หน้าหลัก / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๓)

แชร์

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๓)

ผู้เขียน: Madam Hangover
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 00:44:21

“มิมีปากมีเสียงเช่นนี้ สำแดงว่าที่ตัวพี่เอ่ยเป็นอันถูกต้อง” ยักษ์ว่าเช่นนั้น เข้าใจว่านางคงอายหากมีใครมาเห็นเขาและนางล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้ จะว่าพิกลไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั่นเอง

คิดได้เช่นนั้น อสุราหนุ่มจึงร่ายคาถา สร้างต้นไม้ใหญ่รกครึ้มรอบๆ สระบัวในทันที

มธุรสอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ดีๆ รอบสระบัวก็ปรากฎต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นรอบๆ กลายเป็นป่าละม่อมขนาดย่อม

เธองเหลียวกลับไปจ้องหน้าอสุราหนุ่มอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยรู้เลยว่ายักษ์จะร่างเวทมนตร์คาถาเสกต้นไม้ได้ด้วย นี่เหมือนหล่อนกำลังอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งอยู่เลยอ่ะ

“เท่านี้ก็มิมีปัญหาแล้วใช่หรือไม่” ยังมิวายก้มหน้าลงมาถามหล่อนด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์นั่นอีก

“มะ... มันก็ดีอยู่หรอกค่ะ” ก็ทหารของเขายืนอยู่ตรงนู้นนี่หว่า เมื่อเกิดป่ารกทึบรอบสระบัวแบบนี้ ก็คงไม่มีชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธออีก “แต่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”

ท้ายประโยคสาวเจ้าบ่นอุบอิบ น่าพิกลจริงที่สุวรรณราพณ์ตามใจเธอแบบนี้

“พี่ตามใจเมียทุกคนของพี่นั่นแล” หากแต่คำตอบก็พอทำให้หญิงสาวรู้ว่าทำไม ได้แต่มุ่ยหน้าตามประสาเด็กสาวที่หมั่นไส้ในบุรุษเพศหลายใจเป็นเหลือล้น “แต่จักตามใจเมียที่พี่โปรดปราณที่สุด... มากกว่าคนอื่น”

ท้ายประโยคมิวายเอนมากระซิบข้างริมหูเจ้าหล่อนอีกครา หยอกเย้าให้อีกฝ่ายหน้าแดงแจ๋อีกครั้ง

“... อึก”

“ถ้าอยากให้ตามใจ... ก็ทำให้พึงใจเป็นพอ”

ว่าพลางใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งโอบรัดเอวคอดของสาวเจ้า อีกมือก็เลื่อนขึ้นมาป้องแก้มนวล ดวงหน้างามถูกรั้งให้แหงนขึ้นสบสายตาต่อกัน สุวรรณราพณ์จ้องมองนางอย่างต้องใจ ไล้ปลายนิ้วตั้งแต่ดวงตากลมโตสุกใสดั่งลูกแก้ว ไล้มาที่ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นอย่างเด็กสาวแรกแย้ม ลงมาถึงริมฝีปากบางที่เผยอขึ้นอย่างน่ารัก

หลงใหลเหลือเกิน ตั้งแต่ที่ชิงนางมา ก็มิอยากชิดใกล้เมียคนไหนเท่านางอีกเลย

มธุรสใจเต้นรัวเร็ว ทำไมถึงได้จ้องมองอย่างลึกซึ้งเช่นนั้น สัมผัสอย่างตรึงใจ ในสภาพที่ร่างกายล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้

“ขะ... ขอโทษค่ะ หนูว่าหนูแตะขาถึงแล้ว” การใกล้ชิดกับบุรุษเพศนั้นช่างอันตรายต่อหัวใจ เด็กสาวเบือนหน้านี้เอ่ยถ้อยคำแทรก สะบัดดวงหน้างามจากฝ่ามือใหญ่ หลบเลื่อนสายตา พลิกตนหนีหันแผ่นหลังเล็กที่ขาวนวลให้อสุราหนุ่ม

พระพักตร์ดุดันนั้นขมวดคิ้ว นึกพิกลนักที่สาวเจ้าไม่นึกหวั่นไหวกับเขาเลยแม้แต่นิด โดยเฉพาะกับบุรุษที่รูปงามเช่นท่าน กายใหญ่โตองอาจยิ่งกว่าชายชาตรีคนไหนๆ รวมถึงการเกี้ยวพาราสีที่ไม่เป็นรองใคร (แม้จักบอกนางไปว่าไม่ถนัดการเกี้ยวพาราสีใครสักเท่าไหร่ก็ตาม)

ไม่ว่าเมียคนไหนๆ แค่ได้อยู่ใกล้ก็ต้องไหวหวั่น หากแต่นางกลับใจแข็งยิ่ง

ทางด้านมธุรสเองก็กุมทรวงด้านซ้าย สะกดดวงใจที่สั่นรัวยิ่งกว่ากลองชุดให้สงบลง เนื่องจากอีกฝ่ายนั้นเป็นชายเจ้าชู้มากรัก การเผลอไปหวั่นใจนั่นถือเป็นการพลาดพลั้งอย่างร้ายแรง

พยายามมองลงไปใต้ธารน้ำใส ทอดมองดอกบัวบานสีชมพู และใบบัวที่แผ่ใบใหญ่อยู่ชิดใกล้

หมู่มัจฉาลวดลายสวยงามแหวกว่ายมาชิดใกล้กับแน่งน้อยใต้น้ำของหล่อน ตอดต้นขาขาวนวลเล่นอย่างน่าเอ็นดู สาวเจ้าหัวเราะคิกคัก ล้วงมือเล็กลงไปใต้น้ำ พยายามจะแตะปลาตัวน้อย หากแต่เมื่อมือของเธอชิดตัวนุ่มนิ่ม เจ้าตัวเล็กก็ผุดน้ำหนีโดยพลัน

“โถ่” เสียงใสครางอ่อนอย่างผิดหวัง

สุวรรณราพณ์ที่ประคองสาวเจ้าและเห็นปฏิกิริยาทั้งมวลจึงท่องคาถาในจิต ดลใจให้ฝูงปลาแหวกว่ายเข้ามาหานางทั้งฝูง เพียงเพื่อให้หญิงสาวลูบไล้พวกมันตามแต่จะพึงใจ

“โอ้ะ ทำไมอยู่ๆ ก็” สาวเจ้าอุทานเสียงแหวว แต่ต่อมาเมื่อถูกรุมตอดเท้าก็จั๊กจี้จนหัวเราะเสียงหวาน เธอหยอกล้อกับฝูงปลาน้อยเหล่านั้น ราวกับกิริยาของเด็กสาวที่ยังไม่รู้จักโต

ไม่เคยได้ใกล้ชิดปลาแบบนี้มาก่อน อีกอย่างพวกมันยังน่ารัก ไม่เหมือนปลาดุกที่วัดดอนปลาหวายใกล้บ้าน ที่พอฉีกขนมปังแข็งปาไปกลางวง ก็รุมทึ้งเหมือนฝูงซอมบี้ดูน่ากลัวโคตรๆ

แม้จักเป็นกิริยาที่ไม่ว่าชายใดในโลกมนุษย์อาจไม่ชอบใจนัก ท่าทางกระโดกกระเดก บางครั้งก็หยิ่งผยอง คับคล้ายคับคลากับลูกเสือปลาตัวจ้อยที่พยายามขู่ฟ่อใส่พญาเสือโคร่งไม่ปาน

แต่ด้านพญาเสือโคร่งตนนั้นก็คือเขานั่นเอง มันกลับจ้องมองลูกเสือปลาตนนั้นอย่างพึงใจ

แม้จะพยศหนักหนา... แต่ก็น่ารักซะจริงเชียว

ในเมื่อเมียอยากหยอกล้อกับฝูงปลา แม้จะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเพียงใด ก็จะสนองให้โดยที่ไม่หยุดคิดก่อนเลยเชียว

“คุณพระ ทำไมถึงได้ตามอกตามใจนางเช่นนั้น คุณพี่มิเคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย...”

หากแต่ในหมู่แมกไม้ไม่ลึกจากสระบัวนัก ปรากฎเป็นร่างเล็กในชุดไทยวิจิตรของตองนวลที่หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ แอบทอดสายตามองกายล่อนจ้อนของทั้งสามีอมนุษย์ของนางและแม่เด็กสาวที่มาใหม่คนนั้น พร้อมกับขบฟันขาวอย่างเจ็บใจ

ถึงจะบอกว่าเป็นคนโปรด แต่ท่านสุวรรณราพณ์นั้นมิเคยมีพระพักตร์อันอ่อนโยนรักใคร่ให้กับสนมนางใดแม้แต่คนโปรดอย่างนาง ท่านคืออสุรากษัตริย์ผู้เยือกเย็น คาดเดาอารมณ์ไม่เคยได้ บางครั้งก็เหมือนจะมองพวกเหล่าสนมเป็นเพียงวัตถุบำบัดราคะก็เท่านั้น

แต่นั่นก็ไม่แปลกอะไร เพราะพระบิดาของนางก็ไม่เคยปฏิบัติกับเหล่าสนมของท่านเหมือนเป็นเมียเอกเลยสักนิด กษัตริย์ก็คือกษัตริย์ สูงส่งจนไม่อาจหรี่ตาลงมามองสตรีที่เป็นเพียงช้างเท้าหลังอย่างพวกนาง ยามเมื่อโดนสุวรรณราพณ์ตีเมือง ก็ยกนางให้เขาโดยง่าย

แม้ว่าเธอจะเตรียมใจมาดีแล้วหากจะหลงใจไปรักท่านผู้นั้น แต่ทว่าเมื่อสนมผู้มาใหม่กลับได้ความรักไปมากกว่า ไม่ว่าใครก็ต้องริษยาเป็นธรรมดา

แค่หวังอยากให้หันพระพักตร์มามองกันสักนิด มองข้าอย่างหญิงธรรมดาบ้าง มิใช่เป็นเพียงเชลยศึกที่ตกเป็นเมีย

แค่เพียงนี้... ข้าขอมากไปหรือ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๒ ทวงคืนเจ้า (๑)

    “มีกระไรต้องการเอ่ยบอกกระหม่อมหรือไม่ หากหน้าที่ที่มอบหมายหนักหนาเกินไป สามารถบอกกระหม่อมได้เสมอ” แต่ท่านอานั้นเข้มงวดแค่เฉพาะเวลาที่จำเป็นต้องสั่งสอนพี่ชายตัวดีก็เท่านั้น อย่างไรจันทร์ดานั้นเป็นเด็กดี ทำหน้าที่ได้ดีอยู่ตลอด เธอรักพี่ชายของเธอมาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะคอยสร้างแต่ปัญหาอยู่เสมอ พระราชครูผู้รู้เรื่องนี้ดีจึงใช้การพูดคุยอย่างละมุนละม่อม “ข้าเพียงแค่เหนื่อยเท่านั้นเจ้าค่ะพระราชครู ไว้ข้าหายดีแล้ว จักไปพูดคุยเรื่องพี่” จันทร์ดาตอบแบบไปตายเอาดาบหน้า พี่ชายของเธอนั้นมีพรสวรรค์และพระราชครูต้องการล่วงรู้พรสวรรค์ที่พี่ชายนั้นมี แต่พี่อินทร์มุกไม่เคยเปิดปากพูดถึงอาคมที่เขาถนัดที่สุด จนเขาหายตัวไปในครานี้ แม้จักรู้ดีว่าพี่ต้องการที่จะแสดงให้พระบิดาเห็นว่าเขาแข็งแกร่งแลพยายามเอาชนะท่านมากแค่ไหน แต่กลับกันดันหัวรั้นปฏิเสธคนที่ยินดีจักมาช่วยเหลือแค่เพราะว่าท่านพ่อส่งมา เพียงลำพังแค่พี่คนเดียวคงไม่มีวันที่จักปกครองราชบัลลังก์ได้หรอกถ้าไม่ได้รับการศึกษาภายในจากคนที่มีประสบการณ์ เรื่องนี้จันทร์ดาก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่เพราะรักแลเกรงใจพี่ชาย จึงไม่เคยห้ามปรามเขาในการเกกมะเหรกเกเรอย่างจริงจัง

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๑ จอมใจอสุรี (๓) จบตอน

    “อย่านึกโทษตัวเองเลยหนาไกรสรลูกรัก พ่อคิดว่าแม่เองก็ต้องเข้าใจเช่นเดียวกัน เราผิดเองต่างหากที่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ลูกได้ฟัง แต่ไกรสรอย่านึกโกรธเคืองแม่ของลูกเลย พ่อเชื่อว่านางเองก็เจ็บปวดเกินกว่าที่จักเล่าเรื่องราวในอดีตให้ลูกฟัง จึงเลือกที่จักปล่อยผ่านไปจนวันนี้มาถึง” ท้าวไกรสิงห์เข้าใจหัวอกของลูกชายตนเองดี ว่าได้รักคนที่ไม่สมควรรัก เหมือนดั่งเขาที่ได้รักกรรณิกา ในเพลาที่หล่อนมีเจ้าของดวงใจ จนถึงตอนนี้เขาก็ได้รู้ซึ้งว่าจันทร์ดาไม่เคยลืมเลือนสุวรรณราพณ์ไปจากใจเลย แม้ว่าเขาจักพยายามตั้งใจสร้างโลกที่มีแต่ความสุขให้นางก็ตาม การตัดใจจากผู้ชายพรรค์นั้น มันยากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ แม้แต่เขาที่ปลอบใจบุตรชายที่สูญเสียรักแรกไปอย่างไม่มีวันหวนกลับก็ยังมีความคิดริษยาชายผู้นั้นอยู่ลึกๆ มันทำแต่บาปกรรม ฆ่าพ่อฆ่าแม่เขามามากมาย แต่กลับมีชีวิตที่มีแต่คนรัก แม้แต่ผู้หญิงที่เขาหลงใหล แม้ปากจักบอกว่าตัดความชิงชังไปได้ แต่ก็ยังเกลียดขี้หน้ามันอยู่ดี คนอย่างมันมิคู่ควรต่อกรรณิกาเลยแม้แต่นิด ผู้หญิงที่ภักดีแลเพียบพร้อมเช่นนี้ ไม่ควรเลยที่จักนึกหลงใหล ตกหลุมรักอสุราชาติชั่วเช่นมัน แต่การห้ามความรู้สึก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๑ จอมใจอสุรี (๒)

    หรือการที่เขาคาดหวังว่าการใช้ความจริงใจแลกกับความเกลียดชัง มันคงเป็นความคิดที่ตื้นเขินเกินไป เด็กหนุ่มวัยแรกรุ่นได้พบกับความรู้สึกผิดหวังต่อสาวผู้เป็นที่รักเป็นคราแรกในชีวิต เขาช้ำรักขนาดหนัก ถึงกับคอตกเหาะอากาศกลับวิมานฉิมพลี ข้าวปลาอาหารก็แตะมิค่อยลง สีหน้าอมทุกข์ของบุตรชายทำให้มารดาเช่นกรรณิกาอัปสรเป็นห่วงยิ่งนัก เมื่อเขาเข้านอน จึงแอบลอบเปิดบานประตูถือวิสาสะเข้าในห้องบรรทมของลูกชายที่นอนหลบหน้าหันหลังให้ ท่าทางหมดอาลัยตายอยากเช่นนี้ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน “ไกรสรลูกรัก... หากมีสิ่งใดที่ทำให้เจ้าทุกข์ใจ พูดกับแม่ได้หนา ลูกรู้ใช่ไหมว่าสามารถพูดคุยกับแม่ได้ทุกเมื่อ” ฝ่ามือเรียวบางค่อยๆ เอื้อมไปลูบเรือนผมเงางามสีดำสนิทของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน จึงเห็นว่าแก้มของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาราวกับคนกำลังมีน้ำตา ไกรสรหันหน้ากลับมา ดวงหน้าคมคายรูปงามของบุตรชายนั้นเต็มตื้นไปด้วยความเสียใจ “ข้า... คงมิอาจรักหญิงผู้ใดได้อีกแล้วขอรับเสด็จแม่ ข้าชอบนางมาก แม้นจักเป็นเพลาที่แสนสั้นที่ได้พานพบกันก็ตาม” กรรณิกาอัปสรถอนหายใจ นั่นไงเล่า คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มาจนทุกข์ตรมหมองใจวันนี้น่าจักม

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๑ จอมใจอสุรี (๑)

    ไกรสรนัดพบกับองค์หญิงจันทร์ดาเพื่อตามหาพี่ชายของหล่อนทุกวัน แม้ทุกครั้งจักคว้าน้ำเหลว แต่นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจ เพราะเขาอยากมาเจอเธอในทุกๆ วัน ในช่วงเวลากว่าสองวันที่ผ่านมา จันทร์ดานั้นมองเห็นความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเธอของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ครุฑหนุ่มผู้นี้เติบใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะสองวันนั้นเขาได้ฝึกกำลังระหว่างออกตามหาพระเชษฐาของหล่อน รวมถึงอายุขัยการเติบโตของอมนุษย์ที่รวดเร็วต่างจากมนุษย์ ทำให้ตอนนี้ร่างกายของเขาสูงสง่าใหญ่โตมากกว่าเธอเสียอีก ยอมรับว่าเขาดูสง่างามเสียจนใครๆ ต่างก็คงจักหลงใหลในรูปโฉมอันเป็นที่โจษจัณ จันทร์ดาชอบนกนัก โดยเฉพาะปีกของมัน เพราะอย่างนั้นเธอเลยชอบเฝ้ามองดูเวลาเขาโผบินอย่างอิสระ เพราะปีกของเขาที่มีสองสีมันช่างงดงามเหลือเกิน เธอผู้อ่อนโยน แต่พยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อคอยดูแลความประพฤติของพี่ชายให้อยู่ในครรลองคลองธรรมไม่นอกลู่นอกทางแทนพระบิดาที่ไม่เคยหันมาเหลียวแล แม้ว่าส่วนใหญ่จะเอาพี่ไม่ค่อยอยู่จนต้องยอมไปเป็นลูกไล่เขาก็ตาม ไกรสรบินเลาะไปตามปุยเมฆสีขาวเบาบาง ฉวัดเฉวียนมาทางหล่อนที่ขี่หัสดีลิงค์คอยเฝ้ามองดูเขาอยู่ไม่ไกลนัก “ข้าชอบเจ้าจัง จันทร์ดา

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๐ ให้ข้าเป็นเมียหนึ่งเดียว (๔) จบตอน

    พระสุวรรณราพณ์กำลังเสียสติ เนื่องด้วยตนเองนั้นสูญเสียผู้หญิงที่รัก จึงทำให้พระองค์นั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาในการกำจัดชายที่เป็นศัตรูหัวใจ และเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับวิธีการในการถล่มเมืองครุฑ หลังจากรู้ที่ตั้งของมัน ฝ่ามือใหญ่โตลูบไล้ดาบทมิฬที่อาบชโลมไปด้วยเลือด ดวงตาสีชาดเรืองรองในความมืดมิด เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจักบุกไปถึงเมืองครุฑในอีกสี่วันให้หลัง เมื่อครบกำหนด เมืองนั้นจักพังราบเป็นหน้ากลอง รวมถึงครุฑาครุฑีน้อยใหญ่ทั้งหลาย เมื่อเจ้าเมืองมันกระทำความผิดย่อมไม่มีข้อละเว้น สังวรีราพณ์ยังคงยึดครองจิตใจอันชั่วร้าย และหวังให้พระสุวรรณราพณ์ใช้เลือดครุฑมาอาบดาบอีกสักหน่อย เท่านั้นกำลังวังชาเขาก็จะสมบูรณ์ สามารถเข้ายึดครองร่างกายและจิตใจของอีกฝ่ายได้สำเร็จ พี่จักมิมีวันเสียเจ้าไปให้ใคร หากใครมาแย่งชิงเจ้าไปจากอกพี่ ต้องจบลงด้วยความตายเท่านั้น ทั้งที่ตามหามาถึงสามภพสามชาติ และคาดหวังว่านี่จักเป็นชาติสุดท้ายที่เราจักได้ครองคู่กัน จนยอมทำทุกอย่างหวังเพียงให้เจ้าได้มาเป็นคู่ครองของพี่ แต่แม้แต่ชาตินี้ เราก็ต้องจากกันอีกหรือ? พี่ไม่ยอมหอก ตั้งแต่เจ้าจากไปเป็นของผู้อื่น พี่ก็เหมือนกำลังจะขาดใจ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๒๐ ให้ข้าเป็นเมียหนึ่งเดียว (๓)

    พระโอรสหลบหลังบานประตูพลางแอบสอดมองหญิงสาวที่มีท่าทางระส่ำระส่ายภายในห้อง พระองค์เพลิดเพลินไม่น้อย ผุดรอยยิ้มเลือดเย็นข้างมุมปาก รู้สึกว่าการที่เขาได้มีสัมพันธ์สวาทกับพระสนมนั้นจักทำให้หล่อนค่อยๆ เปิดเผยนิสัยอันน่ารังเกียจที่มีแค่เพียงเสด็จพ่อที่จักได้เห็น ตกอยู่ในบ่วงวังวนที่ไม่อาจถอดถอนตัวออกมาได้ บ่วงวังวนแห่งการลุ่มหลงเขาอย่างเช่นกินรีตนอื่นๆ ที่เขาเคยล่อลวงมาด้วยอาคมเหล่านั้น เคยเจ็บใจนักที่ใครต่อใครต่างมาหลงรักได้ด้วยมนต์คาถาของตน แต่มีเพียงหล่อนที่เฉยเมย มองเขาเป็นเพียงบุตรชายของคนที่รัก มีใครหลายคนรวมถึงน้องสาวพยายามหาทางเข้าถึงอาคมที่เขามี แต่ไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้หรอกหนา ... อาคมล่อลวงหญิงสาว เพราะมันเป็นอาคมดำมืดที่จักทำให้สตรีทุกคนที่เขาเป่าคาถามักรู้สึกรักและลุ่มหลงในตัวเขาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่รู้ว่าทำไมท่านพ่อที่มีอาคมหลากหลายนั้นจึงเลือกถ่ายทอดพลังนี้มาสู่เขา การค้นพบอาคมดำมืดที่มีเพียงตนเองเท่านั้นที่รู้และใช้มันได้ตั้งแต่เกิดนั้นทำให้สำเริงสำราญใจไม่น้อย จนเขากลายเป็นเด็กเอาแต่ใจเช่นนี้เพราะคิดว่าตนเองมีอวิชชาเหนือกว่าใคร อยากให้เสด็จพ่อรับรู้ว่าเขานั้นแข็งแกร่งเหนือผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status