกมือสั่นเทาออกไปข้างหน้าเหมือนอยากคว้าตัวคนตรงหน้าไว้ “นายรังเกียจฉันเหรอ… ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะฉันรักนายนะ” คำสารภาพของทิวาทำให้ทุกคนในงานต่างพากันนิ่งอึ้งไปกันหมด โดยเฉพาะคีรินทร์ที่เวลานี้เขานั้นช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่อาจคิดอะไรได้อีก คีรินทร์ก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ ราวก
บทที่ 39 เปิดเผย คีรินทร์นิ่งอึ้งไปกับคำสารภาพรักของทิวา เขาจ้องมองทิวาอย่างแทบไม่เชื่อสายตา คีรินทร์ได้แต่คิดไปว่าทิวากำลังสับสนเมื่อเห็นตนเองในสภาพเช่นเมื่อวานนี้ “ทิวา...ฉันว่านายคงกำลังสับสนอยู่นะ” “คีรินทร์...ฉัน...” ทิวาพยายามอธิบาย เขาก้าวเท้าไปหาคีรินทร์อีกครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งถอยหลังห่างจากเขาไปอีกครั้ง ทิวาได้แต่หยุดชะงักลงไปอีกครั้ง พร้อมทอดมองคีรินทร์อย่างรู้สึกผิดหวังรุนแรง “เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ” คีรินทร์ตัดบท ก่อนจะเดินออกจากบ้านทิวาไปในทันที “คีรินทร์...” ทิวาพยายามตะโกนเรียกอีกครั้ง แต่คีรินทร์กลับก้าวเท้าออกไป โดยไม่หันหลังกลับมามองเขาแม้แต่น้อย ทิวาได้แต่กำหมัดแน่นอย่างรู้สึกเจ็บปวด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคีรินทร์ถึงไม่ยอมเปิดใจให้เขา ชายหนุ่มได้แต่นึกโทษอิสรา ต้องเป็นเพราะเขาแน่ที่ทำให้คีรินทร์ถอยห่างเขาไปแบบนี้ ทิวาทิ้งตัวลงบนเตียงนอนที่ยังมีกลิ่นไอของคีรินทร์ติดอยู่ เขาซุกหน้าสูดดมความหอมหวานนั้นอย่างหลงใหล “คีรินทร์ นายบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ” ทิวาได้แค่เพ้อออกมา ดวงตาแ
บทที่ 38 มือที่สาม คีรินทร์ตัดสายของทิวาไปอย่างเงียบๆ เขาตั้งใจจะเข้านอนแต่วันเพราะร่างกายและจิตใจรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น คีรินทร์ตรงไปเปิดประตู และเขาก็เห็นอิสราที่มีสีหน้าอิดโรยยืนรอเขาอยู่ “คุณอิส ทำไมคุณยังไม่นอนอีก” คีรินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหินห่าง “นายคุยกับใครอยู่” อิสราถามออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนเช่นกัน “คุณอิส คุณจะหาเรื่องอะไรอีก วันนี้ผมเหนื่อยมากแล้ว คุณกลับไปนอนเถอะ” คีรินทร์ตัดบท พร้อมใบหน้าที่ดูบึ้งตึง อิสรากำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด เขาเดินตรงไปยังเตียงนอน พร้อมหยิบมือถือของคีรินทร์ขึ้นมาตรวจดู คีรินทร์ไม่พอใจกับท่าทีของอิสรา เขาจึงเดินไปแย่งมือถือออกจากมือของอิสรา “คุณอิส คุณจะทำอะไร” “แล้วนายคุยกับใครอยู่ล่ะ” อิสราตะคอกออกมาอย่างหัวเสีย “ผมคุยกับเพื่อน” คีรินทร์ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ อิสรากัดฟันแน่น เขาคว้าตัวคีรินทร์มารัดไว้ พร้อมแย่งมือถือกลับมาอีกครั้ง และเมื่อเขาเห็นเบอร์โทรของทิวา อารมณ์ของเขาก็ยิ่งพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที “ทำไม
บทที่ 37 รอยร้าว คืนเดียวกันนั้น ทิวาได้รับข้อความจากคีรินทร์ที่ส่งมาสั้นๆ “ฉันไม่รู้จะเชื่ออะไรดีแล้ว” ทิวามองข้อความนั้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยชัยชนะค่อยๆ คลี่ออก เขารู้ดีว่ารอยร้าวกำลังเกิดขึ้นระหว่างคีรินทร์กับอิสรา และมันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการซับซ้อนที่เขาวางเอาไว้เท่านั้น เสียงฝนโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ยามค่ำคืนในเมืองใหญ่เต็มไปด้วยความชื้นแฉะและความวุ่นวาย แต่ภายในคอนโดหรูของทิวากลับเงียบสงัดราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แสงไฟสีเหลืองนวลจากโคมไฟตั้งพื้นส่องกระทบโซฟาหนัง ทำให้เงาของทิวาที่นั่งพิงอยู่ทอดยาวบนพื้นห้อง เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น ทิวารีบเดินไปเปิดในทันที รอยยิ้มกว้างผุดออกมาด้วยความดีใจเมื่อคนตรงหน้าคือคนที่เขารอคอยอยู่ ‘คีรินทร์’ เสียงฝีเท้าหนักหน่วงดังขึ้น ตามด้วยร่างของคีรินทร์ที่ก้าวเข้ามา เขาสวมเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมบนออกเล็กน้อย ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยร่องรอยความเหนื่อยล้าและหงุดหงิด “เกิดอะไรขึ้น” ทิวาลุกขึ้นต้อนรับ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใยที่แสร้งให้ดูจริงใจ เขา
Comments